โดนทำโทษไปแล้วครับ ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการกระทำผิดของส่วนบุคคลนะครับ ไม่เกี่ยวกับกองทัพ
แฉรุ่นพี่บังคับนักบินพาญาติขึ้นภูกระดึงทอ.เตรียมเรียกสอบคนสั่งบิน
ช็อก! ผลสอบ ทอ. พบ "รุ่นพี่ ทอ." ที่แท้นักบินกองบิน 6 ยศ น.อ. และลูกอดีตบิ๊กท.อ.. ระบุผลสอบเบื้องต้นพบใช้ความเป็นรุ่นพี่สั่งนักบินรุ่นน้องยศ "ร.อ."
2 นายขนญาติและเพื่อนขึ้นภูกระดึง โฆษก ทอ.ยัน ต้องเรียกรุ่นพี่ดังกล่าวมาสอบเอาผิดด้วย วอนขอความเห็นใจให้นักบิน ขณะที่เอ็นจีโอในพื้นที่ออกแถลงการณ์ประณาม แฉซ้ำมีผู้ค้าจ้างนักบินขนของไปขายบนภูด้วย จี้ให้ฟัน ขรก.ทั้งใน-นอกพื้นที่ที่ชอบใช้เส้นสายเบ่งขอบินฟรี เตรียมทำหนังสือถึงนายกฯ เร่งตรวจสอบการผลาญงบหลวง
หลังจาก "คม ชัด ลึก" นำเสนอข่าวว่ามีการนำเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ (ทอ.) นำกลุ่มนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นญาติและคนใกล้ชิดของข้าราชการทหารอากาศกลุ่มหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์แคมปิ้งขึ้นไปเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย กระทั่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบผ่านเวบไซต์
www.trekkingthai.com และ
www.pantip.com อย่างรุนแรง ส่งผลให้ ผบ.ทอ. สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยภายหลังนักบินของ ทอ.ยอมรับว่า ได้รับผู้โดยสารที่เป็นญาติของรุ่นพี่ทหารอากาศบินขึ้นภูกระดึงจริงตามที่เป็นข่าว
น.อ.มณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า ขั้นตอนการสอบสวนนักบินทั้ง 2 นายได้เสร็จสิ้นเฉพาะส่วนของคณะกรรมการชุดนักบิน จากนั้นก็จะส่งเรื่องให้ พล.อ.ต.วินัย เปล่งวิทยา เจ้ากรมจเรทหารอากาศ เป็นประธานการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งนักบินทั้ง 2 ได้พูดพาดพิงถึงนักบินรุ่นพี่ก็ต้องเรียกมาสอบสวน โดยจะเรียกสอบบุคคลที่เป็นนายทหารกองทัพอากาศเท่านั้น ไม่มีการเรียกพลเรือนมาสอบสวน
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้นักบินทั้ง 2 ก็รู้ว่า มีความผิดถือว่าเป็นบทเรียน และมีบทลงโทษชัดเจน เขาบอบช้ำพอสมควรแล้ว หยุดประณามได้แล้ว เขาทำไปโดยรู้ว่า ขอให้สังคมให้อภัยด้วย เพราะทำความดีมา 100 ครั้ง แต่พอผิดครั้งเดียว เหมือนลบความดีของเขาทั้งหมด" น.อ.มณฑล กล่าว
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวเพื่อไม่ให้ ฮ. ของ ทอ.ขึ้นไปบนภูกระดึง รองโมษก ทอ.กล่าวว่า ควรจะแยกแยะประเด็นคนละเรื่องกัน เพราะการที่ ทอ.ประจำการอยู่บนภูกระดึงเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวนในคดีนี้ว่า พล.อ.ต.วินัย เปล่งวิทยา เจ้ากรมจเรทหารอากาศ ในฐานะประธานการสอบสวนกรณีดังกล่าว ได้รับรายงานในเบื้องต้นว่า สาเหตุที่นักบินทั้ง 2 นายยินยอมให้มีการขนนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนภูกระดึงนั้น เนื่องจากได้รับการติดต่อจากนาวาเอก "อ." อดีตนายทหารสังกัดกองบิน 6 และเป็นนักบินจากกองบิน 6 ซึ่งเป็นรุ่นพี่ (ตท.27) ใช้ความเป็นรุ่นพี่บังคับรุ่นน้อง ขนเพื่อนฝูงและครอบครัวขึ้นไปเที่ยวบนภูกระดึง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนักบินทั้ง 2 นาย ขณะนี้ทางกองบิน 2 จ.ลพบุรี ต้นสังกัด ก็ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบอีกชุด โดยมีรองผู้การกองบิน 2 เป็นประธานสอบ และได้ทำหนังสือแจ้งถึงบทลงโทษทางวินัยการบิน เพราะเป็นการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ทั้งที่ได้แจ้งทางวิทยุบอกหน่วยกองบินทั่วประเทศ ห้ามมิให้โดยสารประชาชนขึ้นเครื่องหากไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยเหนือ
คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจากนี้ต่อไปคงไม่มีอีกแล้ว และกำชับให้ทุกคนปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งของกองทัพอากาศอย่างเคร่งครัด ซึ่งในเรื่องนี้ใครผิดก็ต้องว่ากันไปตามความผิด สำหรับนาวาเอก "อ." ที่ทราบเรื่องดังกล่าวดี ทั้งเป็นรุ่นพี่ และรู้ระเบียบก็จะส่งเรื่องไปยังต้นสังกัดให้ดำเนินการด้วย แหล่งข่าว กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนาวาเอก "อ." เป็นผู้ที่ใช้นามแฝงในเวบบอร์ดว่า "เพลย์บอย" ลงข้อความโต้ตอบกับสมาชิกเวบบอร์ดคนอื่นอย่างรุนแรง โดยนาวาเอก "อ." เป็นบุตรชายของอดีตนายทหารระดับสูงอยู่ในตำแหน่งสำคัญในกองทัพอากาศ อีกด้วย
ด้าน นายอดุลย์เดช ติยะบุตร ประธานกลุ่มเพื่อนภูกระดึง จ.เลย กล่าวว่า จากปัญหานักท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์นั่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปท่องเที่ยวบนภูกระดึงทำให้ให้ชาวจังหวัดเลย รับไม่ได้กับพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะข้าราชการในพื้นที่ ซึ่งมีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์เช่นนี้มานานแล้ว อีกทั้งยังมีคนที่คิดจะเข้ามาทำธุรกิจขนนักท่องเที่ยวขึ้นภูกระดึงจำนวนมาก แต่ชาวบ้านก็ออกมาคัดค้านเอาไว้
นายอดุลย์เดช ยังได้ออกแถลงการณ์ของกลุ่มเพื่อนภูกระดึง กรณีนักท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ใช้เฮลิคอปเตอร์ราชการบินฟรีขึ้นเที่ยวภูกระดึง ลงวันที่ 24 มกราคม 2550 โดยมีเนื้อหาระบุว่า เมื่อปี 2543 ผู้ที่มีความรักความผูกพัน และภาคภูมิใจที่มีต่ออุทยานแห่งชาติภูกระดึง ซึ่งเป็นทรัพยากรอันล้ำค่าของคนภูกระดึง คนไทยเลย และคนไทยทั้งประเทศ ได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มเพื่อนภูกระดึงขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำหน้าที่เป็นเสมือนยามเฝ้าภูกระดึง ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่ได้ทำสืบต่อบรรพบุรุษที่รักษามรดกชิ้นนี้มาก่อน รวมทั้งเจ้าปู่ศรีฐาน เจ้าปู่หลุบ เจ้าปู่ภูกระดึง ที่ได้คุ้มครองภูกระดึงสืบมา
1.ขอประณามนักท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ทั้งในอดีตและในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นอีกที่เบียดบังงบประมาณแผ่นดิน ท่องเที่ยวสุขสำราญโดยการเอาเปรียบผู้อื่น และเบียดบังใช้งบประมาณซึ่งเป็นภาษีของประชาชน ด้วยการใช้ ฮ.ที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานราชการไปในทางท่องเที่ยว
2.จะไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการตรวจสอบการเบียดบังงบประมาณแผ่นดินในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งอาจจะมีพบในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เป็นการเอื้อประโยชน์ ให้แก่นักท่องเที่ยวอภิสิทธิ์ชน เพราะยังมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งบ้านพัก และเรือของราชการ
3.จะปราศรัยให้ความรู้แก่ประชาชนชาว อ.ภูกระดึง จ.เลย โดยเรียกร้องให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาให้แก่บ้านเมือง เพื่อสร้างความถูกต้อง และเป็นธรรม
4.เรียกร้องให้ผู้สมัครการเมืองท้องถิ่น (เทศบาลตำบลภูกระดึง ซึ่งกำลังหาเสียง และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2550 แสดงนโยบายของกลุ่ม และจุดยืนในการปกป้องภูกระดึง
5.จัดหาและสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ แก่หน่วยควบคุมไฟป่าของอุทยานแห่งชาติภูกระดึงในการป้องกัน และแก้ไขไฟป่าในหน้าไฟป่าที่จะมาถึงนี้คือในช่วงฤดูหนาว-ฤดูร้อน
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการใช้ ฮ.เพื่อรับจ้างขนสิ่งของให้แก่บรรดาแม่ค้าพ่อค้าขึ้นไปขายบนภูกระดึงนั้น นายอดุลย์เดช กล่าวว่า มีการขนจริง แต่รายละเอียดในการว่าจ้างนั้นอยู่ที่การตกลงกันระหว่างพ่อค้าแม่ค้ากับนักบิน แต่ถ้าจ้างลูกหาบจากตีนภูจะคิดกิโลกรัมละ 10 บาท โดยกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าว่าจ้าง ฮ. ขนสัมภาระขึ้นไปจำหน่ายบนภูกระดึงส่วนใหญ่จะมีความสนิทสนมกับนักบิน และบางรายไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายก็มี
