เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 12, 2025, 09:41:38 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว  (อ่าน 4165 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
โมเช่ ดายัน
ยิ้มได้เมืื่อถูกเยอะ หัวเราะเมื่อถูกเย้ย เฉยเมยเมื่อถูกชม
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 32
ออฟไลน์

กระทู้: 272



« เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 03:41:43 PM »

>รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
>ฉันมีแฟนอยู่หนึ่งคน เราเติบโตมาด้วยกัน ชื่อว่า “จิน”
>ฉันคิดกับเขาแค่เพื่อนมาโดยตลอด
>จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วตอนที่เราไป Club trip ด้วยกัน
>ฉันพบว่า “ฉันตกหลุมรักเขา” เสียแล้ว
>ก่อนที่เราจะกลับจากที่ไปเที่ยว “ฉันได้สารภาพรักกับเขา”
>ในไม่ช้า “เราก็กลายมาเป็นคู่รักกัน” แต่เราสองคนรักกันในทางที่ต่างกัน
>ฉันสนใจแต่เขาเพียงคนเดียวเสมอ แต่ว่า
>ข้างกายเขากลับมีผู้หญิงหลายคนเข้ามา สำหรับฉันแล้ว
>เขาเป็นผู้ชายคนเดียว
>แต่สำหรับเขาฉันอาจจะเป็นเพียง ผู้หญิงคนนึงเท่านั้น.....
>"จิน อยากไปดูหนังไหม" ฉันถามเขา
>"เราไปไม่ได้"
>"ทำไมเหรอ หรือว่าต้องอ่านหนังสือที่บ้าน?"
>ฉันรู้สึกถึงความผิดหวังที่เข้ามาในใจฉัน
>"เปล่าหรอก เรานัดกับเพื่อนไว้..." เขาจะเป็นแบบนี้เสมอ
>เขาพบเพื่อนผู้หญิงต่อหน้าฉัน เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
>สำหรับเขาแล้วฉันคือเพื่อนหญิงคนนึงเท่านั้น คำว่ารัก
>ออกมาแค่จากปากของฉันเท่านั้น
>ตั้งแต่ฉันรู้จักเขา ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดคำว่ารักมาก่อน
>ไม่เคยมีฉลองวันครบรอบสำหรับพวกเรา เขาไม่เคยพูดอะไรตั้งแต่วันแรก
>และมันก็เป็นแบบนั้นต่อไป 100 วัน ก็แล้ว.....200วันก็แล้ว
>ทุกวันก่อนที่เขาจะพูดคำลา
>เขาจะแค่จะให้ตุ๊กตาตัวนึงกับฉันทุกวันไม่เคยขาด
>ฉันไม่รู้ว่าทำไม...
>จนกระทั่งวันหนึ่ง
>ฉัน: เออ จิน เรา....
>จิน: อะไรเหรอ...อย่าอ้ำอึ้งน่า แค่พูดมา..
>ฉัน: เรารักนายนะ
>จิน:....เออ เอาตุ๊กตาตัวนี้ไปแล้วก็กลับบ้านซะนะ เขาไม่ใสใจคำ 3
>คำของฉัน แล้วก็ส่งตุ๊กตาให้ฉัน จากนั้นเขาก็หายไป
>เหมือนกับว่าเขากำลังวิ่งหนีฉัน
>ห้องฉันเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่เขาให้ฉันทุกวัน ทีละตัวทีละตัว จนเต็มไปหมด
>จนวันหนึ่งมาถึงวันเกิดของฉันตอนฉันอายุ 15 ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้า
>ฉันวาดฝันว่าจ่ะมีปาร์ตี้กับเขา
>แล้วฉันก็ขังตัวเองไว้ในห้องนอน รอโทรศัพท์จากเขา
>แต่ว่า......ข้าวเที่ยงก็แล้ว...ข้าวเย็นก็แล้ว.....ในไม่ช้าท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำ...เขาก็ยังไม่ได้โทรมา
