เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 15, 2025, 04:16:41 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำอย่างไรจึงจะไม่เสียดินแดนขวานทองอีกครั้ง  (อ่าน 3178 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ตะบันไฟ
Hero Member
*****

คะแนน 47
ออฟไลน์

กระทู้: 1283



« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2006, 10:29:20 PM »

ผมก็เห็นว่าถึงเวลาลุยแล้วหละครับ 
บันทึกการเข้า

ปืนคือเพื่อนแท้  ปืนคือเพื่อนตาย  ปืนคือเพื่อนร่วมทาง
ปืนมันพูดไม่ได้  แต่มันก็ซื่อสัตย์  จริงใจ  ไม่ทรยศหักหลังเรา
นี่แหละนิยามของคำว่าปืน
SUKI
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 28


« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2006, 10:35:00 PM »

พอซะทีเถอะน่ะ ไอ้เรื่องสมานฉันท์  จะต้องให้ชาวบ้านตายกันอีกกี่ศพ ทหาร/ตำรวจ ตายกันอีกกี่คน เป็นไงล่ะปล่อยตัวผู้กระทำความผิด อภัยโทษให้ ผมเกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย 50 ปี เพิ่งเคยเห็นรัฐบาลยุคนี้ล่ะ ยกโทษให้พวกโจรของแผ่นดิน  แล้วมันตอบแทนอย่างสะใจใหมล่ะ  ตั้งค่าหัวนายกฯ  โปรดเถอะครับ โปรดนึกถึงจิตใจของผู้ปฎิบัติงานในพื้นที่ด้วยครับ ว่าพวกเขาเหล่านั้นกดดันขนาดใหน รู้ทั้งรู้ตัวผู้กระทำผิด แต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนมองและระวังตัวเองอย่างที่สุด  ผมเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้น กำลังรอไพเขียวอยู่  หรือถ้าทำอะไรมันไม่ได้  ก็เรียกตัวพวกเขากลับมาสู่ครอบครัว   แล้วยก 3 จังหวัดภาคใต้ให้มันไปซ่ะรู้แล้วรู้รอด
บันทึกการเข้า
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2006, 04:16:05 AM »

รอดูวันที่ 2 ครับว่าจะมีเหตุการณ์หรือไม่
บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
tOnz
ถ้าใจคุณอคติ คุณก็อ้างความถูกต้องและเป็นกลางไม่ได้หรอกครับ
Hero Member
*****

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1519

ต่อด้วย M870


« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2006, 04:53:28 AM »

ผมก็เห็นเป็นแบบนี้มาทุกรัฐบาลไม่เห็นจะเกี่ยวกับรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่งที่จะต้องมาเจาะจงกัน  รัฐบาลก่อนที่ท่านเกลียด ไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้เลยหรือ รัฐบาลหลังที่ท่านเกลียดก็ยังเกิดเหตุการณ์นี้อยู่ดี(อันนี้ก็มาพูดว่าเพราะรัฐบาลที่ผ่านมาทำไม่ดี)   ผมไม่คิดเช่นนั้นครับ   ผมว่าแทนที่จะโทษใครสักคนหนึ่ง แต่ร่วมใจช่วยกันจะดีกว่า ช่วยได้มากได้น้อยก็ตามแต่จะช่วยได้   ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกันให้เรื่องมันจบๆ  เพราะถ้าผมรู้ก็คงจะช่วยให้มันจบไปแล้ว 

ขออภัยหากความคิดเห็นของผมอาจจะทำให้บางท่านไม่พอใจ แต่โทษใครไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ร่วมมือร่วมใจคนไทยดีกว่า
บันทึกการเข้า

"มีปัญญาเป็นอำนาจ ยังดีกว่ามีอำนาจแต่ไม่มีปัญญา" ชิบ จิตนิยม
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2006, 08:25:50 AM »

รอดูวันที่ 2 ครับว่าจะมีเหตุการณ์หรือไม่

ตามข่าวคือวันที่ ๒ ธันวา นี้ แต่ส่วนตัวแล้วถ้าวันที่ ๒ ไม่สำเร็จ ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็น่าเฝ้าระวังเช่นกัน
บันทึกการเข้า
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2006, 02:25:46 PM »

คือแบบว่า

จริงเท็จแค่ไหน ลองวิเคราะห์ให้ฟังหน่อยครับ

คำให้สัมภาษณ์ของ "วัน กาเดร์ เจ๊ะมัน" ดอกไม้หรือดาบปลายปืน?

