สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #135 เมื่อ: มีนาคม 28, 2016, 09:13:53 AM » |
|
ผมเข้าใจว่ายักษ์ในรามเกียรติ์คงเป็นพวกทมิฬ (แต่คนทมิฬจริง ๆ ตัวเล็ก) พระราม พระลักษณ์คือชาวอารยัน ทีนี้ที่ปักษ์ใต้มีหนังตะลุงซึ่งต้นเค้าก็อยู่ที่อินเดีย แต่ยักษ์ในหนังตะลุงผิวขาวครับ ร่างกายใหญ่โต นิสัยหยาบ ชอบกินสัตว์ กินคน ไม่ค่อยเหมือนคนทมิฬ(ผมเลยมั่วไปว่ายักษ์ในหนังตะลุงคือแขกขาว เพราะมุสลิมเคยรุกรานอินเดีย มหาวิทยาลัยนาลันทาถูกเผาราบเป็นหน้ากลอง)
นาลานทา ถูกทำลายเพราะต้องการเปลี่ยนศาสนาในอินเดียให้เป็นแบบที่ผู้ชนะต้องการ แต่นาลานทาตอนที่ถูกเผา เป็นพุทธมหายานนะครับ ไม่ใช่เถรวาทแบบในบ้านเรา ปัจจุบัน ทางการอินเดียได้จัดตั้งมหาวิทยาลัย นวนาลานทาให้เป็นศูนย์กลางในการศึกษาศาสนาพุทธและภาษาบาลี โดยชาวมุสลิมอินเดีย บริจาคที่ดินให้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ghost of the darkness
Sr. Member
  
คะแนน -487
ออฟไลน์
กระทู้: 890
|
 |
« ตอบ #136 เมื่อ: มีนาคม 29, 2016, 09:12:54 PM » |
|
นาลานทาถูกเผาอยู่เป็นอาทิตย์ จริงรึเปล่าครับ น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่โตมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #137 เมื่อ: มีนาคม 30, 2016, 08:38:43 PM » |
|
นาลานทาถูกเผาอยู่เป็นอาทิตย์ จริงรึเปล่าครับ น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่โตมาก
เฉพาะหนังสือ ใช้เวลาเผา 3 เดือน ครับ แต่นาลานทา ก็เป็นความตกต่ำของพุทธศาสนาหนทางหนึ่งเหมือนกัน พระภิกษุมุ่งแสวงหาความรู้ เข้ามาเรียนกันมากมาย ละทิ้งมวลชน ทำให้ศาสนาฮินดู ฟื้นคืนเข้ามาได้ โดยอาศัยแนวทางของศังกราจารย์ เปลี่ยนศาสนาพราห์มเป็นศาสนาฮินดู มีวัดเหมือนพุทธ ที่เคยฆ่าสัตว์บูชายันต์ ก็เลิก พราห์มเข้าหามวลชนมากขึ้น พิธีสวดต่าง ๆ ก็ไม่เก็บเงิน แล้วแต่ศัทธา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2016, 08:45:53 PM โดย สุพินท์ - รักในหลวง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
   
