ไพโรจน์ขอเวลา 2-3 เดือนสรุปปัญหาไฟใต้เสนอนายกฯ เผย 25 ส.ส.มีทีมงานแฝงตัวลงพื้นที่เจาะข้อมูลจากชาวบ้านเพื่อได้ข้อมูลที่แท้จริง
วันนี้ (1 มี.ค.) ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคใต้ของ 25 ส.ส.ที่หลายฝ่ายระบุว่ารัฐบาลไม่จริงจังกับการแก้ไขปัญหาเพราะลงพื้นที่วันเดียวกลับว่า เป็นการลงพื้นที่ที่เป็นทางการเพราะเราต้องฟังข้อมูลจากส่วนราชการในพื้นที่ หากต่างคนต่างลงไปเจ้าหน้าที่ก็ต้องมาบรรยายทั้ง 25 ชุดซึ่งจะเสียเวลา ก็ต้องไปรับฟังข้อมูลเบื้องต้นพื้นฐาน ซึ่งบางคนลงไปพื้นที่ซึมซับมาแล้วแต่บางคนเพิ่งเป็นอาสาสมัครที่ลงไปใหม่เพราะสภาพภูมิอากาศทางภาคใต้ภูเขา ทะเล ติดชายแดนชาวบ้านก็มีหลากหลาย ต่างนิสัย และยังพบว่าชาวบ้านส่วนหนึ่งไปๆ มาๆ ข้ามชายแดนมาเลเซีย ซึ่งไม่มีใครรู้ปัญหาดีเท่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่จะได้ข้อมูลที่แท้จริง แต่ทีมงานของ 25 ส.ส.ก็มี ไม่ใช่ไปทำงานคนเดียว
ทีมงานของผมก็เข้าไปในพื้นที่ 20-30 คน ซึ่งเป็นคนธรรมดา เช่น อดีตข้าราชการ นายอำเภอที่เป็นอิสลามก็ลงไปพื้นที่เงียบๆ ไม่มีใครรู้ตั้งแต่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ แต่ไม่ได้ใช้ชื่อจริง ใช้ชื่อแฝงเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง ซึ่งตนเองไปก่อนแล้วตั้งแต่ได้รับมอบหมาย แต่ถ้าลงไปใช้ชื่อนายไพโรจน์อาจจะได้รับข้อมูลที่บิดเบือน ส.ส.โคราช กล่าว
ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์กล่าวต่อว่า เราต้องลงไปทำงานสักระยะหนึ่งเพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างเต็มที่ 2-3 เดือนจากนั้นจะนำมาสรุปปัญหาเพื่อให้ได้ปัญหาที่แท้จริงเพื่อให้นายกฯ วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุป ไม่ใช่ลงไป 2-3 วันแล้วจะได้ข้อมูลอย่างแท้จริง การเก็บข้อมูลต้องอาศัยเวลา การแก้ไขปัญหากำหนดเวลาไม่ได้ เพราะฉะนั้น การฟังความเห็นจากหลายๆ ฝ่ายโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่เพื่อให้ได้ข้อมูลและปัญหาที่แท้จริงมันก็จะนำไปสู่การเกาให้ถูกที่คัน ซึ่งเราเอกซเรย์ในแต่ละหมู่บ้านเป็นชาวบ้านที่เกิดที่นั่นว่าเป็นพี่น้องกันในสายเลือดหรือไม่ หรือมีการย้ายถิ่นฐานไปมาบ่อยๆ หรือคนที่มาแอบอาศัยแล้วพ่อแม่ข้ามไปทำงานในมาเลเซียแล้วกลับซึ่งข้อมูลที่เราได้มามีความหลากหลาย แต่สิ่งที่อยากเห็นก่อนคือเกิดสันติสุข ไม่รบราฆ่าฟันไล่ฆ่ากัน หรืออาชญากรรมรายวัน
การที่สื่อมวลชนเป็นแนวร่วมมุมกลับ เพราะชาวบ้านยืนยันว่าการสอนศาสนาอิสลามซึ่งดัดแปลงไปไม่เหมือนกับคำแปลในภาษาไทยที่เรานำไปแจก แต่ถูกคลุมไว้ไม่ให้เผยแพร่ออกไป ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าจะมีวิธีการอย่างไรที่จะนำคำสอนเหล่านั้นให้ถึงชาวบ้านว่าจะทำอย่างไร รวมทั้งการฆ่ากันตายจะสรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในภาคใต้ ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าหลายเรื่องน่าจะไปดูภูมิหลังว่าสาเหตุเพราะอะไร ตายเพราะแค้นส่วนตัว ตายเพราะปัญหาค้าขาย แต่ข่าวที่ออกมาว่าเป็นการตายเพราะการสร้างสถานการณ์ ชาวบ้านบางคนบอกว่าคนนี้สมควรตายเพราะโกงเขามาตั้งนานแล้วแต่ไม่รู้ใครฆ่า แต่ข่าวออกมาโมเม และชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ยังทำมาหากินกันตามปกติ ซึ่งตรงนี้เป็นภาพสะท้อนมันละเอียดอ่อน ต้องรวบรวมด้วยความหลากหลายซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใครทำก็ต้องหาข้อมูลส่วนนี้ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ กล่าว

ไหนว่ามาถูกทางตั้งหลายรอบแล้วไงท่าน ทำไมเพิ่งจะมาหาข้อมุลกันจริงๆๆจังๆๆละ
