เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 10, 2025, 03:55:50 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อาวุธสงคราม.......กับคนคุมกันรังนก  (อ่าน 20545 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #60 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 12:08:56 PM »

........ตลาดรังนกนางแอ่นจากภาคใต้ของประเทศไทยนอกจากจะบริโภคภายในประเทศในย่านที่มีคนจีนอาศัยอยู่หนาแน่น
อย่างสำเพ็งและเยาวราช ทั้งในรูปแบบรังนกดิบและแปรรูปเป็นอุตสาหกรรมรังนกสำเร็จรูปแล้ว


..........จากข้อมูลในอดีตและข้อมูลของกรมศุลกากรจนถึงปลายปี 2545 พบว่า รังนกไทยได้ส่งไปจำหน่ายทั่วทุกภูมิภาค
ของโลก ตามประเทศต่าง ๆ ได้แก่ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ปีนัง สิงคโปร์ พม่า มาเลเซีย อินเดีย อิหร่าน เวียดนาม ฝรั่งเศส
อิตาลี เบลเยี่ยม ฮอลแลนด์ เดนมาร์ก อังกฤษ บราซิล บรูไน กัมพูชา อียิปต์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น อเมริกา ฯลฯ ซึ่งจากรายชื่อ
ประเทศต่าง ๆ เหล่านี้ จำนวนการส่งออกของรังนกไทยปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนคนจีนที่อาศัยอยู่และความนิยม
ของประเทศนั้น ๆ แต่แหล่งส่งออกของรังนกไทยที่สำคัญมาตลอดก็คือ ฮ่องกงและจีน


..........นายเกษม กล่าวว่า จะเห็นว่า รังนกได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งการทำธุรกิจรังนกนางแอ่นก็มีประโยชน์
และโทษหลายประการ ประโยชน์ก็เช่น การทำให้เกิดการจ้างแรงงาน การพัฒนาในชุมชน มีการขยายตัวของอุตสาหกรรม
ก่อให้เกิดรายได้ในภาครัฐ พัฒนาไปถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นในการดูแลและเก็บรังนกตามอาคารบ้านเรือน โดยเฉพาะในพื้นที่
อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีราคาที่ดินสูงขึ้นเนื่องจากมีธุรกิจรังนกนางแอ่นตามที่พักอาศัย ซึ่งบางคนใช้
ความพยายามอย่างมากที่จะให้นกมาทำรัง เช่น สร้างอาคารทิ้งไว้แล้วเปิดเสียงนกล่อ เอามูลนกไปไว้ในตัวอาคาร
แต่ยังไม่มีรายงานว่าเกิดจากสาเหตุใดที่นกจะยอมไปทำรังตามอาคารเหล่านั้น


..........นายเกษมยังกล่าวถึงผลกระทบด้านลบที่เกิดขึ้น ก็เช่น จะทำให้เกิดการโจรกรรมรังนก การค้าของเถื่อน อิทธิพลมืด
ที่ไม่สามารถควบคุมได้จากการทำสัมปทานรังนก เช่น มีเรื่องเล่ากันมาว่าหากมีการบุกรุกพื้นที่สัมปทานในเกาะที่มีรังนก จะต้อง
ถูกยิงทิ้งโยนทะเลและจับมือใครดมไม่ได้ ,หรือที่มาของการทำลายประชากรนกนางแอ่นคือ เมื่อมีการเก็บรังนกจะมีลูกนกตกมา
ตายเป็นจำนวนไม่น้อยและความเชื่อในการนำลูกนกตัวแดงๆมาดองเหล้าเพื่อดื่มบำรุงกำลัง เหล่านี้เป็นต้น


