เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 10, 2025, 03:02:32 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก  (อ่าน 20516 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #45 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 09:51:41 AM »

คนจีนชอบกินเป็นยาโป๊วครับ ... เลยแพง  อะไรแปลกๆที่คนจีนนิยมกิน โดยให้เหตุผลว่าเป็นยาโป๊ว ช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะบางส่วนละก็ .. แพง .. ทุกอย่างครับ

ผมก็อยากกินบ่อยๆเหมือนกันครับ .. ก็ผมเชื้อจีนนี่นา .. ผู้ใหญ่บอกมา ต้องเชื่อหน่อย
กินแล้วแข็ง ... กินแล้วแข็ง ... กินแล้วแข็ง ... ท่องให้ขึ้นใจครับ จะไม่เสียดายตัง น้ำลายหก น้ำลายหก น้ำลายหก
แต่ผมว่ารักนกไม่ได้จัดอยู่ในพวกยาโป๊ว นะครับ เป็นจำพวกเสริมธาตุสร้างความสมดุลของหยิน-หยางในร่างกาย.....ถ้าจำไม่ผิดรังนกนี่ช่วยในเรื่องของปอด และระบบทางเดินหายใจครับ...... Smiley
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #46 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:24:48 AM »

รังนก


รังนก ทำมาจากน้ำลายของนกนางแอ่นหรือนกอีแอ่น ซึ่งสำรอกออกมาแล้วจับตัวแข็งมีรูปร่างคล้ายกับรังนก
น้ำลายของนกนางแอ่นที่สำรอกออกมาครั้งแรก จะมีสีขาวบริสุทธิ์ ซึ่งเรียกกันว่า รังนกขาว
จัดได้ว่าเป็นรังนกที่มีคุณภาพดีที่สุด ส่วนน้ำลายที่นกนางแอ่นสำรอกหลังออกมาจากครั้งแรก จะเว้นสักระยะหนึ่ง
ไม่ใช่สำรอกออกมาจนหมดตามที่เข้าใจ นกนางแอ่นสำรอกน้ำลายเพื่อออกมาสร้างรังนกจนกระอักเลือดนั้น
ไม่เป็นความจริง รังนกที่เราเห็นเป็นสีแดงนั้น เกิดจากสนิมในถ้ำที่นกทำรังไว้ได้รับความชื้นสูง สนิมจึงแทรกซึม
เข้าไปในรัง โดยเฉพาะรังที่นกสร้างขึ้นในช่วงที่สอง และสาม ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูฝน ผิดกับรังแรกที่สร้างขึ้นในฤดูหนาว
ประมาณเดือนกุมภาพันธ์

สำหรับในเมืองไทยนั้น เรามีนกนางแอ่นสามชนิดด้วยกัน คือ นกแอ่นกินรัง นกแอ่นกินรังตะโพกขาว และนกแอ่น
หางสี่เหลี่ยมหรือนกแอ่นรังดำ นกนางแอ่นสองชนิดแรกนั้น จะให้รังนกสีขาว ส่วนชนิดหลัง จะให้รังสีดำ
โดยที่รังจะมีขนนกเป็นส่วนผสมด้วย แต่ทั้งสามชนิดนั้นสามารถใช้รับประทานได้


บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #47 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:26:22 AM »

นอกจากรังนกอีแอ่น ที่ท่านซับใน...ชำนาญแล้ว
ยังมีอะไรอีกบ้างครับ...ที่ท่านซับในทราบอ่ะครับ
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #48 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:30:31 AM »

ในภาษาไทย เรียก นางแอ่นกินรัง หรือ ในภาษาถิ่น เรียก นกอีแอ่น

-ในภาษามลายู เรียก นกซาลังงัน

-ในภาษาอินโดนีเซียเรียก บูรุงวาเล็ท ( Burung Walet ) หรือ บูรุงลายัง-ลายัง (Burung layang – layang )

