เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 15, 2025, 08:40:28 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: .อย่างนี้. ผิดฐานพกพา/นำพาหรือไม่.  (อ่าน 2227 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ศรีวิชัย.
รักปืนไม่เปลี่ยนแปลง
Sr. Member
****

คะแนน 51
ออฟไลน์

กระทู้: 865



« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 10:44:29 PM »

 Grin  ขออนุญาตครับ. มาอีกแล้วเที่ยวนำเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้ามาให้ท่านคิดกันอีกแล้ว หลงรัก

.แต่อย่าซีเรียสนะครับ.  คำถามคราวที่แล้วอาจจะเครียดไปหน่อย. หลงรัก

.คราวนี้เลยหาคำถามเบาๆ .มาถามดูบ้างครับ.  :-* Grin

        คำถาม.  สมมุติว่า สัปดาห์หน้านี้.  รัฐบาลชุดนี้.จะ
ประกาศเปิดขึ้นทะเบียนปืนเถื่อนทั่วราชอาณาจักร. โดยให้กำหนดเวลา
๓ เดือนให้คนเอาปืนเถื่อนที่มีอยู่+รวมถึงปืนเถื่อนที่เคยขึ้นทะเบียน
ไว้เมื่อปี ๒๕๐๒ หรือ ๒๕๑๘  หรือครั้งก่อนๆ.ที่ไม่มีเลขซีรี่ย์
นัมเบอร์
ให้รีบเอาไปขึ้นทะเบียนใหม่ได้ภายในกำหนด

             .โดยปืนที่เคยจดเถื่อนปี ๐๒ / ๑๘ /หรือครั้งก่อนๆ
 ที่ไม่มีเลขซีรี่ย์นัมเบอร์.ก็ให้ตอกเลขซีรี่ย์นัมเบอร์เอาไปขึ้นใหม่ได้
( แต่ถ้ามีเลขซีรี่ย์นัมเบอร์อยู่แล้วห้าม )

            .พอถึงวันกำหนด   นาย ก.ได้หยิบปืนแก็ปยาว ที่เคยจดเถื่อนเมื่อปี ๑๘
ที่ไม่มีเลขซีรี่ย์นัมเบอร์ออกมาใส่ถุงย่าม  โดยปลายปากกระบอกปืนโผล่ออกมาจากถุงย่าม
มองเห็นได้ค่อนกระบอกด้านบนที่โผล่  แล้วเดินถือมาที่อำเภอเพื่อจดทะเบียนเถื่อน

 
             กรณีที่ ๒ นาย ข. หยิบปืนแก็ป  ( เหมือนกระบอกบน ) สะพายไหล่
( ไม่ได้ใส่ย่าม )แล้วเดินมาที่อำเภอเพื่อจดทะเบียนใหม่เอาเลขข้างด้วย
           
              ทั้งนาย ก. +นาย ข. มีบ้านอยู่ห่างจากอำเภอเพียง ๘๐ เมตร
ขณะทั้งสองเดินมาได้  คนละ  ๗๐ เมตร เจอตำรวจเห็นปืนจับกุมเลย

               อ้อ. ลืมบอกไป ทั้งนาย ก.+ข. เอา ป.๔ ปี ๑๘ เหน็บมาด้วยนะครับ

                ลืมบอกอีกข้อ  .นาย ก.+ข. ต้องรีบมากๆในวันนั้นที่จะต้องมาทำเรื่องแต่เช้า
ที่อำเภอ  เพราะนาย ก.มีนัดกับหมอเวลา ๑๐.๓๐ น. อีก /ส่วนนาย ข.ต้องไปทำเรื่อง
โอนที่ดินที่จังหวัดนัดอีกฝ่ายไว้เวลา ๑๐.๓๐ น. เหมือนกัน 
                .ทั้งสองคนจึงมีธุระมากในวันนั้น  จึงต้องรีบร้อนกันทั้งคู่
             
                 .ท่านว่า นาย ก.และนาย ข. จะผิดไหม. Huh

    .ขออภัยท่าน วมต.เจ้าของบอร์ดด้วยนะครับ.  หากเห็นว่าไม่เหมาะสม
ด้วยประการใด  ก็ลบได้นะครับ.   ขอบคุณครับ. Grin Grin Cheesy :-*
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2006, 11:23:39 PM โดย ป.๑๓ » บันทึกการเข้า

ลูกปืนหล่นไม่ไกลเป้า.....///
* : L๐OKPlaNoi *:.รักแม่
....หมี คอมมานโด....
Hero Member
*****

คะแนน 48
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1351


.......อาศัยความมั่ว.......เป็นฉากกำบัง..........


« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 10:54:20 PM »

      แถวต่างจังหวัด โรงพัก กับที่ว่าการอำเภอ มักอยู่ใกล้กัน  หรืออยู่ติด ๆ กันเลย  ถ้านำพาปืนยาวปลายกระบอกโผล่ออกมา โอกาสรอดยากครับ  ผมว่านาย ก  กับนาย ข ผิด ครับ ผิดที่ลืมดูดวงก่อนออกจากบ้านครับ  อิอิ Wink
บันทึกการเข้า

เบื่อ ๆ อยาก ๆ  อยากแล้วก็เบื่อ เบื่อแล้วก็อยาก  แต่เกือบทุกครั้ง อยากมากกว่าเบื่อ
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 11:05:39 PM »

โดยความเห้นส่วนตัว  เข้าใจว่าไม่น่าผิดนะครับเพราะตั้งใจทำตามทางราชการ อย่างจริงใจและเปิดเผยและยังไม่เลยเวลาที่ทางราชการกำหนด 

ผิดถูกไม่แน่ชัดเดี๋ยวรอท่านที่สามารถไขข้อข้องใจนี้  ได้มาตอบอีกทีรออ่านด้วยครับ
บันทึกการเข้า

ศรีวิชัย.
รักปืนไม่เปลี่ยนแปลง
Sr. Member
****

คะแนน 51
ออฟไลน์

กระทู้: 865



« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 11:07:39 PM »

.ขอลง ตัว  พรบ.อาวุธปืนให้ดูเทียบไปด้วยนะครับ.

             มาตรา  ๘  ทวิ  .ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน
หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ( คือ ป.๑๒ )
เว้นแต่. เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่
พฤติการณ์

                         ไม่ว่ากรณีใดๆ ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย
หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ  การรื่นเริง
การมหรสพหรือการอื่นใด......ฯ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 21, 2006, 11:18:20 PM โดย ป.๑๓ » บันทึกการเข้า

ลูกปืนหล่นไม่ไกลเป้า.....///
โจ
Hero Member
*****

คะแนน 51
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1368


« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 11:08:56 PM »

ผมว่ารอดทั้งคู่ เพราะ อ้างว่านำปืนไปอำเภอเพื่อขอจดทะเบียนตามคำสั่งของรัฐบาล

และ การอนุญาตให้จดทะเบียนปืนเถื่อน จำเป็นต้องออกกฏหมายนิรโทษกรรมเพื่อให้ประชาชนสามารถนำปืนเถื่อนมาขึ้นจดทะเบียนได้โดยไม่ผิดกฏหมาย
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #5 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2006, 11:09:50 PM »

แถวบ้านผมมักเอาลูกกรดหรือลูกซองพันด้วยผ้าขาวม้าสะพายเฉียง ขี่มอเตอร์ไซค์กัน ตำรวจเห็นแล้วก็ยิ้มๆ รู้กันว่าไปสวน
บันทึกการเข้า

                
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #6 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2006, 12:17:26 AM »

แถวบ้านผมมักเอาลูกกรดหรือลูกซองพันด้วยผ้าขาวม้าสะพายเฉียง ขี่มอเตอร์ไซค์กัน ตำรวจเห็นแล้วก็ยิ้มๆ รู้กันว่าไปสวน
 
เห็นด้วยครับ ดีไม่ดีถามว่าได้กระรอกกี่ตัว ขอแบ่งไปทำกับแกล้มยังเคยครับ
บันทึกการเข้า

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #7 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2006, 12:41:43 AM »

Smiley.. ลักษณะที่ถาม เชื่อว่า เป็นปัญหา ที่ ทางฝ่ายรัฐมองเห็นอยู่แล้ว.
       และต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น.

