เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 12, 2025, 08:13:02 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า-ให้ฝึกทหารสิงคโปร์อยู่ไปก็หนักเปล่า-ไล่ไปเสีย!  (อ่าน 4302 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 10:25:48 AM »

เสียดายแผ่นดินแผ่นฟ้า-ให้ฝึกทหารสิงคโปร์อยู่ไปก็หนักเปล่า-ไล่ไปเสีย!
 
โดย สปาย หมายเลขหก 18 มกราคม 2550 17:40 น.
 
 
       เมื่อ “สิงคโปร์” หอกข้างแคร่ของไทย หรืออาจจะเป็นมากกว่านั้น คือเป็น หนามยอกอก ของเราทีเดียว โดยหนามที่เข้ามายอกอกนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่มหามิตรของเขา คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในอำนาจ โดยระบอบทักษิณนั้นเกื้อกูลต่อสิงคโปร์เหมือนกับเอาประเทศไปวางไว้ข้างหน้าอย่างข้าทาส หรือเป็นทรัพย์สินของสิงคโปร์ในหลายๆ ด้าน แต่วันนี้ “ลึก-หกสิบ, ลับ-สี่สิบ” จะกล่าวถึงแต่ทางด้านของความมั่นคง ซึ่งน่าจะเป็นอันตรายอย่างสุดขีด เพราะจะมีอะไรที่อยู่เหนือความมั่นคงของชาติได้อีกเล่า?
       
        อย่างแรก-เทมาเส็ก ได้หุ้นจากชินวัตรไปหมด ก็เท่ากับว่า ดาวเทียม “ไทยคม” ทุกดวงก็เป็นของสิงคโปร์ด้วย โดยสิทธิวงโคจรของดาวเทียมนั้นเป็นของชาติ มิใช่ของส่วนตัวที่หน้าเหลี่ยมจะขายได้ วงจรของดาวเทียมถูกกำหนดมาให้เป็นของแต่ละชาติว่าจะอยู่จุดใดในอวกาศ ช่องสัญญาณดาวเทียมสำหรับการสื่อสารนั้นก็เป็นของเทมาเส็ก รวมทั้งช่องสัญญาณเฉพาะสำหรับการสื่อสารทหารที่กรมสื่อสารทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้ใช้และควบคุมเครือข่าย ก็ตกอยู่ในมือของเทมาเส็ก ชื่อเป็นของรัฐบาลสิงคโปร์ “ศูนย์สื่อสารทหาร” ที่ทุ่งสีกัน ดอนเมืองนั้น จะเหลืออะไรอีกที่เป็นความลับทางทหาร และการใช้สัญญาณผ่านดาวเทียมนั้น ก็หมิ่นเหม่มากในเวลาฉุกเฉิน ที่อาจจะถูกตัดสัญญาณ หรือเกิดการขัดข้องทางเทคนิค แล้วเมื่อนั้นการติดต่อสื่อสารสั่งการ/บัญชาการ ก็จะเป็นอัมพาตหมดไปทุกเหล่าทัพ เพราะการสื่อสารนี้เป็นการสื่อสารแบบรวมการ
       
        แต่เรื่องนี้มีการพูดกันมามากแล้ว โดยแสดงความอุ่นใจว่า ถึงอย่างไรสถานีควบคุมสั่งการดาวเทียมก็ยังตั้งอยู่ในเมืองไทย ไม่ได้ย้ายไปสิงคโปร์
       
        ในการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา ทหารได้เข้าควบคุมการปฏิบัติงานที่ศูนย์ดาวเทียม นนทบุรีด้วย และสามารถใช้สื่อสารทางทหารสั่งการได้ตลอดเวลา ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิวัติ “ทักษิณ” นั้น
       
