เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 15, 2025, 04:52:34 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ภาษีที่อยู่อาศัย ของรัฐบาลทักษิณ  (อ่าน 3335 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เหน่ง
Sr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721

ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว


« เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 11:01:33 AM »

ขอโทษครับที่ขอนอกเรื่อง    ไม่ทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆทราบหรือยังว่าปีหน้ารัฐบาลทักษิณจะเริ่มเก็บภาษีที่อยู่อาศัยและภาษีที่ดิน   ไม่ค่อยเห็นข่าวเรื่องนี้เลย   บ้านของท่านที่อยู่อาศัยจะต้องเสียภาษีตามราคามูลค่าทรัพย์สิน   อยู่มาตั้งแต่เกิดไม่เคยต้องเสียภาษี  Angry         ท่านที่มีที่ดินจะถูกเก็บตามราคาประเมินในอัตราที่สูงกว่าที่อยู่อาศัย   ตอนซื้อเราก็จ่ายค่าโอนมหาโหดแล้วทำไมยังต้องมาเก็บกันอีก     รัฐบาลนี้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเลยต้องหาทางรีดเงินจากพวกเราทุกทาง       ไม่น่าเลือกมันเลย   Angry  ตอนนั้นไม่รู้จักเลือกใคร  Sad  เศร้าจริงๆ

บันทึกการเข้า
GZ75
Jr. Member
**

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 69


« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 12:49:17 PM »

เรื่องภาษีบำรุงท้องที่นี่ ทุกทีเทศบาล หรือ อบต. เขาเก็บอยู่แล้วนี่ครับ หรือจะเก็บเข้ารัฐต่างหากอีกที.....
บันทึกการเข้า
บาร์ท รักในหลวง
หิวดินปืน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 249
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6306


Mountain Man


« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 01:11:01 PM »

 เสียภาษีบำรุงอย่างที่ว่ามันก็ปกตินะครับ แต่เสียภาษีค่าที่อยู่อาศัยและที่ดินนี่มันยังไงๆนะ ตกใจ ก็แสดงว่า ใครที่มีบ้าน มีที่ดิน ต้องเสียภาษีให้รัฐงั้นหรือ Huh อย่างงี้ขอทานก็สบายสิ ไม่ต้องเสียภาษีบ้าน เพราะไม่มีบ้านอยู่ Huh ส่วนใครที่มีบ้านเป็นหลักแหล่งก็ต้องเสียภาษีกันจนอาน  ใครไม่เสีย ทุบบ้านทิ้ง Huh ผมอ่านแล้วได้ใจความแบบเนี้ยะ ตามที่เจ้าของกระทู้โพสท์มา Huh
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2005, 02:03:45 PM โดย บาร์ท » บันทึกการเข้า

Drt2502
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 330


"มีแล้วไม่ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี"


« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 01:41:32 PM »

 Grin Grin Grinภาษีตัวนี้มันส่งเสริมนายทุนขนาดใหญ่ครับ แต่คิดในทางกลับกัน บรรดาเศรฐีที่มีบ้าน 100 ล้านเดือดร้อน แน่ๆ คนจนที่มีรายได้ไม่ถึงเพดานไม่น่าจะต้องเสีย...สงสัย งานนี้ คนรับใช้มีบ้านหลังละ 10 ล้าน แน่ โดยเจ้าของตัวจริงเป็นผู้อาศัย Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

To be leader is not only " Instructiion " It's " Responsibility "
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 02:30:27 PM »

