ถามครับ ตอนนี้สนใจจะซื้อ Nikon D80 Kit ราคา 42900 บาท กับ Canon EOS-400D Kit ราคา30900 บาทตัวไหนน่าเล่นกว่าครับ
ผมกำลังเล็งๆชั่งใจว่าจะถอย EOS 400D อยู่เหมือนกัน ว่าแต่คุณโจได้ราคานี้จากไหนเหรอครับ รวมเลนส์ 18-55 mm. ด้วยเปล่าครับ รับประกันจากแคนนอน(ประเทศไทย)ด้วยเปล่าครับ ถ้าใช่นี่ถูกมากเลยครับ ผมเช็คมาก็ 34,900 บาท (เลนส์ 18-55 mm. + 1 G card + ประกันแคนนอน-ประเทศไทย) ขอบคุณครับ
จากเว็ป
www.bask1.comขอบคุณครับคุณโจ
รบกวนถามคุณ RroamD เซียนตัวจริงหน่อยสิครับ ผมไปที่เว็ป
www.bask1.com ตามที่คุณโจให้แหล่งข้อมูลมา พอเข้าไปดูหน้า EOS400D ก็ได้พบราคาดังที่คุณโจเคยเล่าให้ทราบกันคือ
เครื่องรับประกัน บาสค์ พร้อมเลนส์ ราคาขาย : 30,900 บาท
เครื่องรับประกัน บาสค์ เฉพาะบอดี้ ราคาขาย : 26,900 บาท
ในขณะที่ร้านอื่นที่ผมเช็คมาอยู่ที่ 34,900 บาท (กล้องพร้อมเลนส์ 18-55 mm.) รับประกัน CANON (Thailand) ผมจึงเดาว่าของทาง Bask เป็นแบบนำเข้าเอง ไม่ทราบพอมีประสบการณ์หรือเคยได้ยินมาบ้างมั๊ยครับว่า การรับประกันแบบนี้ของทาง Bask เชื่อถือได้แค่ไหนครับ ราคาดูกันแค่นี้ก็ถูกกว่ากัน 4,000 แต่ที่ราคา 34,900 นั้นได้ Card 1 GB ด้วย ซึ่งถ้าไม่เอาเค้าลดให้อีก 1,000 ดังนั้นจึงเสมือนว่าต่างกัน 3,000 บาท จะคุ้มมั๊ยครับถ้าจะเอาของนำเข้าเองแบบนี้ อีกอย่างไม่ทราบนำเข้าจากไหน เพราะผมกำลังให้เพื่อนที่อเมริกาเช็คราคาที่นั่นอยู่ (รู้สึกที่นั่นจะใช้ชื่อรุ่นว่า Rebel XTi) ถ้าราคาที่นั่นไม่แพงว่า Bask ยังคิดว่าจะเอามาจากนั่นเพราะของที่เข้าไปที่อเมริกาน่าจะ QC ไปดีกว่า หรือเกรดของ component ในวงจรอิเลคทรอนิคส์น่าจะเกรดสูงกว่าพวกที่ขายละแวกบ้านเรา(อันนี้ไม่แน่ใจครับ)
เพื่อนที่แคนาดาใช้ XTi นี้อยู่ บอกว่าไม่ชอบที่ ISO ลงได้ต่ำสุดแต่ 100 เค้าอยากได้ 50 เพราะถ่ายมืดๆ Noise จะต่ำดี ดันมาแนะให้ผมเล่น EOS 5 ดู้ดู ไม่ดูราคาเลย ที่นี่เฉพาะบอดี้ 99,000

ถามเพิ่มเติมครับ กล้องดิจิตอลนี่ผมมีตัวเดียวคือเป็นแค่ Pro-sumer KODAK 7590 (5 MPixel) ถ้ามาเล่น EOS 400D ตัวนี้ แน่นอนครับภาพต้องดีกว่า แต่ไม่ทราบว่าดีกว่ากันแค่ไหนครับ ไม่ทราบพอจะยกตัวอย่างให้จินตนาการให้เห็นภาพได้มั๊ยครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ผมขอเรียนตรงๆ ครับ เรื่องการรับประกันสินค้าโดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพจากร้านที่ซื้อและออกใบรับประกันเป็นของตนเอง เงื่อนไขทั้งหมดในการรับประกันเหมือนกับของทางบริษัทที่เป็นตัวแทนจำหน่ายทุกประการแน่นอนแต่ความสามารถในการให้บริการหลังการขายไม่มีศักยภาพเพราะเครื่องมือและโปรแกรมในการตรวจสอบปัญหาของกล้องและอุปกรณ์ที่ทางตัวแทนจำหน่ายมีราคาแพงมากและไม่สามารถซื้อได้ไม่ว่าจะมีเงินมากเท่าใด แต่ที่ร้านเหล่านี้ทำได้เพราะอาศัยรายได้จากการขายได้มากจากราคาเป็นสิ่งจูงใจ อาจจะสำรองกำไรทีได้ส่วนหนึ่งมารองรับการส่งกล้องให้ทางตัวแทนเป็นผู้ซ่อมให้ในราคาแพงเพื่อเอาชื่อเสียงของร้านไว้ซึ่งยังไงร้านก็อยู่ได้
ส่วนเรื่องราคาถูกกว่าเป็นเรื่องปกติขึ้นอยู่กับแหล่งที่ร้านดังกล่าวหาซื้อได้ในต่างประเทศ(ใกล้บ้าน)และซื้อจำนวนมาก เรื่อง QC ไม่มีความแตกต่างไม่ว่าส่งไปขายทีไหน ในยุคของกล้องถ่ายภาพฟิล์มมีการถกเถียงกันเพราะสติกเกอร์ที่ติดอยู่ที่ตัวกล้องหรือเลนส์หากซื้ออุปกรณ์ที่พบสติกเกอร์ passed กับ inspected มักจะเชื่อว่าตัวหลังดีกว่าเพราะผ่านการตรวจสอบคุณภาพจาก jcii มากกว่า ตัวแรก แต่อุปกรณ์ถ่ายภาพจากญี่ปุ่นในรุ่นหลังตั้งแต่ ค.ศ.1992 จะไม่มีสติกเกอร์เหล่านี้ติดบนตัวอุปกรณ์อีกแล้ว
เรื่องของค่าความไวแสง(ISO)เป็นตัวหลักที่ทำให้เกิดการรบกวน(noise)หากกล้องที่ใช้อยู่ไม่สามารถตั้งให้ต่ำกว่า ISO100 ผมคิดว่าไม่มีผลกับภาพเท่าไหร่เพราะถ้าสามารถตั้งค่าได้ต่ำลงการบันทึกภาพยิ่งทำได้ยากนอกจากการใช้ขาตั้ง การเปิดขัตเตอร์เป็นเวลานานยิ่งทำให้เกิดการรบกวนมากในระบบบันทึกภาพดิจิตอล ถ้าบันทึกภาพลงฟิล์มผมเคยใช้ ISO25 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดแล้วยกเว้น ISO6 และ 12 ซึ่งเป็นฟิล์มเฉพาะกิจสำหรับการทำสำเนาจากฟิล์มสไล้ด์และเนกาทิฟเพื่องานขยายภาพเท่านั้น
ส่วน Kodak ผมยังไม่ทราบข้อมูลขอไปศึกษาดูก่อน
ด้วยความเคารพครับ