เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 02, 2025, 08:52:12 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดใจมือปืน เปิดใจมือปืน ตอน 9(ไขปริศนาภรรยา JFK)  (อ่าน 25609 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
กะเเด่ว
Full Member
***

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 315



« เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 12:38:06 PM »

พอดีอ่านเจอครับเลยคัดลอกมาให้อ่านกัน เผื่อจะมีประโยชน์กับพี่ๆเพื่อนๆในเวปครับ อย่าลืมไปให้กำลังใจเจ้าของบทความด้วยนะครับ

ต้องเรียนให้ทราบนะครับว่าบทความนี้คัดลอกมาทั้งต้นฉบับ มิได้มีการตัดทอนส่วนหนึ่งส่วนใดออกทั้งสิ้น  จึงออกมีข้อผิดพลาดหรือขัดแย้งในตัวของบทความ เช่นความเข้าใจของมือ

ปืนเกี่ยวกับการใช้อาวุธ ต่างๆ ซึ่งเข้าใจว่าผู้เขียนคงถอดออกมาจากคำพูดของมือปืนโดยตรง จึงอาจขัดต่อความเป็นจริงก็เป็นได้ หากตรงไหนผิดพลาดก็ลองโพส ติ ชม ได้ครับ ที่

สำคัญอย่าลืมไปให้กำลังใจ คุณปรีชาเจ้าของบทความตัวจริง นะครับ

ตอนที่ 1

นานๆ ทีได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับ "มือปืน" ระดับพระกาฬครั้งหนึ่ง คงต้องขอถ่ายทอดให้ผู้ติดตามได้รู้ถึงเคล็ดลับอะไรหลายประการ โดยเฉพาะหากคุณรู้ตัวว่า "กำลังถูกล่าสังหาร"

การมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสกับมือปืนในครั้งนี้ เริ่มต้นมาจาก "รายการจุดชนวนความคิด" โดย "เนชั่น" ได้เข้าไปทำให้กับช่อง 9 จะไปทำเรื่อง "ฆ่าตัดตอน"

โดยประเด็นที่คาดว่าจะได้จากมือปืนนั้น คือการเปรียบเทียบลักษณะของการยิงระหว่าง คนของรัฐที่มีปืน ไปเกี่ยวโยงกับ "ฆ่าตัดตอน" ในช่วงสงครามยาเสพติด กับ

ลักษณะของการยิงของมือปืนรับจ้างนั้นเป็นอย่างไร

มือปืนได้วิเคราะห์ให้ฟังว่า ลักษณะของการยิงแบบฆ่าตัดตอนนั้น เป็นเรื่องราวอะไรที่โหดร้ายเกินกว่ามือปืนทั่วไปมาก

ลักษณะของการยิงเหยื่อของ "มือปืน "นั้น เริ่มต้นจาก การเจรจากันถึงเรื่องราคาค่าหัวกันก่อน ซึ่งขั้นต่ำประมาณ 100,000 บาทต่อชีวิต ราคานี้อาจมากกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับเหยื่อคนนั้น มีความ

สำคัญขนาดไหน ถ้าระดับผู้ใหญ่บ้าน กำนัน จะต้องใช้เงิน 1 แสนบาทขึ้นไป ถ้าเป็น ส.ส.นักการเมืองต้องพูดกันถึงหลักล้านบาท

เจ้าของเงิน หรือผู้จ้างให้ไปยิงหัวใครนั้น คงไม่ได้ลงมาสนทนากับ "มือปืน" เอง แต่จะให้คนที่รู้จักกับมือปืน มาถ่ายทอดอีกครั้งหนึ่ง

การรับจ้างยิงคนบางครั้ง ไม่รู้ด้วยว่า "คนจ้าง" เป็นใคร

เมื่อตกลงกันได้แล้ว จะต้องจ่ายก่อนล่วงหน้าครึ่งหนึ่ง ถ้ายิงเสร็จแล้ว ต้องจ่ายส่วนที่เหลือทันที ไม่มีผัดผ่อนกัน

เมื่อถามเขาว่า เคยถูกเบี้ยวไหม

เขา ตอบว่า ไม่มีใครมากล้าเบี้ยวมือปืนหลอก มีแต่จะต้องก่อนล่วงหน้าด้วยซ้ำไป และการจ่ายนั้น ไม่มีเป็นเช็ค หรือโอนเงินเข้าบัญชี มีแต่เงินสดๆ ใส่ซองมาทั้งนั้น