Grin Grin Grinภาษีตัวนี้มันส่งเสริมนายทุนขนาดใหญ่ครับ แต่คิดในทางกลับกัน บรรดาเศรฐีที่มีบ้าน 100 ล้านเดือดร้อน แน่ๆ คนจนที่มีรายได้ไม่ถึงเพดานไม่น่าจะต้องเสีย...สงสัย งานนี้ คนรับใช้มีบ้านหลังละ 10 ล้าน แน่ โดยเจ้าของตัวจริงเป็นผู้อาศัย Grin Grin Grin
ผมกล้าท้าพนันเลยคับ10ต่อ1 ถ้าคุณมีบ้านระดับ100ล้านจริงๆๆนะคุณไม่เสียหรอกคับถึงเสียก็น้อยมากๆๆ   พูดตามความจริงนะคับคนเราถ้าไม่โกงก็ไม่รวยอยู่ที่ว่าจะโกงแบบไหนต่างหากคับ โกงแบบถูกกฎหมายหรือเปล่าหรือว่าโกงกันหน้าด้านๆๆแบบนักการเมืองบ้างคน  ตามหลักประวัติศาสตร์กฎหมายที่เขียนโดยคนรวยก็เพื่ออำนวยผลประโยชน์แก่คนกลุ่มนั้นๆๆคับไม่มีใครบ้าพอที่จะออกกฎหมายหรือกฎเกณมาฆ่าตัวเองหรอกคับ คนที่จะตายนะคือคนจนคับคนรวยนะไม่เดือนร้อนหรอก   หากมีความรู้ด้านบัญชีกับการเงินนะคับท่านจะทราบดีเลยว่าช่องว่างกฎหมายยังมีอีกเยอะให้คนรวยมันหลบหลีกได้
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
Nakin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 115
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3905


รักทุกคนเลย ......


« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 02:49:11 PM »

Umm ...... Who   have   the   correct   and   true   information   about   this   issue  ,   please   post   in   this   thread   !   

Thanks   in   advance   ,       Huh
บันทึกการเข้า

Happy   shooting    ......   

พูดจริง     ก็หาว่า    โกหก     ........     พูดตลก    ก็หาว่า     หลอกลวง
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 03:05:47 PM »

    ผู้จัดการรายวัน - กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เข้าที่ประชุม ครม. มีนาคมนี้ หลังได้ข้อยุติเรื่องอัตราภาษี กำหนด 2 อัตรา สิ่งปลูกสร้างเพื่ออยู่อาศัย และที่ดินว่างเปล่า เก็บไม่เกิน 0.1% ส่วนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการพาณิชย์เก็บไม่เกิน 0.3% เพราะสร้างรายได้ต่างกัน หวังสร้างความชอบธรรมให้ประชาชนทั่วไป
       
       หลังจากที่คณะกรรมการกลั่นกรอง ชุดที่มีนายชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อทบทวนเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. ... ใหม่ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นแกนหลัก และให้เวลา 90 วัน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ขณะนี้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานกฤษฎีกา มีความเห็นไปในทางเดียวกันแล้ว รอเพียงให้กระทรวงการคลังเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เท่านั้น
       
       นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอ พ.ร.บ.ดังกล่าวให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา ภายในเดือนมีนาคม 2548 นี้ หรือ หลังจากที่ตั้งรัฐบาลชุดใหม่เสร็จสิ้น เพื่อให้สามารถเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมแรก และประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
       
       สำหรับร่างกฎหมายนี้ ได้ปรับปรุงเรื่องการกำหนดอัตราภาษี จากที่มอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาอัตราภาษีของตนเอง ในเพดานสูงสุดไม่เกิน 0.1% ของมูลค่าทรัพย์สิน เพียงอัตราเดียว เป็น 2 อัตรา คือ ในส่วนของที่อยู่อาศัย โรงเรือนว่างเปล่าและที่ดินซึ่งมีไว้เพื่อประกอบกสิกรรม ให้จัดเก็บในอัตราไม่เกิน 0.1% ของมูลค่าทรัพย์สิน
       
       ขณะที่ ในส่วนของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีไว้เพื่อการพาณิชย์ ให้เก็บภาษีในอัตราไม่เกิน 0.3% ของมูลค่าทรัพย์สิน เนื่องจากที่ดินเชิงพาณิชย์สามารถสร้างรายได้ได้มากกว่า จึงควรเสียภาษีในอัตราที่มากกว่า
       