       จะต้องมีข้อบัญญัติ อย่งที่คุณโจ  บอกครับ .
       ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว การนำพาอาวุธปืน เพื่อจดทะเบียน ไม่ถือเป็นความผิด

       ฉะนั้น ปัญหา ที่ถาม จึงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ครับ.  Smiley
บันทึกการเข้า

flyingkob-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 361
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2396


"สุวิชาโน ภวัง โหติ" ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ


« ตอบ #8 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2006, 11:13:46 AM »

 Smiley เมื่อตำรวจจับ ก็ให้ตำรวจพาไปอำเภอเลยครับ ไม่ยาก ไม่ว่ากฎหมายจะบัญญัติอย่างไร นั่นเป็นหลักทางนิติศาสตร์ ส่วนตำรวจจะจับดำเนินคดีนั้นต้องใช้หลักทางรัฐศาสตร์ด้วยครับ เพราะตาลุงสองคนนั้นทำตามมติของรัฐบาลในการเอาปืนเถื่อนไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ปล. ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะเอาปืนไปซ้อมยิงที่สนามยิงปืน แล้วโดนตำรวจเรียกตรวจค้นและพบปืนคุณอยู่ในรถ ทุกอย่างมันขึ้นกับ "ดุลยพินิจ" ของเจ้าพนักงานที่จะวินิจฉัยว่าคุณพกพา หรือนำพา ปืน ไปด้วยวัตถุประสงค์อะไร

กฎหมายมันมีทางออกครับ ไม่ต้องวิตกกังวล
บันทึกการเข้า

ตึกยาวหลังนี้ สอนให้เรารู้สำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
NOOM 19 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 495
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3733


อดอย่างเสือ ดีกว่าอิ่มอย่างหมา


« ตอบ #9 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2006, 04:46:17 PM »

เคยอ่านเจอใน "หนังสือ 108 คดี อาวุธปืน" ที่เป็นการรวบรวมคำพิพากษาจากคดีต่างๆ มีอยู่สองคดีที่ลักษณะคล้ายๆกันคือ 1.ตำรวจตรวจค้นรถเจอ 11 มม. ไม่มีทะบียน (เวลากลางคืน)
         2.ตำรวจค้นบ้านเจอ อาวุสงคราม
แต่ทั้งสองคดีศาลยกฟ้อง โดยศาลให้เหตุผลว่า "คดีที่เกิดขึ้น เกิดหลังและยังอยู่ในช่วงเวลาของการประกาศนิละโทษสำหรับผู้มีอาวุธสงครามและปืนเถื่อนให้มาขึ้นทะเบียน"
บันทึกการเข้า

"นี้ไรเฟิลของฉัน"
"มีเหมือนกันหลายกระบอก,แต่กระบอกนี้เป็นของฉัน"
"ถ้าไม่มีไรเฟิล.ฉันก็ไม่มีอะไร"
"ถ้าไม่มีฉัน.ไรเฟิลก็ไม่มีค่าอะไร"

เสียตังค์ทำรถ ..ดีกว่าหมดกับโคโยตี
yotin
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 13


« ตอบ #10 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2006, 05:29:31 PM »

