ตอนที่สนามบินแห่งชาติของมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์สร้างเสร็จใหม่ๆ เมื่อไม่กี่ปีก่อน กระทรวงคมนาคมของมาเลเซียเชิญผมไปเดินสำรวจตรวจตราสนามบินทุกตรอกซอกมุม และมีการบรรยายสรุป จากผู้บริหารสูงสุดของสนามบินให้ผมฟัง ผมรับเชิญเดินทางไปดูสนามบินนี้ถึงสองครั้ง หลังจากนั้นก็ยังมีการตามถามความเห็น เพื่อนำไปปรับปรุงสนามบินในฐานะที่เป็นคนเดินทางมาก
ผู้อ่านท่านเชื่อไหมครับ สุวรรณภูมิเป็นสนามบินของประเทศไทย ซึ่งเป็นชาติบ้านเกิดเมืองนอนของผมแท้ๆ แต่ผมยังไม่เคยได้รับชวนให้เข้าไปดูสนามบิน เพื่อนำความเห็นมารับใช้ พัฒนาสนามบินเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ความเห็นส่วนตัวครับ
คุณนิติภูมิ เป็นผู้ที่เดินทางไปในโลกกว้างมาก ผมก็อ่านบทความของเขาเหมือนกัน
แต่ การที่คุณนิติภูมิผ่านโลกมามาก หลายๆแห่ง
ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเก่ง หรือ เชี่ยวชาญไปหมดทุกอย่าง
เช่น
ตัวผมเองไปเที่ยวเมืองไทยเกือบครบทุกจังหวัด ไปเที่ยวภูเก็ตหลายครั้ง
และ ผมมีเพื่อนสนิทเป็นคนจังหวัดภูเก็ต
ถ้าใครมาถามเรื่องประเทศไทย ผมก็ตอบได้ดีกว่าเพื่อนผม
แต่ถ้าใครมาถามเรื่องภูเก็ต ถึงแม้ผมจะเดินทางมามาก ผมก็ไม่ได้รู้ละเอียดมากกว่าเพื่อนที่เป็นคนภูเก็ต
จริงไหมครับ
สนามบินแห่งชาติของมาเลเซียนั้น เปิดใช้มาแล้ว ๑๐ ปี
ใหญ่อลังการมาก พอๆกับสุวรรณภูมิของเรา
ก่อนที่จะสร้างเสร็จนั้น ผู้นำรัฐบาลมาเลเซียสมัยนั้น (ตัวแสบของเราสมัยนี้)
บอกว่าเมื่อสนามบินนี้ จะเป็นจุดศูนกลางการบินในภูนิภาคนี้
(ตอนนั้น สนามบินชางงี ของสิงคโปร์ เป็นผู้นำ ตามมากด้วยดอนเมืองของเรา
และ สนามบินเก่าของมาเลเซีย ตามมาห่างๆ)
หลังจากเปิดบริการมาแล้ว ๕ ปี ผู้นำกลับกลายเป็นสนามบินดอนเมืองของเราเอง
ที่สองก็เป็น สิงคโปร์ ส่วน มาเลเซีย ก็อยู่จุดเดิน เพราะลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มไม่เท่าไร่
ปัจจุบันนี้ ปี ๒๕๔๙ ครี่งปีแรก
สนามบินดอนเมืองอยู่อันดับที่ ๑๖ ของโลก
ปริมาณผู้ใช้บริการมากพอๆกันกับ สนามบิน เชป ลัก โกะ ของฮ่องกง
ทิ้งห่าง สิงคโปร์ มากพอสมควร
ส่วน มาเลเซีย ที่คุณนิติภูติ ให้คำแนะนำนั้น ภาษามวยเขาเรียกว่า "กระดูกคนละเบอร์" ครับ