..........อย่างไรก็ตามจากพัฒนาการของการสัมปทานรังนกนางแอ่นที่มีมายาวนานและมีการเปลี่ยนแปลงไป ในยุคสมัยที่รังนก
นางแอ่นนอกเขตสัมปทานของรัฐ คือ ที่ปากพนังและที่อื่น ๆ ได้มีทุนจากท้องถิ่นและภูมิภาค ทุนจากส่วนกลางและทุนจากต่าง
ชาติ ได้เคลื่อนไหลเข้ามาในพื้นที่ที่เป็นแหล่งรังนกและดูจะมีความสำคัญมากขึ้น พร้อม ๆ กับที่การแข่งขันของบริษัทแปรรูป
รังนกสำเร็จรูปในลักษณะของอุตสาหกรรม ที่ครอบคลุมทั้งตลาดภายในและต่างประเทศยิ่งนับวันจะทวีความร้อนแรงในการ
แข่งขันกันมากขึ้น


..........และนั่นย่อมไม่มีอะไรมาค้ำประกันได้ว่า ลักษณะของเนื้อหาเก่า ๆ อย่างในอดีตที่เต็มไปด้วยการปิดบังซ่อนเร้น
หรือเพราะแม้แต่อำนาจรัฐก็คงไม่อาจจะค้ำประกันใด ๆ ได้ว่า ความรุนแรงจะไม่เกิดขึ้นกับวงการและกระบวนการธุรกิจรัง
นกนางแอ่นอีกในอนาคต
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2006, 04:11:54 PM โดย submachine » บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #61 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 12:10:59 PM »

การทำบ้านรังนก ต้องขอสัมปทานหรือไม่

มีผู้สอบถามมาปัญหาว่า บ้านรังนกมีความเกี่ยวข้องกับสัมปทานตามพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 อย่างไร
ต้องขอสัมปทานหรือไม่ เราได้ไปเปิดกฎหมายดูแล้ว ขอสรุปให้ท่านได้ไว้เป็นข้อมูลอย่างนี้

1. เนื่องจากมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 บอกว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเก็บรังนกที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
บนเกาะ หรือในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่ได้รับสัมปทานจากคณะกรรมการ (ต้องระวางโทษ.......
ดังนั้น เมื่อบ้านรังนกตั้งอยู่บนที่ดินของเอกชน (ของเราเอง) ไม่ได้ตั้งอยู่บนเกาะของหลวงหรือที่ดินหลวง เราจึงไม่ต้องห้าม
ที่จะเก็บรังนกในบ้านของเราเองแต่อย่างใด


2. มาตรา 26 ยังบอกต่อไปอีกว่า ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งรังนกอันตนรู้ว่าได้มา โดยการฝ่าฝืนตาม มาตรา 14
วรรคหนึ่ง (ครอบครองรังนกที่เก็บมาจากที่ของหลวงโดยไม่ได้รับสัมปทาน)

3. มาตรา 4 พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ. 2540 ให้ใช้บังคับในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร
จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดพัทลุง จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดสตูล และจังหวัดตราด ส่วน
ในจังหวัดอื่นจะใช้บังคับ เมื่อใดให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา




 
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #62 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 12:13:21 PM »

ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อบ้านรังนก


ทำไม จึงนำประเด็นนี้มาบอกกล่าวกับท่าน ก็เพื่อให้ท่านมีความรู้สึกที่ดีต่อธุรกิจบ้านรังนก และเราคิดว่า
เงินของท่านก็เหมือนกับเงินของเรา ควรถูกใช้ในการลงทุนอย่างคุ้มค่า อันจะเป็นผลดีต่อครอบครัวและผู้ที่อยู่ในความอุปการะ
ของท่านสืบไป หลักการซื้อบ้านรังนก มีความคล้ายคลึงกับการสร้างบ้านรังนกใหม่อยู่หลายประการ แต่ที่ต่างก็เพราะว่ามันเป็น
ของที่มีอยู่แล้ว ปัจจัยที่เราแนะนำให้ท่านพิจารณาในการตัดสินใจมีดังนี้ครับ