-ในหมู่ชาวจีนเรียก เอี้ยนจื่อ

- ชื่อวิทยาศาสตร์ จัดให้ นางแอ่นกินรัง เป็นนกใน
อันดับ ( Order ) Apodifomes
วงศ์ (Family ) Apodidae
สกุล ( Genus )Collocalia
ประเภทของนกนางแอ่นกินรัง

สำหรับในประเทศไทยนั้นมีอยู่ ๑๒ สายพันธุ์ จาก 150 เกาะจะแบ่งออกได้ ๓ ชนิด คือ

นกแอ่นกินรัง ชื่อสามัญ: Edible-nest Swiftlet ชื่อวิทยาศาสตร์ : Collocalia fuciphaga วงศ์: Apodidae

ลักษณะทั่วไป : ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะคล้ายคลึงกันมากโดยที่ตัวผู้จะมีขนาดโตกว่า ตัวเมียเล็กน้อย เป็นนกขนาดเล็ก
ขนาดเท่านกกระจอกบ้าน จงอกปากสั้นกว้างมีสีดำ ม่าน ตาสีดำ วงปีกเป็นรูปโค้งคันธนู ปีกหมุนได้รอบ ขนด้านบนของตัว
มีสีดำอมน้ำตาล ส่วนล่างจะมีสีจางไล่ไปจนถึงส่วนท้าย ขนที่แข็งจะมีเล็กน้อยหรืออาจไม่มี หางเป็นแฉกเล็กน้อย ตะโพกมี
สีขาว ทางด้านท้องมีสีน้ำตาล เวลาบินจะกระพือปีกเร็วมาก รังมีสีขาวสร้างด้วยเมือกโปร่งแสงซึ่งประกอบด้วยสารพวกไกล
โคโปรตีนที่สังเคราะห์จากต่อมน้ำลาย

นิสัย : ชอบสร้างรังตามผนังถ้ำในเกาะเล็ก ๆ แถบชายฝั่ง หรือบางครั้งก็อยู่ตามอาคาร การสร้างรังใหม่มักจะสร้าง ณ จุดเดิม
ชอบออกหาอาหารประเภทแมลงในตอนเช้าตรู่เป็นพื้นที่กว้าง แถวชายป่าและทุ่งนา และกลับรังในช่วงเย็นย่ำ โดยสามารถ
บินกลับรังภายในถ้ำที่เป็นซอกหรือหลืบโพรงอันมืดมิดได้อย่างคล่องแคล่ว แม่นยำ จากการส่งเสียงร้องให้เกิดเสียงสะท้อน
นำทางที่เรียกว่า Echolocation และจะสร้างรังในเวลากลางคืน

ถิ่นกำเนิด: อันดามันส์, นิโคบาส์, ซุนดาส์, พาลาวาน, ฟิลิปปินส์,เทือกเขาตะนาวศรี, พม่า, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย,
ไทย, เวียดนาม, โคชินไชนาและตังเกี๋ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2006, 10:32:31 AM โดย submachine » บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

STeelShoTS
Mossy Oak Duck Blind
Hero Member
*****

คะแนน 534
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6303


If you heard my shot. You were not the target.


« ตอบ #49 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:32:53 AM »

แล้วน้ำลายนกอีแอ่นนี่ ให้สารอาหารอะไรบ้างครับ พี่ซับ..
บันทึกการเข้า

Natural resources is sufficient for human's need,but not for human's greed
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #50 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:35:28 AM »

นกแอ่นกินรังตะโพกขาว
ชื่อสามัญ: White-rumped Swift
ชื่อวิทยาศาสตร์: Apuspaeificus วงศ์: Apodidae

ลักษณะทั่วไป:
มีสะโพกสีขาว ขนทางด้านใต้ท้องมีลายขวางสีดำสลับขาว หางเป็นแฉกมองเห็นชัดเจน
นกแอ่นกินรังตะโพกขาวและนกนางแอ่นกินรัง เดิมจัดเป็นชนิดเดียวกันแต่ต่างชนิดย่อยกัน
ปัจจุบันจัดไว้คนละชนิด รังมีสีขาว( white nest )