>ฉันก็ไม่อยากที่จะเฝ้าดูโทรศัพท์อีกต่อไป จากนั้นประมาณตีสอง
>เขาก็โทรมาหาฉัน ปลุกฉัน...
>เขาบอกให้ฉันออกไปหาเขาที่หน้าบ้าน ฉันยังรู้สึกดี
>แล้ววึ่งออกไปหน้าบ้านอย่างมีความสุข
>ฉัน: จิน....
>จิน:นี่.....เอานี่ไป
>อีกแล้ว เขาให้ตุ๊กตากับฉันอีกแล้ว
>ฉัน: นี่อะไร
>จิน: ไม่ได้ให้เมื่อวานนี้ ก็เลยต้องให้ตอนนี้ กลับบ้านก่อนนะ บาย
ฉัน: เดี๋ยว!เดี๋ยว! รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร?
>จิน: วันนี้เหรอ? อู? ฉันรู้สึกเศร้า
>ฉันหลงคิดว่าเขาจำวันเกิดของฉันได้
>เขาหันกลับไปแล้วก็เดินจากไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
>จากนั้นฉันตะโกน เดี๋ยว!
>จิน: มีไรจะพูดเหรอ?
>ฉัน: บอกเรามา บอกเรามาว่านายรักเรา....
>จิน: อะไรนะ!
>ฉัน: บอกเรามาสิ ฉันทิ้งความอ่อนแอของฉันไว้ข้างหลัง และจับตามองเขา
>แต่ว่าเขาแค่พูดง่าย ๆ อย่างเยือกเย็น แล้วก็ไป...
>"เราไม่อยากพูด....ว่าเรารักใครง่าย ๆ ถ้าอยากได้ยินมากนักละก็
>หาคนอื่นแทนเราซะ"
>นั่นคือสิ่งที่เขาพูด แล้วเขาก็จากไป
>ขาของฉันรู้สึกชา...แล้วฉันก็ทรุดลงไปบนพื้น เขาไม่อยากพูดมันง่าย ๆ
>เขาทำอย่างนั้นได้ไง?
>ฉันรู้สึกว่า... บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับฉันก็ได้...
>จากวันนั้น ฉันขังตัวเองในบ้าน และร้องไห้ เอาแต่ร้องไห้
>เขาไม่ได้โทรหาฉันถึงยังไง ฉันก็ยังรออยู่
>เขายังวางตุ๊กตาไว้หน้าบ้านฉันทุก ๆ วัน เดือนนึงหลังจากนั้น
>ฉันรวบรวมตัวเอง แล้วก็ไปโรงเรียน
>แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ความเจ็บปวดของฉันกลับมาอีกครั้งก็คือฉันเจอเขาบนถนนกับผู้หญิงคนอื่น...
>เขามีรอยยิ้มบนใบหน้า
>รอยยิ้มแบบที่ฉันไม่เคยเห็นตอนที่เขาถือตุ๊กตาที่เหล่านั้น
>ฉันวิ่งตรงกลับบ้านและมองตุ๊กตาในห้อง แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
>เขาให้ตุ๊กตาฉันทำไม?
>เขาอาจจะเอาตุ๊กตาพวกนี้มาจากผู้หญิงบางคน
>ด้วยความโมโหของฉัน ฉันขว้างตุ๊กตาพวกนั้นไปรอบห้อง
>ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดัง เขาโทรมา เขาให้ฉันออกมาที่ป้ายรถบัสหน้าบ้าน
>ฉันพยายามจะทำใจให้เย็นลง แล้วเดินออกไปที่ป้ายรถ ฉันบอกกับตัวเองว่า
>ฉันกำลังจะลืมเขา เรื่องของเราจะจบลง
>จากนั้นเขาเดินมาหาฉัน ในมือถือตุ๊กตาตัวใหญ่เอาไว้
>จิน: โจ ฉันคิดว่านายจะโกรธมาก แต่ว่านายออกมาจริง ๆ เหรอ?
>ฉันยังรู้สึกเกลียดเขาอยู่
>แต่ได้แต่ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วพูดจาหยอกเย้าเขา
>ในไม่ช้าเขาก็ให้ตุ๊กตากับฉันเหมือนอย่างเคย
>ฉัน: ฉันไม่ต้องการมัน
>จิน: อะไรกัน?..ทำไมล่ะ?