1.การยอมรับธุรกิจนี้ของคนในครอบครัว เส้นทางจะได้ราบรื่นไม่มีการตำหนิกันในภายหลัง

2.บ้านที่ท่านซื้อควรมีนกทำรังแล้ว ท่านต้องทราบปริมาณนกในบ้าน ปริมาณรังนกที่มีอยู่ อันนี้เราขอบังคับให้ท่านต้องไป
ดูเองนะครับ ทำมาแล้วกี่ปี ปริมาณนกมีการเพิ่มช้าหรือเพิ่มเร็ว ถ้าเพิ่มช้า ท่านต้องสันนิษฐานว่าต้องมีปัญหาบางอย่างเป็นแน่
ปัญหาอะไร แก้ไขได้หรือไม่


3.ตัวบ้านนกออกแบบดีหรือไม่ สามารถจุนกปริมาณสูงสุดได้กี่คู่ ระบบเสียง ความชื้น และอุณหภูมิ ใช้ระบบอะไร การระบาย
อากาศดีหรือไม่ อุณหภูมิ-ความชื้นดีตามเกณฑ์หรือไม่


4.เงินทุน ควรใช้เงินเย็นมาซื้อบ้านรังนก ไม่ควรกู้มา เว้นแต่ท่านเห็นว่าชัวร์ เราก็ไม่คัดค้านที่จะกู้ แต่อย่าให้ระบบการเงิน
ภายในบ้านต้องตรึงเครียด ท่านต้องประเมินว่าผลผลิตจากบ้านรังนกพอที่จะช่วยผ่อนส่งได้หรือไม่ ท่านมีสำรอง
รายเดือนหรือไม่


5.ท่านต้องมีความเข้าใจในข้อมูลเกี่ยวกับนกนางแอ่น และพฤติกรรมของมันเป็นอย่างดี และรู้ระบบระบบเสียง
ความชื้น และอุณหภูมิ ในระดับดี และต้องทราบว่า บ้านที่จะซื้อเขาใช้ระบบอะไรอยู่


6.ทำเลที่ตั้ง ท่านต้องรู้ว่า ทำเลที่ซื้อเป็นทำเลทองหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ทำเลทอง ท่านต้องใช้กลยุทธ์อะไรเข้าช่วย


7.แหล่งน้ำ มีความสะดวกหรือไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ มีน้ำใช้ตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าแล้ง ถ้าขาดแคลนจะมีทาง
ออกหาได้จากแหล่งใดบ้าง


8.บ้านที่ซื้อขออนุญาตต่อเติมแล้วหรือยัง ถ้ายัง ท่านยอมรับสภาพนี้ได้หรือไม่ ย่านนั้นเป็นอย่างนี้เยอะพอจะมีมวลชน
ร่วมกับเราหรือไม่


9.การดูแล บ้านรังนกต้องการคนดูแลนะครับ คอยเช็คน้ำ ไฟ พัดลม เครื่องเสียง ปั้มน้ำ การเล่นเสียงสูง-ต่ำ ป้องกัน
คนมาขโมย เป็นต้น ท่านดูตัวคนที่ทำหน้าที่นี้ ไว้หรือยัง


10.จุดคุ้มทุนภายในกี่ปี อันนี้ยากหน่อย เพราะต้องดูตั้งแต่ข้อ1-9

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #63 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 12:16:04 PM »

ข้อทักท้วงที่ว่า การทำบ้านรังนกเป็นการทำบาปหรือไม่


เป็นคำถามที่มาจากท่านที่จิตใจละเอียดอ่อน ได้ตั้งข้อสงสัยว่า การทำบ้านเลี้ยงนกนางแอ่นอาจจะเป็นการทำบาปหรือไม่
เพราะนกนางแอ่นต้องแค่นน้ำลายออกมาทำรังมากจนเป็นเลือด ครับ เป็นคำถามแรกที่ผมคิดก่อนตัดสินใจ
เพราะภรรยาและลูกๆคงไม่ยอมให้ผมทำบ้านรังนกอย่างแน่นอน ถ้าเขาเห็นว่ามีการทำลายชีวิต ผมจำเป็นต้องศึกษาก่อน
จะเข้าสู่ธุรกิจนี้และต้องได้รับฉันทานุมัติร่วมกันจากสมาชิกในครอบครัวของเรา