        สิงคโปร์-ผู้หักหลังไทยกรณี “ทักษิณ” ไปใช้สิงคโปร์เป็นเวทีสำหรับการกล่าวร้ายต่อรัฐบาลไทยอย่างชัดเจน เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองและก่อให้เกิดผลทางการเมืองในไทย รวมทั้งการใช้สิงคโปร์เป็นเวทีสำหรับการล้างคราบโสมม โดยสิงคโปร์เป็นผู้ให้น้ำและสบู่, สิงคโปร์ทำเหมือนกับว่าหน้าเหลี่ยมผู้นี้ คือผู้ที่เขายอมรับ และเป็นผู้วางอำนาจอย่างชั่วคราว สิงคโปร์เหยียบเรือสองแคม จับปลาสองมือ และมีเล่ห์เหลี่ยมมากพอๆ กับ “ทักษิณ” จึงคบกันได้อย่างมหามิตร หรือถ้าไม่เป็นมหามิตร ก็ต้องเป็นผู้รับใช้ที่ว่านอนสอนง่าย ใช้ไทยเสมือนเป็นดินแดนหรือเมืองออกของสิงคโปร์
       
        แทนที่สิงคโปร์จะเกลียดชัง หรือรังเกียจที่คนผู้นี้ขายหุ้นให้แล้วก็เกิดความเสียหายในหุ้นที่ซื้อไปนับแสนล้านบาท คือมากกว่าราคา 7 หมื่น 3 พันล้านที่ซื้อ (แต่ยังจ่ายไม่หมด) กลับให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เหมือนกับว่าจะช่วยเหลือหรือให้โอกาสสำหรับการกลับมาสู่อำนาจ เพื่อที่จะแก้ตัวหรือแก้ไขปัญหานั้น สิงคโปร์มองว่า-ทักษิณยังมีประโยชน์อยู่สำหรับสิงคโปร์ในอนาคต จึงต้องขุนไว้ และให้เชื่องยิ่งกว่าเก่า
       
        สิงคโปร์เป็นประเทศทะเยอทะยาน คิดอะไรเล็กๆ ไม่เป็น คือต้องคิดใหญ่ไว้ก่อนแบบ THE MAGIC OF THINKING BIG ทั้งๆ ที่เป็นประเทศเกาะเล็กๆ ขนาดนั้น ความคิดทางทหารของเขาในการป้องกันประเทศ เพื่อป้องกันเศรษฐกิจความมั่งคั่ง การสร้างเสริมความมั่นคงของเขาจึงทำอย่างเต็มที่ให้น่าเกรงขาม เป็นประเทศเดียวในย่านนี้ที่มีเครื่องบินลาดตระเวนระยะสูงในการตรวจจับเป้าหมายภาคพื้นดิน แบบที่เราเคยเห็นจากภาพในสงครามของสหรัฐฯ ที่ใช้เครื่องบินโบอิ้งทั้งลำติดอุปกรณ์ตรวจจับอิเล็กทรอนิกส์ไว้เต็มลำ มีจานเรดาร์ขนาดใหญ่ตรึงติดอยู่หลังเครื่องบิน ที่สามารถใช้ระบบ MULTI-SENSOR FUSION และ AUTOMATIC TAROET RECOGNITION (ATR) ที่ส่งภาพเป้าหมายที่เกิดขึ้นจริงไปยังศูนย์บัญชาการได้, รวมทั้งโครงการเฮลิคอปเตอร์ไร้นักบิน แต่สามารถใช้อาวุธโจมตีที่หมายได้ ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ กำลังอยู่ในการดำเนินการขั้นที่ 3 สำหรับโครงการที่มีชื่อว่า UCAR ทางสิงคโปร์ก็เข้าประกบแล้วที่จะได้มาประจำการ
       
        สิงคโปร์มีเรือดำน้ำ 3 ลำ มีกองเรือขนาดเล็กแต่เป็นเรือติดขีปนาวุธทั้งสิ้น เรือยามฝั่งของสิงคโปร์ติดอาวุธดีกว่ากองเรือตามฝั่งของสหรัฐฯ ด้วยซ้ำไป, สิงคโปร์มีกำลังทางบก คือทหารบกอยู่ 4 กองพล มีปืนใหญ่แต่ไม่มีรถถัง เพราะมาเลเซียที่เป็นเพื่อนบ้าน (ซึ่งเคยรวมเป็นประเทศเดียวกันด้วยซ้ำ เมื่อได้เอกราชจากอังกฤษใหม่ๆ) ได้ยื่นคำขาดว่า ปืนใหญ่นั้นคุณมีได้ เพราะใช้เป็นอาวุธรักษาฝั่ง แต่ถ้าหากว่ามีรถถัง มียานเกราะ ก็จะถือว่า เป็นการจัดอาวุธเชิงรุกต่อมาเลเซียโดยตรง
       