นิสัย :
เหมือนนกแอ่นกินรัง

ถิ่นกำเนิด :
อินเดีย, จีน, ไหหลำ, ไต้หวัน, ซุนดาส์, ออสเตรเลีย, ฟิลิปปินส์, พม่า, ไทย, ลาว, ฮ่องกง, และเวียดนาม

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #51 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:36:24 AM »

นกแอ่นหางสี่เหลี่ยมหรือนกแอ่นรังดำ
ชื่อสามัญ: Black-nest Swiftlet
ชื่อวิทยาศาสตร์:Collecalia maxima
วงศ์: Apodidae

ลักษณะทั่วไป:
มีหัวใหญ่กว่านางแอ่นกินรัง ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกัน สีด้านบนของตัวมีสีน้ำตาลแก่
ด้านล่างของตัวมีสีเทา หางเป็นรูปบากเล็กน้อย หน้าแข้งมีขนขึ้นเต็มไปหมด เสียงร้องเหมือนนกนางแอ่นกินรัง
หรือเหมือนนกนางแอ่นพันธุ์หิมาลัย รังมีสีดำ( black nest )เพราะมีขนเป็นส่วนประกอบ และมักจะมีถิ่นที่อยู่อาศัย
ที่เดียวกับนกนางแอ่นกินรัง

นิสัย :
เหมือนนกนางแอ่นกินรัง

ถิ่นกำเนิด :
เทือกเขาหิมาลัย,ฟิลิปปินส์, เกาะซุนดาส์, พาลาวาน, เทือกเขาตะนาวศรี, ไทย และมาเลเซีย
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #52 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:39:32 AM »

พี่ซับใน...ชำนาญเรื่อง "เลือดค่าง" แก้ปวดเมื่อยบ้างม่ะครับ
บันทึกการเข้า
Vick - รักในหลวง
tetrodotoxin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 83
ออฟไลน์

กระทู้: 1085



« ตอบ #53 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:41:09 AM »

แหม....คนเราต้องฆ่ากันเพื่อแย่งกินเสมหะนกตัวเล็กๆ เนอะ... Grin Grin
บันทึกการเข้า

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #54 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:41:47 AM »

บทความสำหรับผู้สนใจ ทำธุรกิจ บ้านรังนก

นกนางแอ่น  ประโยชน์มหาศาลที่ยังถูกซ่อนเร้น


พบภาคใต้ของไทยมีแหล่งทำรังของนกนางแอ่นกว่า 150 เกาะ นักวิจัยเตรียมนำลงแผนที่ภูมิทัศน์ภาคใต้ยืนยันการมีอยู่
และเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากธุรกิจรังนกนางแอ่นอย่างสมดุลและเหมาะสม โดยให้ชาวบ้านในพื้นที่เจ้าของแหล่งรังนก
ได้มีส่วนร่วมรับรู้และได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่การเป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์มหาศาลแต่เป็นเรื่องปิดบังซ่อนเร้น
และรับรู้กันเฉพาะกลุ่ม ชี้เหตุความรุนแรงปัญหาโจรขโมยรังนกก็เพราะความเชื่อในสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ
หายากและราคาแพง กิโลกรัมละเป็นหมื่นเป็นแสนบาท การลักโขมยจึงกลายเป็นเรื่องปกติ ที่ทำกันตั้งแต่ชาวบ้าน
ยันนักการเมือง


..........นับเป็นพันปีมาแล้วที่มนุษย์รู้จักการกินรังนก รังที่สร้างมาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ด้วยความเชื่อว่ามีสรรพคุณ
เป็นยาบำรุงกำลังชั้นเยี่ยม และรักษาโรคได้สารพัด โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ นกนางแอ่นจึงได้สำแดงบทบาท
และความสำคัญมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ในฐานะเป็นสินค้าราคาแพงที่มีผลประโยชน์มหาศาล และมีการแข่งขันสูง
ถึงขั้นฆ่ากันตายหมู่มาแล้ว