>ฉันดึงตุ๊กตาจากเขาแล้วก็โยนมันทิ้งไปบนถนน
>ฉัน: ฉันไม่ต้องการมัน ไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว!!
>ฉันไม่อยากเจอคนอย่างนายอีกต่อไป! ฉันพูดทุกคำพูดในใจฉัน
>แต่ไม่เหมือนวันอื่นๆ ดวงตาของเขาดูตกตะลึง
>"เราขอโทษ" เขาพูดคำขอโทษเบาๆ
>แล้วเขาก็เดินออกไปที่ถนนเพื่อจะเก็บตุ๊กตานั้น
>ฉัน: โง่จริง! เก็บมันขึ้นมาทำไม ทิ้งมันไปนะ!!!
>แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจ ยังคงเดินต่อไปเพื่อจะเก็บมัน ทันใด.....
>บรืน~บรืน~ ด้วยเสียงอันดัง รถบรรทุกคันใหญ่ก็วึ่งมา
>"จิน! หลบ! หลบไป!" ฉันตะโกน...
>แต่ว่าเขาไม่ได้ยินเสียงฉัน เขาก้มลงไปเก็บตุ๊กตา
>"จิน!หลบไป"
>บรืน~!! โครม!!!!!!เสียงนั้นช่างน่ากลัวมาก
>นั่นคือวิธีที่เขาจากไปจากฉัน
>จากไปโดยไม่สามารถลืมตาขึ้นมากล่าวคำใดกับฉันอีก จากวันนั้น
>ฉันจะต้องผ่านความรู้สึกผิดและความเศร้าเพราะว่าสูญเสียเขา...
>และหลังจากที่ฉันใช้เวลา 2 เดือนเหมือนคนบ้า ฉันหยิบตุ๊กตาขั้นมา
>มันคือของขวัญอย่างเดียวที่เขาให้ตั้งแต่เราคบกัน
>ฉันจำวันเหล่านั้นที่ฉันใช้เวลาอยู่กับเขาและเริ่มนับวันที่เราเคยรักกัน
>1..........2......3
>484...485....
>แล้วก็หยุดที่ตุ๊กตา 485 ตัว
>แล้วฉันก็เริ่มร้องไห้อีกครั้งพร้อมกับถือตุ๊กตาตัวนึงในแขนของฉัน
>ฉันกอดมันอย่างแรง ทันใดนั้น... "ฉันรักเธอ~ ฉันรักเธอ~"
>ฉันปล่อยมันหล่นลงพื้น ตกตะลึง... ฉัน.รั..ก..เธอ??
>ฉันหยิบตุ๊กตาขั้นมาแล้วก็กดลงไปที่ท้องของมัน
>"ฉันรักเธอ~ ฉันรักเธอ~" เป็นไปไม่ได้!
>ฉันกดลงไปที่ท้องของตุ๊กตาทุกตัว แล้วข้างๆฉันก็เต็มไปด้วยเสียง
>"ฉันรักเธอ~ "
>"ฉันรักเธอ~ "
>"ฉันรักเธอ~ " คำพูดเหล่านั้นหลั่งไหลออกมาไม่หยุด ฉัน...รัก....เธอ...
>ทำไมฉันไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น? ว่าหัวใจของเขาอยู่ข้าง ฉัน ปกป้องฉันไว้
>ทำไมฉันไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าเขารักฉันขนาดนี้?
>ฉันหยิบตุ๊กตาอีกต้วหนึ่งใต้เตียง แล้วก็ กดท้องของมัน
>มันเป็นตุ๊กตาตัวสุดท้าย ตัวที่ตกบนถนน ยังมีคราบเลือดของเขาติดอยู่
>เสียงที่ออกมาเป็นเสียงที่ฉันคิดถึงมาก
>"โจ...รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร? เรารักกันมา 486 วันแล้วนะ นายรู้ไหมว่า
>486 คืออะไร?
>เราบอกรักนายไม่ได้....อืม...เพราะว่าเราขี้อายเกินไป....ถ้านายให้อภัยเราและเอาตุ๊กตาตัวนี้ไป
>เราจะบอกว่า เรารักนาย...ทุกวัน...จนวันตาย"
>"โจ...เรารักนาย...." น้ำตาหยดลงมาบนแก้มของฉัน ทำไม? ทำไม?
>ฉันถามพระเจ้า ...ทำไมฉันถึงเพิ่งมารู้ตอนนี้
>เขาไม่สามารถอยู่ข้างกายฉันได้
>แต่ว่าเขารักฉันจนนาทีสุดท้ายของชีวิตเขา
บันทึกการเข้า

