ข่าวน่าเศร้าแต่เช้า..รายวัน

โจรใต้ประกบยิงดับรองผอ.หญิงนราฯดับ
โจรใต้ประกบยิงว่าที่รองผู้อำนวยการโรงเรียนดับขณะขี่รถจยย.เพื่อขึ้นรถไฟกลับบ้านพักยะลา ด้าน ผอ.โรงเรียนบ้านลาเมาะประกาศปิดโรงเรียนไม่มีกำหนด

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ พร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบรมราชินีนาถ อ.เบตง จ.ยะลา พระราชทานพระราชวโรกาสให้คหบดี ผู้นำชุมชนไทย-จีน เข้าเฝ้าฯ โอกาสนี้ทรงมีพระราชดำรัสว่า

"มีความปลื้มปีติที่ได้มาเยี่ยม ขอบใจที่ทุกคนมีน้ำใจไมตรีในการมาต้อนรับ และเป็นที่น่ายินดีว่าที่นี่ยังมีความสวยงาม และเป็นจุดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ ทุกท่านจึงต้องมีกำลังใจเพื่อดำรงรักษาเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ให้มีความมั่นคงและสงบสุข เพราะในสามจังหวัดชายแดนใต้ หากยังไม่สงบ ก็อาจมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ความเป็นอยู่ของประชาชน ก็ต้องร่วมเป็นกำลังใจสู้กับความไม่ถูกต้อง ด้วยความสามัคคีกลมเกลียว โดยทุกฝ่ายต้องดูแลซึ่งกันและกัน มีน้ำใจให้กันคนละเล็กละน้อย เพื่อรักษาความมั่นคง และธุรกิจของเรา เพราะถ้าธุรกิจก้าวหน้า ผลประโยชน์ก็จะได้กับภูมิภาคนี้"

จากนั้นทรงเยี่ยมกลุ่มปิยมิตร 1, 2 ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งเดิมเคยอยู่ในพรรคคอมมิวนิสต์มะลายา และได้เปลี่ยนใจในปี 2530 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานสัญชาติไทยให้ จำนวน 253 คน และได้พระราชทานสัญชาติไทยให้แก่ชาวมาเลเชีย 51 คนพร้อมกันนี้ทรงเยี่ยมราษฎรอาสาสมัครรักษาหมู่บ้านหรือ อ.ร.บ.ชุดรักษาหมู่บ้าน หรือ ช.ร.บ. รวมทั้งกลุ่มสตรีต่างๆ ที่มาจากบ้านธารน้ำทิพย์ บ้านยะรม บ้านตาเนาะแมเลาะ

จากนั้นเสด็จฯ ทรงเยี่ยมย่านการค้าบนถนนจันทรโรทัย ซึ่งมีทั้งราษฎรชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่ จากนั้นทรงพระดำเนินไปยังธนาคารกสิกรไทย สาขาเบตง ทรงรับฟังบรรยายสรุปเหตุการณ์ระเบิดธนาคารต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา จำนวน 6 ธนาคาร มีทรัพย์สินเสียหาย 1.8 ล้านบาท มีผู้บาดเจ็บ 11 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต

ยิงว่าที่รองผอ.โรงเรียนดับอนาถ

เมื่อเวลา 15.30 น.วันเดียวกัน คนร้ายยิงว่าที่ ร.ต.หญิงกุลธิดา อินทร์จำปา อายุ 33 ปี ครูโรงเรียนบ้านลาเมาะ หมู่ 3 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และเป็นว่าที่รองผู้อำนวยโรงเรียน เหตุเกิดขณะว่าที่ ร.ต.หญิงกุลธิดา ขี่รถจยย.ออกจากโรงเรียนเพื่อจะไปขึ้นรถไฟกลับบ้านพักที่ จ.ยะลา โดยแยกออกมาจากเจ้าหน้าที่ชุด รปภ.ครู เมื่อมาถึงช่วงบริเวณบ้านบูกิตยือไล คนร้าย 2 คนขี่รถจยย.ไล่ตาม พร้อมใช้อาวุธปืนจ่อยิงใส่ 2 นัด จนผู้ตายล้มลง จากนั้นจึงจ่อยิงใส่อีก 2 นัดแล้วหลบหนีไป พลเมืองดีจึงช่วยกันนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลรือเสาะ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่โรงพยาบาลเต็มไปด้วยความหดหู่มีเพื่อนครูและนักเรียนรวมทั้งนายไพรัช แสงทอง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาสเขต 1 ต่างพากันร้องไห้ด้วยความอาลัย

ทั้งนี้ ว่าที่ ร.ต.หญิงกุลธิดา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและจบปริญญาโทเอกบริหารการศึกษาที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และได้สอบบรรจุเป็นครูเมื่อ พ.ศ.2540 ที่โรงเรียนบ้านลาเมาะ ในวิชาภาษาไทยจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดสอบเลื่อนขั้นได้ตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียน และเตรียมรอเรียกบรรจุแต่มาถูกยิงเสียชีวิตก่อน โดยว่าที่ ร.ต.หญิงกุลธิดา มีบุตรชาย 1 คน อายุ 8 ขวบ ชื่อ ด.ช.เอื้ออังกูร

ด้านนายสังเวียน จันทร์ชู ผอ.โรงเรียนบ้านลาเมาะ กล่าวว่า เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นต้นไปโรงเรียนจะปิดการเรียนการสอนแบบไม่มีกำหนด เพราะครูเสียขวัญอย่างมาก

ยอดครูยะลาขอย้ายหนีพุ่ง39ราย

นายประพันธ์ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสาคู อ.บันนังสตา จ.ยะลา กล่าวว่า ผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้ ทำให้มีข้าราชการครูทำเรื่องขอย้ายออกนอกพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากโรงเรียนทั้ง 7 แห่งที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สีแดง เฉพาะเขตพื้นที่การศึกษายะลา เขต 2 มีครูทำหนังสือขอย้ายแล้ว 39 ราย โดยส่วนใหญ่ 90% เป็นครูไทยที่นับถือศาสนาพุทธ เนื่องจากถูกกดดันอย่างหนัก ทั้งการข่มขู่ทางโทรศัพท์และใบปลิวที่คุกคามหนักถึงขั้นเอาชีวิตไม่เว้นแต่ละวัน

ผอ.โรงเรียนบ้านสาคู กล่าวอีกว่า โรงเรียนบ้านสาคูมีครูและบุคลากรทั้งหมด 12 คน เป็นคนไทยพุทธ 4 คน ล่าสุดครูไทยพุทธ 3 คน ได้ขอย้ายไปช่วยราชการนอกพื้นที่แล้ว ทำให้เหลือตนเพียงคนเดียว ทั้งที่ลึกๆ ในใจยอมรับว่า มีความต้องการที่จะขอย้ายไปช่วยราชการนอกพื้นที่เช่นกัน แต่เนื่องจากติดภารกิจในการมอบหมายงาน และดูแลการดำเนินงานบริหารโรงเรียนในระยะยาว จึงไม่สามารถทิ้งงานไปได้ ประกอบกับได้กำลังใจที่ดีจากผู้ปกครองบางรายที่ขอให้อยู่ในพื้นที่ต่อไป เนื่องจากสอนหนังสือในพื้นที่มานานกว่า 6 ปี

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ข่าวน่าเศร้าแต่เช้า..รายวัน (อ่าน 2642 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้