          +++++++++ โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังใหม่++++++++++++ 

คัดลอกจาก

http://www.oknation.net/blog/preecha/2007/01/08/entry-2/comment#read

(คุณปรีชา) s.pree@nationgroup.com

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 29, 2007, 03:06:10 PM โดย มะเดี่ยว » บันทึกการเข้า

บางครั้งมิตรภาพในอินเตอร์เนท มันก็ยั่งยืนมากกว่าในมิตรภาพในโลกความจริง
กะเเด่ว
Full Member
***

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 315



« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 12:38:52 PM »

เมื่อตอนที่แล้วพูดถึงเรื่องค่าหัวที่มือปืนรับงานมา "ซุ้ม"นี้จะรับงานอยู่ประมาณ 1 แสนบาทขึ้นไป

ตอนนี้มือปืนได้เล่าให้ฟังถึงวิธีการไปดูเหยื่อก่อนลั่นไก เมื่อคุยกันเรื่องค่าหัวเรียบร้อยแล้ว ผู้จ้างวาน จะต้องนำรูปมาให้ พร้อมกับแจ้งที่อยู่อย่างน้อย 2 แห่ง คือที่บ้าน และที่ทำงาน

จุดสังหารสำคัญที่สุด คือ "ที่บ้าน" ผู้ว่าจ้าง จะต้องมีแผนที่ตรอก ซอก ซอย ประกอบอย่างละเอียด

มือปืนบอกว่า จุดสังหารที่สำคัญคือ ปากซอยที่บ้านพัก ก่อนออกจากบ้านหรือเข้าบ้าน เพราะทางโค้งเข้าบ้านนั้น จะต้องชะลอความเร็วรถ และถ้าภายในซอยบ้านใคร มีเนินลูก

ระนาดด้วยแล้ว  ยิ่งง่ายต่อการสังหารอย่างมาก


มือปืนได้ยกตัวอย่างมือปืนที่เข้าไปสังหารนายแสงชัย สุนทรวัตน์ อดีต ผอ.อ.ส.ม.ท. เมื่อหลายปีก่อน ขณะที่รถของนายแสงชัยแล่นมาถึงเนินลูกระยาดภายในซอยบ้าน มือปืน จึงใช้รถ

จักรยานยนต์ประกอบยิง

ซึ่งการยิงครั้งนั้น มือปืนใช้ปืนยี่ห้อ "บารเร็ตตร้า" ขนาด 9 ม.ม. แต่ยิงได้เพียงนัดเดียว ปืนเกิดขัดลำกล้อง ยิงไม่ออก จึงต้องเร่งเครื่องหนีไป

แต่โชคร้ายของนายแสงชัย แม้มือปืนจะยิงได้เพียงนัดเดียวก็ตาม แต่กระสุนมรณะ พุ่งไปเจาะเบาะนั่งรถ พุ่งไปถูกแกนเหล็กหมอนรองศรีษะเข้าไปตัดขั้วหัวใจของ นายแสงชัย พอดี

จุดสังหารอีกแห่งหนึ่ง คือ ปากซอยที่ทำงาน หรือทางเข้า-ออก ออฟฟิช

มือปืนบอกว่า จุดนี้เป็นจุดที่นิยมไปดักสังหารเหยื่อลองลงมา เพราะจะมีประชาชนเป็นจำนวนมาก เสี่ยงต่อการตกเป็นเป้าสายตา

อีกจุดหนึ่งที่นิยมกันค่อนข้างมาก คือ "รถติดไฟแดง" จะใช้รถจักรยายนต์ประกบยิงในระยะไม่เกิน 2 เมตร ส่วนมากจะไม่ค่อยพลาดเท่าไรนัก

แต่จุดนี้มีความเสี่ยงอยู่บ้าง เนื่องจากทางแยกไฟแดงแต่ละแห่ง มักจะมีตำรวจอยู่ประจำทางแยกด้วยกันทั้งนั้น บางครั้งดวงไม่ดีอาจถูกจับกุมได้

ซึ่งวิธีการยิงนั้น มือปืนบอกว่า จะค่อยๆ ตามประกบมาห่างประมาณ 5-6 คันรถ ถ้ารถเหยื่อจอดติดไฟแดงคันแรกเลยนั้น เขาจะไม่ลงมือสังหาร ถ้าจอดติดไฟแดงคันที่ 4-5 จะเหมาะ