เลิกกักขังความรัก อย่าคิดว่าเขาเป็นของเราเท่านั้นห้ามเป็นอื่น ถ้าเกิดเขาจะไป
ก็เป็นอิสระของเขา แม้เราจะรู้สึกว่าเสียเวลาหรืออะไรที่ผ่านมาเหลือเกิน
ก็เพราะถ้าเราจะไปเราเองก็ไม่อยากจะให้ใครมาขังเราไว้เหมือนกัน
Virus
Hero Member
*****

คะแนน 6
ออฟไลน์

กระทู้: 1759



« ตอบ #1 เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 03:58:46 PM »

 โดนชก
บันทึกการเข้า

จะดี จะชั่ว อยู่ที่ตัวทำ
จะสูง จะต่ำ อยู่ที่เราทำตัว
Nakin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 115
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3905


รักทุกคนเลย ......


« ตอบ #2 เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 04:17:13 PM »



โอว    ...............    สุดยอด       หัวเราะร่าน้ำตาริน

เรื่องความรัก    แบบเศร้า ๆ  ซึ้ง ๆ    อย่างนี้    .................

ผมชอบมาก    ..............    หามาให้อ่านอีกนะครับ

ขอบคุณครับ       Smiley

บันทึกการเข้า

Happy   shooting    ......   

พูดจริง     ก็หาว่า    โกหก     ........     พูดตลก    ก็หาว่า     หลอกลวง
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #3 เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 05:08:49 PM »

โห.....รักอะไรยาวจัง      ผมม่ายหวายเวลาน้อย
บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 05:11:48 PM »

 Cheesy บางทีก้อรู้ว่าเค้ารัก แต่รักเค้าไม่ได้
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
Nakin
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 115
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3905


รักทุกคนเลย ......


« ตอบ #5 เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 05:35:51 PM »


 Cheesy ºÒ§·Õ¡éÍÃÙéÇèÒà¤éÒÃÑ¡ áµèÃÑ¡à¤éÒäÁèä´é



  :Smiley      อืมม์    ..........    มีนัย          Grin






บันทึกการเข้า

Happy   shooting    ......   

พูดจริง     ก็หาว่า    โกหก     ........     พูดตลก    ก็หาว่า     หลอกลวง
ป๊อกแมน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 156
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2095



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 05:55:55 PM »

รักแท้อันแสนยาวนาน..................
บันทึกการเข้า

ดอยหลวง
HS5XKN
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 317


เหนี่ยวไกถ้าตัดสินใจถูกต้อง


« ตอบ #7 เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 06:23:19 PM »