คําให้สัมภาษณ์ของ "วัน กาเดร์ เจ๊ะมัน" ครั้งล่าสุดเผยแพร่โดย อัลจาซีรา เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ น่าสนใจอย่างยิ่ง น่าอ่านอย่างขบเคี้ยวและวิเคราะห์ให้รอบด้านอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับใครก็ตามที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้อยู่ในเวลานี้

ใครสนใจอ่านเต็มลองล็อกออนเข้าไปอ่านได้ที่ http://english.aljazeera.net/NR/exeres/1BC4029E-DF85-41CE-8ECD-088DF76B9F47.htm ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษครับ ไม่ใช่ภาษาไทย แต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่อารบิค

คำถามที่น่าสนใจก็คือ คำให้สัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นการหยิบยื่น "ดอกไม้" แห่งสันติ ปูทางไปสู่การเจรจามาให้กับรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หรือเป็นการชูดาบปลายปืนประกาศศึกระลอกใหม่กันแน่?

อ่านเพียงผิว-ผิว แทบสัมผัสได้ถึงความผิดหวัง ความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจและเต็มไปด้วยความคิดต่อต้าน แบ่งเขา-เรา แต่ถ้าพิเคราะห์ลึกลงไปในหลายประโยค อ่านความนัยระหว่างบรรทัดแล้ว เราจะมองเห็นอะไร?

ความผิดหวังของ วัน กาเดร์ เจ๊ะมัน มองเห็นได้ตั้งแต่ประโยคแรกที่ถูกหยิบขึ้นมาเป็นหัวเรื่องสำหรับข้อเขียนของ โรเมน โบส เขาบอกว่า รัฐบาลกรุงเทพฯ ไม่สนใจในสันติภาพ เขาบอกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เป็น 2 เดือนที่รัฐบาลใหม่พยายามเพียงแค่จะใช้มวลชนเพื่อการ "โฆษณาชวนเชื่อ" เท่านั้นเอง

"ผมคิดว่าเป็นเรื่องถูกนะที่รัฐบาลจะไปหาประชาชน ไปพบประชาชน พูดคุยกับประชาชน สื่อสารซึ่งกันและกัน แต่ทั้งหมดนั่นไม่พอสำหรับการแก้ปัญหา"

แล้วอย่างไหนถึงพอในความเห็นของ ดร.วัน?

"คุณต้องนั่งลงจริงๆ นั่งลงกับบรรดาแกนนำที่สร้างปัญหา แยกกันพบ คุณต้องนั่งลงและพูดคุยกับแกนนำเหล่านั้นถามพวกเขา ตอนนั้นและคุณถึงจะสามารถให้สิ่งที่พวกเขาต้องการได้"

"คุณต้องพยายามให้สิ่งที่พวกเขาต้องการ อันไหนให้ไม่ได้คุณต้องบอกว่าไม่ได้..." หลายประโยคถัดไปจากนี้ วัน กาเดร์ แสดงออกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจนออกมาว่า อย่าว่าแต่จะเป็นการต่อรองกันเลย แม้การพูดคุยกันก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้ "เรื่องเจรจาต่อรองเป็นอันลืมได้เลย"

ในความเห็นโดยส่วนตัว คำให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ของ ดร.วัน กาเดร์ ผิดแปลกไปจากก่อนหน้านี้ไม่น้อย ในแง่ของหนึ่งในบุคคลระดับประธานของกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวขึ้นของหลายๆ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางใต้ของไทย คำกล่าวของ วัน กาเดร์ ให้รายละเอียดของกลุ่มก้อนของตนเอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มของตนเอง มากกว่าที่ควรจะเป็น มากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องให้มากมายถึงขนาดนี้

ดร.วัน บอกว่า เบอร์ซาตู ที่ประกาศตัวเองกลายๆ ว่าเป็นผู้รับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2546 เรื่อยมาจนถึงเวลานี้ทางภาคใต้ของไทย ประกอบด้วย บีไอพีพี-กลุ่มที่ ดร.วันเป็นแกนนำ, พูโล กลุ่มแบ่งแยกดินแดนเก่าแก่ที่เคยมีบทบาทสูงยิ่งในทศวรรษ 60-70 และ บีอาร์เอ็น-โคออร์ดิเนต หนึ่งในกลุ่มกองกำลังใหม่ที่สุดที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางภาคใต้ของไทย