        สิงคโปร์จึงหันไปหนักทางกองทัพอากาศ ถือว่าเป็นกองทัพใหญ่สุด และลงทุนมากที่สุด
       
        ทั้งกองทัพบกและกองทัพอากาศนั้น สิงคโปร์เป็นผู้พึ่งพาประเทศไทยมากที่สุด (เพราะหันไปพึ่งพาคนอื่นไม่ได้แล้ว) เนื่องจากประเทศเป็นเกาะขนาดเล็ก พื้นที่สำหรับการฝึกของทหารบก และทหารอากาศไม่มีเพียงพอ สิงคโปร์ใช้แผ่นดินเพื่อการค้าโดยตัวเองเป็นประเทศนายหน้าค้ากำไร ต้องมาขอใช้ดินแดนประเทศไทย ที่เขาคิดว่าเป็นของ “ทักษิณ” ทั้งหมด สำหรับการทหาร
       
        เป็นเวลานานแล้ว-ประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา กองทัพบกสิงคโปร์ได้ขอใช้พื้นที่การฝึกสำหรับทหารของเขาที่กาญจนบุรี พื้นที่ฝึกอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นเขตยึดครองของกองทัพกะเหรี่ยงอิสระ ที่มี พล.ต.โอลิเวอร์ เป็นผู้บัญชาการ บริเวณนั้นเรียกว่า บ้านกะเหรี่ยงโตถะ บ้านหนองศรีมงคล บ้านห้วยน้ำขาว อยู่ในเขตอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ใช้พื้นที่เดียวกับที่โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษใช้ในการฝึกหลักสูตรจู่โจม (ภาคป่าภูเขา) และหลักสูตรการรบ การดำรงชีพในป่า โดยศูนย์สงครามพิเศษ มีค่ายฝึกชื่อ ค่ายเพ่งผล ตั้งอยู่ที่นั่น บริเวณริมแควน้อยใกล้กับปราสาทเมืองสิงห์ ค่ายของสิงคโปร์แยกออกต่างหาก ชาวบ้านเรียกกันว่า “ค่ายสิงคโปร์” อาวุธกระสุนที่ใช้ในการฝึกเป็นของเขาทั้งหมดที่ส่งมาจากสิงคโปร์ ในปีหนึ่งๆ มีการฝึกรวม 3 รุ่น รุ่นหนึ่งใช้เวลา 2 เดือน หรือบางปีก็มีถึง 4 รุ่น
       
        นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงของสิงคโปร์ มียศทางทหารเป็นพลจัตวา ผู้บัญชาการทหารบกสิงคโปร์ก่อนจะมาเป็นทายาททางการเมืองต่อจากลีกวนยูผู้พ่อ, เขาเป็นทหารผู้มีประสบการณ์สูง คือหลังจากที่จบมาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกอังกฤษ ที่เซ็นเฮิร์ส เขามียศร้อยโทได้เข้ารับการเรียนหลักสูตร “จู่โจม” ที่โรงเรียนสงครามพิเศษพร้อมกับเพื่อนนายทหารสิงคโปร์ อีกคนหนึ่งจนจบหลักสูตรครบทั้งภาคที่ตั้งภาคสนาม ภาคป่าภูเขา ภาคทะเล เมื่อ พ.ศ. 2509
       
        เมื่อประมาณ พ.ศ. 2535 หลังจากที่กองบิน 2 โคกกระเทียม ลพบุรี ได้ปรับเปลี่ยนกำลังทางอากาศ โดยให้กองบิน 2 เป็นที่ตั้งของอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ (ฮ.) โดยเฉพาะ กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้ขอใช้กองบิน 2 เป็นที่ฝึกบินเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งสิงคโปร์ใช้ ฮ.ของพูม่า ฝรั่งเศส อย่างเต็มหลักสูตร ก่อนหน้านั้น ก็เคยขอใช้มาแล้วเป็นระยะสั้นๆ ในบางห้วงเวลา โดยจัด ฮ.และครูฝึกตลอดจนชุดซ่อมบำรุงมาเอง ไทยสนับสนุนเรื่องการใช้อาคารสถานที่ อุปกรณ์ช่วยฝึกบางประเภท หอบังคับการบิน และการกู้ภัย
       