คะแนน 239
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1115
|
 |
« ตอบ #138 เมื่อ: มีนาคม 30, 2016, 11:24:55 PM » |
|
มหาวิทยาลัยนาลันทาในเวลานั้น มีการนำแนวคำสอนของนิกายตันตระเข้ามาสอนปะปนกับพุทธศาสนาซึ่งจะพัฒนาเป็นนิกายวัชรยานในภายหลัง ร่วมถึงเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างนิกายเถรวาทกับนิกายอาจาริยาวาท (มหายาน) มากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นไม่ร่วมนานาสังวาสกันในอุโบสถเดียวกัน และมีการแยกเป็นนิกายย่อยอีก 18 นิกาย
ส่วนในชนบทห่างไกล นอกจากศังกราจารย์แล้วยังปรากฏว่าบรรดากษัตริย์ในหลายแคว้น หลายเมืองเริ่มเปลี่ยนจากการนับถือพุทธศาสนามาเป็นฮินดูอีกครั้ง ซึ่งในช่วงราชวงศ์คุปตะ-ราชวงศ์ปาละ จะเป็นช่วงราชวงศ์ท้ายๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย ก่อนที่จะถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฮินดูครับ ส่วนชาวพุทธบางกลุ่มก็ลี้ภัยมายังดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งจะตรงกับช่วงยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) โดยประมาณ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 30, 2016, 11:27:24 PM โดย รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ »
|
บันทึกการเข้า
|
...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...
คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #139 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 11:28:46 AM » |
|
มหาวิทยาลัยนาลันทาในเวลานั้น มีการนำแนวคำสอนของนิกายตันตระเข้ามาสอนปะปนกับพุทธศาสนาซึ่งจะพัฒนาเป็นนิกายวัชรยานในภายหลัง ร่วมถึงเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างนิกายเถรวาทกับนิกายอาจาริยาวาท (มหายาน) มากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นไม่ร่วมนานาสังวาสกันในอุโบสถเดียวกัน และมีการแยกเป็นนิกายย่อยอีก 18 นิกาย
ส่วนในชนบทห่างไกล นอกจากศังกราจารย์แล้วยังปรากฏว่าบรรดากษัตริย์ในหลายแคว้น หลายเมืองเริ่มเปลี่ยนจากการนับถือพุทธศาสนามาเป็นฮินดูอีกครั้ง ซึ่งในช่วงราชวงศ์คุปตะ-ราชวงศ์ปาละ จะเป็นช่วงราชวงศ์ท้ายๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย ก่อนที่จะถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฮินดูครับ ส่วนชาวพุทธบางกลุ่มก็ลี้ภัยมายังดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งจะตรงกับช่วงยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) โดยประมาณ
เพิ่มเติมให้ครับ ตรันตระ เดิมเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพราห์ม เน้นการเสพตัณหาเพื่อให้เกิดความรู้แจ้ง และทำกันอย่างโจ่งแจ้ง อย่างเช่นวิหารกามสูตรที่คาจูราโฮ รัฐมัธยประเทศ (เป็นศาสนสถานที่เป็นมรดกโลก) ก็เป็นส่วนหนึ่งของตันตระ (ฮินดู) ช่วงนั้นแนวทางของพุทธมหายาน เข้าใกล้กับศาสนาพราห์มมากขึ้น ๆ ทุกที จนรับเอาตันตระเข้ามาเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธ มีการเสพตัณหาเพื่อให้เกิดปัญญา ทั้งเหล้า ทั้งกามที่พระพุทธเจ้าห้ามไว้ พระในนิกายตันตระ ทดลองหมดทุอย่าง เพื่อให้รู้ว่าทำไมถึงห้าม แต่ของพุทธ จะปฏิบัติในห้องลับ ปัจจุบัน พุทธตันตระได้พัฒนาเป็นวัชรยานของธิเบต ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกามคุณแล้ว แต่อาจจะยังมีอะไรแปลก ๆ อยู่บ้าง เช่นบางนิกายย่อย มีการผูกอวัยวะเพศลากก้อนหิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 7665
ออฟไลน์
กระทู้: 9988
|
 |
« ตอบ #140 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 12:49:27 PM » |
|
มหาวิทยาลัยนาลันทาในเวลานั้น มีการนำแนวคำสอนของนิกายตันตระเข้ามาสอนปะปนกับพุทธศาสนาซึ่งจะพัฒนาเป็นนิกายวัชรยานในภายหลัง ร่วมถึงเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างนิกายเถรวาทกับนิกายอาจาริยาวาท (มหายาน) มากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นไม่ร่วมนานาสังวาสกันในอุโบสถเดียวกัน และมีการแยกเป็นนิกายย่อยอีก 18 นิกาย
ส่วนในชนบทห่างไกล นอกจากศังกราจารย์แล้วยังปรากฏว่าบรรดากษัตริย์ในหลายแคว้น หลายเมืองเริ่มเปลี่ยนจากการนับถือพุทธศาสนามาเป็นฮินดูอีกครั้ง ซึ่งในช่วงราชวงศ์คุปตะ-ราชวงศ์ปาละ จะเป็นช่วงราชวงศ์ท้ายๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย ก่อนที่จะถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฮินดูครับ ส่วนชาวพุทธบางกลุ่มก็ลี้ภัยมายังดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งจะตรงกับช่วงยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) โดยประมาณ
พอดีอ่านข่าวมาว่าวัดที่นครศรีธรรมราชอายุจริงๆน่าจะ 1000 - 1100 ปีตรงกันไหมครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
   