วัน กาเดร์ บอกว่า บีอาร์เอ็น-คองเกรส แยกตัวออกจากกลุ่มไปแล้ว บอกสาเหตุด้วยว่า การแยกตัวออกไป "อาจจะ" เกิดจากความไม่เห็นด้วย ความไม่พอใจที่กลุ่มที่เหลือทั้งหมดในนามเบอร์ซาตู และ ดร.วัน ในฐานะประธานกลุ่มต้องการเจรจา ต้องการรอมชอมกับทางการไทย และ "อาจจะ" เป็นเพราะไม่พอใจในตัวของ วัน กาเดร์ เจ๊ะมัน เอง ว่าไม่สามารถเป็น "ผู้นำที่มีประสิทธิภาพ" ขององค์กรของตนอีกต่อไป

น้ำเสียงในหลายๆ ประโยคที่ วัน กาเดร์ พูดถึงการแยกตัวครั้งนี้ และพูดถึงความแตกแยกทางความคิดเห็นระหว่าง "คนรุ่นใหม่" กับ "คนรุ่นเก่า" ฟังดูเหมือนเจือปนความน้อยอกน้อยใจ ความไม่เข้าใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

"...พวกเขาอาจคิดว่าผมไม่มีประสิทธิภาพแล้ว แต่ก็ควรเปลี่ยนผู้นำซะ ดีกว่าจะแยกออกไป"

เขาเล่าว่าการแตกแยกในเบอร์ซาตูเกิดขึ้นไม่นานหลังการรับบท "ตัวกลางในการไกล่เกลี่ย" ของ มหาธีร์ โมฮัมหมัด ตอนนั้นเองที่ "คนส่วนใหญ่" ตระหนักว่าการแยกตัวเป็นอิสระโดยสมบูรณ์นั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้

"ดังนั้น พวกเขาจึงคิดไปอีกทาง ทางของการรอมชอม เพื่อที่ว่าพวกเขาจะสามารถคงหลายๆ อย่างสำหรับมุสลิมไว้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตลักษณ์ ที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด"

ถ้า "ความเป็นตัวตนของมุสลิม" เป็นหัวใจของความต้องการของขบวนการแบ่งแยกดินแดน การบ่งบอกมันออกมาจะช่วยให้การเจรจาที่อาจมีขึ้นง่ายขึ้นกว่าที่คิดกันหรือไม่? น่าคิด ที่สำคัญ ดร.วัน กาเดร์ ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นั้นเขายังบอกด้วยว่า

"คนมุสลิมต้องการรักษาเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ในฐานะเป็นมาเลย์มุสลิม พวกเขาไม่ต้องการถูกกลืนจนกลายเป็นไทย ผมคิดว่ารัฐบาลไทยไม่เข้าใจตรงนี้ คิดเอาว่าการกลมกลืนเป็นไทยเป็นเรื่องดี...สำหรับพื้นที่มาเลย์ การกลืนเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับคนไทยเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ เพราะพวกเขามีประวัติศาสตร์แยกออกจากกัน พวกเขาภาคภูมิใจกับความสำเร็จของอิสลามที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ในพื้นที่นั้น ดังนั้น ถึงได้ยากมากๆ ที่จะกลืนเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน"

ในความเห็นของ ดร.วัน กาเดร์ รัฐบาลไทยต้องรีบ รีบเจรจา ก่อนที่สถานการณ์จะไปไกลมากไปกว่านี้ เพราะแม้ "คนรุ่นเก่าพร้อมที่จะเจรจา แต่คนรุ่นใหม่เหล่านี้ยังดูเหมือนจะต้องการแยกดินแดน"

"ไม่แค่แยกดินแดนออกไป พวกเขาต้องการสถาปนารัฐอิสลามปัตตานีขึ้นด้วยต่างหาก"

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะหลังเป็นฝีมือของกลุ่มนี้ ที่สะสมทั้งอาวุธและเงินมาเป็นเวลานาน เหตุรุนแรงในระยะหลังจึง "ผ่านการวางแผน" มาอย่างดีไม่ใช่ "อุบัติเหตุ"

และเริ่มมี "เจไอ-เจมาห์ อิสลามิยาห์" เข้ามาปักหลักอยู่ด้วยแล้ว แม้จะไม่ลงมือปฏิบัติการโดยตรงก็ตาม