        สำหรับการใช้ไทยเป็นที่ฝึกทหารครั้งสำคัญ คือการขอร่วมใช้ กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี และ สนามบินน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นสนามบินที่สหรัฐฯ สร้างไว้สมัยสงครามเวียดนามเป็นฐานฝึกของเครื่องบินขับไล่ F-16 แบบ AB และ CD การนำเครื่องบิน F-16 เข้ามานี้ เป็นไปตามข้อตกลงในสมัยระบอบทักษิณ เมื่อ 2 ปีก่อน
       
        สิงคโปร์มี F-16 อยู่ 5 ฝูง และจะมีการจัดหาเพิ่มเติมอีก 2 ฝูงในปีหน้า เครื่องบินดังกล่าวได้สับเปลี่ยนกันเข้ามาอยู่ในไทยครั้งละฝูง โดยที่กองบิน 23 อุดรธานีนั้น กองทัพอากาศไทยมีแต่เครื่องบินรบแบบอัลฟ่า เจ็ต ที่ชาวอุดรธานี และขอนแก่นเห็น F-16 บินฉวัดเฉวียนอยู่นั้นเป็นของกองทัพอากาศสิงคโปร์ทั้งสิ้น แต่มาใช้น่านฟ้าไทย
       
        นอกจากจะใช้ไทยเป็นที่ฝึกบินหาความชำนาญ หรือการบินทางยุทธวิธีแล้ว F-16 ของสิงคโปร์ยังใช้แผ่นดินของเราเป็นสนามใช้อาวุธทางอากาศอีกด้วย ในการใช้สนามใช้อาวุธทางอากาศที่น้ำพอง ขอนแก่น และที่บ้านม่วงค่อม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี อาวุธที่ใช้แผ่นดินไทยเป็นสนามทดสอบฝีมือนั้น มีทั้งการใช้ปืนกลอากาศ จรวดแบบต่างๆ และลูกระเบิด
       
        ตารางการบินและการใช้อาวุธทางอากาศของ F-16 สิงคโปร์นั้น เต็มแน่นตลอดทั้งปี มีความถี่ในการขึ้นบินมากกว่า F-16 ของไทย ที่นครราชสีมา (กองบิน 1) และตาคลี นครสวรรค์ (กองบิน 4 ด้วยซ้ำ)
       
        สิงคโปร์ไม่มีพื้นที่พอสำหรับการฝึกบิน ทั้งการหาความชำนาญ และยุทธวิธี เมื่อเครื่องบินวิ่งขึ้นก็แทบจะพันเกาะแล้ว ทางด้านเหนือเป็นพื้นที่ปิดอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นน่านฟ้าของมาเลเซีย ส่วนทางตะวันตกก็เป็นพื้นที่แคบน่านฟ้าไม่มากนัก เพราะเป็นน่านฟ้าของอินโดนีเซีย
       
        ด้วยข้อจำกัดดังกล่าวจึงต้องมาใช้พื้นที่การฝึกในประเทศไทย
       
        สิงคโปร์มีการฝึกร่วมทางอากาศกับไทยปีละครั้ง คือการฝึกแอร์ไทย-ลิงค์ และสิงคโปร์ได้เข้าร่วมการฝึกคอบร้าโกลด์ ซึ่งเป็นการฝึกร่วมระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ด้วยความยินยอมของไทย ที่ให้สิงคโปร์เข้าฝึกร่วมด้วยได้ สิงคโปร์ส่งทหารบกและอากาศเข้าร่วมฝึกทั้งในส่วนการฝึกการบังคับการ และการฝึกภาคสนาม โดยมี F-16 เข้าร่วมการฝึกทางยุทธวิธีกับกองทัพอากาศไทย-สหรัฐฯ
       
        มีการฝึกเติมน้ำมันกลางอากาศ จากเครื่องบิน KC แทงเกอร์ ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งโอกาสที่จะได้รับการฝึกเช่นนี้มีน้อยมาก สิงคโปร์ก็ได้รับการฝึกรับน้ำมันกลางอากาศโดย F-16 ด้วย
       
        จะเห็นได้ว่าไทยเอื้ออารีต่อสิงคโปร์ และมีบุญคุณอยู่กับสิงคโปร์มิใช่น้อยทางด้านการทหาร การสร้างความมั่นคงให้กับประเทศสิงคโปร์
       
