ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1183
ออฟไลน์
กระทู้: 12698
เว็บไซต์
|
 |
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2005, 11:53:28 AM » |
|
สนธิ ระบุ 4 ปีข้าหน้าสังคมไทยต้องหันกลับมามองรากเหง้าตะวันออกของตนเอง ระบุสังคมไทยปล่อยการตลาดนำหน้าจนทำลายต้นทุนทางสังคม ทำนาย 4 ปีข้างหน้าจะเกิดวิกฤติสุขภาพ ส่วนการเมืองจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งภายในอย่างหนัก ชี้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้เป็นสงครามช่วงชิงประชาชนที่แก้ไม่ได้ด้วยความรุนแรง แต่ต้องเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างของคนในพื้นที่ แนะตั้ง 3 จังหวัดเป็นมณฑลพิเศษ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวปาฐกถาในการประชุมสมาคมเลขานุการสตรีแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ในหัวข้อเรื่อง สังคมไทยในอีก 4 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ว่า ในอีก 4ปีข้างหน้าเป็น 4 ปีที่คนไทยจะต้องดูแลตนเอง เพราะ 4 ปีที่ผ่านมาเมืองไทยพัฒนาเพียงมิติทางเศรษฐกิจเพียงด้านเดียว แต่ขาดการพัฒนามิติด้านจิตวิญญาณ ศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งมิติด้านจริยธรรม ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศในลักษณะการซ่อมที่ต้องการเปิดเสรีนิยม จึงต้องสร้างประชาชนระดับรากหญ้าให้เข้มแข็ง แต่ที่ผ่านมาเป็นการมอมเมารากหญ้ามากกว่าการสร้างให้รากหญ้าเข้มแข็ง นอกจากนี้ หากพิจารณาสังคมไทยจริงๆ แล้วจะพบว่า สังคมไทยเป็นสังคมที่มีอวิชชา โดยไม่มีรัฐบาลใดเข้าส่งเสริมให้ประชาชนในสังคมมีวิชาและสัมมาทิฐิ ให้เกิดขึ้น นายสนธิ กล่าวต่อไปอีกว่า 4 ปีที่ผ่านมาสังคมไทยปล่อยให้การตลาดนำหน้ามากเกินไปจนกลายเป็นภาพลักษณ์ของสังคม ซึ่งการตลาดนั้นคือมายาและกลายเป็นภาพหลอน เช่นเดียวกับการเมืองของสังคมไทยที่เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของการตลาดแท้จริง อย่างไรก็ตาม สังคมไทยถือว่าเป็นสังคมที่มีทุนทางสังคมสูง เห็นได้จากเหตุการคลื่นยักษ์สึนามิที่ทุกคนพร้อมจะกระโดดเข้ามาช่วยเหลือกัน แต่ทุนทางสังคมไทยจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนในยุคการตลาดนำหน้าและรัฐบาลพูดถึงแต่เรื่องอุตสาหกรรมและการส่งออก โดยไม่เข้าใจรากเหง้าของสังคมไทย และถือเป็นการทำลายทุนทางสังคมอย่างรุนแรง 4 ปีข้างหน้าสังคมไทยจะเผชิญกังองค์ความรู้ที่ผิด เป็นองค์ความรู้เรื่องการใช้เงินและการทำการตลาด แต่ไม่ใช่การพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง การส่งเสริมให้ชุมชนมีความรู้คือการทำให้ชุมชนสามารถอยู่ได้ด้วยการพึ่งตนเองและปกครองตัวเอง และหากมองในมุมกลับแม้ว่ารัฐจะทำให้ชุมชนมีความรู้แต่รัฐกลับไปมีอำนาจเหนือชุมชนก็ไม่เกิดผลอะไร ที่ผ่านมากเราให้ความสำคัญกับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือ GDP ซึ่งเป็นตัวเลขหลอก และเรากำลังหลง GDP" " แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือช่องว่างระหว่างรายได้มันสูงขึ้น คนจนจำนวนมากไม่ได้มีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่คนรวยบางกลุ่มกลับมีเงินเพิ่มมากขึ้นเกือบเท่าตัว สิ่งนี้เป็นสิ่งท้าทายรัฐบาลที่ต้องดูแล รัฐบาลกำลังสับสนเรื่องการค้าเสรี ขณะที่รัฐบาลพยายามจะแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น ต้องพิจารณาให้ดีว่ากิจการใดที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนต้องรอบคอบ แต่สิ่งใดที่ไม่กระทบก็สมควรแปรรูป แต่การแปรรูก็มักจะมองเฉพาะประชาชนในกรุงเทพ ซึ่งจะส่งผลประโยชน์เฉพาะบุคคลกลุ่มบนของประเทศเท่านั้น ขณะที่ผลกระทบที่เกิดกับคนมหาศาลไม่ได้ถูกคำนึงถึง" นายสนธิ กล่าวอีกว่า ใน 4 ปีข้างหน้า ปัญหาเรื่องโรคภัยไข้เจ็บและวิกฤติสุขภาพเกิดขึ้น เพราะเราไม่เคยให้ความสนใจกับเรื่องสุขภาพหรืออุบัติเหตุ กระทรวงสาธารณสุขออกตรวจสอบคุณภาพอาหารเพราะต้องการเป็นครัวโลก แต่ไม่เคยบอกว่าตรวจสอบเพื่อคนไทย นั่นหมายความว่าหากเมืองไทยไม่ต้องการเป็นครัวโลก คนไทยก็ไม่มีสิทธิ์ได้กินอาหารที่ดี ซึ่งเป็นกระบวนทัศน์ที่ผิดและจะต้องเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ กติกาของโลกใหม่ ซึ่งก็คือโลกาภิวัฒน์ จำเป็นจะต้องมี 4 ข้อด้วยกันได้แก่ 1.