       ทั้งนี้ ที่ผ่านมา อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถือเป็นประเด็นความขัดแย้งระหว่าง กระทรวงมหาดไทย กับกระทรวงการคลัง เพราะมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน โดยอัตราภาษีที่กระทรวงการคลัง เสนอไว้ในครั้งก่อน คือ ให้มีการจัดเก็บอัตราภาษีในอัตราเดียว คือไม่เกิน 0.1% ของมูลค่าทรัพย์สิน จากปัจจุบันที่เก็บอยู่ในอัตรา 12.5% ของค่าเช่า แต่กระทรวงมหาดไทยเห็นว่า ควรมีการกำหนดอัตราภาษีมากกว่า 1 อัตรา เพราะการเก็บอัตราเดียวไม่มีความเป็นธรรม
       อย่างไรก็ตาม ได้มีการประมาณการตัวเลขรายได้เบื้องต้น ของการจัดเก็บภาษีตามกฎหมายฉบับใหม่ ว่าหากมีการจัดเก็บภาษีในอัตรา 0.1%จะทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น 46,891 ล้านบาท หรือหากเก็บในอัตรา 0.05% รายได้จะเพิ่มขึ้น 18,499 ล้านบาท หากจัดเก็บในอัตรา0.025% รายได้จะเพิ่มขึ้น 4,304 ล้านบาท
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.. ที่จะมีการประกาศใช้ จะส่งผลให้มีการยกเลิกการจัดเก็บภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน และภาษีบำรุงท่องที่ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ใหม่ กำหนดให้ องค์การปกครองท้องถิ่น เป็นผู้มีหน้าที่จัดเก็บภาษีทรัพย์สินจากผู้ประชาชนในท้องถิ่น และกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีทรัพย์สินขั้นสูงสุดจะไม่เกิน 0.1 % และ 0.3% ของมูลค่าทรัพย์สินประเภทที่อยู่อาศัยและที่ดินว่างเปล่า และที่ดิน สิ่งปลูกสร้างที่มีไว้เพื่อการพาณิชย์ ตามลำดับ ซึ่งได้รับการประเมินโดย สำนักงานที่ดิน กรมธนารักษ์ ธนาคาร และ องค์การปกครองท้องถิ่น
       
       สำหรับการกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีในอัตราเดียว คือ0.1 % นั้น ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อประชาชน เนื่องจากจะเกิดความแตกต่าง ระหว่างสิ่งปลูกสร้างซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย และสิ่งปลูกสร้างในทางธุรกิจ เพราะสิ่งปลูกสร้างเพื่อประกอบธุรกิจก่อให้เกิดรายได้ และสร้างมลพิษมากกว่า
       
       นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้ที่ซื้อบ้านใหม่และสร้างบ้านใหม่รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อบ้านในโครงการบ้านจัดสรร เพราะผู้ประกอบการได้มีการบวกภาษีต่างๆ ไว้ในต้นทุนบ้านก่อนขายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาษี ที่ดิน ค่าธรรมเนียมการโอน ภาษีธุรกิจเฉพาะ ฯลฯ จึงเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคเกินไป

ไม่มั่นใจใช่อันนี้เปล่านะคับ Wink
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
เหน่ง
Sr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721

ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว


« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 05:35:15 PM »

ใช่เลยครับอันนี้แหละผมอ่านเจอในหนังสือพิมพ์   ก็คือบ้านที่เราอยู่อาศัยก็ต้องเสียภาษีด้วย 0.1% ของราคาทรัพย์สินซึ่งเราไม่เคยต้องเสียมาก่อน      ผมเห็นด้วยว่าพวกที่รวยๆมีบ้านเป็น 100 ล้านบาท  เขามีวิธีหลีกเลี่ยงครับ  Embarrassed ไม่เหมือนคนทำงานรับเงินเดือนเนี่ยจ่ายกันเต็มๆ     ผมไม่เข้าใจว่าตอนโอนบ้านหรือที่ดินก็ต้องจ่ายค่าโอนแพงมากแล้วยังจะมาเก็บจากเราอีก  Angry
บันทึกการเข้า
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 05:40:48 PM »

เรื่องภาษีบำรุงท้องที่นี่ ทุกทีเทศบาล หรือ อบต. เขาเก็บอยู่แล้วนี่ครับ หรือจะเก็บเข้ารัฐต่างหากอีกที.....