สำหรับการยิงมากที่สุด เพราะถ้ายิงเสร็จแล้ว เขาสามารถขับรถพุ่งออกไปได้ทันที
แต่ถ้าติดไฟแดงเป็นคันแรก คนขับรถมีโอกาสขับตามไปชนรถของเขาล้มลงไปได้

เห็นหรือไม่วิธีการสังหารเหยื่อของมือปืน


++++++++++ตอนต่อไปจะมาเล่าให้ฟังอีก++++++++

คัดลอกจาก

http://www.oknation.net/blog/preecha/2007/01/11/entry-1

(คุณปรีชา) s.pree@nationgroup.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2007, 12:55:09 PM โดย มะเดี่ยว » บันทึกการเข้า

บางครั้งมิตรภาพในอินเตอร์เนท มันก็ยั่งยืนมากกว่าในมิตรภาพในโลกความจริง
กะเเด่ว
Full Member
***

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 315



« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 12:39:43 PM »

เปิดใจมือปืนตอนนี้ จะเปรียบเทียบกันระหว่าง "ฆ่าตัดตอน" กับ การสังหารทั่วๆ ไปของมือปืนว่า จะเหมือนหรือแตกต่างกัน

มือปืนคนนี้ได้บอกว่า ลักษณะของการยิงของมือปืนในเมืองไทยนั้น จะไม่กระทำการอุกอาจเหมือน "ฆ่าตัดตอน" ในช่วงประกาศสงครามยาเสพติดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

เขาบอกว่า "ฆ่าตัดตอน เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ไม่เกรงกลัวกฎหมายจนเกินไป และมีการกระทำหลากหลายรูปแบบ

ยกตัวอย่างเช่น กรณีสองสามีภรรยา ในอ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ผู้โชคดี "ถูกหวยรางวัลที่ 1 " ได้เงินมาประมาณ 6 ล้านบาท แต่ถูกฆ่าตัดตอน เพราะทางการเข้าใจว่า เขาได้เงินมาจากการค้ายาเสพติด

ลักษณะการสังหารสองสามีภรรยาครั้งนั้น เริ่มต้นจากเวลาประมาณตี 5 คนร้ายมาด้วยกัน 3 คน  มาจอดรถดักรอเหยื่อบริเวณทางออกหมู่บ้าน เมื่อรถสองสามีภรรยาแล่นมาถึง จึงเรียกรถให้จอด

หลังจากนั้น ได้เรียกคนในรถลงมาทีละคนๆ ซึ่งชาวบ้านได้อาศัยมาด้วย 1 คน ถูกเรียกให้ลงมานั่งคุกเข่าเรียงแถวด้วยเหมือนกัน

1 ใน 3 คนร้ายได้ใช้ปืนไม่ทราบขนาดจ่อยิงขณะนั่งคุกเข่าทีละคน แต่ชาวบ้านที่มาด้วยกันไม่ถูกยิง คนร้ายบอกเพียงว่า "รีบวิ่งกลับเข้าไปในหมู่บ้านซะ" และคนร้ายอีกคนหนึ่งเห็นว่า ชาวบ้าน

คนนั้นอยู่ในอาการตะลึง จึงเต๊ะก้นไป 1 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านคนนั้นรีบวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านได้ รอดตายไป

อีกวิธีหนึ่งของการฆ่าตัดตอนในช่วงสงครามยาเสพติดที่ผ่านมา คนร้ายมักจะใช้รถกระบะ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน วิ่งเข้าไปยังบ้านเป้าหมาย

เมื่อไปถึงจะนำรูปออกมาแสดงแล้วจะถามว่า "นี่ใช่รูปคุณแน่นะ ใช่แน่นะ" ถ้าเหยื่อที่จะถูกสังหารย้ำว่า "ใช่" คนร้ายจะบอกว่า "งั่นนั่งลง" หลังจากนั้นจะใช้ปืนยิงตายอย่างโหดเหี้ยม


มือปืนรายนี้ ได้เปรียบเทียบการสังหารเหยื่อที่ผ่านมาว่า "มือปืน"ในประเทศไทย ไม่เคยไปเรียกเหยื่อที่จะต้องสังหารให้นั่งลง หรือเอารูปไปให้ดูแน่นอน ส่วนมากจะใช้วิธีการ "รอ

เหยื่อ" จนกว่ามีโอกาสสังหารได้
ไม่เคยมีไปเรียก หรือไปถามใดๆ ทั้งสิ้น

"จะไปถามเขาให้เป็นที่ต้องสงสัยได้อย่างไร บางครั้งผมยอมทนรอเหยื่อนานถึง 7 วัน บางครั้งผมรอนานถึง 15 วันก็มี เมื่อมีโอกาสจึงลั่นไกสังหาร"