..........อย่างไรก็ตามข้อมูลการมีอยู่และความเป็นไปในการใช้ประโยชน์จากธุรกิจรังนกยังคงเป็นเรื่องลับ ๆ และซ่อนเร้นที่
รับรู้กันในวงจำกัดเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งคนภายนอกหรือแม้แต่คนในพื้นที่แหล่งรังนกไม่มีโอกาสได้รับรู้หรือร่วมใช้ประโยชน์
จากทรัพยากรธรรมชาติชนิดนี้ได้อย่างแท้จริง


..........การศึกษาเรื่อง “นกนางแอ่น : แหล่งทำรัง” ของ นายเกษม จันทร์ดำ นักวิจัยในโครงการแผนที่ภูมินิทัศน์ภาคใต้
ฐานเศรษฐกิจและทุนวัฒนธรรม ของ สกว. ซึ่ง มี ศ.สุธิวงศ์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นหัวหน้าโครงการ เป็นการศึกษาเพื่อแสดงให้
เห็นการมีอยู่ของนกนางแอ่นในฐานะเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นฐานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมประเภทหนึ่งของภาคใต้
ว่ามีอยู่ที่ใดบ้าง และจะมีการใช้ประโยชน์จากรังนกอย่างสมดุลได้อย่างไร โดยเฉพาะการได้รับประโยชน์ของชาวบ้านเจ้า
ของแหล่งรังนกซึ่งไม่เคยได้รับประโยชน์อย่างชัดเจนจากรังนกที่มีมูลค่ามหาศาล


..........ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่า แหล่งทำรังของนกนางแอ่นที่ตรวจสอบได้ขณะนี้มีไม่น้อยกว่า 150 เกาะ และจะนำไปลง
ในแผนที่ภูมินิทัศน์ภาคใต้ ซึ่ง ศ.สุธิวงศ์ กำลังดำเนินการอยู่ ส่วนแนวทางที่ชาวบ้านจะเข้าได้รับประโยชน์ก็คือการได้รู้สึก
มีสำนึกร่วมในการเป็นเจ้าของเช่นเดียวกับการร่วมเป็นเจ้าของประเทศไทย และในการจะใช้ประโยชน์และในการจะใช้ประโยชน์
ใด ๆ จากทรัพยากรรังนกนี้ก็ควรมีตัวแทนชาวบ้านเจ้าของแหล่งรังนกได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วยและให้มีประโยชน์ตกถึง
แก่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2006, 10:45:11 AM โดย submachine » บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #55 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:44:29 AM »


.......เชื่อกันว่าคนจีน คือผู้ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินรังนกให้กับคนชาติอื่น ๆ ที่ตนเองไปสัมพันธ์ด้วย รวมทั้งประเทศไทย
ซึ่งมีหลักฐานมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ทั้งนี้การศึกษาได้ย้ำถึงการมีอยู่และความเป็นไปของการทำธุรกิจรังนก และส่วนหนึ่งได้
สะท้อนออกมาจากทัศนะคำบอกเล่าของผู้ที่เคยอยู่หรือเกี่ยวกับกับธุรกิจรังนก ซึ่งงานวิจัยได้รวบรวมไว้อย่างน่าสนใจ อาทิ


“ผลประโยชน์ตัวนี้มีอยู่จริง เกิดขึ้นหลังจากบริษัทเก็บเกี่ยวแล้วนี่ ถือว่าตัวนี้แหละเป็นตัวทำลายเพราะว่าตัวนี้แหละจะไปอยู่
ในตลาดมืด รัฐก็ไม่ได้ ชุมชนก็ไม่ได้ ไม่เป็นผลดีกับใครเลย..”