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

 สิ่งที่คุณเห็นไม่เป็นอย่างที่คุณคิดเสมอไป  Huh Huh Grin Grin
บันทึกการเข้า

อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่ามิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา   ไม้ก๊ดแป๋งขอเหล็กก๊ดแป๋งเคียว คนก๊ดอย่างเดียวไจ้ก๋ารบ่อได้
.......................................
ณัฐพนธ์
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: มกราคม 20, 2007, 06:30:34 PM »

ลงอ่างเลยดีกว่าสบายใจ........ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: มกราคม 21, 2007, 10:28:41 AM »

ขอแจมบ้างครับ ( ยางมาก )


เรื่องราวของฉันเกิดขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน
>> > เรื่องราวความทรงจำของผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันคิดว่า
>> > ในชีวิตนี้ฉันคงตอบแทนสิ่งดีๆ จากชายคนนั้นไม่หมด …..
>> > 2 ปีที่แล้วหลังจากฉันจบการศึกษาปริญญาตรีทางด้านการตลาด
>> > ฉันก็ได้งานทำที่บริษัททางด้าน IT ชั้นนำแห่งหนึ่งในตำแหน่งพนักงานฝ่ายขาย
>> >>> > และที่แห่งนี้เองเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งต่าง ที่ฉันปรารถนาให้เวลานั้นย้อนกลับมาอีกหากทำได้
>> >หลังจากที่ฉันทำงานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ผู้จัดการฝ่ายขายได้ให้ฉันเดินทางไปพบลูกค้ารายหนึ่ง
>> >ซึ่งจะว่าไปนี่เป็นงานแรกที่ฉันต้องฉายเดี่ยวเพียงลำพัง
>> > แต่จะว่าไปก็ไม่เดี่ยวนักหรอกเพราะว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์
>> > เพื่อที่จะอธิบายรายละเอียดทางด้านเทคนิคให้ลูกค้าฟังอีก 1 คน
>> > ที่ทำงานของฉันอยู่ชั้น 6 ของบริษัท แต่ฝ่ายผลิตภัณฑ์อยู่ชั้น 2
บันทึกการเข้า
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: มกราคม 21, 2007, 10:30:13 AM »

>> >>> > ด้วยความตื่นเต้นกับงานแรกฉันโทรไปหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์คนนั้น
>> >ตามเบอร์ภายในที่อยู่ในเอกสารรายละเอียดงานที่ฉันได้รับมา
>> > "สวัสดีครับ ผมปัญทัตน์รับสายครับ"
>> > นั่นเป็นเสียงของเจ้าของสายปลายทางที่พูดกลับมา
>> > "สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อยุวดีจากฝ่ายขายคะ ดิฉันโทรมาเพื่อสอบถามคุณว่า
>> >>> > คุณได้รับเอกสารเรื่อง Present งานลูกค้าในวันศุกร์นี้หรือยังค่ะ"
>> >>> > "อ๋อ..ครับได้รับแล้วคุณยุวดีต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ"
>> >>> > "เปล่าค่ะ เอ่อ…พอดีนี้เป็นงานแรกของดิฉัน
>> >>> > ก็เลยจะโทรมานัดแนะเรื่องเวลาและความพร้อมอื่นๆ นะค่ะ"
>> >>> หลังจากนั้นฉันก็คุยรายละเอียดและนัดแนะเรื่องเวลากับเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
>> >>> > ฉันก็เตรียมตัวอย่างหนักด้วยความตื่นเต้น กึ่งๆ กลัวปะปนกัน
>> >>> >>> > แล้ววันนั้นก็มาถึงฉันถือแฟ้มรายละเอียดต่างๆ ที่เตรียมไว้
>> >>> > แล้วเดินมาลงลิฟต์ ไปลานจดรถชั้น B
>> > พอออกจากลิฟต์ฉันกดโทรศัพท์เพื่อโทรหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์
บันทึกการเข้า
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: มกราคม 21, 2007, 10:31:56 AM »