        แต่สิงคโปร์ไม่ได้ตอบแทนอะไรแก่เราเลยในยามฉุกเฉิน หรือแม้แต่การแสดงน้ำใจ
       
        เช่นครั้งหนึ่ง กองกำลังบูรพา ที่ผันการประชิดของทหารญวนและเขมรฝ่ายเฮงสัมรินไว้ เมื่อครั้งญวรส่งทหาร 7 กองพลมาจ่อที่ชายแดนด้านอรัญประเทศและตาพระยา กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 102 ของกองกำลังบูรพา เจ้าของชายา “บูรพาพยัคฆ์” ได้ใช้อำนาจการยิงของปืนใหญ่ 155 มม. ข่มการเคลื่อนไหวของยานเกราะฝ่ายตรงข้ามไว้นานหลายชั่วโมง การศึกครั้งนั้น คาดว่าจะต้องใช้กระสุนปืนใหญ่มากเกินอัตราที่มีอยู่ในกองพัน ป. 102 จึงมีการขอสนับสนุนกระสุนปืนใหญ่จากหน่วยปืนใหญ่ต่างๆ ทั้งที่กรุงเทพฯ ปราจีนบุรี ลพบุรี แม้แต่นครราชสีมายังต้องขนกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. มาสำรองไว้ ปรากฏว่าการใช้กระสุนปืนใหญ่ในครั้งนั้น ต้องยิงอย่างต่อเนื่องอยู่เป็นเวลาหลายชั่วโมง อัตราสำรองของกระสุนปืนใหญ่ที่มีเหลืออยู่ต่ำกว่าเกณฑ์แล้ว และหากว่ามีความจำเป็นตามสถานการณ์จะต้องใช้ปืนใหญ่อีก กระสุนปืนใหญ่ขาดแคลนแน่นอน ได้มีการติดต่อสายด่วนไปยังประเทศเพื่อนบ้านมี อินโดนีเซีย ตอบรับมาเป็นประเทศแรก ว่าจะลำเรียงกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. มาเสริมให้ แต่ปรากฏว่า ปืนใหญ่ของกองทัพบกอินโดนีเซียเป็นอีกแบบหนึ่งใช้กับปืนใหญ่ของเราไม่ได้ อินโดนีเซียก็ตอบกลับมาว่า ถ้าหากมีปัญหาเช่นนั้น เขาจะส่งทั้งปืนใหญ่และกระสุนของเขาเต็มอัตรามาให้ ต่อมา, ทางไทยได้ขอขอบคุณไป เพราะ มาเลเซีย ได้แสดงน้ำใจตอบมาว่า กระสุนปืนใหญ่ของเขาที่มีอยู่ใช้กับของไทยได้เพราะเป็นปืนใหญ่แบบเดียวกัน ขอให้ไทยหาทางลำเรียงกระสุนปืนใหญ่มาทางมาเลเซียได้ นำออกจากคลังมารอไว้แล้ว กองทัพอากาศได้ใช้ เครื่องบินลำเรียงซี-130 บินไปมาเลเซีย และบรรทุกขนกระสุนปืนใหญ่มาลงที่สนามบินอู่ตะเภา แล้วลำเรียงต่อไปที่อรัญประเทศโดยรถยนต์ การขนกระสุนปืนใหญ่ทางอากาศเช่นนี้ ถือเป็นอันตรายมาก ไม่มีใครเขาทำกัน แต่ไทยต้องทำ โดยคิดว่ามีบินออกจากมาเลเซียก็อยู่เหนือทะเลอ่าวไทย มาที่สนามบินอู่ตะเภาก็อยู่ชายทะเล เส้นทางบินไม่ผ่านเมืองหรือบ้านเรือนผู้คน หากจะระเบิดกลางอากาศก็เป็นอันตรายเฉพาะทหาร ในขณะเดียวกัน ร.ล.ช้าง ซึ่งเป็นเรือลำเรียงของกองทัพเรือก็ออกเรือทันที ข้ามอ่าวไทยไปบรรทุกกระสุนปืนใหญ่กลับมา
       