ผมพบข้อมูลและข้อเท็จจริงที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังว่า คนที่ทำบ้านรังนก เขาจะเก็บรังนกอย่าระมัดระวังครับ เพราะรังนก
เปรียบเสมือนสมบัติที่ล้ำค่าประดุจทองคำขาว ทุกอย่างเขาจะมองระยะยาว เขาพยายามที่สุดที่จะเอาอกเอาใจให้นกเข้ามา
อยู่ในบ้าน และต้องอยู่กับเขาอย่างมีความสุข รู้สึกปลอดภัย เพื่อให้ได้รังผลผลิตที่ดี ด้วยเหตุผลดังนี้


1. เขาจะไม่เก็บรังนกในขณะที่มีไข่นกหรือลูกนกอยู่ในรัง เพราะบ้านหลังนั้นเป็นของเขาเอง ไม่มีใครมาแย่งชิงเหมือนรังนก
ที่อยู่ในถ้ำตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องรีบเก็บรังด้วยความกลัวในประเด็นนี้


2. เขาจะไม่เก็บรังนกในขณะที่มีไข่นกหรือลูกนกอยู่ในรัง เพราะอาจจะทำให้นกสะเทือนใจแล้วหนีจากบ้านเขาไป
เหมือนที่ปัจจุบันนกต้องอพยพหนีมาจากถ้ำจากเกาะในทะเล ซึ่งจะทำให้เขาสูญเสียหลายต่อ ต่อแรกคือ เขาอาจจะเสีย
พ่อแม่นกไป ต่อที่สอง คือ เขาจะเสียโอกาสที่จะได้ลูกนกอีกสองตัวไปและอีก 5-6 เดือนลูกนกที่ว่าก็จะให้รังและลูกนก
อีกสองตัวแก่เขา คิดแล้วใน 1 ปีถ้าเขาเก็บรังตอนที่ลูกนกโตบินจากรังได้แล้ว เขาจะมีสมาชิกนกเพิ่มขึ้นจากพ่อแม่นก
อีกหลายเท่า ได้แก่ ลูกนก 6 ตัว หลานนก 4 ตัว นกมากรังก็มากตามมา อย่างนี้เขาว่าเขาคุ้มกว่า


3. การที่รังนกมีเลือดปน เขาบอกสาเหตุว่า เหตุการณ์นี้มักจะเกิดกับนกที่อยู่ในถ้ำ เนื่องจากค่าสัมปทานรังนกนั้นสูงมาก
หลายสิบล้านและมีเวลาจำกัด จึงต้องเก็บรังนกให้ได้มากและเร็วที่สุด โดยเมื่อนกต้องการวางไข่ นกก็จะทำรังแรกของปี
ทำเสร็จยังไม่ได้วางไข่ก็ถูกคนเก็บไป นกก็ต้องเร่งทำรังใหม่เป็นรังที่สอง เหตุการณ์เดิมที่ถูกเก็บรังไปก่อนก็เกิดขึ้นอีก
จนนกต้องทำรังที่สามซึ่งเป็นรังที่คนจะปล่อยให้นกวางไข่ ฟักไข่จนลูกนกออกเป็นตัวโตจนบินออกจากรังได้
รังที่สามนี้เองที่นกจะไม่มีน้ำลาย ต้องเค้นน้ำลายมากจนมีเลือดปนมาด้วย แต่เหตุการณ์อย่างนี้จะไม่ทำกันในหมู่คน
ทำบ้านรังนก


แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาบอกว่ารังนกสีแดงไม่ใช่นกไอเป็นเลือด แต่เป็นผลมาจากธาตุเหล็กที่มากับความชื้นไหลซึมมาตามผนังถ้ำ
เมื่อมาโดนรังนกและโดนออกซิเจน ก็จะเกิดสีเป็นสีน้ำตาลคล้ายสนิม มักพบตอนปลายฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่ภูเขาชุ่มน้ำมาก
แล้วจะมีธาตุเหล็กไหลซึมมากับน้ำ มาโดนรังนกด้วย แต่มีอีกความเห็นหนึ่ง บอกว่า เกิดมาจากจุลลินทรีย์ชนิดหนึ่ง
ชื่ออะไรต้องค้นคว้าครับ


ท่านลองอ่านแล้วพินิจพิจารณาด้วยตัวท่านเองนะครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #64 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 12:17:37 PM »

ใกล้ๆ กรุงเทพครับ

อีกจุดหนึ่งที่มีนกนางแอ่นเข้าไปทำรังอาศัยอยู่มาหลายสิบปีคือที่วัดสุทธิวาตวราราม หรือวัดช่องลม
ต.ท่าฉลอม อ.เมืองสมุทรสาคร โดยพระสาครมุนีเจ้าอาวาส กล่าวถึงที่มาของฝูงนกนางแอ่นที่เข้ามาทำรังในวิหาร
ตั้งศพพระเทพสาครมุนี หรือหลวงปู่แก้ว อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม ซึ่งมรณภาพตั้งแต่ปี 2528 หรือกว่า 17 ปีมาแล้ว
จำนวนกว่า 6,000 ตัว ว่านกนางแอ่นฝูงแรกจำนวน 10 ตัว ได้เข้ามาทำรังในอุโบสถหลังใหม่ช่วงที่มีพิธีตัดลูกนิมิต
ปี 2515 ทางหลวงปู่แก้วก็สั่งห้ามไม่ให้คนในวัดทำร้ายนกอย่างเด็ดขาด
ปล่อยให้ทำรังออกลูกออกหลานมาจนถึงปัจจุบัน
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

หนู@เมืองสิงห์™ - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 25
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1457



« ตอบ #65 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 12:29:53 PM »

ขอบคุณ คุณซับฯสำหรับข้อมูลครับ .. Smiley
บันทึกการเข้า
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #66 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 03:31:44 PM »

มาในมาดของนักวิชาการ ......พี่ซับฯเปลี่ยนไป๋.....Smiley
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
HogHeaven
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 95
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1245



« ตอบ #67 เมื่อ: ตุลาคม 31, 2006, 03:37:09 PM »

วันก่อนดูทาง ITV เหมือนกัน ดูเพลินๆ จนไปสะดุดตากับคนเฝ้าเกาะสะพาย HK33 อยู่เหมือนกัน
บันทึกการเข้า
noomrider
Hero Member
*****

คะแนน 74
ออฟไลน์

กระทู้: 4574


ชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป


« ตอบ #68 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2006, 04:38:51 AM »

พี่ซับจริงจังไปไหมกับเรื่องของนกเนี่ยะ หรือมีความหลังฝังใจกับนกนางแอ่นหละจ๊ะ...
บันทึกการเข้า



อย่านอนตื่นสาย   อย่าอายทำกิน   อย่าหมิ่นเงินน้อย  อย่าคอยวาสนา
หินเหล็กไฟ
ถึงตายไปก็ช่างมัน...ขอให้ชีวิตยังอยู่ก็พอ..
Hero Member
*****

คะแนน 1319
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12901



« ตอบ #69 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2006, 05:32:14 AM »

ขนาดนั้นเลยหรือครับ
บันทึกการเข้า

[img]http://i7.tinypic.com/333hiqw.jpg[/img
Machine_1
เรา รัก ใน หลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1224



« ตอบ #70 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2006, 05:43:30 AM »

 Grin สงสารนก ต้องสำลอกน้ำลายไม่รู้กี่ครั้งจนเป็นเลือด กว่าจะได้วางไข่
บันทึกการเข้า
yakdee
ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 64
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1146



« ตอบ #71 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2006, 09:53:23 AM »

คน...ใช้อาวุธและเครื่องมือป้องกันทันสมัย รุนแรง กับผู้มาปล้นชิง..รังนกนางแอ่น....