>> >>> > แล้วสิ่งที่ฉันไม่อยากได้ก็เข้ามาในโสตรับรู้ของฉันว่า
>> >>> > รถตู้บริษัทที่ฉันทำเรื่องใช้ไว้นั้นเกิดอุบัติเหตุเมื่อเช้านี้
>> >>> > ฉันรู้สึกว่าฤกษ์วันนี้ชักไม่เข้าท่าเสียแล้ว
>> >>> > ฉันตอบเขาไปว่าถ้างั้นเดี๋ยวขับรถส่วนตัวดิฉันไป
>> >>> > เขาตอบตกลงและจะตามไปที่รถของฉัน
>> >>> > ฉันนั่งสตาร์ทเครื่องรถทิ้งไว้รอเขา และแล้วเขาก็มายืนอยู่ข้างรถ
>> >>> > "คุณยุวดี ใช่ไหมครับ"
>> > นี่คือครั้งแรกที่ฉันพบเขา ผู้ชายที่จะไปทำงานกับฉันวันนี้
>> >>> > ฉันรู้สึกว่าวันนี้ฤกษ์คงจะไม่ดีจริงๆ เสียแล้ว
>> >>> > เพราะผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างรถของฉันตอนนี้ ในสายตาฉันบอกได้เลยว่า
>> >>> > นายนี่จะพูดภาษาคนได้รู้เรื่องหรือเปล่า หน้าตาออกจะต๊องๆ
>> > ไม่มีแววฉลาด
>> > (ไม่น่าตอบคำถามอะไรจากลูกค้าได้เลย)
>> >>> > บุคลิกก็ดูไม่สง่า ยิ่งการแต่งตัวด้วยแล้ว
>> > ฉันไม่รู้ว่านายนี่หลงยุคหรือเปล่า
บันทึกการเข้า
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: มกราคม 21, 2007, 10:33:30 AM »

>>>ฉันได้แต่คิดว่านี่ผู้จัดการของฉันแกล้งฉันหรือเปล่าที่ต้องให้ฉันมาทำงานกับนาย สกั๊งนี่
>> > ตอนนี้เขาเปิดประตูเขามานั่งในรถของฉันแล้ว
>> > ฉันจึงถามเขาไปว่า "คุณจะขับเองไหมคะ"
>> > เขายิ้มและพูดว่า "ผมขับรถไม่เป็นครับ"
>> > นายนี่นอกจากจะเห่ยแล้วยังไม่ได้เรื่องอีก ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย
>> >>> > ฉันขับรถออกมาเพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัทลูกค้า
>> >>> > ตลอดเวลาฉันรู้สึกได้อีกอย่างว่าอีตานี่คงจะเป็นคนใบ้
>> >>> > เพราะถ้าฉันไม่ถามเขาก็ไม่ตอบ ไม่ชวนคุย เอาแต่นั่งมองถนนข้างๆ ทาง
>> >>> > ฉันชักไม่แน่ใจแล้วซิว่ามากับคนปรกติ
บันทึกการเข้า
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: มกราคม 21, 2007, 10:34:49 AM »