วิธีการเจรจาในความเห็นของ ดร.วันคืออย่างไรกันแน่

"หลักสำคัญก็คือรัฐบาลต้องพยายามไปพบแกนนำเหล่านี้ พูดคุยกับคนเหล่านี้ พูดกันจริงๆ จังๆ แต่ต้องเป็นการเจรจาลับ ถ้าเป็นการเจรจาเปิดเผย คนเหล่านี้จะไม่เปิดเผยอะไรจริงๆ ออกมา หลักสำคัญก็คือรัฐบาลต้องจริงใจ ต้องแน่วแน่ในการแก้ปัญหา"

หลายประโยคที่ว่ามาเหล่านี้นี่เองที่บ่งบอกว่า ก่อนที่จะตัดสินว่า คำให้สัมภาษณ์ของ ดร.วัน กาเดร์ ครั้งนี้เป็นดอกไม้ หรือเป็นการชูดาบปลายปืนกันแน่นั้น

ต้องอ่านอย่างละเอียด อ่านอย่างพินิจพิเคราะห์กันจริงๆ!!

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=MDQxMDMyNDExNDk=&srcday=MjAwNi8xMS8yNA==&search=no

มาจากบทสัมภาษณ์บทนี้ครับ

http://english.aljazeera.net/NR/exeres/1BC4029E-DF85-41CE-8ECD-088DF76B9F47.htm

'Bangkok not interested in peace'   
By  Romen Bose, Al Jazeera Kuala Lumpur
 
 
 
 
 
Wan Kadir Che Wan has called on the
government to be sincere


 
The leader of an umbrella group of separatists in south Thailand says the government is not interested in peace.
 
In an exclusive interview with Al Jazeera, Wan Kadir Che Wan, the president of Bersatu, said that while Surayud Chulanont, the Thai prime minister, had made several trips to the south, he had not spoken to separatist groups.
 
 
 

More than two months after Thaksin Shinawatra was toppled and despite Surayud's apology for the misdeeds of his predecessor, Wan Kadir, from an undisclosed location outside Thailand, criticised the new government's attempts to organise mass meetings as "propaganda".
 
 
 
 
 
 
"I think it is right for the government to go to see the people, to talk to the people, communicate, but it's not enough to solve the problem," said Wan Kadir.

"You really have to sit down with the leaders who create the problem – a separate meeting, you have to sit down and talk to those leaders and ask them and you can give them what they want.

"You try to give them what they want; you cannot give then you say so but as far as I know, the government as of now does not make that approach in the south for these negotiations – forget about even negotiations, to even make a talk with the separatists. [They] only go to talk to the public."

However, Wan Kadir, who is also president of the armed separatist group Barisan Islam Pembangunan Pattani or BIPP, said talks with the various groups in the south would not be easy.

"Of course you cannot go straight to the people who are fighting now, but you can go to their leaders, and then gradually go to those groups," he said.

The Bersatu organisation consists of three groups: BIPP, Pattani United Liberation Organisation and Barisan Revolusi Nasional – Coordinate.

The Barisan Revolusi Nasional – Congress (BRN-Congress) just left Bersatu.

Wan Kadir said of BRN-Congress's exit:

"The Muslim want to retain their identity as Malay Muslim, they do not want to be assimilated to be Thai"

Wan Kadir Che Wan, president of Bersatu
 
"Maybe they disagree; we are willing to compromise, we are willing to talk to the Thai government, we are willing to negotiate. Some of those groups do not believe that, the government is our enemy. They may think I am not effective anymore but they should change the leader rather than get out if they think that I am not effective anymore."

Dissension within Bersatu began after Mahathir Mohamad, the former Malaysian prime minister, and Shazryl Eskay Abdullah, Thailand's honorary consul on Langkawi island in Malaysia, began speaking with various armed groups that wanted to end the violence to work out a strategy for peace.

After being endorsed by King Bhumipol Adulyadej of Thailand, Mahathir and his son Mukhriz, along with Shazryl negotiated a peace plan which was agreed to by all main armed groups in south Thailand.

As Wan Kadir noted: "The majority of the people feel very doubtful that separation – complete separation – is possible.

"Therefore they think they should be other way, compromise, so that they can have certain things for Muslims, especially the identity, the main thing.

Identity

"The Muslim want to retain their identity as Malay Muslim, they do not want to be assimilated to be Thai. The Thai government I think does not understand that, they think that assimilation is good … for Malay areas, assimilation is almost impossible because they have separate history … and they are proud of their Islamic achievement in the area and therefore it is very difficult to assimilate."