ใช่ครับ ผมก็ทำงาน อบต. เขาเรียกว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินครับ แต่เขาจะไม่เก็บพื้นที่ที่เป็นบ้านพักอาศัยนะครับแต่จะเก็บเฉพาะโรงเรือนหรือที่ดินที่ก่อให้เกิดรายได้ครับ Grin
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 05:48:10 PM »

ใช่เลยครับอันนี้แหละผมอ่านเจอในหนังสือพิมพ์   ก็คือบ้านที่เราอยู่อาศัยก็ต้องเสียภาษีด้วย 0.1% ของราคาทรัพย์สินซึ่งเราไม่เคยต้องเสียมาก่อน      ผมเห็นด้วยว่าพวกที่รวยๆมีบ้านเป็น 100 ล้านบาท  เขามีวิธีหลีกเลี่ยงครับ  Embarrassed ไม่เหมือนคนทำงานรับเงินเดือนเนี่ยจ่ายกันเต็มๆ     ผมไม่เข้าใจว่าตอนโอนบ้านหรือที่ดินก็ต้องจ่ายค่าโอนแพงมากแล้วยังจะมาเก็บจากเราอีก  Angry

ซวยสิครับ .... บ้านผมเดิมซื้อมาวาละไม่กีตังค์ อยู่ ๆ มา ๓๐ ปี ความเจริญมันเข้ามาล้อมเอง ตอนนี้วาละหลายหมื่น ผมก็โดนภาษีอานเลย...

...
เดือนแรกของปีใหม่ ไทยเราก็ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดแล้วครับ ... คือสั่งของเข้า มากกว่าส่งของออก ... ถ้าจะดูให้น่ากลัวก็ดูผลของวิกฤตเศรษฐกิจ ๒๕๔๐ แต่จะดูให้ไม่น่ากลัว ก็ต้องคิดว่ายังมีเวลาอีกหลายเดือน ต้องเร่งส่งออกครับ

แต่... ภาษีสรรพษามิตเก็บได้ไม่เข้าเป้าครับ ซ้ำในปีภาษีนี้มีการเพิ่มรายได้พึงประเมินในการเสียภาษี มีกองทุนระยะยาวใช้ลดภาษีได้ ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้รายได้ลดลง (แต่รัฐหวังว่าคนจะมาเสียภาษีมากขึ้น) .... สรุป รายได้ลด

และ... สารพัดนโยบายใช้เงินที่หาเสียงไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการผู้สูงอายุ เงินเดือนผู้เกษียณ สารพัดเอื้ออาทร อภิมหาโปรเจ็ค และความพยายามในการลดค่าโทลเวย,รถไฟฟ้า ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ใช้เงินทั้งนั้นครับ ... เงินภาษีที่เก็บไม่เข้าเป้านี่ล่ะ ...

รายได้ลด รายจ่ายเพิ่ม ... บริษัทนี้น่าเป็นห่วงครับ ... ยิ่งมี CEO อัตตาสูงแบบนี้ ยิ่งหนาวครับ

อย่างที่เคยบอก (กระทู้ไหนสักอัน) ... กลยุทธปีนี้ "ประหยัดไว้ก่อน แม่สอนไว้" ครับ
บันทึกการเข้า

jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 01, 2005, 05:55:30 PM »

เรื่องภาษีบำรุงท้องที่นี่ ทุกทีเทศบาล หรือ อบต. เขาเก็บอยู่แล้วนี่ครับ หรือจะเก็บเข้ารัฐต่างหากอีกที.....