มือปืนรายนี้ ได้ยกตัวอย่างการสังหารหญิงคนหนึ่ง ให้ฟังว่า เคยรับงานมาให้ไปฆ่า "หญิงสาว" คนหนึ่ง ตอนนั้น ไม่คิดว่า จะฆ่าผู้หญิงคนนั้น เขาไปรออยู่หน้าบ้านหลายวัน แต่หญิงเคราะห์ร้าย

คนนั้น ไม่ยอมออกมาจากบ้าน มือปืนรายนี้ เห็นว่าในบ้านไม่มีคนอยู่แล้ว จึงเข้าไปในบ้าน เมื่อเห็นเหยื่อหน้าตาดี จึงเปลี่ยนใจ ไม่อยากฆ่า มือปืนคนนี้ จึงเดินออกมา แต่หญิงสาวคนนั้นคงถึง

คราวตายจริงๆ เขาได้วิ่งตามออกมา พยายามสอบถามว่า เข้ามาทำไม และด่าทอ จึงทำให้มือปืนต้องชักปืนไปจนเสียชีวิต


+++++++++++ตอนหน้ามีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีก++++++++

คัดลอกจาก

http://www.oknation.net/blog/preecha/2007/01/15/entry-1

(คุณปรีชา) s.pree@nationgroup.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2007, 04:59:45 PM โดย มะเดี่ยว » บันทึกการเข้า

บางครั้งมิตรภาพในอินเตอร์เนท มันก็ยั่งยืนมากกว่าในมิตรภาพในโลกความจริง
กะเเด่ว
Full Member
***

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 315



« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 12:40:42 PM »

อาวุธปืนที่ใช้สำคัญไฉน

ข่าวคราวการสังหารเหยื่อของ “มือปืน” มักจะระบุว่า คนร้ายใช้ปืนขนาด .357 บ้าง ขนาด 9 ม.ม.บ้าง ขนาด 11 ม.ม. บางข่าวรุนแรงถึงขั้นใช้อาวุธสงครามตั้งแต่เอ็ม 16 อาก้า หรือ เอ็ม 79 ถล่ม

กันเลยทีเดียว

มือปืนรายนี้ ได้บอกถึงความสำคัญของการใช้อาวุธของมือปืนโดยรวมว่า สมัยก่อนนั้น การเป็นมือปืน จะต้องใช้ 11 ม.ม.สังหารเหยื่อเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ “มือปืน” ทั่วๆ ไปไม่ได้คำนึงถึงปืน

ขนาด 11 ม.ม.อย่างเดียว แต่จะมองถึงปัจจัยเรื่องของความสะดวกในการพกพา การยิงแล้วมีความแม่นยำ การบรรจุกระสุนได้ครั้งหลายๆ นัด กันเสียมากกว่า

สำหรับซุ้มมือปืนที่ยังนิยมใช้ 11 ม.ม.นั้น ยังมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะมือปืนที่มาจาก จังหวัดเพชรบุรี

ข้อดีสำหรับอาวุธปืนรุ่นนี้ จะเป็นปืนพกที่มีกระสุนใหญ่ที่สุด เมื่อเหยื่อรายใดถูกคมกระสุนรุ่นนี้เข้าไปแล้ว จะไม่ค่อยรอด พูดง่ายๆ ตายเกือบทุกราย และบางยี่ห้อมีคุณสมบัติพิเศษ ซองกระสุน

สามารถบรรจุได้มากกว่า 10 นัด

ข้อเสียมีอยู่บ้าง คือ "ยิงยาก" เนื่องจากแรงสะท้อนถอยหลัง หรือชาวบ้านเรียกว่า “แรงถีบ” มีมาก ทำให้ความแม่นยำหายไป จะต้องอาศัยคนข้อแข็งๆ และสิ่งสำคัญไม่สะดวกต่อการพกพา ถ้าเป็น

ประชาชนทั่วไปแล้ว ไม่สามารถพกพาได้ จะต้องเป็นนักกีฬา หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้น

อาวุธปืนที่นิยมใช้ในกลุ่มมือปืนปัจจุบันคือ 9 ม.ม. โดยเฉพาะมือปืนในจังหวัดเพชรบูรณ์ และมือปืนแถบภาคกลาง

สาเหตุที่ “มือปืน” นิยมใช้อาวุธขนาดนี้กัน คงหนีไม่พ้นความเป็นปืน “ลูกดก” ปืนบางยี่ห้อมีแม๊กกาซีนสามารถบรรจุกระสุนถึง 18 นัด

ส่วน “แรงถีบ”ขนาด 9 ม.ม.นั้น มีน้อยกว่า 11 ม.ม.แน่นอน ทำให้ความแม่นยำในการยิงมีสูงกว่า

ทำไมต้องใช้ปืน “ลูกดก” ..??

