ขออภัยทุกๆท่านด้วยครับ ลงผิดหน้า ..
ลับเฉพาะ (คมช.และรัฐบาลไม่ควรอ่าน)
วันที่ 4 มกราคม 2550
กราบเรียนมายังแทบเท้าเจ้านายที่เคารพ
สวัสดีปีใหม่ครับเจ้านาย! เจ้านายคงจะทราบแล้วว่า 31 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา เหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในกรุงเทพมหานคร ได้ทำให้รัฐบาลชุดนี้สั่นสะเทือนและได้รับผลกระทบในเชิงลบต่อความน่าเชื่อถือไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
พวกเราพยายามกันอยู่ที่จะโยงเรื่องทั้งหมดให้เป็นปัญหาทางภาคใต้ให้ได้ เพราะถ้าประชาชนเชื่อเมื่อไรว่าเป็นปัญหาทางภาคใต้ ประชาชนจะได้หวาดวิตกรู้สึกไม่ปลอดภัยและหมดศรัทธาต่อรัฐบาลชุดนี้ในที่สุด
พวกเราจะหาทางต่อสู้อย่างถึงที่สุดก่อนที่จะมีการเรียก คุณหนูโอ๊ค และคุณหนูเอม ให้เข้ารายงานต่อ คตส.
พวกเราจะรุกให้หนักเพื่อกดดันก่อนที่จะถึงขั้นตอนการยุบพรรคไทยรักไทย และพวกเราจะรุกให้หนักขึ้นไปอีกก่อนที่พวกมันคิดจะมายึดทรัพย์สินของเจ้านาย
พวกเราดำเนินการไปเยอะแล้วเจ้านาย เพราะทั้ง “ทนายของเจ้านาย” โฆษกพรรค ทุกคนต่างพยายามทำให้คนเข้าใจไปในทำนองว่าเกิดจากปัญหาไฟใต้ให้ได้ โดยเฉพาะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความร่วมมืออย่างดีมากจริงๆ เราเล่นเพลงเดียวกันอย่างเป็นเอกภาพ ไม่ต้องเป็นห่วง
แต่พวกเราก็ลืมคิดไป! ระเบิดที่ใช้ครั้งนี้ดันทำไม่เหมือนทางไฟใต้ ระเบิดในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ใช้ เอ็มโฟร์ (M-4) แรงดันต่ำใช้นาฬิกาดิจิตอล และใช้ตะปูเป็นสะเก็ดระเบิด ในขณะที่ระเบิดที่ภาคใต้เป็นระเบิดประเภทซีโฟร์ แรงดันสูง ใช้โทรศัพท์มือถือในการจุดระเบิด และใช้กระจกแก้วเป็นสะเก็ดระเบิด แต่ไม่เป็นไร เราทำเป็นเงียบๆ เข้าไว้ เพราะคนทั่วไปไม่ค่อยได้สังเกตและคงไม่รู้หรอก
แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงสิ กลับเป็นเรื่องข้อพิรุธที่จุดระเบิดป้อมตำรวจ ที่สุขุมวิท 62 และ การตัดกล้องวงจรปิดล่วงหน้าของแยกจราจรหลายตัวที่ป้อมตำรวจที่แครายก่อนที่จะมีการระเบิด รวมถึงกรณีการปล่อยให้มีการระเบิดตอนสองยามอีกครั้งหนึ่งที่หน้าเกษรพลาซ่า ทำให้ไอ้พวก คมช. มันเริ่มสงสัยตำรวจของพวกเราแล้ว!!
“พี่ป๋อม” (พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุวรรณเภสัช) โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของพวกเราเด็ดขาดมาก ออกมาแถลงข่าวในคืนเกิดเหตุอย่างฉับพลันทันทีเลยว่าขอให้ “สมานฉันท์” เป็นผลงานของคลื่นบนน้ำไม่ใช่คลื่นใต้น้ำ และยังสั่งสอนดูตัวอย่างของขบวนการไออาร์เอในอังกฤษอีกเสียด้วย
คำพูดของ “พี่ป๋อม” อาจจะเตือนสติทำให้ คมช.และรัฐบาลได้รู้จักสมานฉันท์กับผู้ก่อวินาศกรรมในครั้งนี้ และต้องหัดสมานฉันท์เลิกขุดคุ้ยเจ้านายก็ได้
น่าเสียดายที่ คมช. ไม่เชื่อง่ายๆ ก็เลยมีการเปิดประเด็นใหม่ เรื่องตัวอักษรพ่นบนตู้โทรศัพท์ที่พยายามอ่านกันว่า “IRK” ทำให้คนเข้าใจไปว่าการระเบิดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการขบวนการก่อการร้ายที่ฝึกจรยุทธ์มาจากอัฟกานิสถาน
เกือบทำสำเร็จครับเจ้านาย !.....คนตื่นตระหนกกับตัวอักษรที่พ่นตามตู้โทรศัพท์เต็มไปหมด แต่บังเอิญดันมีคนไปเปิดเผยเสียก่อนว่า ตัวอักษรมันเขียนว่า “IRIE” ที่แปลว่าเจ๋ง สุดยอด ซึ่งเป็นผลงานศิลปะของกลุ่มวัยรุ่น “กราฟิตี้” ที่พ่นเอาไว้นานแล้ว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ “IRK” หรือการก่อวินาศกรรมแม้แต่น้อยเลย
“พี่ป๋อม” ของพวกเราก็เลย.......“หน้าแหก” ไปแล้วครับ น่าสงสารมาก!