เข้าใจว่าผู้ตั้งกระทูน่าจะเรียนเนติฯ  ประเภทคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างนี้ก็ไม่ว่ากัน    จริงๆแล้วหลักการใช้กฎหมายมีอยู่เพียงนิดเดียวว่าอะไรที่ก่อให้เกิดความยุติธรรมกับบุคคลทั่วไปอันนั้นละที่เราเรียกว่ากฎหมาย   หรือที่เราทั้งหลายมักจะพูดว่าหลักกฎหมายและหลักรัฐศาสตร์ต้องไปด้วยกัน     แต่ที่เรามีคดีขึ้นโรงขึ้นศาลกันมากมายและเชื่อว่าร้อยละ 40  ที่อยู่ในคุกนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์   แต่ที่ติดคุกเพราะความซวยซึ่งต้องว่ากันอย่างนั้นจริงๆ  เพราะอะไรหรือครับ   เรามักจะพบกับศรีธนชัยบางจำพวกเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายโดยไม่ได้ดูว่าเจตนาของผู้กระทำความผิดนั้นแท้จริงเป็นอย่างใด   ขณะนั้นมีกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่  สักแต่ว่าบันทึกการจับกุมแล้วให้เค้าลายมือชื่อและหากเจอหากเลวร้ายไปกว่านั้นลงชื่อในกระดาษเปล่าเลยครับ    และเมื่อขึ้นสู่ศาลท่านเชื่อหรือไม่ว่าเมื่อต้นทางไม่ยุติธรรมกับประชาชนและคนรักปืนแล้ว   ปลายทางก็คือนรกดีๆ นี้เองเพราะอะไรหรือครับ   อัยการและศาลมักจะมีความเห็นตรงกันว่าในชั้นสอบสวนให้การรับสารภาพแล้วในชั้นศาลก็พิพากษาง่ายดี    แต่หากในชั้นสอบสวนปฏิเสธศาลมักจะดูจากบันทึกการจับกุมและบันทึกในคำพิพากษาว่า  เจ้าพนักงานตำรวจขณะเข้าจับกุมนั้นพบสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดและพนักงานตำรวจให้การยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับผู้กระทำผิด    เน้นนะครับ  จึงเชื่อตำรวจไม่มีเหตุโกรธเคื่องกับผู้กระทำความผิดมาก่อนและได้ปฏิบัติตามหน้าที่จึงเชื่อว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริง    เศร้าครับ       ทุกคนนะครับไม่อยากกระทำความผิดหรือล้อเล่นกับอิสรภาพหรอกครับ  ถ้าทุกคนได้รับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ของรับของครบถ้วน โจรเวลาซื้อปืนไม่ต้องขอ   ป3 ครับ   แต่คนที่ติดคุกถูกปรับขึ้นหลังแดงเพราะคำพิพากษาเป็นคนดีที่ปฏิบัติตามกฎหมายทั้งนั้นละคร๊าบเจ้านาย
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #11 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2006, 10:19:32 PM »

เข้าใจว่าผู้ตั้งกระทูน่าจะเรียนเนติฯ ประเภทคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างนี้ก็ไม่ว่ากัน จริงๆแล้วหลักการใช้กฎหมายมีอยู่เพียงนิดเดียวว่าอะไรที่ก่อให้เกิดความยุติธรรมกับบุคคลทั่วไปอันนั้นละที่เราเรียกว่ากฎหมาย หรือที่เราทั้งหลายมักจะพูดว่าหลักกฎหมายและหลักรัฐศาสตร์ต้องไปด้วยกัน แต่ที่เรามีคดีขึ้นโรงขึ้นศาลกันมากมายและเชื่อว่าร้อยละ 40 ที่อยู่ในคุกนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ที่ติดคุกเพราะความซวยซึ่งต้องว่ากันอย่างนั้นจริงๆ เพราะอะไรหรือครับ เรามักจะพบกับศรีธนชัยบางจำพวกเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายโดยไม่ได้ดูว่าเจตนาของผู้กระทำความผิดนั้นแท้จริงเป็นอย่างใด ขณะนั้นมีกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ สักแต่ว่าบันทึกการจับกุมแล้วให้เค้าลายมือชื่อและหากเจอหากเลวร้ายไปกว่านั้นลงชื่อในกระดาษเปล่าเลยครับ และเมื่อขึ้นสู่ศาลท่านเชื่อหรือไม่ว่าเมื่อต้นทางไม่ยุติธรรมกับประชาชนและคนรักปืนแล้ว ปลายทางก็คือนรกดีๆ นี้เองเพราะอะไรหรือครับ อัยการและศาลมักจะมีความเห็นตรงกันว่าในชั้นสอบสวนให้การรับสารภาพแล้วในชั้นศาลก็พิพากษาง่ายดี แต่หากในชั้นสอบสวนปฏิเสธศาลมักจะดูจากบันทึกการจับกุมและบันทึกในคำพิพากษาว่า เจ้าพนักงานตำรวจขณะเข้าจับกุมนั้นพบสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดและพนักงานตำรวจให้การยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับผู้กระทำผิด เน้นนะครับ จึงเชื่อตำรวจไม่มีเหตุโกรธเคื่องกับผู้กระทำความผิดมาก่อนและได้ปฏิบัติตามหน้าที่จึงเชื่อว่าจำเลยได้กระทำความผิดจริง เศร้าครับ ทุกคนนะครับไม่อยากกระทำความผิดหรือล้อเล่นกับอิสรภาพหรอกครับ ถ้าทุกคนได้รับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ของรับของครบถ้วน โจรเวลาซื้อปืนไม่ต้องขอ ป3 ครับ แต่คนที่ติดคุกถูกปรับขึ้นหลังแดงเพราะคำพิพากษาเป็นคนดีที่ปฏิบัติตามกฎหมายทั้งนั้นละคร๊าบเจ้านาย