มือปืนได้อธิบายว่า มือปืนสมัยใหม่นี้ “ใจ” แตกต่างกัน บางคนใจถึง บางคนขี้ขาด มีความกลัวสารพัดอย่าง ประการแรกกลัวเหยื่อไม่ตาย ต้องยิงซ้ำหลายๆ นัดเอาไว้ก่อน

ประการต่อมากลัวเหยื่อยิงสู้ ขอยิงซ้ำให้ตายสนิทไปเสียก่อน


ประการต่อมากลัวคนรอบข้าง หรือมือปืนติดตามยิงตอบโต้ จึงขอพกปืนลูกดกเอาไว้ก่อน

แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ “ใจ” ถ้าใจนิ่ง ใจถึง เป็นอันว่าสามารถฆ่าคนได้ก่อนลั่นไกแล้ว

ส่วนคนลอบข้างหรือมือปืนติดตามนั้น มือปืนบอกว่า ไม่น่ากลัวเท่าไร เนื่องจากคนเหล่านั้นก็ "กลัวตาย"เหมือนกัน เมื่อได้ยินเสียงปืนดังใกล้ๆ มักจะต้องวิ่งหลบเอาตัวรอดเอาไว้ก่อน ส่วนนายจะ

ตายหรือไม่ ไม่มีใครอยากรู้ เมื่อตั้งสติได้ มือปืนก็สังหารเป้าหมายเผ่นหนีไปเรียบร้อยแล้ว

“ผมเองตั้งแต่เป็นมือสังหารมาไม่รู้กี่ปี ผมไม่เคยเจอผู้ติดตามกล้ายิงตอบโต้ขณะลั่นไกฆ่านายเขาเลย มือปืนน้อยรายมากที่ถูกคนใกล้ชิดของเหยื่อที่ถูกสังหารยิงตาย ถ้าเป็นมือปืนถูกคนใกล้ชิด

ยิงตายแสดงว่า ใจ ของมือปืนคนนั้น ใช้ไม่ได้ เมื่อเข้าไปยิงเหยื่อจะเกิดความลังเล ตัดสินใจไม่ถูก สุดท้ายถูกยิงตาย หรือถูกจับตัวเอาไว้ได้” 

ส่วนอาวุธปืนขนาด .357 นั้น เป็นอาวุธปืนลูกโม่ ที่มีดินขับกระสุนแรงมากที่สุดในบรรดาปืนพก ประชาชนทั่วไป ไม่สามารถพกพาหรือครอบครองได้ ต้องเป็นคนพิเศษเท่านั้น

มือปืนทั่วไปนิยมใช้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะ “รุ่นเก๋า” ที่เรียกว่า “โป้งเดียวจอด” ซึ่งเป็นปืนที่ไม่ค่อยแม่นยำเท่าไรนัก

เนื่องจาก “โม่”บรรจุกระสุนเป็นส่วนหนึ่ง ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงให้พลาดเป้า มีโอกาสพลาดสูงมาก และที่สำคัญปืนขนาดนี้ จะบรรจุกระสุนได้ประมาณ 6 นัดเท่านั้น

แต่มือปืนที่นิยมใช้ ส่วนมากจะเป็นมือปืนประเภทไม่ต้องการทิ้งหลักฐานเอาไว้ในที่เกิดเหตุ เพราะเมื่อยิงกระสุนออกไปแล้ว ปืนลูกโม่ จะไม่สลัดปลอกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ เหมือนปืนแม๊กกาซีน ให้

ตำรวจเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนปืนขนาด .38 นั้น เป็นปืนที่มีคุณสมบัติคล้ายกับ .357 เป็นปืนลูกโม่เหมือนกัน แต่กระสุนจะแรงน้อยกว่าเท่านั้นเอง ซึ่งปืนขนาดนี้ จะสะดวกต่อการพกพาเป็นอย่างมาก

เคยใช้อาวุธปืนรุ่นไหนบ้าง ..??