ถึงแม้ว่าตำรวจของพวกเราจะไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวสักเท่าไร แต่พวกเขาก็ตั้งใจ ล่าสุดในส่วนงานสอบสวนก็ได้ตั้งตำรวจหลายคนที่เคยใกล้ชิดเจ้านายเข้าไปดำเนินการเรื่องนี้กันเพียบ ที่สำคัญแม้แต่ตำรวจที่เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจติดตามและนั่งอยู่ในรถด้านหน้าของเจ้านายก็อยู่ในชุดหาข่าวของสันติบาลด้วย...งานนี้เจ้านายจะได้รู้การเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดแน่นอน และคงไม่ต้องบอกนะครับว่าผลการสอบสวนจะลงเอยอย่างไร
ถ้า “แผนเกียร์ว่าง” ของตำรวจสำเร็จเมื่อไร การก่อวินาศกรรม การเผาโรงเรียน ที่ตำรวจไม่เคยจับได้ก็จะได้ใจและเพิ่มจำนวนมากขึ้น เมื่อวานนี้ก็มีการขู่ระเบิดในโรงเรียนหลายแห่ง รับรองว่างานนี้ประชาชนต้องด่า คมช. และรัฐบาลหนักขึ้นจนเสื่อมศรัทธาลงไปเรื่อยๆ เมื่อถึงวันนั้นเมื่อไรประชาชนจะคิดถึงแต่เจ้านายเท่านั้น
เจ้านายไม่ต้องห่วง “พี่โกวิท” หรอก เพราะ คมช.รัฐบาลชุดนี้มันหน่อมแน้มมันไม่กล้าทำอะไรพี่โกวิทหรอก ขนาดคราวที่แล้วพี่โกวิทใช้อำนาจของผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลื่อนตำแหน่ง “น้องโอ๋สืบ 6” ที่สร้างผลงานสั่งกุ๊ยล็อกตัวพวกพันธมิตรฯ ที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ รัฐบาลและคมช.ยังทำอะไรพี่โกวิทไม่ได้
ดังนั้น พวกเราวิเคราะห์แล้วความเป็นสุภาพบุรุษของ พล.อ.สุรยุทธ์ และ พล.อ.สนธิ นี่แหละคงจะไม่ทำอะไรพี่โกวิทแน่ และมันจะทำให้ คมช.และรัฐบาล ต้องพังทลายลงอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน
พล.อ.สุรยุทธ์ และพล.อ.สนธิ นี่สิแสบจริงๆ ดันมาทำเป็นรู้ทันเปิดประเด็นว่าคนที่ก่อวินาศกรรม “เป็นผู้เสียประโยชน์ทางการเมือง” แผนของพวกเราจึงเสียหายอย่างมาก
โชคดีนะที่เจ้านายไหวพริบดีเขียนจดหมายส่งแฟกซ์ให้กับ “ทนายนพดล” ได้ทันเวลา เลยได้ถือโอกาสแถลงข่าวด่ารัฐบาลและ คมช. ได้สำเร็จ!!