ใช่ครับ ผมก็ทำงาน อบต. เขาเรียกว่าภาษีโรงเรือนและที่ดินครับ แต่เขาจะไม่เก็บพื้นที่ที่เป็นบ้านพักอาศัยนะครับแต่จะเก็บเฉพาะโรงเรือนหรือที่ดินที่ก่อให้เกิดรายได้ครับ Grin


 สำหรับร่างกฎหมายนี้ ได้ปรับปรุงเรื่องการกำหนดอัตราภาษี จากที่มอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาอัตราภาษีของตนเอง ในเพดานสูงสุดไม่เกิน 0.1% ของมูลค่าทรัพย์สิน เพียงอัตราเดียว เป็น 2 อัตรา คือ ในส่วนของที่อยู่อาศัย โรงเรือนว่างเปล่าและที่ดินซึ่งมีไว้เพื่อประกอบกสิกรรม ให้จัดเก็บในอัตราไม่เกิน 0.1% ของมูลค่าทรัพย์สิน
 
 ขณะที่ ในส่วนของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีไว้เพื่อการพาณิชย์ ให้เก็บภาษีในอัตราไม่เกิน 0.3% ของมูลค่าทรัพย์สิน เนื่องจากที่ดินเชิงพาณิชย์สามารถสร้างรายได้ได้มากกว่า จึงควรเสียภาษีในอัตราที่มากกว่า
 
...
 
 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.. ที่จะมีการประกาศใช้ จะส่งผลให้มีการยกเลิกการจัดเก็บภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน และภาษีบำรุงท่องที่ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ใหม่ กำหนดให้ องค์การปกครองท้องถิ่น เป็นผู้มีหน้าที่จัดเก็บภาษีทรัพย์สินจากผู้ประชาชนในท้องถิ่น และกำหนดอัตราการจัดเก็บภาษีทรัพย์สินขั้นสูงสุดจะไม่เกิน 0.1 % และ 0.3% ของมูลค่าทรัพย์สินประเภทที่อยู่อาศัยและที่ดินว่างเปล่า และที่ดิน สิ่งปลูกสร้างที่มีไว้เพื่อการพาณิชย์ ตามลำดับ ซึ่งได้รับการประเมินโดย สำนักงานที่ดิน กรมธนารักษ์ ธนาคาร และ องค์การปกครองท้องถิ่น

อ่านดูแล้วได้ความว่า ของใหม่ ครับ และเก็บหมด ไม่เลือกหน้าครับ ....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 01, 2005, 05:58:40 PM โดย jakrit » บันทึกการเข้า

แดง
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 05:34:21 PM »

ภาษี ... ร้อยละ 0.1 พันละ 1 บาท ....  ล้านละ 1000 บาท ... บ้าน พร้อมที่ดิน ทั่ว ๆ ไป  60 ตรว บ้าน 2 ชั้น ธรรมดา ชาน เมือง .. ประมาณ 3-5 ล้านบาท .. ภาษี 3000-5000 บาท ... อยู่ใกล้มาหน่อย .. ที่ดินวาละ 20000 - 30000 บาท .. มีบ้าน มรดกเจ้าคุณทวด ที่เดิมเป็น ร่องสวน หมาก + มะพร้าว แถวบางขุนนนท์   เดิม ...    100 ตรว รวมบ้าน เก่า ๆ ก็ ราว 5-6 ล้าน ..  ต้องจ่ายภาษี ปีละ ร่วมหมื่น ... ราคาประเมินเพิ่ม ภาษีก็เพิ่มตาม ..... อีกหน่อย ต้องขายที่มาจ่ายภาษีกันบ้าง แล้ว
บันทึกการเข้า
sobpong
Full Member
***

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 150


« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 04, 2005, 09:58:39 PM »

อย่าเพิ่งตื่นเต้น  เป็นการย้อนยุคกฎหมายโบราณนิดหนึ่ง

               กฏหมายใหม่ที่ว่านี้เป็นการรวม พรบ.ภาษีบำรุงท้องที่เข้ากับ พรบ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน   เป็นภาษีทรัพย์สิน  เดิมที่จะรวมภาษีป้ายเข้าไปด้วยแต่ไม่รู้กลใดได้ตัดออกไป