>>>พอมาถึงบริษัทลูกค้าเขาเป็นคนเดินนำหน้าฉันไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์บริษัท
>> >>> > เพื่อขอเข้าพบและอีกหลายๆ อย่างด้วยความคล่องแคล่ว
>> > ฉันเสียอีกที่เงอะๆ เงิ่นๆ เหมือนกับว่าเขาเป็นคนละคนกับนายบื้อเมื่อกี้
>> >>> > เราเริ่มงานวันนี้ได้ด้วยดี
>> > แล้วระหว่างนั้นเวลาที่ลูกค้ามีปัญหาข้อซักถาม
>> > นายบื้อนั่นสามารถตอบได้รวดเร็ว ปราดเปรื่องขัดแย้งกับหน้าตาต๊องๆ ของเขา
>> >>> > อย่างที่ฉันเองก็เผลอนึกชื่นชมอยู่ในใจ เราผ่านงานนั้นมาด้วยดี
>> >>> > ขากลับฉันชวนเขาทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง
>> >>> > แล้วนายบื้อนี่ก็ตอบอย่างหน้าตาเฉยว่ากินไม่เป็น
>> >>> > เชยอย่างที่ฉันเองก็ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน
>> >>> > ท้ายสุดฉันต้องมานั่งกินข้าวแกงริมทางกับตาบื้อนี่
>> >>> > ฉันได้แต่นึกในใจว่าผู้ชายอะไรไม่มีรสนิยม แถมไร้ยางอายอีกตะหาก
>> >>> > ฉันกลับบริษัทไปพร้อมข่าวดี
>> > หลังจากวันนั้นฉันก็ได้ออกไปทำงานติดต่อลูกค้าบ่อยขึ้น
>> >>> > หน้าที่การงานของฉันรวมทั้งค่าคอมมิชชั่นดีขึ้น
>> >>> > แต่ที่ไม่ดีก็คือต้องไปกับผู้ชายซื่อบื้อนั่นเป็นประจำ
บันทึกการเข้า
Nattapol
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: มกราคม 21, 2007, 10:36:34 AM »

>> >>> > หลังจากที่ฉันทำงานที่บริษัทมาเป็นเวลาเกือบปี
>> > ฉันได้รู้จักพนักงานหลายฝ่าย มีเพื่อนมากขึ้น
>> > ฉันก็พบผู้ชายในฝันของฉัน
>> > เขาอยู่ฝ่ายวิศวกรรม แถมอยู่ในตำแหน่งวิศวกรด้วย
>> > หน้าตาดี สมาร์ท ดูดีมีรสนิยมในทุกๆ เรื่อง
>> > และที่สำคัญฉันคิดว่าเขาก็ชอบฉัน เขาชื่ออนันต์
>> > เรารู้จักและสนิทสนมกันเร็วมากจนเรียกได้ว่าเป็นแฟนกัน
>> > อนันต์มักนัดฉันไปทานข้าว ฟังเพลงบ่อย
>> > คำพูดของเขาเป็นคำที่ฉันรู้สึกว่ามันไพเราะน่าฟัง
>> > ทุกๆ เช้าจะมีดอกกุหลาบสีขาวมาวางบนโต๊ะทำงานฉันทุกวัน
>> > และฉันก็มั่นใจแน่นอนว่าเจ้าของดอกกุหลาบนี้ชื่ออนันต์แน่นอน
>> >>> > ฉันมีความสุขและคิดว่าคงรักเขาคนนี้
>> >>> > จนวันหนึ่งฉันออกไปพบลูกค้ารายหนึ่งพร้อมนายบื้อ
>> > ระหว่างที่ฉันขับรถอยู่นั้น นายบื้ออยู่ๆ ก็เป็นฝ่ายถามฉันขึ้นมาว่า
>> >>> > "คุณยุวดีสนิทสนมกับคุณอนันต์ดีจัง
>> > รู้จักกันก่อนหน้ามาทำงานที่นี่หรือครับ"
>> > ฉันตอบนายบื้อไปว่า
>> > "เปล่า…เราพึ่งรู้จักนันต์ที่นี่แหละ"
>> > นายบื้อยิ้มแล้วก็เงียบไปไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยจนเสร็จงาน
>> >>> >>> > เดือนธันวาคมใกล้วันเกิดของฉัน
>> > ฉันมีโปรแกรมจะไปฉลองวันเกิดกับเพื่อนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
>> >>> > และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีอนันต์ไปด้วย
>> > เช้าวันเกิดฉันระหว่างที่ฉันดื่มกาแฟอยู่ที่บ้าน
>> >>> > โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น แต่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นฉันรับสาย
>> >>> > เสียงที่ได้ยินในสายนั้นเป็นเสียงดนตรีจากหีบเพลงเป็นเพลงอวยพรวันเกิด
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 21 คำสั่ง