ทุนทางวัฒนธรรม(Cross Cultural) 2.ความแตกต่างและหลากหลาย (Diversity) 3.เครือข่าย (Networking) และ 4.การพึ่งพาตนเองได ้(Independent) ทุกอย่างต้องมีสมดุล หากไม่มีสมดุลจะเกิดปัญหา การชนะของพรรคไทยรักไทย(ทรท.) ในการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นไม่ใช่สมดุล เช่นเดียวกันเมือมีพลังหยินต้องมีพลังหยาง ขณะนี้ ทรท.มีพลังหยางมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดความอหังกาและจะทำร้ายตัวเองในที่สุด และต่อไปปัญหาการเมืองไทยจะไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอก แต่จะเกิดจากปัญหาภายใน ต่อไปจะมีการทะเลาะเบาะแว้งภายในหนักขึ้น และอีก 4 ปีข้างหน้าปัญหาทุกอย่างจะวิ่งเข้าหานายกรัฐมนตรีทั้งปัญหาภายนอกและปัญหาภายในนายสนธิกล่าว ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับปัจจัยภายนอกนั้น เกิดการเผชิญหน้าระหว่างทุนนิยมตะวันตกกับกลุ่มปกป้องทางศาสนามุสลิม และทั้ง 2 ฝ่ายต่างพยายามขยายเครือข่ายไปยังประเทศอื่นๆ ทำให้ประเทศไทยต้องเข้าไปอยู่ในสังเวียนดังกล่าวด้วย สำหรับปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการแย่งชิงประชาชน ไม่ใช่ปัญหาทางอาชญากรรม ซึ่งหากรัฐบาลมองว่าเป็น ปัญหาอาชญากรรมเพียงมิติเดียว และแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงสถานการณ์ดังกล่าว ก็จะดำเนินต่อไป โดยรัฐบาลแก้ไขไม่ได้ การแก้ปัญหาภาคใต้ต้องยอมรับก่อนว่า ประชาชนในพื้นที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม และต้องกลับไปทบทวนว่า อะไรทำให้กระบวนการแบ่งแยกดินแดน ฟื้นตัวและเข้มแข็งขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องแก้จากจุดนั้น แต่หากทำเพียงส่งกองกำลังลงไป ก็เปรียบเสมือนการประกาศสงครามกับผู้ก่ออาชญากรรมเท่านั้น และในที่สุด รัฐบาลก็จะตกหลุมพรางของผู้ก่อการร้ายที่ต้องการให้ใช้วิธีการรุนแรง เพื่อช่วงชิงประชาชนเข้าไปเป็นพวก การไม่เข้าใจเหตุการณ์ทางภาคใต้ และกระบวนทัศน์ในการแก้ปัญหาที่ผิดของนายกรัฐมนตรี ทำให้ปัญหาภาคใต้ไม่จบ ทางออกคือนายกรัฐมนตรีต้องไม่ลงไปยุ่งกับพื้นที่ภาคใต้ เพราะเมื่อนายกรัฐมนตรีลงไป ก็ต้องนำกองกำลังลงไปด้วย รัฐบาลจะต้องประกาศให้จังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เป็นหนึ่งมณฑล และตั้งผู้ปกครองพิเศษ จากส่วนกลางลงไปดูแล โดยพื้นที่ดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้พัทธสีมาของประเทศไทย มีค่ายทหาร และกองกำลังติดอาวุธ เป็นหน่วยพิเศษในมณฑล รวมทั้งต้องมีเงื่อนไขท สำหรับผู้จะลงไปทำธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการยกเว้นภาษีนิติบุคคลเป็น 10 ปี นายสนธิ กล่าวต่อไปอีกว่า การแบ่งโซนพื้นที่ภาคใต้ โดยประกาศว่าพื้นที่สีแดงจะไม่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในด้านต่างๆ นั้น ขัดกับรัฐธรรมนูญของไทยที่ระบุว่าคนไทยทุกคนต้องได้รับการดูแลจากรัฐบาลอย่างเท่าเทียมกัน และเมื่อประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้รับการดูแลจากรัฐบลก็อาจจะยื่นร้องเรียนและบอกว่าเขาไม่ใช่คนไทย และอาจจะขอแบ่งแยกดินแดนในที่สุด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง
เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
|
|
|
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1183
ออฟไลน์
กระทู้: 12698
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2005, 11:55:07 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง
เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
|
|
|
มะเอ็ม
Hero Member
   
คะแนน 348
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 4749
"ปักษ์ใต้บ้านเรามันเหงาจังไม่มีคนนั่งแลหนังโนราห์"
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2005, 01:32:54 PM » |
|
มีแปลกๆเรื่อยล่ะครับ ลุงสนธิ...นิ่ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Drt2502
ชาว อวป.