คำตอบที่ได้รับจากมือปืนรายนี้คือ ไม่เลือกขนาด เคยใช้มาทุกขนาดแล้ว ตั้งแต่ .38 ไปจนถึงอาวุธสงครามร้ายแรง แต่ละกระบอกที่ใช้ยิงคนตายด้วยกันทั้งนั้น ข้อดีสำหรับการใช้ปืนหลากหลาย

ขนาดนี้ เป็นเทคนิคในการสร้างความไขว้เขวให้กับตำรวจ
บางครั้งอยากจะหัวเราะดังๆ ให้กับข่าวที่ลงไปเหมือนกัน บางฉบับลงข่าวการให้สัมภาษณ์ของตำรวจไปว่า เป็นซุ้มมือปืนเมืองเพชร

บ้าง ซุ้มบ้านไผ่ เพชรบูรณ์บ้าง ตำรวจหลายคนให้ข่าวอย่างผิดๆ ก็มี



-------ตอนต่อไปจะเล่าเรื่อง 3 ลักษณะการยิงให้ฟัง -------

คัดลอกจาก

http://www.oknation.net/blog/preecha/2007/01/16/entry-1

(คุณปรีชา) s.pree@nationgroup.com

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2007, 12:59:07 PM โดย มะเดี่ยว » บันทึกการเข้า

บางครั้งมิตรภาพในอินเตอร์เนท มันก็ยั่งยืนมากกว่าในมิตรภาพในโลกความจริง
กะเเด่ว
Full Member
***

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 315



« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 12:42:01 PM »

เปิด 3 กลยุทธฆาตรกรรมเหยื่อ

ตอนนี้คงต้องมาพุดกันถึงเรื่องวิธีการ "ยิง" มือปืนรายนี้บอกว่า ทั้งหมดมี 3 วิธี คือ การประกบยิง การยิงถล่ม และการสุ้มยิง

มือปืนบอกว่า การประกบยิง เป็นวิธีการสังหารเหยื่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แทบจะบอกได้เลยว่ากว่า 85-90 % มาจากการประยิงด้วยกันทั้งสิ้น

จุดที่ดักยิงนั้น จะเป็นบริเวณปากซอยเข้าบ้าน หน้าสำนักงาน และยริเวณที่รถเหยื่อติดไฟแดง ดังที่กล่าวไปแล้ว และลักษณะของการประกบยิง เขาจะใช้ปืนสั้นขนาด 9 ม.ม. หรือ 11 ม.ม.

เวลาเข้าไปประกบยิงระยะห่างกี่เมตร .? ปืนมือบอกว่า จะอยู่ระหว่าง 1-3 เมตร เท่านั้น จะแบ่งกระสุนการยิงเป็น 2 ชุด โดยชุดแรก เป้าหมายของกระสุนจะอยู่ที่หน้าอก 2-3 นัดเพื่อให้เหยื่อล้ม

ลงไปก่อน หลังจากนั้นจะตามไปยิงซ้ำที่ศรีษะอีกไม่น้อยกว่า 2-3 นัดจนแน่ใจว่าตายสนิทเหมือนกัน

เหยื่อที่จะถูกยิงต้องเป็นระดับไหน ..? มือปืนบอกว่า คงเป็นแค่ระดับคนธรรมดา ไม่มีมือปืนคุ้มกันอะไร อย่างดีคนๆ นั้นอาจมีปืนพกติดตัวอยู่บ้าง แต่คงไม่ใช่อุปสรรคอะไร เนื่อง

จากคน "ระวังตัว" กับคน "จ้องฆ่า" ลักษณะการเตรียมพร้อมคงแตกต่างกัน


เช่น ระดับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. บางคน เมื่อยิงเสร็จแล้ว จะใช้รถจักรยายนต์อำนวยความสะดวกในการหลบหนี

"ส่วนวิธีการยิงถล่ม" นั้น มือปืนได้อธิบายว่า เริ่มจากอาวุธปืนที่ใช้ก่อน จะต้องเป็นอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 อาก้า หรือเอ็ม 79 เป็นอาวุธยอดฮิตที่สุด หรือแย่ที่สุดเป็นปืนลูกซอง 5 นัด ส่วน

ระยะห่างนั้น จะอยู่ประมาณ 5-10 เมตร โดยจุดที่นิยมยิงกันมากที่สุด จะเป็นบริเวณทางแยก ไม่ว่าจะเป็นแยกทางเข้าบ้าน หรือบริเวณแยกไฟแดงก็ตาม