The plan was submitted to the Thaksin government in August but no action was taken.

Following Thaksin's ouster in September and the declaration by General Sondhi Boonyarataglin, the coup leader, that he was committed to a peaceful settlement in the south, many of these groups were hoping that the plan would be quickly endorsed by the generals in Bangkok.

But the Thai government has yet to commit to it.

 
Dozens of civilians have been killed
and wounded in the past week
Wan Kadir says that unless the Thai government is willing to use the Mahathir peace plan as a basis for negotiations, things will go back to square one.

Many of the armed groups, including the Bersatu organisation, want to end the troubles but without serious negotiations, the problems will continue, says Wan Kadir.

"The main point is the government has to make an effort to go to see [the leaders] to talk to them. Talk to them seriously and secretly, not open. When openly, they don't really reveal the real thing… The main thing is the government must be honest, the government must be determined to solve this problem."

Islamic state

However, Wan Kadir says that although the groups under Bersatu are willing to negotiate, many of the recent bombings in the south are the result of new, younger fighters who are not so accommodating.

"This new generation of people, they are very young and they are very determined ... the old generation can compromise but this new generation seems to still want independence.

"Not only independence but they want to establish an Islamic state of Pattani."

Dozens of civilians have been killed and injured in just the past week in the southern provinces as attacks continue unabated.

Wan Kadir says the new groups responsible for much of the violence are unwilling to talk to the government because they believe they are winning in their attacks against Thai military targets. Wan Kadir says they are well-armed and funded. More importantly, they have an insider.

"As far as I understand … they have been collecting the weapons for a long time in preparation and also the money … so this is not just accident, this is a planning … the main advantage of this situation is that … they are inside the Thai government itself so they know many things."

Wan Kadir admits that many of the activities of these younger groups are facilitated by groups such as al-Qaeda-linked Jemaah Islamiyah or JI which now has a presence in the south.

"I think that many of the group are there but maybe they are not directly involved."

The veteran fighter says that it is almost impossible for the government to begin negotiating with these younger fighters but holding talks with older groups such as Bersatu would provide the Thai military with a good opening.

Regardless of who the generals speak to, they must be sincere, he says.

"Do not treat the Muslim in the south as colonial subjects … because we feel that the Thais are treating us like colonial subjects… If you treat us that way, it is not going to be peaceful. You have to treat us as citizens of Thailand. We don't want any more than that. We don't want special treatment … we just want them to treat us the same as other people in the country. We are below, not above the law."

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
makoto
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2006, 04:04:45 PM »

   ช่วงนี้ได้ยินแต่ข่าวร้ายๆ ฝ่ายโจรก็จะยึดยะลา ฝ่ายทหารก็ส่งกำลังลงเต็มที่เตรียมกวาดล้าง วันพ่อนี้จะไปไหว้พ่อที่ยะลากะว่าจะเอาทั้งกล็อก+3แม็ก และลูกซองเลย ถ้ามีเหตุรุนแรงผมจะยิงหัวมันให้ได้มากที่สุดเลย
บันทึกการเข้า
มะเอ็ม
Hero Member
*****

คะแนน 348
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4749


"ปักษ์ใต้บ้านเรามันเหงาจังไม่มีคนนั่งแลหนังโนราห์"


« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2006, 04:51:12 PM »

ช่วงนี้ได้ยินแต่ข่าวร้ายๆ ฝ่ายโจรก็จะยึดยะลา ฝ่ายทหารก็ส่งกำลังลงเต็มที่เตรียมกวาดล้าง วันพ่อนี้จะไปไหว้พ่อที่ยะลากะว่าจะเอาทั้งกล็อก+3แม็ก และลูกซองเลย ถ้ามีเหตุรุนแรงผมจะยิงหัวมันให้ได้มากที่สุดเลย

.............ตั้งอยู่ในพื้นฐานของความไม่ประมาทน่ะครับ.................
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #23 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 06:54:34 AM »

พรุ่งนี้แล้วซิ ที่จะมีการชักธงรัฐปัตตานีขึ้นสู่ยอดเสาตามที่ได้มีการประกาศไว้ หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ คาดว่าคงเป็นพื้นที่ อ.บันนังสตา  อ.กรงปินัง  ม.ตันยงลิมอร์ ส่วนพื้นที่อื่น ๆ คงมีเหตุวุ่นวายเพื่อโชว์ศักยภาพของกลุ่มแถมเข้าไป แต่หากพรุ่งนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวก็คงจะเป็นหลังวันที่ ๕ หรือไม่ช่วงก่อนปลายปีนี้....





ทบทวนยุทธวิธี เตรียมแผนเผชิญเหตุ ตรวจเช็คอาวุธประจำกาย ตั้งสติพร้อมรบบนพื้นฐานความไม่ประมาท ขอให้ทุกท่านที่เป็นคนดีแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง และขอให้เหล่าคนทรยศชาติสูญหายมลายไป
บันทึกการเข้า
Ch@i-Yo.
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 452



« ตอบ #24 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 10:30:52 PM »

ขอเป็นกำลังใจให้กับ คนไทย สามจังหวัด ชายแดนใต้ ทุกท่านครับ..
บันทึกการเข้า

" Forgive your enemies  but  never forget their names "... J.F.K. ...
Tew@75
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 327

ใช้ชีวิตให้เต็มที่...เต็มที่กับชีวิต


« ตอบ #25 เมื่อ: ธันวาคม 01, 2006, 11:47:26 PM »

quote author=มดแดง link=topic=26755.msg687220#msg687220 date=1164808356]
ผมว่าำไม่ต้องสมานฉันท์แล้ว ตาต่อตา ฟันต่อฟัน Sad ลุยให้สิ้นซาก .. เห็นคนบริสุทธิ์ตายทุกวัน ทำไมตำรวจ - ทหาร จับไม่ได้สักที Angry
อ้างถึง
ต้องจัดการพวก ngo ก่อนครับ Angry[
บันทึกการเข้า

การจู่โจมย่อมชนะการตั้งรับเสมอ
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #26 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2006, 03:04:19 AM »

"คุณต้องนั่งลงจริงๆ นั่งลงกับบรรดาแกนนำที่สร้างปัญหา แยกกันพบ คุณต้องนั่งลงและพูดคุยกับแกนนำเหล่านั้นถามพวกเขา ตอนนั้นและคุณถึงจะสามารถให้สิ่งที่พวกเขาต้องการได้"

"คุณต้องพยายามให้สิ่งที่พวกเขาต้องการ อันไหนให้ไม่ได้คุณต้องบอกว่าไม่ได้..." หลายประโยคถัดไปจากนี้ วัน กาเดร์ แสดงออกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจนออกมาว่า อย่าว่าแต่จะเป็นการต่อรองกันเลย แม้การพูดคุยกันก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นมาได้ "เรื่องเจรจาต่อรองเป็นอันลืมได้เลย"


การเจรจาในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้เนื่องจากฝ่ายเราสูญเสียอยู่ฝ่ายเดียวอีกฝ่ายมีการสูญเสียน้อยมาก มีกำลังใจฮึกเหิม ตราบใดที่เราไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายสูญเสียจนเข้ามุมอับ
แล้วก็ยากที่จะเกิดการเจรจาได้ครับ
บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
พจน์-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 132
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1312


« ตอบ #27 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2006, 08:52:50 AM »