แล้วนกนางแอ่น...เล่า...มีอะไรไว้ป้องกัน.......เอาเปรียบกันชัด ๆ

คิดดูให้ดี...ก่อนที่จะไปอยู่ในวังวนของเงินและอำนาจ..ที่ได้มาจากการเบียดเบียนชีวิตน้อย ๆ นี้   มันเป็นเรื่องเศร้ายิ่งกว่าการฆ่าโคเพื่อทำลูกชิ้นเสียอีก....
บันทึกการเข้า

อย่าไปร้องขอฯจากคนอื่น  ถ้าไม่เคยให้อะไรกับใคร
ทำทุกอย่างต้องจริงใจ  แล้วท่านจะได้..จากใจจริง
ทุก ๆ สิ่งที่ว่าแน่แท้    ยังผันแปร..เปลี่ยนเป็นอื่น
ธรรมชาติไม่อาจฝืน   แต่ควรยืนหยัดอยู่..สู้อธรรม
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #72 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2006, 12:49:38 PM »

Grin สงสารนก ต้องสำลอกน้ำลายไม่รู้กี่ครั้งจนเป็นเลือด กว่าจะได้วางไข่

ข้อทักท้วงที่ว่า การทำบ้านรังนกเป็นการทำบาปหรือไม่

3. การที่รังนกมีเลือดปน เขาบอกสาเหตุว่า เหตุการณ์นี้มักจะเกิดกับนกที่อยู่ในถ้ำ เนื่องจากค่าสัมปทานรังนกนั้นสูงมาก
หลายสิบล้านและมีเวลาจำกัด จึงต้องเก็บรังนกให้ได้มากและเร็วที่สุด โดยเมื่อนกต้องการวางไข่ นกก็จะทำรังแรกของปี
ทำเสร็จยังไม่ได้วางไข่ก็ถูกคนเก็บไป นกก็ต้องเร่งทำรังใหม่เป็นรังที่สอง เหตุการณ์เดิมที่ถูกเก็บรังไปก่อนก็เกิดขึ้นอีก
จนนกต้องทำรังที่สามซึ่งเป็นรังที่คนจะปล่อยให้นกวางไข่ ฟักไข่จนลูกนกออกเป็นตัวโตจนบินออกจากรังได้
รังที่สามนี้เองที่นกจะไม่มีน้ำลาย ต้องเค้นน้ำลายมากจนมีเลือดปนมาด้วย แต่เหตุการณ์อย่างนี้จะไม่ทำกันในหมู่คน
ทำบ้านรังนก


แต่ในอีกมุมหนึ่ง เขาบอกว่ารังนกสีแดงไม่ใช่นกไอเป็นเลือด แต่เป็นผลมาจากธาตุเหล็กที่มากับความชื้นไหลซึมมาตามผนังถ้ำ
เมื่อมาโดนรังนกและโดนออกซิเจน ก็จะเกิดสีเป็นสีน้ำตาลคล้ายสนิม มักพบตอนปลายฤดูฝนซึ่งเป็นช่วงที่ภูเขาชุ่มน้ำมาก
แล้วจะมีธาตุเหล็กไหลซึมมากับน้ำ มาโดนรังนกด้วย แต่มีอีกความเห็นหนึ่ง บอกว่า เกิดมาจากจุลลินทรีย์ชนิดหนึ่ง
ชื่ออะไรต้องค้นคว้าครับ


ท่านลองอ่านแล้วพินิจพิจารณาด้วยตัวท่านเองนะครับ

บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #73 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2006, 01:07:56 PM »

ขอบคุณพี่ซับฯ มาก ครับ...ได้รู้อะไร ๆ หลายอย่างที่ผมไม่เคยรู้ เยอะเลยครับ..
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 4 [5]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 21 คำสั่ง