Full Member
  
คะแนน 1
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 330
"มีแล้วไม่ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี"
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2005, 01:48:33 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
To be leader is not only " Instructiion " It's " Responsibility "
|
|
|
วิธ
อยากได้ Colt จัง
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 6
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 2506
คนรักปืน
|
 |
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 12:44:13 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
[/b][/size]
|
|
|
sobpong
Full Member
 
คะแนน 3
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 150
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 01:43:33 AM » |
|
****เนื่องมาจากคำขอ 7 ประการของหะยีสุหลง อับดุลกาเดร์ ต่อรัฐบาลพลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เมษายน 2490 ข้อแรกความว่า*****
"ข้อที่ 1 ขอให้ปกครองสี่จังหวัดนี้เป็นแคว้นหนึ่ง ( รวมจังหวัดสตูล : sobpong) โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งอย่างสูงให้มีอำนาจในการศาสนาอิสลาม มีอำนาจแต่งตั้งและปลดข้าราชการออกได้ ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ต้องเป็นมุสลิม ใน 4 จังหวัด" แน่นอนย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ปรากฏว่าในเวลาตอมามี ศ.อบต. และ พตท. 43 เกิดขึ้น โดยที่ ผอ.ศ.อบต. เป็นรองปลัดหรือปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บังคับบัญชาผู้ว่า 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม สงขลา สตูล มีอำนาจใกล้เคียงกันกับข้างบน สามารถเลือกผู้ว่าเองได้ด้วย และอยู่มาได้ยี่สิบกว่าปี ส่วนที่ทักษิณตั้งขึ้นมาใหม่ชื่ออะไรผมจำไม่ได้และมันไม่เคยมีบทบาทต่อระบบราชการ ข้าราชอย่างผมเมื่อบรรจุหรือย้ายมา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องถูกส่งไปหล่อหลอมวัฒนธรรมภาคใต้กันใหม่ที่ศ.อบต.ภายในไม่เกินสองปีแรกที่มารับราชการในพื้นที่
การตั้งสามจังหวัดภาคใต้เป็นมณฑลพิเศษ หรือแคว้นพิเศษ ปัดฝุ่น ศ.อบต. มีอำนาจทางทหารและพลเรือน ทิ้งทิฐิกันเสียบ้างเพื่อชาติ จึงไม่ใช่เรื่องที่ห่างไกลแต่อย่างใด รัฐบาลไทยสามารถดำเนินการได้ ข้าราชการ ผู้นำศาสนา ประชาชน ( ที่รู้เรื่อง ) ไม่ต่อต้านและวิ่งเข้าใส่เหมือนที่เคยวิ่งเข้าใส่ ศ. อบต.มาแล้วแม่นมั่น สิ่งใดที่รับได้ก็น่าทำ ทำเท่าที่สามารถทำได้ ไม่เปลืองงบประมาณเพิ่มขึ้นสักเท่าใด ไม่ได้ทำให้ไทยเสียอธิปไตยเหนือดินแดน ขัดรัฐธรรมนูญประการใดก็แก้เสีย ปัจจุบันการพัฒนาระบบกลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดของผู้ว่า โอ้อีซี้ ( CEO) ก็รวมกลุ่มสามจังหวัดอยู่แล้ว
****ทางเข้าซอยเปลี่ยวเคยเปิดไฟสาธารณะหรูหราสว่างทั้งซอย ผู้คนเดินขวักไข่วเหมือนกลางวัน ปัญหาผู้ร้ายจึงไม่ค่อยมี รัฐบาลท่านว่าไม่ใช่นโยบายแม้วสิ้นเปลืองจึงดับไฟรื้อเสาเสีย จี้ ปล้น เข่นฆ่าจึงมากขึ้นเหมือนไฟลาม****
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 02:06:33 AM โดย sobpong »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Rock
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 08:57:17 AM » |
|