บุคคลที่อยู่ในระดับต้องยิงถล่มนั้น จะต้องเป็นระดับ ส.ส. หรือผู้มีอิทธพล มีสมุนติดตามหลายคน เช่น นางกอบกุล นบอมรบดี  ส.ส.พรรคไทยรักไทย จ.ราชบุรี หรือนายแคล้ว ธนิกุล อดีตผู้

กว้างขวางของเมืองไทย ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามร่างแหลกลาญ

การยิงลักษณะนี้ จะไปคนเดียวไม่ได้ มือลั่นไกยิงต้องมีไม่ต้องกว่า 2 คน อาวุธปืนอย่างน้อย 2-4 กระบอก เพื่อเตรียมเอาไว้ป้องกันตัว หรือยิงซ้ำ

ลักษณะของการยิง จะใช้วิธีการยิง จะถล่มกันเป็นชุด ไม่ต่ำกว่า 15-20 นัด โดยมือยิงคนที่ 1 ต้องเป็นผู้ที่ยิงได้แม่นยำที่สุด ต้องเลือกเป้าหมายที่ต้องการสังหารจริง ต้องการเอาให้ตายไป

ก่อน ส่วนมือปืนคนที่สอง จะใช้กระสุนประมาณ 10-15 นัด แต่ต้องยิงถล่มเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้ติดตาม ไม่ได้เจตนาฆ่าให้ตาย แต่ต้องการขู่ไม่ให้มีโอกาสได้ตอบโต้เท่านั้น

ส่วนทีมสังหารนั้น จะมีอยู่ 3 คน โดย 2 คนเป็นมือปืน และอีกคนหนึ่งเป็นคนขับรถกระบะพาหลบหนี


"การสุ้มยิง"


++++จะมาเล่าต่อในตอนต่อไป+++

คัดลอกจาก

http://www.oknation.net/blog/preecha/2007/01/17/entry-3

(คุณปรีชา) s.pree@nationgroup.com



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 18, 2007, 05:03:28 PM โดย มะเดี่ยว » บันทึกการเข้า

บางครั้งมิตรภาพในอินเตอร์เนท มันก็ยั่งยืนมากกว่าในมิตรภาพในโลกความจริง
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 01:10:15 PM »

อ่านแล้วรู้สึกพิลึกครับ...

เห็นด้วยเรื่อง"ใจ"เพราะมือปืนอาชีพอาศัยใจครับ...  ในกรุงนี่ป้องกันยาก เพราะเรายิงก่อนไม่ได้ มีคนแยะ...

หลักทั่วไปคือประเมินว่าคนดีหรือคนร้ายครับ คนดีอย่าไปยุ่งเพราะเขาแจ้งความแน่ๆ... บางทีเกิดเรื่องบนท้องถนนบางทีกับคนสุจริต ต้องอย่าลุแก่โทสะครับ... เขาแจ้งความแน่ๆ เราติดคุกแหง...

แต่ถ้าแน่ใจว่าไม่ใช่คนดี เราต้องยิงก่อน... นายสมชายว่าคงมีแยะที่มือปืนรับจ้างหรืออันธพาลโดนคนสุจริตแต่เล่นปืน ยิงเอาก่อน ตามท้องถนนห่างไกลหรือตามเมืองท่องเที่ยว... ที่ไม่เป็นเรื่องเพราะมิจฉาชีพไม่แจ้งความครับ...

สรุปว่าต้องยิงก่อน... เพราะใจเราไม่ถึงขั้น...

โชคดีที่เราๆ ท่านๆ ไม่มีศัตรู...
บันทึกการเข้า
ing เด็ก ส.จ.
Hero Member
*****

คะแนน 13
ออฟไลน์

กระทู้: 1056


« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 01:12:36 PM »

เอามาลงอีกคัรบ อยากอ่าน หลงรัก
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 01:23:07 PM »

อ่านแล้วรู้สึกพิลึกครับ...

เห็นด้วยเรื่อง"ใจ"เพราะมือปืนอาชีพอาศัยใจครับ... ในกรุงนี่ป้องกันยาก เพราะเรายิงก่อนไม่ได้ มีคนแยะ...

หลักทั่วไปคือประเมินว่าคนดีหรือคนร้ายครับ คนดีอย่าไปยุ่งเพราะเขาแจ้งความแน่ๆ... บางทีเกิดเรื่องบนท้องถนนบางทีกับคนสุจริต ต้องอย่าลุแก่โทสะครับ... เขาแจ้งความแน่ๆ เราติดคุกแหง...