“ตอนหลังที่ร้ายที่สุด ข้างบน คือ ผู้นำท้องถิ่น นักการเมืองท้องถิ่น คนในวงราชการ ตำรวจ มาเอาประโยชน์จากส่วนนี้ด้วย
บางครั้งมีคนระดับผู้ใหญ่สั่งมาจากข้างบนเลยว่าให้คนข้างล่างนี่เอารังนกให้เขา ถ้าไม่ได้กูสั่งย้าย…”


“ตัดสินใจออกจากการเป็นจินเต้งนั้น รู้สึกว่าถึงอยู่ไปก็ลำบาก มันยิงกันมากนักแรง ไม่เป็นสุข จะนั่งจะนอนจะยืนอะไรก็ไม่เป็นสุข
มันอันตรายเกินไป ยิ่งอยู่ยิ่งอันตราย ออกดีกว่า…”


“แต่ก่อนมันดีกว่าปัจจุบัน ตอนนี้มันไม่อิสระ ในเขตนั้นเขาไม่ให้เข้า ชาวประมงเข้าไปพึ่งลมพึ่งอะไรก็ไม่ได้ เขาห้ามเข้า มีปืน
ตระเวณอยู่ ถูงยิงขู่ก็ต้องเล่นกัน…”


“บางท้องที่ที่จะเปิดเป็นการท่องเที่ยว ก็ไปติดในเรื่องของการสัมปทาน เราน่าจะเปรียบเทียบรายได้กับการท่องเที่ยวว่าคุ้มกัน
มั๊ย อยากให้มีการวิจัยโดยรัฐอย่างแท้จริงในเรื่องการสัมปทานรังนก อยากทราบจุดคุ้มทุนของการสูญเสียทางธรรมชาติ
ในแง่ของการอนุรักษ์ล่อแหลมต่อการสูญพันธุ์ของนกนางแอ่น…”


“วันนี้ภูมิปัญญาของคนปากพนังพร้อมแล้วที่จะทำฟาร์มนกนางแอ่น ถ้าเอาภูมิปัญญาชาวบ้านไปทำ โดยให้มีการสร้างตึกนก
บนเกาะได้ เอาไข่มาฟักได้ ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นตามเกาะรังนกจะสามารถแก้ได้ และเราสามารถจะทำฟาร์มนกแอ่นสู้กับ
ต่างชาติได้…” จากทัศนะเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การหาสมดุลที่เอื้อประโยชน์ต่อ...

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #56 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:46:44 AM »

พี่ซับใน...ชำนาญเรื่อง "เลือดค่าง" แก้ปวดเมื่อยบ้างม่ะครับ

แล้วเลือดค่าง...นี่เป็นยังไงบ้างอ่ะฮับ พี่ซับใน
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #57 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:48:09 AM »


..........นกนางแอ่นกินรังเป็นนกขนาดเล็กบินเร็ว มีขนาดประมาณ 13 ซม. ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่ อาศัยทำรังอยู่ภายในถ้ำ
บนเกาะเล็กเกาะน้อยชายฝั่งทะเล ใช้น้ำลายทำรังเพื่อวางไข่ มีฤดูกาลสืบพันธุ์ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี


..........แต่ห้วงเวลาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ปกตินกเพศเมียจะเป็นผู้สร้างรังโดยลำพัง เว้นรังที่สามซึ่งนกเพศผู้และ
เพศเมียจะช่วยกันสร้าง นกจะสร้างรังในเวลากลางคืนและใช้เวลาประมาณ 1 เดือน รังมีรูปเป็นถ้วยครึ่งซีก


..........เมื่อแห้งและแข็งตัวจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับวุ้นเส้นที่อัดตัวกันแน่น โดยตัวรังจะตรึงติดอยู่กับผนังถ้ำหรือภายในผนัง
อาคารสิ่งก่อสร้างที่นกอาศัยอยู่ นกนางแอ่นสามารถบินได้ 55 ไมล์ หรือ 89 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเชื่อกันว่านกแอ่นกินรัง
อายุ 3 ปี จะสร้างรังได้ดีที่สุด จะวางไข่ 2 ฟองต่อรัง โดยจะฟักไข่ในเวลากลางคืน
ไข่จะฟักออกเป็นตัวในเวลาประมาณ 3 สัปดาห์ และเมื่อลูกนกอายุประมาณ 6 สัปดาห์ก็จะบินออกจากรังได้