ความเห็นของคุณสนธิบางอย่างก็...ชี้นำเกินไป...คุณสนธิเองก็บอกว่า...ผมเป็นนักประวัติศาสตร์ แต่ความเห็นของผม(นายร็อค)...มองว่าคุณสนธิชอบขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ในเชิงไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าไรโดยชอบพูดออกมาว่า.....สยามประเทศเป็นผู้รุกรานรัฐปัตตานีแล้วตีรวมมา เป็นของเรา...เด็กสามจังหวัดชายแดนจะคิดอย่างไรเมื่อผู้ใหญ่ขุดคุ้ยให้แตกแยก...คุณสนธิน่าจะหยุดการขุดคุ้ยเสียบ้างแล้วเปลี่ยนแนวทางความเห็นในเชิงปรองดองสมานฉันของคนในชาติจะดีกว่า...ในฐานะที่คุณสนธิเป็นสื่อ...คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้ยินสื่อพูดอย่างไรก็เชื่อตามนั้น...ในหน้าที่ของสื่อหากร่วมมือกันทุกแขนงเชิญชวนให้คนรักในความเป็นไทยและต่อต้านลัทธิการก่อการร้ายก็จะเกิดประโยชน์ไม่น้อย...สิ่งที่ชาติของเราขาดแคลนหนักในขณะนี้ก็คือสำนึกในความรักชาติของสื่อมวลชน...เรามี NGO ร้ายๆเยอะมาก...หากท่านผู้อ่านข้อความนี้ของผมเป็นนักท่องเน็ตเพื่ออ่านข่าวรอบโลกแล้วละก็จะเห็นว่ามี NGO ตัวแสบของไทยไปให้ข้อมูลและให้สัมภาษณ์ที่ทำให้ชาติเราติดลบในสายตาชาวโลกไม่น้อย...โดยเฉพาะ....นาย..ส...หลังจากนั่งดูข่าว...อ่านบทความและนั่งสมาธิแล้วผมก็วิเคราะห์ว่า จริยธรรมในชาติเราวิกฤตอย่างหนัก....คนมีไอคิวสูงขึ้น ขณะที่อีคิวต่ำลงเรื่อยๆไม่เว้นแม้แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง...อีโก้สูงกว่าอีคิว...................... ...................................................... เราอยากเห็นเด็กรุ่นใหม่เติบโตในสังคมอุดมปัญญา....มีจริยธรรมนำการศึกษา.......ผมฝันกลางวันหรือเปล่าครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Mr_Watt
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 09:34:37 AM » |
|
ความเห็นของคุณสนธิบางอย่างก็...ชี้นำเกินไป...คุณสนธิเองก็บอกว่า...ผมเป็นนักประวัติศาสตร์ แต่ความเห็นของผม(นายร็อค)...มองว่าคุณสนธิชอบขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ในเชิงไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าไรโดยชอบพูดออกมาว่า.....สยามประเทศเป็นผู้รุกรานรัฐปัตตานีแล้วตีรวมมา เป็นของเรา...เด็กสามจังหวัดชายแดนจะคิดอย่างไรเมื่อผู้ใหญ่ขุดคุ้ยให้แตกแยก...คุณสนธิน่าจะหยุดการขุดคุ้ยเสียบ้างแล้วเปลี่ยนแนวทางความเห็นในเชิงปรองดองสมานฉันของคนในชาติจะดีกว่า...ในฐานะที่คุณสนธิเป็นสื่อ...คนไทยจำนวนไม่น้อยที่ได้ยินสื่อพูดอย่างไรก็เชื่อตามนั้น...ในหน้าที่ของสื่อหากร่วมมือกันทุกแขนงเชิญชวนให้คนรักในความเป็นไทยและต่อต้านลัทธิการก่อการร้ายก็จะเกิดประโยชน์ไม่น้อย...สิ่งที่ชาติของเราขาดแคลนหนักในขณะนี้ก็คือสำนึกในความรักชาติของสื่อมวลชน...เรามี NGO ร้ายๆเยอะมาก...หากท่านผู้อ่านข้อความนี้ของผมเป็นนักท่องเน็ตเพื่ออ่านข่าวรอบโลกแล้วละก็จะเห็นว่ามี NGO ตัวแสบของไทยไปให้ข้อมูลและให้สัมภาษณ์ที่ทำให้ชาติเราติดลบในสายตาชาวโลกไม่น้อย...โดยเฉพาะ....นาย..ส...หลังจากนั่งดูข่าว...อ่านบทความและนั่งสมาธิแล้วผมก็วิเคราะห์ว่า จริยธรรมในชาติเราวิกฤตอย่างหนัก....คนมีไอคิวสูงขึ้น ขณะที่อีคิวต่ำลงเรื่อยๆไม่เว้นแม้แต่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง...อีโก้สูงกว่าอีคิว...................... ...................................................... เราอยากเห็นเด็กรุ่นใหม่เติบโตในสังคมอุดมปัญญา....มีจริยธรรมนำการศึกษา.......ผมฝันกลางวันหรือเปล่าครับ
เห็นด้วยกับท่าน Rock
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naisomchai
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 10:48:49 AM » |
|
นายสมชายมี 2 เรื่องครับ...