               ที่นี้ภาษีโรงเรือนและที่ดินเดิม เขาเก็บภาษีบ้านอยู่อาศัยด้วยยกเลิกไปช่วง พ.ศ. 2507
               ปัจุบัน   อาคารร้านค้าที่ดินที่ก่อให้เกิดรายได้    เขาเก็บในอัตราตีราคาออกมาเป็นค่าเช่า คือ 12.5 % ต่อปี      ยกตัวอย่างบ้านเช่าหลังหนึ่งผู้เช่าจ่ายค่าเช่าเดือนละ  3,000 บาท ทั้งปี    เจ้าของบ้านจ่ายค่าภาษีปีนั้น  คือ   4,500 บาท  
 ภาษีใหม่  สมมติไอ้บ้านเช่าราคา 3,000 บาท ต่อเดือนหลังนี้     มีราคา 1,000,000 บาท   รวมราคาที่ดินแล้ว    ค่าภาษีต่อปี  
ไม่เกิน 0.3 % ก็คือ จ่ายภาษีทั้งปี  ไม่เกิน 3,000 บาท   คือจ่ายถูกลง  เทศบาลอาจจะเก็บเขาแค่ 1,500 บาท ก็ได้ตามกฏหมาย  แต่รายที่ไม่เคยจ่ายเลยคือบ้านอาศัยอยู่เองที่มีจำนวนมาก  ต้องจ่ายภาษีด้วย อัตรา 0.1 % บ้านอาศัยอยู่เองสมมุติหลังที่เจ้าของอยู่เองห้องติดกัน  ราคา  1,000,000 บาท เท่ากัน  ต้องจ่ายไม่เกิน 1,000 บาท ต่อปี  เดิมไม่เคยจ่าย
               สรุป ท้องถิ่นมีรายได้มากขึ้นคนรวยจ่ายน้อยลง    คนจนต้องจ่ายภาษีด้วย  1 ใน 3 ของคนรวย

               ภาษีที่ดินเดิมเขาจะเก็บอัตราแตกต่างกันไปแล้วแต่ละจังหวัด   ยกตัวอย่าง จังหวัดปัตตานี  ไร่นา  ไร่ละ 4  บาท   ที่ดินสวนไม้ยืนต้น ไร่ละ 8 บาท   ที่ว่างเปล่าไร่ละ  16 บาท    เดิมที่จ่ายแค่   40 บาท    ภาษ๊ใหม่คิดอัตรา 0.1 % ต่อปี   นายมะยูโซะ   อาแวกือจิ  มีที่ดินติดถนนใหญ่ทำนา  จำนวน 5 ไร่  ที่ดินถัดออกไปอีก 5 ไร่  ที่ดินจังหวัดประเมินไว้  5 ไร่ติดถนน ( 40 เมตร ) ราคาไร่ละ 300,000 บาท   ถัดไปอีก 5 ไร่ ราคา  ไร่ละ 40,000 บาท   ต่อไปต้องจ่าย อัตรา 0.1 %  คือ ไม่เกิน  1,700 บาท  เพราะราคารวม   1,700,000 บาท ครับ
              
                 รัฐบาลนี้ไม่ส่งเสริมราชการส่วนท้องถิ่น    แต่ต้องการเพิ่มความเข็มแข็งให้กับราชการส่วนกลางและราชการส่วนภูมิภาคโดยให้ กทม. เทศบาล และอบต.ไปถอนขนห่านกันเองตามสะดวก    เพื่อเพิ่มรายได้ท้องถิ่นและลดภาระรัฐบาล ย้อนยุคอีกนะแหละ
                  
                 สะหม้อ ( ตัวตลกชาวบ้านเป็นมุสลิม )บ่น
"ให้เหร่า ( เรา : อบต.) ทำงานทุกอย่างแล้วแต่รัฐบาลจะสั่ง   ให้เบี้ยเหร่าเหมือนขอทาน แล้วบังคับให้เหร่าไปขูดเอากับชาวบ้านอีกเล่า"
                
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 05, 2005, 08:55:17 AM โดย sobpong » บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 21 คำสั่ง