สภาพข้อเท็จจริง อ้างป้องกันได้แน่ครับ แต่จะเกินกว่าเหตุหรือไม่
ข้อมูลจากการรายงานข่าว ที่ว่า "บาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .32 เข้าที่อกซ้าย 2 นัด ราวนมขวา 3 นัด และหน้าท้อง 1 นัด รวมทั้งสิ้น 6 นัด ดั้งจมูก คางแตกและข้อมือขวาหัก รวมทั้งสิ้น 6 นัด รวมทั้งมีบาดแผลที่ดั้งจมูก คางแตกและข้อมือขวาหัก เนื่องจากเสียหลักหกล้มก่อนถูกยิง"
เรื่องบาดแผลยังไม่ต้องพูดถึง
เอาแค่ "รวมทั้งมีบาดแผลที่ดั้งจมูก คางแตกและข้อมือขวาหัก เนื่องจากเสียหลักหกล้มก่อนถูกยิง" ตรงนี้ ได้ข้อเท็จจริงมาอย่างไร ว่า"มีการเสียหลักหกล้มก่อนถูกยิง"
เพราะข่าวรายงานต่อเนื่องไปว่า
"สอบสวนพยานในเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายซึ่งแต่เดิมเป็นชาวบ้านในซอยนี้ ได้พาพรรคพวกขึ้นรถกระบะมาหานายพิสิษฐ เจ้าของร้านขายของชำ เมื่อมาถึงกรูเข้ามาหาเรื่องนายพิสิษฐทันที พร้อมกับถือมีดและไม้กอล์ฟ กรูเข้าทำร้ายชกต่อยกัน ทำให้นายพิสิษฐถูกมีดบาดเข้าที่มือทั้ง 2 ข้าง
พอเห็นท่าว่าสู้ไม่ได้นายพิสิษฐจึงวิ่งกลับเข้าบ้าน ก่อนคว้าอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงผู้ตายจนล้มฟุบคาที่
จากข้อเท็จจริงต่อมา ไม่ปรากฏว่า ผู้ตายเสียหลักล้มลงก่อนถูกยิง
ทำไมผมจึงพิจารณาในข้อเท็จจริงส่วนนี้
เพราะ ถ้ามีการล้มลง และได้รับบาดเจ็บถึงขนาด "ดั้งจมูก คางแตกและข้อมือขวาหัก" ก่อนที่จะถูกยิง แล้วผู้ต้องหาใช้ปืนยิง ก็เป็นการเกินสมควรแก่เหตุแล้ว
ทีนี้ ถ้าไม่พูดถึงว่ามีการล้มก่อนถูกยิงหรือไม่ แต่การยิงซ้ำ"เข้าที่อกซ้าย 2 นัด ราวนมขวา 3 นัด และหน้าท้อง 1 นัด"
น่าจะฟังได้ว่า เกินกว่าเหตุครับ เพราะผู้ตายน่าจะหมดสภาพที่จะทำอันตรายผู้ต้องหาได้ตั้งแต่ถูกยิงเข้าที่บาดแผลใดบาดหนึ่งในนัดแรกแล้ว
ขอบคุณครับท่านอัยการ

น้าจอยครับ ก่อนจะทำอะไรลงไป ให้สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆผ่อน พร้อมๆกับจี้ไปที่กระดุมเม็ดที่สอง..เม็ดเดียวพอ..ย้ำเม็ดเดียว..จะได้อยู่ในข่ายครับ.. อิ อิ