สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นสมาชิกน้องใหม่ในเว็บบอร์ดนี้ด้วยคนนะครับ
เรียนสอบถามท่านผู้มีความรู้ด้านกฎหมายอาวุธปืนครับ
1. ในใบ ป4. ของผมไม่ได้ระบุจำนวนลูกกระสุนปืนและแม็กกาซีน ผมจะสามารถมีไว้ในครอบครองได้เท่าไหร่ครับ (กระสุนกี่นัดและแม็กกาซีนกี่อัน) ?
2. แม็กกาซีนของเดิมเป็น 7 นัด ผมจะสามารถเปลี่ยนไปใช้ 8 นัด หรือมากกว่าได้หรือเปล่าครับ ?
3. ในการซื้อกระสุนปืนและเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ต้องขออนุญาตทุกครั้งใช่รึเปล่าครับ แล้วชิ้นส่วนเดิมจำเป็นต้องเก็บไว้รึเปล่าครับ จะมีการตรวจสอบรึเปล่าครับ ?
4. มีกระสุนหรือชิ้นส่วนแบบใดของปืนที่ไม่ต้องทำการขออนุญาตบ้างครับ ? (เผื่ออยากแต่งหล่อบ้างครับ)
5. จะดูยังไงจึงจะรู้ว่าเป็นปืนจดทะเบียน ที่ไหน พ.ศ.ไหน ที่อำเภอมีทะเบียนประวัติปืนหรือเปล่าครับ ? (กทXXXXXX)
6. S/N 31XXXX C เขาเรียกรุ่นอะไร ปีไหนครับ เรียกว่าม้าอะไรครับ แล้วทำไมลายกันลื่นบนสไลด์แหว่งหายไป 1 ขีด (ด้านซ้าย)
7. ถ้าเราเอาปืนไปทำสีใหม่ต้องขออนุญาตรึเปล่าครับ ?
*** คือว่ามือใหม่ครับได้รับโอนปืนมา ต้องการข้อมูลด้านกฎหมายไว้ป้องกันความผิดพลาด(เดี๋ยวจะโดนจับไม่รู้เรื่อง) แล้วก้ว่าจะแต่งหล่อเสริมหล่อให้ม้านิดหน่อยครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
.ข้อ ๑ ถ้าหมายถึงว่าคุณมีปืน ๑๑ มม.มีใบป.๔ เรื่องกระสุนไม่มีระบุในใบป.๔
ก็ไม่เป็นไร คุณก็สามารถมี/ซื้อกระสุนขนาด ๑๑ มม.มาตุนไว้ซ้อมกับปืนคุณ
สักกี่นัดก็ได้ .ไม่มีความผิด. เพราะมันเป็นกระสุนขนาดเดียวกับปืนที่มีและ
ป.๔ ที่ระบุขนาดไว้.
ส่วนซองกระสุน. นี่ แม้ในป.๔ มิได้ระบุ. แต่ก็ยังเห็นว่าจะมีแมกกาซีน
ของปืนนั้นกี่อันก็น่าจะได้. เพราะว่าแมกกาซีนมันถือเป็นชิ้นส่วนส่วนหนึ่ง
ที่กฎหมายให้ถือว่าเป็นอาวุธปืน. ของปืนกระบอกนั้น.และไม่ใช่การถือว่า
เป็นการมีปืนกระบอกใหม่อีกกระบอกหนึ่งแต่อย่างใดเพราะมันใช้ได้กับปืนกระบอกนั้น
จริงๆ. และเท่าที่เห็นตอนนี้ตามกฎกระทรวงก็ยังไม่มีระบุห้ามว่าปืนกระบอกหนึ่งจะต้องมีแมกกาซีนกำหนดว่าต้องกี่อัน. ( แต่ถ้ามีผมไม่เห็นใครช่วยแจ้งด้วย )
.พิเคราะห์ดูถ้อยคำในกฎกระทรวงฉบับที่ ๓ ( พ.ศ. ๒๔๙๑ ) ข้อ ๑ แล้วก็ระบุว่า
ส่วนของอาวุธปืนซึ่งจะกล่าวต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นอาวุธปืนตามความ
ในมาตรา ๔ ( ๑ ).....ฯลฯ
ดังนั้นแมกกาซีนตามข้อ ๑ (๔ ) จริงๆมันก็คือชิ้นส่วนของปืนกระบอกนั้นนั่นเอง
ซึ่งเขาให้ถือว่าเป็นอาวุธปืน. แต่ก็ไม่ได้แปลไปถึงว่ามันเป็นปืนกระบอกใหม่อีกกระบอกหนึ่ง
เพราะสถานะตัวตนดั้งเดิมของมัน. ก็คือชิ้นส่วนของปืนกระบอกเดิมนั้นนั่นเอง.