1) เรื่องตั้งเขตปกครองพิเศษ... มันเป็นเรื่องใหญ่กว่าการรื้อฟื้น ศ.อบต. ครับ... ระวังมันจะกลายพันธุ์ไปเป็นแบบเซิ้นเจิ้น หรือฮ่องกงในอดีต... ซึ่งวัตถุประสงค์ของการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษมันต่างกันกับที่เราประสบอยู่ครับ... ปรัชญาเบื้องหลังมันต่างกัน... แล้วเรื่องราวมันจะยุ่งยากตามมา...
อยากให้ลองพิจารณาในประวัติศาสตร์สากลครับ... หลายครั้งที่ UN จัดการประชุมหลายฝ่าย บางฝ่ายเป็นกลุ่มคน หรือขบวนการฯ... UN ไม่จัดโต๊ะประชุมที่เป็นเหลี่ยมครับ... หากเป็นเหลี่ยม จะมีตัวแทนของฝ่ายนั้น"ครองเหลี่ยมหนึ่งเหลี่ยมโต๊ะ"... แต่หากเป็นโต๊ะกลมฯ... ทุกคนไม่มี Boundary ครับ... การประชุมบางครั้ง นั่งเถี่ยงกันเรื่องเหลี่ยมโต๊ะเยฃนี่น ข้ามเดือนเชียวครับ... รายละเอียดท่านผู้การสุพินท์ ผู้การมะขิ่น หรือท่าน L/E คงมีอะไรอธิบายได้แยะครับ...
การตั้งเขตปกครองพิเศษ... กระทบถึงโครงสร้างเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรมแยะครับ... แล้วระวังจะโดนเรื่องรัฐธรรมนูญด้วยว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว แบ่งแยกไม่ได้... หากเริ่มแล้วหาที่จบไม่ได้... ระวังคนเริ่มเรื่องจะโดนไฟที่ตัวเองจุดเผาเอาครับ...
2) เรื่องท่าน สอ สิฯ... ท่านนี้นายสมชายเคยศึกษาพฤติกรรมมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือครับ... เอาแค่นุ่งผ้าขาวม้าเล่นน้ำที่สระของโอเรียลเต็ล วัตถุประสงค์แค่อยากเถียงกับคนดูและสระฯ อยากเถียงกับผู้จัดการฯ ว่าต้องการให้ตระหนักในวัฒนธรรมไทยครับ... ลองพิจารณาเรื่องความมีวุฒิภาวะด้วยครับ...
ผู้นำ NGO ที่ไม่มีใครกล้าละเลยความคิดคือท่านอานันท์ ปันยารชุน... ถึงแม้บางครั้งอาจดูเข้าใจยากครับ แต่พิจารณานานๆ อาจมีแง่คิดหลายอย่างที่ประดับสมองเรา... นายกฯ คงเข้าใจ... เลยขอคุยที่ทำเนียบไงครับ...
ว่าแต่ท่านจำลอง ศรีเมืองฯ... ค้านไม่ให้เอาหุ้นเบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ... พี่ๆเพื่อนๆ เห็นว่าอย่างไรเล่าครับ...
อีกนี๊ดดด... ท่านร็อคฯ... เป็นคนเดียวกับท่าน RockRiverArms เซียนหุ้นฯ หรือเปล่าครับ... นายสมชายนับถืออยู่...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1183
ออฟไลน์
กระทู้: 12698
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 11:46:22 AM » |
|
ผู้นำ NGO ที่ไม่มีใครกล้าละเลยความคิดคือท่านอานันท์ ปันยารชุน... ถึงแม้บางครั้งอาจดูเข้าใจยากครับ แต่พิจารณานานๆ อาจมีแง่คิดหลายอย่างที่ประดับสมองเรา... นายกฯ คงเข้าใจ... เลยขอคุยที่ทำเนียบไงครับ...