        สิงคโปร์ซึ่งใช้ปืนใหญ่แบบเดียวกับของไทย มีแต่ความเงียบ ในยามฉุกเฉินเช่นนั้น
       
        การที่สิงคโปร์แสดงออกต่อไทยในกรณี “ทักษิณ” ครั้งนี้ ก็เหมือนกับจะเป็นการซ้ำเติมในช่วงที่ไทยอยู่ในภาวะไม่ปกติเช่นกัน
       
        มาตรการตอบโต้ที่ว่า ไทยงดกรอบการประชุมในโครงการความร่วมมือระหว่างพลเรือนไทย-สิงคโปร์ ยกเลิกการประชุมในวันที่ 29-31 มกราคมนี้ และถอนคำเชิญที่เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ที่จะมาประชุมดังกล่าว เป็นมาตรการที่อ่อนไปสำหรับสิงคโปร์
       
        ควรจะต้องยกเลิกค่ายฝึกสิงคโปร์ที่กาญจนบุรี ยกเลิกการฝึกบินเฮลิคอปเตอร์ที่กองบิน-2 ลพบุรี และให้ถอนกำลังนำเครื่องบิน F-16 ออกไปจากกองบิน 23 อุดรธานี และสนามบินน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ทันทีจึงจะสาสมกับการกระทำครั้งนี้ หากว่าชาตินี้ “ทักษิณ” ได้กลับมามีอำนาจใหม่ค่อยกลับมาใหม่-แต่จะได้กลับมาหรือ?
 

************
ท่านใดเห็นเป็นอย่างไรบ้างครับ
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 10:37:14 AM »

.....เอ็นดูเขา  เอ็นเราขาด....
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 10:47:21 AM »

ไม่รู้กล้าไล่รึเปล่า เขาจ่ายมาเยอะ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
Zeus-รักในหลวง
อะฮู้.....ไฮยีน่าก็เป็นแมวนะคราบบบ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 817
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10983


I'm going to make him an offer that he can't refus


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 10:57:05 AM »

เรื่องฐานทัพสิงคโปร์นี้รู้มานานพอสมควรแล้วครับ................ไม่งั้นผมไม่หงุดหงิดคันปาก ตั้งกระทู้หรอกครับ............ไล่ไปซะได้ก็ดี.................หนักแผ่นดินไทยครับ
บันทึกการเข้า

“A fear of weapons is a sign of retarded sexual and
emotional maturity.”
- Sigmund Freud

“ความกลัวอาวุธคือสัญญาณของความถดถอยทางเพศและวุฒิภาวะทางอารมณ์”
- ซิกมุนด์ ฟรอยด์
ณัฐพนธ์
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 11:55:36 AM »

ไล่มันไป แล้วประกาสวันนั้นเป็นวันชาติ Huh Huhปล่อยให้มันมากดหัวอยู่ได้ Huh Huh
บันทึกการเข้า
physics teacher
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 01:33:45 PM »

..คงศักดิ์  (นายพล ทอ.)เป็นคนที่อนุมัติให้สิงคโปร์มาฝึกที่กองบิน23อุดร และพื้นที่ ที่น้ำพองเป็นเวลา 15 ปี เพื่อแลกกับเครื่องF-16เก่าของสิงคโปร์จำนวน7เครื่อง(เป็นรุ่นA/Bเหมือนของเราที่ประจำการอยู่ 2ฝูงบินคือฝูง103โคราช และฝูง403ตาคลี ส่วนฝูง102เป็นรุ่นADFได้มาเพราะโดนยึดเงินมัดจำF-18สมัยฟองสบู่แตก กำขี้ ดีกว่ากำตด ก็เลยเอาของเก่าที่มันปลดประจำการมา:อ้างอิ้ง http://www.f-16.net/gallery_item41174.html ตัวย่อ RTAF=Royal Thai Air Force.กองทัพอากาศไทย)ส่วนของสิงคโปร์เป็น F-16C/D Block52+รุ่นใหม่ทันสมัยกว่ากันเทียบไม่ติดกับของเรา..ที่สำคัญกำลังเครื่องยนต์เจ๊ตของF-16ตัวใหม่ของสิงคโปร์แรงกว่านั้นคือดังกว่าตัวเก่าม๊ากมาก ชาวบ้านแถวๆบริเวณกองบินแก้วหูพังไปหลายรายแล้ว.. Angry
บันทึกการเข้า
อู๋ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 143
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1666



« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 01:49:54 PM »

คิดใหม่อีกทีอย่าไปไล่ เค้าเลยครับ สงสาร 


ยึดเลยดีกว่า


อยากได้ก็ขอคืนเอง ................
งานนี้สงครามชัวร์ ..................
บันทึกการเข้า

Life was like a box of chocolate. You never know what You're gonna get.
ณัฐพนธ์
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 02:25:27 PM »

คิดใหม่อีกทีอย่าไปไล่ เค้าเลยครับ สงสาร 
ยึดเลยดีกว่า
อยากได้ก็ขอคืนเอง ................
งานนี้สงครามชัวร์ ..................
เอางั้นเลยหรอครับ......เอายึดก็ยึด..........มันไม่ไปก็ยึดมันเลยลูกพี่ ดีสม Wink Wink Wink
บันทึกการเข้า
jamin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 9
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1356


« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 02:36:58 PM »

ถ้าเรากล้าไล่มันออกไป ...... เราคงกล้าขุด "คอคอดกระ" นานแล้วแหละครับ
บันทึกการเข้า
SDH2th
Hero Member
*****

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2203

การให้สบายใจกว่าการรับ


« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 03:14:25 PM »

 Cool...ผู้นำสิงค์...อาจจะเลวในสายตาของเรา...แต่เขาคิดและทำเพื่อประเทศชาติเขา...โดยมีการวางแผนที่มีระยะยาว...ชั่วลูกชั่วหลาน...เรียกว่ายุทธศาสตร์ระยะ 25-50-100 ปี   ไม่เหมือนผู้นำบางประเทศ...ที่วางเป็นเพียงยุทธศาสตร์  เพื่อการเลือกตั้ง  เท่านั้น.... Huh
บันทึกการเข้า

เข้าเถื่อนอย่าหมิ่นพร้า  มีไป
เข้าศึกอย่านอนใจ       เฉื่อยช้า
อาวุธอย่าวางไกล        ขุกค่ำ  คืนแฮ
นอนแต่ยามหนึ่งอ้า      อาจป้องภัยพาล
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 03:17:27 PM »

ช่วงหลังๆ..F16.บินน้อยลงนะครับ..แทบจะไม่มีการบินเลย หลงรัก
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 04:02:43 PM »

ขอ SAM สัก 10 ลูกได้ไหม
SAM =Som-oh And monkoodh  A roi yhang rang
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
ณัฐพนธ์
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 04:04:51 PM »

Cool...ผู้นำสิงค์...อาจจะเลวในสายตาของเรา...แต่เขาคิดและทำเพื่อประเทศชาติเขา...โดยมีการวางแผนที่มีระยะยาว...ชั่วลูกชั่วหลาน...เรียกว่ายุทธศาสตร์ระยะ 25-50-100 ปี ไม่เหมือนผู้นำบางประเทศ...ที่วางเป็นเพียงยุทธศาสตร์ เพื่อการเลือกตั้ง เท่านั้น.... Huh
ซู๊ดยอดลูกพี่...โอ๊ยอยากให้มันอ่านเด๊ Huh Huh Huh
บันทึกการเข้า
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20779



เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 04:31:23 PM »

...เห็นเครื่องบินทหารสิงคโปร์ที่สนามบินอุดร  ไม่ค่อยชอบเลยครับ  Sad

...แต่หลายคนกระดี๊กระด๊าว่าดีจัง  พวกซิงค์เอาเงินมาใช้ที่อุดร  Undecided Undecided
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 19, 2007, 04:46:06 PM »

คิดใหม่อีกทีอย่าไปไล่ เค้าเลยครับ สงสาร
ยึดเลยดีกว่า
อยากได้ก็ขอคืนเอง ................
งานนี้สงครามชัวร์ ..................
เอางั้นเลยหรอครับ......เอายึดก็ยึด..........มันไม่ไปก็ยึดมันเลยลูกพี่ ดีสม Wink Wink Wink

ทำอย่างนั้นจะดีเหรอครับ Grin Grin Grin   แต่จะเอาวันไหนดีล่ะครับ  Grin Grin Grin ล้อเล่นนนนนนน
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.076 วินาที กับ 21 คำสั่ง