.ดังนั้นเจ้าแมกกาซีน นี่จึงน่าจะถือว่าเป็นอาวุธปืนที่มีไว้สำหรับใช้กับอาวุธปืนกระบอก๑๑ มม.กระบอกทีมีนั้น . เสียมากกว่าที่จะถือว่าเป็นอาวุธปืนกระบอกใหม่.อีกกระบอกหนึ่ง.
ซึ่งถ้าตีความอย่างหลังนี้แล้วละก็ยุ่งตายชักเลย.
.เพียงแต่ว่าระวังไว้นิดนึง.ก็คือตัวกฎกระทรวงฉบับที่ ๓ ( พ.ศ.๒๔๙๑ )
ในข้อที่ ๒ ( ๑๒ ) ที่ห้ามมิให้นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ทำ/หรือสั่ง/หรือนำเข้า
ซองกระสุนที่สามารถบรรจุกระสุนได้เกิน ๑๐ นัด. เว้นแต่เป็นซองกระสุนปืนลูกกรด
ขนาด.๒๒
.ก็คือพยามยามใช้แมกกาซีนที่มันจุลูกกระสุนได้ไม่เกิน ๑๐ นัดมาใช้ก่อน
จะได้สบายใจกว่า.หากไม่ใช่ปืนขนาด.๒๒
.ข้อ.๒ เปลี่ยนแมกฯจาก ๗ เป็น ๘ นัด จึงทำได้ แต่ระวังเรื่องเกิน ๑๐ นัดนิดนึง
.ข้อ ๓ การซื้อกระสุนให้ถูกกฎหมายจริง. แล้วก็ต้องไปขออนุญาตนายทะเบียน
ก่อน. แต่จริงๆคุณวานให้เพื่อนที่เป็นสมาชิกสนามยิงปืนซือให้ก็ได้/หรือจะเข้าไป
ซื้อเองก็ได้ . เป็นเคสพิเศษ. อย่าลืมตอนซื้อเอาใบ ป.๔ ไปคุมด้วย
.ส่วนการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่. เอาเป็นว่าจะเปลี่ยนตัวไหน
ก็ไปเปลี่ยนเถอะครับ. ให้มันเป็นชิ้นส่วนของปืนตัวเดิมก็แล้วกัน
ไม่ใช่ปืน ๑๑ มม. ไปเปลี่ยนลำกล้อง ขนาด ๙ มม. อันนี้ก็ทำได้เหมือนกัน
แต่ก็เสียงถูกจับเพราะมันผิดกฎหมาย .มีปืน ๑๑ มม.เปลี่ยนอะไหล่
ของขนาด ๑๑ มม.ที่มีจะเป็นไรไปละครับ. คงไม่มีใครมาจับคุณกรณีนี้หรอก.
.ส่วนชิ้นส่วนเดิมจะเก็บไว้หรือไม่ก็ได้แล้วแต่คุณ
แต่ถ้ากรณีที่ชิ้นส่วนนั้นกฎหมายให้ถือว่าเป็นอาวุธปืนตามที่กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๓ ( พ.ศ. ๒๔๙๑ ) ข้อ ( ๑ ) - ( ๔ ) ระบุไว้..ให้ระวังเรื่องการนำไปขาย
หรือการเอาไปมอบให้คนอื่นนิดนึงเพราะแม้มันจะเป็นชิ้นส่วนหรืออะไหล่ของปืน
แต่กฎหมายก็ให้ถือว่าเป็นอาวุธปืน .ดังนั้นการขายหรือเอาชิ้นส่วนของปืนนั้นๆ
ไปมอบให้คนอื่น .มันก็เลยทำให้มีผลเท่ากับการขายปืน ๑ กระบอกเลยที่เดียว
ที่จะต้องไปขออนุญาตกับนายทะเบียนก่อน ..
.โห. มันอธิบายยากจริงๆเรื่องเหล่านี้. มันละเอียดเอามากๆ. แต่ก็หวังว่าคงจะ
เข้าใจบ้าง.
ข้อ ๔ ตอบไปแล้ว ทั้งกระสุนแหละอะไหล่
ข้อ ๕ คิดว่าคุณคงต้องไปเช็คทะเบียนที่ต้นขั้ว ( รอผู้รู้มาเสริมละกัน )
ข้อ.๖ ผมก็ไม่รู้คุณน่าจะต้องถ่ายรูปมาให้เพื่อนคอปืนช่วยบอกให้อีกที
ข้อ.๗ ท่าน ปู ๔๕ ตอบให้แล้ว.นะครับว่าไม่ต้องขออนุญาต.