คะแนน 366
ออฟไลน์
กระทู้: 6023
|
 |
« ตอบ #141 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 04:24:19 PM » |
|
มหาวิทยาลัยนาลันทาในเวลานั้น มีการนำแนวคำสอนของนิกายตันตระเข้ามาสอนปะปนกับพุทธศาสนาซึ่งจะพัฒนาเป็นนิกายวัชรยานในภายหลัง ร่วมถึงเริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้นระหว่างนิกายเถรวาทกับนิกายอาจาริยาวาท (มหายาน) มากยิ่งขึ้น จนถึงขั้นไม่ร่วมนานาสังวาสกันในอุโบสถเดียวกัน และมีการแยกเป็นนิกายย่อยอีก 18 นิกาย ส่วนในชนบทห่างไกล นอกจากศังกราจารย์แล้วยังปรากฏว่าบรรดากษัตริย์ในหลายแคว้น หลายเมืองเริ่มเปลี่ยนจากการนับถือพุทธศาสนามาเป็นฮินดูอีกครั้ง ซึ่งในช่วงราชวงศ์คุปตะ-ราชวงศ์ปาละ จะเป็นช่วงราชวงศ์ท้ายๆ ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย ก่อนที่จะถูกกลืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฮินดูครับ ส่วนชาวพุทธบางกลุ่มก็ลี้ภัยมายังดินแดนสุวรรณภูมิซึ่งจะตรงกับช่วงยุคทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 11-18) โดยประมาณ
เพิ่มเติมให้ครับ ตรันตระ เดิมเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพราห์ม เน้นการเสพตัณหาเพื่อให้เกิดความรู้แจ้ง และทำกันอย่างโจ่งแจ้ง อย่างเช่นวิหารกามสูตรที่คาจูราโฮ รัฐมัธยประเทศ (เป็นศาสนสถานที่เป็นมรดกโลก) ก็เป็นส่วนหนึ่งของตันตระ (ฮินดู) ช่วงนั้นแนวทางของพุทธมหายาน เข้าใกล้กับศาสนาพราห์มมากขึ้น ๆ ทุกที จนรับเอาตันตระเข้ามาเป็นนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธ มีการเสพตัณหาเพื่อให้เกิดปัญญา ทั้งเหล้า ทั้งกามที่พระพุทธเจ้าห้ามไว้ พระในนิกายตันตระ ทดลองหมดทุอย่าง เพื่อให้รู้ว่าทำไมถึงห้าม แต่ของพุทธ จะปฏิบัติในห้องลับ ปัจจุบัน พุทธตันตระได้พัฒนาเป็นวัชรยานของธิเบต ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกามคุณแล้ว แต่อาจจะยังมีอะไรแปลก ๆ อยู่บ้าง เช่นบางนิกายย่อย มีการผูกอวัยวะเพศลากก้อนหิน เสพกามเพื่อความหลุดพ้นนี่..น่าสนุกดีนะครับ..55555..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
   
คะแนน 239
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1115
|
 |
« ตอบ #142 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 05:23:56 PM » |
|
เสพกามเพื่อความหลุดพ้นนี่..น่าสนุกดีนะครับ..55555.. ระวังเจอหญิงรุมแบบ 7 ต่อ 1 พอฝ่ายชายป้อแป้ไม่ไหวแล้ว คุณเธอทั้งหลายคงหงุดหงิดเลยช่วยกันเอากระดาษทรายขัดจรวดเสียถลอกปอกเปิกเหมือนถลกหนังออก แบบนั้นตายดีกว่าครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...
คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
|
|
|
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
   
คะแนน 239
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1115
|
 |
« ตอบ #143 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 05:32:51 PM » |
|
พอดีอ่านข่าวมาว่าวัดที่นครศรีธรรมราชอายุจริงๆน่าจะ 1000 - 1100 ปีตรงกันไหมครับ
ช่วงที่พุทธศาสนาเริ่มเสื่อมสลายไปจากอินเดียเกิดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8 ไล่ลงมาครับ ส่วนยุคทวารวดีและศรีวิชัยเริ่มในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 11 จนถึง 18 ก่อนหน้านั้นก็จะเป็นยุคฟูนัน-เจนละ ส่วนทางปักษ์ใต้ก็จะเป็นพวกตามพรลิงค์พวกนั้นครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...
คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #144 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 07:06:42 PM » |
|
พอดีอ่านข่าวมาว่าวัดที่นครศรีธรรมราชอายุจริงๆน่าจะ 1000 - 1100 ปีตรงกันไหมครับ
ช่วงที่พุทธศาสนาเริ่มเสื่อมสลายไปจากอินเดียเกิดในช่วงพุทธศตวรรษที่ 8 ไล่ลงมาครับ ส่วนยุคทวารวดีและศรีวิชัยเริ่มในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 11 จนถึง 18 ก่อนหน้านั้นก็จะเป็นยุคฟูนัน-เจนละ ส่วนทางปักษ์ใต้ก็จะเป็นพวกตามพรลิงค์พวกนั้นครับ ยุคทวาราวดี นี่เขายังสงสัยกันอยู่นะครับ ว่าอาจจะไม่มีอาณาจักรทวาราวดีอย่างที่เคยเชื่อกัน มีแต่วัฒนธรรมแบบทวาราวดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ghost of the darkness
Sr. Member
  