ผมชอบจริงๆ ที่เจ้านายได้ใช้คำในจดหมายเพื่อด่า คมช.และรัฐบาล “อาฆาตมาดร้าย” “ไร้ความยุติธรรม” “ตอกลิ่มความแตกแยก” “กล่าวเท็จโดยแนวร่วมอยู่ตลอดเวลา” “ไร้คุณธรรม” “ทำลายล้างกันเอง” “ต่างชาติเขาจะหัวเราะเยาะ” ฯลฯ มันช่างเป็นคำที่เสมือนเอาเท้าไปตบหน้า คมช. และรัฐบาลชุดนี้จริงๆ
พวกเราจับทางได้แล้วเจ้านาย รัฐบาลชุดนี้มันไม่มีใครออกมาโต้ทางการเมืองแทน พล.อ.สุรยุทธ์แม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือแม้แต่โฆษกรัฐบาลชุดนี้ หมอยงยุทธที่เจ้านายเคยให้มาอยู่ในทีมงานประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลเจ้านาย ก็อาจจะยังรักเจ้านายอยู่เลยไม่เคยตอบโต้ทางการเมืองแทนรัฐบาลได้
ทีมโฆษกพรรคและทนายของเจ้านาย คงจะกำลังเตรียมแผนแถลงข่าวรายวันเพื่อถล่ม คมช.และรัฐบาลชุดนี้เพื่อลดความน่าเชื่อถือเต็มที่ เหมือนกับที่พวกเราดำเนินการสร้างกระแสไปแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีโบกี้รถไฟที่บ้านพล.อ.สุรยุทธ์, กรณีบ้านพล.อ.สุรยุทธ์บุกรุกป่าสงวน, และกรณี พล.อ.สนธิ จดทะเบียนสมรสซ้อน ฯลฯ
ที่เจ้านายพยายามเขียนในจดหมายว่าเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้มาจากไฟใต้นั้น พวกเราเชื่อว่าจะทำให้หลายต่อหลายคนต้องเชื่อเจ้านายแน่ๆ และเจ้านายก็เขียนประณามดูสมจริงมากและใส่ภาษาฝรั่งว่า CONDEMN WITH STRONG WORDS ให้ต่างชาติได้ดูอีกต่างหาก
ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้านายมีความเชี่ยวชาญและมีความรู้อย่างลึกซึ้งในเรื่องปัญหาทางภาคใต้เป็นอย่างดี พวกเรายังจำได้ติดตาเลยว่าเจ้านายก็มักจะไปลงพื้นที่ทางภาคใต้อยู่เป็นประจำ ในช่วงที่เจ้านายเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นช่วงเวลาที่ไฟใต้ดับสนิท ไม่มีโจรก่อการร้ายแม้แต่น้อยเลย
ผมชอบมากเลยที่เจ้านายพยายามยกตัวอย่างว่าช่วงที่เกิดความขัดแย้งทางการเมือง เจ้านายไม่เคยใช้ความรุนแรงเลย ส่วนเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตไม่ว่าจะเป็นกรณีการขว้างระเบิดและอุจจาระที่หน้าหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ กรณีการปิดล้อมอาคารเนชั่นของคาราวานคนจน กรณีการที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการถูกแก๊งมอเตอร์ไซค์บุก กรณีการบุกใช้ขว้างประทัดยักษ์ของพวกป่าไม้ใส่ผู้ชมรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่สวนลุมพินี ตลอดจนกรณีการรุมกระทืบประชาชนที่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฯลฯ มันไม่ใช่เรื่องความรุนแรงสักหน่อยมันแค่เป็นเรื่องการล้อเล่นกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง พวกเราเข้าใจเจ้านายอยู่แล้ว
อันที่จริงเจ้านายได้มีโอกาสเขียนเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในช่วงนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะคนไทยส่วนใหญ่ลืมง่าย ป่านนี้คงลืมเรื่องที่เจ้านายเคยพูดว่า “ถ้าผมไม่จงรักภักดี ผีที่ไหนจะจงรักภักดี” คงลืมไปแล้วด้วยที่เจ้านายพูดว่าพร้อมจะลาออกหากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา “กระซิบ” คงลืมไปแล้วกรณีการโยกย้ายข้าราชการก่อนมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง และน่าจะลืมไปแล้วถึงกรณีการใช้เงิน 1,000 ล้านบาทที่จะถวายต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมางานสโมสรสันนิบาตของรัฐบาลชุดของเจ้านาย คนไทยหลายคนคงลืมการของบเพื่อซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าที่ใช้เหตุผลว่าจะมาใช้เป็นพระราชพาหนะสำรอง แต่สุดท้ายเจ้านายเอามาใช้เสียเอง หลายคนคงลืมไปแล้วถึงการตัดตราครุฑออกจากบัตรประชาชนชาวไทย ฯลฯ
ผมมั่นใจเลยว่าคนไทยส่วนใหญ่ลืมไปแล้ว และต้องเชื่อจดหมายของเจ้านายอย่างสนิทใจ!!
ย่างเข้าเดือนที่ 4 แล้วนับจากวันรัฐประหาร เวลาพวกมันเหลืออีกไม่มากขอให้เจ้านายอดทน พวกเราเป็นกำลังใจและเดินงานกันอย่างเต็มที่ ขอเพียงแค่ให้รัฐบาลชุดนี้และ คมช.หน่อมแน้มไปอีกสักหน่อย ด้วยเงินที่เจ้านายมีอยู่อย่างมหาศาลและมีผู้รับจ้างที่เป็นอาชีพอย่างพวกเรา เชื่อว่าเจ้านายจะได้กลับมาชำระบัญชีกับ คมช.และรัฐบาล คืนได้ในเร็ววันแน่นอน!!!
รักและคิดถึงเสมอ
หม่อง ชอบชิด
ทาสรับใช้ระบอบทักษิณผู้ซื่อสัตย์--จบ--