ขณะที่ นายสงคราม ศิลปสมศักดิ์ ประธานกลุ่มคนรักภูกระดึง จ.เลย กล่าวว่า การนำเฮลิคอปเตอร์ของราชการมาขนนักท่องเที่ยวเรื่องนี้ทำให้คนใน จ.เลย โกรธมาก และเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เป็นการใช้อภิสิทธิ์ ใช้อำนาจรัฐในทางที่ไม่สมควร เพราะเป็นเงินภาษีของประชาชน ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นกลุ่มคนรักภูกระดึกจะร่วมกับกลุ่มเพื่อนภูกระดึง แถลงข่าวต่อสาธารณชน พร้อมกล่าวโจมตีการใช้อภิสิทธิ์จากอำนาจรัฐ พร้อมทั้งขอคำตอบจากผู้มีอำนาจเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ชัดเจน และโปร่งใส
นายสงคราม กล่าวอีกว่า การให้ตั้งสถานีโทรคมนาคมภูกระดึงของกองทัพอากาศก็ถือว่าเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และการเคลื่อนไหวภายในสถานีก็ไม่มีใครรู้เห็น ประชาชนไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้น จึงต้องการให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ที่ใช้สถานีบนภูกระดึงแห่งนี้ หากเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติก็สนับสนุนให้ตั้งได้ แต่ถ้าไม่มีประโยชน์ก็ควรย้ายออกไป
"หากเป็นเรื่องความมั่นคงก็คงไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งวุ่นวาย แต่ขอให้ทำไปด้วยความถูกต้อง และไม่มีการบริโภคสัตว์ป่าเหมือนดังเช่นในอดีตที่มีการใช้ ฮ.ล่าสัตว์ที่ทุ่งใหญ่นเรศวร" นายสงคราม กล่าว
ประธานกลุ่มคนรักภูกระดึง ระบุว่า ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลทำการตรวจสอบหาคนผิดไม่ใช่แค่ 2 นักบินที่ใช้ ฮ.ของราชการไปใช้นอกราชการ ควรจะมีการสอบสวนถึงข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อีกทั้งต้องการให้ออกระเบียบปฏิบัติอย่างชัดเจนในการใช้ ฮ. เพราะที่ผ่านมามีการใช้เส้นสายฝากให้ขึ้น ฮ.อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะข้าราชการในท้องถิ่นที่นิยมกระทำผิดเสียเอง
ฝ่าย นายโกวิทย์ สุรธรรม ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 จ.ขอนแก่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวชี้แจง เนื่องจากมี ฮ.อยู่ในต้นสังกัดด้วยว่า สำหรับหน่วยงานของสำนักอนุรักษ์ในภาคอีสานมี 2 แห่งคือสำนัก 7 และ 8 โดยทั้ง 2 สำนักมี ฮ.ใช้สำนักละ 1 ลำ รวมแล้ว 2 ลำ โดยเป็นเครื่องแบบเบลล์ 1612 เก็ตแรงเยอร์ 5 ที่นั่ง คือ นักบิน 1 คน นักบินสำรองอีก 1 คน ผู้โดยสาร 3 คน ซึ่งการจะบินได้แต่ละครั้งจะต้องมีแผนบินที่ ผอ.สำนัก เป็นผู้เซ็นอนุมัติเท่านั้น
นายโกวิทย์ ระบุว่า การออกบินแต่ละครั้งจะต้องมีแผนบินถึงจะบินได้ เพราะจะต้องประสานกับหลายส่วน ซึ่งของสำนัก 8 ฮ.จะจอดอยู่ที่สนามบินขอนแก่น ซึ่งเวลาบินขึ้นจะต้องประสานกับทางสนามบิน นักบิน และอีกหลายๆ ส่วนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา แต่ละเดือนจะมีแผนบินประมาณ 7-8 วัน คิดค่าใช้จ่ายแต่ละชั่วโมงตกประมาณไม่เกิน 1 หมื่นบาท
"สำนัก 8 รับผิดชอบ 5 จังหวัด คือ สกลนคร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ มีภารกิจหลัก คือ ปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ และดับไฟป่า นอกจากนั้น บางครั้งมีภารกิจเร่งด่วนอย่างส่งเสบียงอาหาร ส่งน้ำ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ออกลาดตระเวนแล้วไม่สามารถออกมาข้างนอกได้ ซึ่งการกระทำผิดด้วยการนำไปใช้นอกแผนบินแทบจะกระทำไม่ได้เลย " ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 กล่าว
http://www.komchadluek.net/2007/01/25/a001_85277.php?news_id=85277