คะแนน -487
ออฟไลน์
กระทู้: 890
|
 |
« ตอบ #145 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 07:53:31 PM » |
|
บูโรพุทโธ เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในยุคศรีวิชัยรึเปล่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #146 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 10:20:22 PM » |
|
บูโรพุทโธ เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธในยุคศรีวิชัยรึเปล่าครับ
นักประวัติศาสตร์ยังเถียงกันไม่เสร็จครับ บางท่านเชื่อว่านครศรีธรรมราช บางท่านก็เชื่อว่าเป็นนครปฐม แต่บันทึกของหลวงจีนอี้จิง (ศิษย์เก่านาลานทา รุ่นหลังพระถังซำจั๋ง) ระบุว่า ในช่วง พ.ศ.1200 พุทธมหายานเจริญรุ่งเรืองในศรีวิชัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ
รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย คือสมบัติของผู้มีอารยธรรม
Hero Member
   
คะแนน 239
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 1115
|
 |
« ตอบ #147 เมื่อ: มีนาคม 31, 2016, 11:01:55 PM » |
|
ยุคทวาราวดี นี่เขายังสงสัยกันอยู่นะครับ ว่าอาจจะไม่มีอาณาจักรทวาราวดีอย่างที่เคยเชื่อกัน มีแต่วัฒนธรรมแบบทวาราวดี
ผมมีความเห็นว่าทวารวดีไม่ใช่อาณาจักรแน่นอนครับ เพราะท่านอาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ให้ความเห็นในวารสารเมืองโบราณ เล่มที่แล้วว่า แต่ละเมืองน่าจะเป็นอิสระต่อกัน แต่อาจจะปกครองในรูปแบบคล้ายๆ กับระบอบสหพันธรัฐในแบบปัจจุบันมากกว่าครับ ส่วนวัฒนธรรมทวารวดี ผมมองว่าได้รับอิทธิพลมาจากทางอินเดียตอนกลางกับทางตอนใต้มากกว่าอินเดียตอนเหนือ สังเกตจากพุทธลักษณะของพระพุทธรูปแบบทวารวดีโดยเฉพาะในยุคต้นจะได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียแบบอมราวดีกับแบบคุปตะ รวมถึงการใช้อักษรปัลลวะจารึกคัมภีร์หรือพระคาถาบนโบราณวัตถุและโบราณสถาน และลวดลายปูนปั้นตลอดจนลายแกะสลักก็ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบคุปตะเช่นกันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
...การที่เราทะนุถนอมคนที่เรารัก มันเป็นเรื่องปกติ แต่การถนอมหัวใจคนที่เราไม่ได้รัก ใครจะทำได้สักกี่คน...
คิดถึงทุกปี-บินหลา สันกาลาคีรี
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
   
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 12903
|
 |
« ตอบ #148 เมื่อ: เมษายน 01, 2016, 01:10:37 PM » |
|
ยุคทวาราวดี นี่เขายังสงสัยกันอยู่นะครับ ว่าอาจจะไม่มีอาณาจักรทวาราวดีอย่างที่เคยเชื่อกัน มีแต่วัฒนธรรมแบบทวาราวดี
ผมมีความเห็นว่าทวารวดีไม่ใช่อาณาจักรแน่นอนครับ เพราะท่านอาจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม ให้ความเห็นในวารสารเมืองโบราณ เล่มที่แล้วว่า แต่ละเมืองน่าจะเป็นอิสระต่อกัน แต่อาจจะปกครองในรูปแบบคล้ายๆ กับระบอบสหพันธรัฐในแบบปัจจุบันมากกว่าครับ ส่วนวัฒนธรรมทวารวดี ผมมองว่าได้รับอิทธิพลมาจากทางอินเดียตอนกลางกับทางตอนใต้มากกว่าอินเดียตอนเหนือ สังเกตจากพุทธลักษณะของพระพุทธรูปแบบทวารวดีโดยเฉพาะในยุคต้นจะได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียแบบอมราวดีกับแบบคุปตะ รวมถึงการใช้อักษรปัลลวะจารึกคัมภีร์หรือพระคาถาบนโบราณวัตถุและโบราณสถาน และลวดลายปูนปั้นตลอดจนลายแกะสลักก็ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะแบบคุปตะเช่นกันครับ หลายคนอ้างว่าลายกนกเป็นลายไทย บางท่านไปไกลถึงขนาดไปบอกว่าลาว เขมร เลียนแบบไปจากไทย เรื่องจริงก็คือ ต่างก็ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียด้วยกันทั้งนั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
   
คะแนน 366
ออฟไลน์
กระทู้: 6023
|
 |
« ตอบ #149 เมื่อ: เมษายน 01, 2016, 02:27:29 PM » |
|
ชาวทมิฬ..เป็นคนพวกไหนครับ ระหว่างมองโกลอยด์ หรือ นิกรอยด์..อารยันนั้นไม่ใช่แน่ ๆ อยู่แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|