จริงครับคุยกับคนที่คิดว่าตัวเองแต้มเหนือเขาไม่คุยด้วยหรอก มุมกลับถ้าเราแต้มเหนือกว่าเราก็ไม่อยากคุยด้วย มีทางเดียวจะต้องตีเขาอย่างรุนแรงเพราะเรามีกำลังที่เหนือกว่า เมื่อเขาเข้าตาจนเราถึงจะเข้าเจรจาโดยต้องยอมรับความเหมือนที่แตกต่าง แต่ห้ามแยกประเทศไทยเด็ดขาด คือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยแต่ไม่ใช่คนไทย เขาเป็นคนมาลายู  เขาเรียกพวกเราที่นับถือศาสนาพุทธว่า ออแฆซีแย(คนไทย)เพี้ยนมาจากคนสยาม เรียกพวกเขาว่า ออแฆมาลายูหรือมาลายา แต่ไม่ใช่ ออแฆมาเลย์หรือมาเลเซีย(คนมาลายูไม่ใช่คนมาเลเซีย) ทหารตำรวจสายข่าวในพื้นที่ที่ตั้งหน่วยเขารู้ว่าใครเป็นใคร ตอนนี้คอยนโยบายหน่วยเหนือว่าเป็นอย่างไร เขากลัวจะเป็นแบบพวกค้ายา 2000กว่าศพ ตอนนี้มีคนกำลังเอาเรื่องอยู่เหมือนกับกำลังเอาเรื่องกรือเซะกับตากใบนั้นแหละ  ทำให้ระดับผู้ปฎิบัติลำบากใจ ถ้าพลาดเรียบร้อยหมดอนาคต ถ้าเรียบร้อยเสมอตัว บ้านเมืองเรามั่วไม่รู้จักหน้าที่ ฝ่ายบุ๊น บู๊ บัณฑิต พระ(ใจ) มั่วหมด ในวังบุ๊นก็คุมนโยบายไป ในสนามรบก็ต้องให้บู๊คุมใครขว้างการบัญชาการรบก็ต้องตัดหัวเสียบประจาน บันฑิต พระ(ใจ)ก็ให้อยู่สำนักศึกษา สังคม แต่นี้ขุนศึกกำลังรบชนะจะตัดหัวข้าศึกดันขี่ม้ามาบอกให้หยุดเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมและความยุติธรรม แล้วเมื่อไหร่จะรบชนะ หรือจะต้องตัดหัวบันฑิตก่อนแล้วค่อยรบต่อ ถ้าใครเห็นสมรภูมิ(3 จว.)ไม่ใช่สงครามลองนับศพทหารตำรวจข้าราชการประชาชนดู . ขอโทษครับซีเรียสหน่อย มีอีกหลายอย่างจะเล่าให้ฟังแต่ไม่สามารถลงในนี้ใด้. Angry Angry Angry อ้อถ้าจะเอากระทู้ข้างๆมาใส่(ที่เป็นสีดำ)แล้วเราจะตั้งกระทู้ตอบทำอย่างไรครับทำไม่เป็น. จะว่าโง่ก็ยอมค่อยฉลาดทีหลัง Grin Grin
บันทึกการเข้า

สวัสดีครับ,ขอบคุณครับ,ไม่เป็นไรครับ
ภูกามยาว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 128
ออฟไลน์

กระทู้: 6657



« ตอบ #28 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2006, 09:35:55 AM »

จริงครับคุยกับคนที่คิดว่าตัวเองแต้มเหนือเขาไม่คุยด้วยหรอก มุมกลับถ้าเราแต้มเหนือกว่าเราก็ไม่อยากคุยด้วย มีทางเดียวจะต้องตีเขาอย่างรุนแรงเพราะเรามีกำลังที่เหนือกว่า เมื่อเขาเข้าตาจนเราถึงจะเข้าเจรจาโดยต้องยอมรับความเหมือนที่แตกต่าง แต่ห้ามแยกประเทศไทยเด็ดขาด คือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยแต่ไม่ใช่คนไทย เขาเป็นคนมาลายู เขาเรียกพวกเราที่นับถือศาสนาพุทธว่า ออแฆซีแย(คนไทย)เพี้ยนมาจากคนสยาม เรียกพวกเขาว่า ออแฆมาลายูหรือมาลายา แต่ไม่ใช่ ออแฆมาเลย์หรือมาเลเซีย(คนมาลายูไม่ใช่คนมาเลเซีย) ทหารตำรวจสายข่าวในพื้นที่ที่ตั้งหน่วยเขารู้ว่าใครเป็นใคร ตอนนี้คอยนโยบายหน่วยเหนือว่าเป็นอย่างไร เขากลัวจะเป็นแบบพวกค้ายา 2000กว่าศพ ตอนนี้มีคนกำลังเอาเรื่องอยู่เหมือนกับกำลังเอาเรื่องกรือเซะกับตากใบนั้นแหละ ทำให้ระดับผู้ปฎิบัติลำบากใจ ถ้าพลาดเรียบร้อยหมดอนาคต ถ้าเรียบร้อยเสมอตัว บ้านเมืองเรามั่วไม่รู้จักหน้าที่ ฝ่ายบุ๊น บู๊ บัณฑิต พระ(ใจ) มั่วหมด ในวังบุ๊นก็คุมนโยบายไป ในสนามรบก็ต้องให้บู๊คุมใครขว้างการบัญชาการรบก็ต้องตัดหัวเสียบประจาน บันฑิต พระ(ใจ)ก็ให้อยู่สำนักศึกษา สังคม แต่นี้ขุนศึกกำลังรบชนะจะตัดหัวข้าศึกดันขี่ม้ามาบอกให้หยุดเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมและความยุติธรรม แล้วเมื่อไหร่จะรบชนะ หรือจะต้องตัดหัวบันฑิตก่อนแล้วค่อยรบต่อ ถ้าใครเห็นสมรภูมิ(3 จว.)ไม่ใช่สงครามลองนับศพทหารตำรวจข้าราชการประชาชนดู . ขอโทษครับซีเรียสหน่อย มีอีกหลายอย่างจะเล่าให้ฟังแต่ไม่สามารถลงในนี้ใด้. Angry Angry Angry อ้อถ้าจะเอากระทู้ข้างๆมาใส่(ที่เป็นสีดำ)แล้วเราจะตั้งกระทู้ตอบทำอย่างไรครับทำไม่เป็น. จะว่าโง่ก็ยอมค่อยฉลาดทีหลัง Grin Grin
ตอบกระทู้ แล้วคลิ๊ก ตรง ใส่การอ้างถึงคำพูด ครับ (ตามความเข้าใจผม) หรือเอากระทู้ข้างมาตอบก็ กอบปี้ตรง  Address เลยครับ Wink
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #29 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2006, 09:46:03 AM »