ว่าแต่ท่านจำลอง ศรีเมืองฯ... ค้านไม่ให้เอาหุ้นเบียร์ช้างเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ... พี่ๆเพื่อนๆ เห็นว่าอย่างไรเล่าครับ...
อีกนี๊ดดด... ท่านร็อคฯ... เป็นคนเดียวกับท่าน RockRiverArms เซียนหุ้นฯ หรือเปล่าครับ... นายสมชายนับถืออยู่...
เรียนน้าสมชายคับ มีคับปรัชญาจีนประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า อันความคิดของพญาอินทรีนั้น นกกระจอกยากที่จะหยั่งถึง ท่านอนันท์ ปันยารชุนนั้น ผมยอมรับนะคับว่ามีความคิดที่ล้ำลึกมากๆๆ โดยส่วนตัวผมชื่นชมท่านมากๆๆตั้งแต่สมัยผมยังเรียนม.ปลายอยู่เลยคับตอนที่คณะปฎิวัติโดยพลเอกสุจินดาแต่งตั่งท่านเป้นนายกรัฐมนตรี ท่านมีสิ่งหนึ่งที่ผู้นำจำเป้นต้องมีคือvision และประสบการณ์ในการเป็นที่ปรึกษาของบริษัทใหญ่ๆๆหลายแห่งย่อมบอกได้ว่าท่านผู้นี้คือกุนซือชั้นขงเบ่งได้เลยนะคับ นี้คือความคิดส่วนตัวผมนะ ส่วนเรื่องเบียรช้าง จากการได้อ่านหนังสือหลายๆๆเล่มและหาข้อมูลนิดหน่อยเกี่ยวกับทางเจ้าของเบียรช้างซึ้งก้คือคุณเจริญ ศิริวัฒนะกูล ผู้ได้ฉายาว่า จอมยุทธผู้เหยียบหิมะไร้ร่องรอย คือทำการใดกว่าคนอื่นจะรู้ก็สำเร้จการนั้นๆๆไปเรียบร้อยและเก่งในการใช้คนมากๆๆโดยที่ตัวเองมิต้องออกหน้าทั้งยังเป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย หากท่านใดได้อ่านการต่อสู้ในการประมูลโรงสุรานะคับและการกำเนิดหงส์ทองและเบียรช้างแล้ว ท่านผู้นี้ใช้กลยุทธรที่แยบยลโดยเรียกว่าป่าล้อมเมืองรวมทั้งมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องการระดมทุนต่างๆๆ อย่างที่เราๆๆท่านๆๆทราบนะคับธุระกิจและการเมืองเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ได้ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพราะต่างก็พึ่งพิงและอาศัยซึ่งกันและกัน เราต้องแยกคำว่าค้าขายกับธุระกิจออกจากกันนะคับ ค้าขายใครก็ค้าขายได้แต่ธุระกิจคุณจะเดินดุมๆๆเข้าไปทำเลยนั้นยากคับ การที่ท่านจำลองออกมาค้านในการเข้าตลาดหลักทรัพย์นั้นที่ผมต้องกล่าวถึงเจ้าของเบียรช้างก่อนเพราะอยากให้ลองวิเคราะว่าธุระกิจที่มีเจ้าของเช่นนี้มีฝีมือการบริหารขนาดนี้และมีกำลังภายในขนาดนี้ทำไมถึงนำบริษัทเข้าตลาดหุ้น สิ่งหนึ่งที่ผมติดตามข่าวคือเพื่อที่จะสามารถต่อสู้กับต่างชาติได้โดยระดมทุน เบียรช้างขายทั้งในแถบเอเชียและทั่วโลกนะคับ การที่จะสามารถต่อสู้กับตลาดในต่างประเทศได้ต้องใช้ทุนค่อนข้างสูงเลยละคับเพราะเบียรต่างชาตินั้นทุนหนากว่าเราและการที่เราจะไปบุกตลาดเค้าย่อมต้องสู้หนักหน่อยผมมองว่าคุณเจริญมิได้เล็งว่าจะขยายตลาดภายในประเทศเป็นเหตุผลหลักในการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์แต่เล็งถึงตลาดต่างประเทศเป็นหลักมากกว่าคับ ธุรกิจเบียรช้างในบ้านเราเป็นอะไรที่ครบวงจรในตัวเองอยู่แล้วนะคับ มีทั้งนาข้าวโรงเบียรโรงแก้วโรงกระดาษเป็นของตัวเองฉะนั้นถ้าจะเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อตลาดในประเทศผมว่ามันไม่จำเป็นเลยแต่ถ้ามองตลาดต่างประเทศสิเหตุผลมันเป็นไปได้ เพื่อที่จะสร้างแบรนไทยให้ก้าวสู่ตลาดโลกต้องใช้ทุนมหาศาล ผมมองอย่างนี้นะคับท่านจำลองมองในมุมมองเดียวคือศิลธรรมมองว่ามันมอมเมาเข้าตลาดแล้วมันไม่ดี ท่านไม่ได้มองในมุมมองนักธุระกิจไงคับท่านมองอีกมุมมองหนึ่ง ผมขอตอบเหมือนสื่อบางสือคือถ้าจะค้านต้องค้านทั้งหมดจะเลือกปฎิบัติไม่ได้จะค้านเบียรช้างอย่างเดียวไม่ได้ต้องค้านทั้งหมดทั้งอาบอบนวดบุหรี่เหล้าเบียรยี่ห้ออื่นหวยบนดิน ถ้าท่านจะค้านนะค้านตั้งกะสลากกินแบ่งรัฐบาลนะได้แล้วมันก็ผิดศิลเหมือนกันละท่าน มองอีกมุมมองหนึ่งท่านจำลองเป็นคนที่พูดแล้วมีคนฟัง อาจจะมีการยืมมีดฆ่าโคก็ได้ใครจะรู้คับ แต่ผมเชื่อนะคับว่าคุณเจริญนะไม่ใช่เสือไม่ใช่สิงแต่เป็นสุกรดั่งที่หลายๆๆท่านเคยคิดแต่เป็นหมูและเป็นหมูเขี้ยวตันคับไม่ได้เคี้ยวง่ายๆๆหรอกคนที่มาจากลูกพ่อค้าขายผัดไทยต่อสู้ดินรนชีวิตเลี้ยงครอบครัวขายทุกอย่างตั้งแต่เด็กย่านสำเพ็งนะเคลือข่ายสายสัมพันธ์และมีบารมีทั้งยังมีเงิน ไม่ให้ท่านเคี้ยวง่ายๆๆแน่นอนคับ ที่สำคัญคุณเจริญมีกุซือดีมากๆๆและใช้คนถูกที่ถูกทางด้วย นี้คือความคิดเห็นส่วนตัวผมนะคับ ด้วยปัญญาอันน้อยนิดและประสบการณ์ยังอ่อนด่อยหากเทียบกับพี่ๆๆหลายๆๆท่าน หากวิจารณ์สิ่งใดผิดไปขอน้อมรับคำติชมและขออภัยไว้ในที่นี้ด้วยนะคับ แค่อยากออกความเห็นเท่านั้นนะคับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 11:51:13 AM โดย axolot »
|
บันทึกการเข้า
|
คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง
เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
|
|
|
naisomchai
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 12:07:29 PM » |
|
นายสมชายเคยนั่งอ่านกลยุทธ์ต่อกรกันระหว่างเบียร์ใหญ่สองค่ายนี้... เหมือนกับหนังมังกรหยกเลยเชียวครับ... ว่ากันตั้งแต่แย่งขวดมาทุบทิ้ง แย่งซื้อที่มาทิ้งๆขว้างๆเพื่อกันท่า แย่งวัตถุดิบ แย่งตลาด... ฯลฯ... ในที่สุดสิงห์ถูกทาบรัศมี
อ่านไปแล้วก็นั่งนึกครับ... คนที่คิดการณ์ใหญ่มากๆได้เนี่ย ต้องมีพลังในใจ และต่อสู้กับตัวเองได้เก่งมากครับ... คนกลุ่มนี้... Self Motivation ในใจต้องสูงมากจริงๆ ครับ...
คนปรกติทำงานหนักได้สักพักนึง มีเงินเก็บพอซื้อบ้าน ซื้อรถ พอส่งลูกเรียนหนังสือเมืองนอกได้... แล้วเหลือเงินกินเลี้ยงชีพได้โดยไม่ต้องทำงานอีกซัก 30 ปี... ก็มักหาวิธีลงจากหลังเสือ เกษียนตัวเอง... เล่นหุ้นพอสนุกสนานไปวันๆ... ซื้อของ ท่องเที่ยว หาความสุขในชีวิต...