ขออนุญาตท่านyotinแก้ต่างให้ศาลหน่อยครับ....ผมไม่ใช่นักกฎหมาย....เป็นเพียงฅนข้างศาล...
ปกติผู้พิพากษามองว่า....ปล่อยคนผิดสิบคนดีกว่าเอาคนบริสุทธิ์เข้าคุกเพียงคนเดียว.....และถือเอาเจตนาเป็นเกณฑ์ด้วย
ในคดีอาญาโดยหลักแล้ว.....ตำรวจสงสัย->จับ   อัยการสงสัย->ฟ้อง  ศาลสงสัย->ปล่อย 
ศาลจะลงโทษต่อเมื่อพิเคราะห์แล้วว่าจำเลยกระทำผิด
แม้จำเลยจะรับสารภาพ ก็ยังต้องไต่สวนความเป็นจริง........ถ้าร้อยละ 40 ในคุกเป็นผู้บริสุทธิ์ อย่างที่คุณyotinว่า..บ้านเมืองคงอยู่แบบนี้ไม่ได้ 

ช่องโหว่ของกระบวนการยุติธรรมของเรา อยู่ที่กระบวนการแสวงหาหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ได้อยู่ในอำนาจของศาล.....จึงขึ้นอยู่ว่ามันตั้งต้นมาอย่างไร
การลงชื่อรับสารภาพว่ากระทำผิด โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ .......... แก้ได้ก็ต่อเมื่อคนมีความรู้และพร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิและความถูกต้อง
กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องยาว.........ความยุติธรรม100%ไม่มีในโลก.....

บันทึกการเข้า
werasak
Hero Member
*****

คะแนน 74
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2230



« ตอบ #12 เมื่อ: ตุลาคม 24, 2006, 10:41:29 PM »

ถึงชั้นศาล ศาลจะต้องไต่สวนทุกครั้งละครับ จะให้การชั้นสอบสวนมายังไงถึงศาล ศาลก็สอบสวนใหม่(ไต่สวน,สอบถามจำเลย)
จนกว่าศาลจะเห็นว่าผิดจริงจึงลงโทษนะครับ Smiley
บันทึกการเข้า
jim
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 01:30:00 AM »

%
บันทึกการเข้า
ช็อปเปอร์
ขอให้สัญญาว่า.... จะรักและถนุถนอมเธอตลอดไป ...
Full Member
***

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 360



« ตอบ #14 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2006, 01:32:46 PM »

ถึงชั้นศาล ศาลจะต้องไต่สวนทุกครั้งละครับ จะให้การชั้นสอบสวนมายังไงถึงศาล ศาลก็สอบสวนใหม่(ไต่สวน,สอบถามจำเลย)
จนกว่าศาลจะเห็นว่าผิดจริงจึงลงโทษนะครับ Smiley
ด้วยความเคารพครับผม กว่าจะจบศาลชั้นต้นก็ใช้เวลานานโขอยู่ ถ้าถึงที่สุดแล้ว ศาลยกฟ้อง ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ถูกจับจนถึงชั้นศาลที่ผ่านมา เขาชดเชยอะไรให้บ้างครับ หรือว่าจบแล้วก็แล้วกันไป
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.057 วินาที กับ 21 คำสั่ง