..........นกนางแอ่นกินรังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดเดียวที่มีพฤติกรรมสร้างรังทดแทน กล่าวคือ นกจะสร้างรังใหม่ทดแทนรังที่ถูก
เก็บเกี่ยวหรือรังที่ถูกทำลายก่อนที่จะวางไข่ แต่หลังจากที่นกวางไข่แล้ว แม้รังถูกทำลายหรือถูกเก็บเกี่ยวไป นกจะไม่สร้างรัง
ทดแทนอีก รังแรกจะเริ่มสร้างประมาณเดือนกุมภาพันธ์ รังที่ 2 สร้างประมาณกลางเดือนมีนาคม และรังที่ 3 สร้างประมาณกลาง
เดือนเมษายน นกบางตัวเท่านั้นที่จะสร้างรังที่ 4 แม้จะเก็บเกี่ยวหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้ามีการเก็บเกี่ยวรังที่ 4 ก็สามารถที่จะสร้างรัง
ที่ 5 และ6 ทดแทนได้


..........สำหรับความเชื่อที่เกี่ยวกับการกินรังนกที่น่าสนใจ อาทิเช่น คนมุสลิมฝั่งอันดามันบางส่วนเชื่อว่า นกนางแอ่นเป็นสัตว์ที่
ออกมาจากเหงื่อของผู้นำศาสนา คือ นบี อิบรอฮิม และยังเชื่อกันว่าวัฒนธรรมการกินรังนกของคนไทย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น หรือนานาประเทศต่างก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากวัฒนธรรมการกินของชาวจีน ซึ่งเชื่อกันว่าการกินรังนกนางแอ่นจะทำให้อายุยืน สามารถบำบัดและรักษาโรคต่าง ๆ ได้ แม้ว่านักวิทยาศาสตร์เชิงโภชนาการจะยังมีความเห็นที่ชัดแย้งกันอยู่


..........นายเกษม กล่าวว่า การทำธุรกิจรังนกนางแอ่นในประเทศไทย สามารถนับย้อนหลังไปได้ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
โดยช่วงแรก ๆ เป็นไปในลักษณะของการส่งส่วย จนมาสมัยพระเจ้าตากสิน คนจีนต้นตระกูล ณ สงขลา ก็ได้ขอพระราชทาน
การทำรังนกในรูปแบบของเจ้าภาษีนายอากร ในรูปของอากรรังนก ซึ่งทำไปพร้อม ๆ กับตระกูล ณ นคร และเจ้าเมืองสตูล
เชื้อสายพระยาไทรบุรี กระทั่งปีพ.ศ.2482 หลังจากมีการออกกฎหมาย พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น การทำธุรกิจโดย
คนไทยเชื้อสายจีนซึ่งเป็นเจ้าของทุนยุคใหม่ก็ได้เข้ามาแทนที่ ได้พัฒนาไปเป็นการทำธุรกิจแบบข้ามชาติที่มีรูปแบบซับซ้อน
และมีผลประโยชน์มหาศาล จนถึงปัจจุบัน

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #58 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:49:58 AM »

พี่ซับใน...ชำนาญเรื่อง "เลือดค่าง" แก้ปวดเมื่อยบ้างม่ะครับ

แล้วเลือดค่าง...นี่เป็นยังไงบ้างอ่ะฮับ พี่ซับใน
สงสัยทำเป็นไม่เห็น
บันทึกการเข้า

51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #59 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 10:50:03 AM »

มีรังนกอีแอ่น  เขากวางอ่อน เลือดค่าง ดีหมี อีกอ่ะครับ พี่ซับใน

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 21 คำสั่ง