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 12:15:19 PM โดย นายสมชาย(ฮา) »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
sobpong
Full Member
 
คะแนน 3
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 150
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 12:28:51 PM » |
|
ฮิ ฮิ ฮิ อย่าไปไกลนัก มณฑลของไทย ( มณฑลเทศาภิบาล ) เป็นราชการส่วนภูมิภาคเหนือกลุ่มจังหวัด ( มณฑล จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน ) มีข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลเป็นผู้ว่าการ ดูแลจังหวัดอีกทีหนึ่ง ส่วนคำว่าพิเศษ มีได้สองนัย ถ้ากลุ่มจังหวัดอื่นไม่ได้ยกเป็นมณฑล กลุ่มจังหวัดที่ยกก็พิเศษแล้ว ไม่ต้องถึงกับความหมายที่ใกล้เคียงกับ " รัฐ " หรือมีอิสระใกล้เคียงรัฐ เอามณฑลแบบไทยก็พอ กรุงเทพมหานครก็เป็นมณฑลพิเศษได้
***** อนึ่งในรัฐรวมอำนาจเข้าสู่ส่วนกลางอย่างจีน มลฑลพิเศษมีหลายแบบ มหานครปักกิ่ง ก็เป็นมณฑลพิเศษ ฮ่องกง มาเก๊าก็เป็นมณฑลพิเศษ ในระดับที่แตกต่างกัน ใต้หวันเป็นมณฑลพิเศษอีกแบบหนึ่งของจีนที่มี 30 กว่าประเทศรับรองในฐานะประเทศ หรือรัฐอิสระ รัฐกระจายอำนาจเช่นสวิซส์ มลฑล ( caton ) เทียบเท่ากับรัฐ ***
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2005, 12:32:04 PM โดย sobpong »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1960
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 22591
"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."
|
 |
« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2005, 03:00:32 AM » |
|
 ผมรับฟังทุกฝ่ายคับ... ในฐานะที่เจียมตนว่าด้อยทั้งวุฒิภาวะและความรู้คับ... แต่ที่อยากฟังมากคือความเห็นของผู้นำพี่น้องชาวมุสลิมคับ... 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
   
คะแนน 586
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 8574
|
 |
« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2005, 11:15:33 AM » |
|
ดูรายการคุณสนธิ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยิ่งไปกันใหญ่ครับ  เปรยเป็นนัยว่า อเมริกาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ไม่สงบที่เกิดขึ้น ดูไปแล้วแปลกเกินจริงไปหน่อย ทั้งบึ้ม บาหลี และจ้างโจรมาไล่ยิงชาวบ้านที่ภาคใต้  คล้ายกะหลังเหตุการณ์ 911 ใหม่ๆ ที่ผู้นำฝ่ายต่อต้านอเมริกา ว่าเป็นฝีมืออิสราเอล ว่างแผนก่อวินาศกรรมเพื่อใส่ร้ายป้ายสี โลกมุสลิม  ส่วน รายละเอียดเล็กน้อยในแง่มุมต่างๆ นำเสนอไว้อย่างน่าฟังดีครับ เห็นด้วยกะพี่สมชาย ควรดูที่มาที่ไปของคนนำเสนอบ้าง เมื่อก่อนหนี้สิ้น ค่อนข้างเยอะ พอ ทรท . เป็นรัฐบาลชุดที่แล้ว แกด่าทุกคน ยกเว้น นายก ชื่นชมนายกตลอด จำได้ว่าแม้เหตุการร์ภาคใต้ แกยังชื่นชม นายก ว่าท่านให้โอกาส ขจก. กลับตัว ถอนตัว ไม่ไปบีบมากจนเกินไปนัก ทุกเรื่อง อิงนายกตลอด วันเกิดแก นายก ไปอวยพร ส่วนตัวที่บ้านเลย พอลืมตาอ้าปากได้ ก็กลับมา วิจารณ์อีกรูปแบบ อัตตา ไม่ว่าใครก็ต้องเผชิญกะมัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
....ตามล่า...อีตอแหล
|
|
|
DACK
Full Member
 
คะแนน 1
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 370
{{{ }}}
|
 |
« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2005, 11:34:27 AM » |
|
ถือเป็นการแสดงเจตนาที่ดีอย่างหนึ่งครับ ส่วนถูกใจท่านผู้มีอำนาจหรือเปล่าไม่รู้ครับ อย่างน้อยก็เป็นการแสดง ความเห็นในการแก้ปัญหาครับพร้อมเสนอวิธี ดีกว่าพวกที่ออกมาวิจารณ์แล้วไม่เสนอวิธีแก้ปัญหาเยอะครับ ทนๆฟังไปเถอะครับต่อไปอาจมีวิธีดีๆก็ได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ถ้าคุณประมาทและไม่รู้จักมันดีพอ มันจะอันตรายสำหรับคุณเสมอ
|
|
|
|