จริงครับคุยกับคนที่คิดว่าตัวเองแต้มเหนือเขาไม่คุยด้วยหรอก มุมกลับถ้าเราแต้มเหนือกว่าเราก็ไม่อยากคุยด้วย มีทางเดียวจะต้องตีเขาอย่างรุนแรงเพราะเรามีกำลังที่เหนือกว่า เมื่อเขาเข้าตาจนเราถึงจะเข้าเจรจาโดยต้องยอมรับความเหมือนที่แตกต่าง แต่ห้ามแยกประเทศไทยเด็ดขาด คือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยแต่ไม่ใช่คนไทย เขาเป็นคนมาลายู เขาเรียกพวกเราที่นับถือศาสนาพุทธว่า ออแฆซีแย(คนไทย)เพี้ยนมาจากคนสยาม เรียกพวกเขาว่า ออแฆมาลายูหรือมาลายา แต่ไม่ใช่ ออแฆมาเลย์หรือมาเลเซีย(คนมาลายูไม่ใช่คนมาเลเซีย) ทหารตำรวจสายข่าวในพื้นที่ที่ตั้งหน่วยเขารู้ว่าใครเป็นใคร ตอนนี้คอยนโยบายหน่วยเหนือว่าเป็นอย่างไร เขากลัวจะเป็นแบบพวกค้ายา 2000กว่าศพ ตอนนี้มีคนกำลังเอาเรื่องอยู่เหมือนกับกำลังเอาเรื่องกรือเซะกับตากใบนั้นแหละ ทำให้ระดับผู้ปฎิบัติลำบากใจ ถ้าพลาดเรียบร้อยหมดอนาคต ถ้าเรียบร้อยเสมอตัว บ้านเมืองเรามั่วไม่รู้จักหน้าที่ ฝ่ายบุ๊น บู๊ บัณฑิต พระ(ใจ) มั่วหมด ในวังบุ๊นก็คุมนโยบายไป ในสนามรบก็ต้องให้บู๊คุมใครขว้างการบัญชาการรบก็ต้องตัดหัวเสียบประจาน บันฑิต พระ(ใจ)ก็ให้อยู่สำนักศึกษา สังคม แต่นี้ขุนศึกกำลังรบชนะจะตัดหัวข้าศึกดันขี่ม้ามาบอกให้หยุดเพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมและความยุติธรรม แล้วเมื่อไหร่จะรบชนะ หรือจะต้องตัดหัวบันฑิตก่อนแล้วค่อยรบต่อ ถ้าใครเห็นสมรภูมิ(3 จว.)ไม่ใช่สงครามลองนับศพทหารตำรวจข้าราชการประชาชนดู . ขอโทษครับซีเรียสหน่อย มีอีกหลายอย่างจะเล่าให้ฟังแต่ไม่สามารถลงในนี้ใด้. Angry Angry Angry อ้อถ้าจะเอากระทู้ข้างๆมาใส่(ที่เป็นสีดำ)แล้วเราจะตั้งกระทู้ตอบทำอย่างไรครับทำไม่เป็น. จะว่าโง่ก็ยอมค่อยฉลาดทีหลัง Grin Grin


Grin Grin Grin ว่าง ๆ ค่อยนัดกินเหล้าด้วยกันนะครับ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.12 วินาที กับ 21 คำสั่ง