แต่ถ้าแน่ใจว่าไม่ใช่คนดี เราต้องยิงก่อน... นายสมชายว่าคงมีแยะที่มือปืนรับจ้างหรืออันธพาลโดนคนสุจริตแต่เล่นปืน ยิงเอาก่อน ตามท้องถนนห่างไกลหรือตามเมืองท่องเที่ยว... ที่ไม่เป็นเรื่องเพราะมิจฉาชีพไม่แจ้งความครับ...

สรุปว่าต้องยิงก่อน... เพราะใจเราไม่ถึงขั้น...

โชคดีที่เราๆ ท่านๆ ไม่มีศัตรู...


อันนี้ผมว่าคงเป็นอันธพาลมากกว่าครับ เพราะมือปืนจริงๆ คงไม่ออกมาเผ่นผ้านตามถนน Grin

คงใช่ครับ นายสมชายไม่มีความรู้เรื่องมือปืนครับ... ฮา
บันทึกการเข้า
บอย 14
Sr. Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 906


อ่อนโยนได้แต่อย่าอ่อนแอ


« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 02:33:54 PM »

..อ่านแล้วเพลินดี สนุกครับ  รอติดตามตอนต่อไปครับ..
บันทึกการเข้า

                            
อย่ามองแต่ฟ้า...ที่สูงเกินตาประจักษ์
ความสุขข้างล่าง...มีได้ไม่ยากเย็นนัก
เมื่อรู้แล้ว...จัก....ภาคภูมิชีวิตแห่งตน...
toygun
Hero Member
*****

คะแนน 194
ออฟไลน์

กระทู้: 3027



« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 02:59:34 PM »

อ่านสนุกครับ
บันทึกการเข้า
ณัฐพนธ์
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 03:00:25 PM »

จ่ายก่อนครึ่งนึง ทีเหลือ เรานะไม่เบี้ยวมือปืนหลอกเพราะกลัวเขาจะมายิงเอา
แต่ถ้าเราจ่ายก่อนครึ่งนึง แล้วมือปืนเบี้ยวเรา เราจะไปตามยิงมือปืนได้ที่ไหน Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 03:13:57 PM »

อ่านแล้วสนุกดีครับ มาหดหู่ก็เรื่องคดี ฆ่าตัดตอนนี่แหละ ไม่รู้อันไหนจริงอันไหนปลอม Angry
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
at75
Hero Member
*****

คะแนน 99
ออฟไลน์

กระทู้: 3511



« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 03:20:04 PM »

อ่าน สนุก ดีครัลบ แต่ความรู้เรื่องอาวุธปืน ของมือปืน นี่ผมว่าออกมั่วนะครับ บอก9 แม่นกว่า11 ไม่พอ บอก.357ยิงไม่แม่นเพราะโม่เหวี่ยง เอากะเค้าซิ Tongue Tongue Tongue
บันทึกการเข้า
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20779



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 03:41:01 PM »

...คนพวกนี้ไม่ได้เก่งกล้าสามารถอะไรเลย  แค่ยิงคนทีเผลอ  คนไม่มีทางสู้  พวกนี้ไม่ใช่คนใจถึง  ไม่มีอะไรดีเด่นเลย  แท้จริงแล้ว  มีความเอี้ยอย่างเดียวครับ  (หมาลอบกัดยังมีความภูมิใจกว่าพวกเหล่านี้  เพราะกัดแล้วอีกฝ่ายยังพอมีโอกาสสู้)

...ขอตั้งข้อสังเกตุว่า  บทความแบบนี้จะว่าไปแล้ว  เหมือนดาบสองคม  ด้านหนึ่งอ่านกันสนุกๆ พอได้ความรู้นิดหน่อย  ผิดบ้างถูกบ้างก็ว่ากันไป  แต่อีกด้านหนึ่ง  อาจมีผลร้ายเพราะกระตุ้นเด็กและเยาวชนบางคนไปในทางที่ไม่ดี 

...นี่ยังไม่รวมการใช้ภาษาไทยที่ผิดมากมายจนขี้เกียจแก้ครับ  Smiley
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
nick
Hero Member
*****

คะแนน 12
ออฟไลน์

กระทู้: 1587


« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 18, 2007, 03:42:02 PM »

บทความนี้ผมว่าเหมือนเขียนเอามันส์สสสสสส ซะมากกว่า
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.106 วินาที กับ 20 คำสั่ง