Subject: FW: คุณผู้ชายเคยปวดหัวไหมครับ.. (อย่างฮา แต่แฝงแง่คิดนะ)
>
> คุณเคยปวดหัวไหม
>
> โจ มีโรคประจำตัวคือปวดหัวเป็นประจำแต่ว่าไม่เคยไปหาหมอเลย
>
>
> เนื่องจากเขาคิดว่าเป็นเพียงแค่การปวดหัวจากการเรียนหนังสืออย่างหนักเท่านั้น
>
> ปล่อยไว้เดี๋ยวก็หาย
>
> 10 ปีผ่านไป อาการปวดหัวก็ไม่เคยหายไป
>
> แม้ว่าบัดนี้เขาได้ก้าวเข้าสู่ วัยกลางคนแล้วก็ตาม
>
> เขาก็ไม่คิดจะไปหาหมอเพราะคิดว่าเป็นเพียงเพราะเครียดจากการทำงาน
>
> อีก 10 ปีต่อมา
>
> อาการปวดหัวก็ไม่เคยหายมีแต่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
>
> เขาจึงตัดสินใจว่าจะต้องไปหาหมอเสียที
>
> หลังจากที่หมอทำการตรวจเรียบร้อย จึงพูดขึ้นว่า
>
> "ผมมีข่าวดีและข่าวร้ายครับ
>
> ข่าวดีก็คือ ผมสามารถ รักษาอาการของคุณได้อย่างหายขาด"
>
> "และข่าวร้ายหล่ะครับหมอ"
>
> เขาถามขึ้นอย่างร้อนรน
>
> "ข่าวร้ายก็คือว่า ผมต้องทำการตัดไข่คุณทิ้งครับ"
>
> โจเหมือนตกอยู่ในภวังค์
>
> "คืองี้ครับ" หมอรีบอธิบายผม
>
> "อาการของคุณ ถือว่าเป็นเคสที่หาได้ยากมากๆ
>
> เรียกว่า 1 ใน 100 ล้านก็ว่าได้
>
> ไข่ทั้งสองข้างของคุณนั้น
>
> ไปดันลำไส้ให้ไปกดทับเส้นปลายประสาทล่างสุดของกระดูกสันหลัง
>
> การกดทับนี้เองทำให้คุณต้องทรมารกับ
>
> การปวดหัวอย่างรุนแรงตลอด 20 ปีที่ผ่านมา"
>
> "ทางเดียวที่จะรักษาได้คือ
>
> การตัดไข่ครับ" หมอสรุปสั้นๆ
>
> แต่ทำร้ายจิตใจโจยิ่งนัก
>
> หมอได้ให้โอกาศเขาตัดสินใจ
>
> อย่างไรก็ตามเขารู้สึกหดหู่ยิ่งนัก
>
> เขาสู้อุตส่าห์มานะเรียน
>
> เพื่อให้ได้ทำงานดีๆ ไม่เคยไปเที่ยวเหลวไหล
>
> เธค ผับ ไม่รู้จัก สาวๆไม่เคยสนและเมื่อได้งานแล้ว
>
> เขาก็ได้ทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อให้ก้าวหน้าและมีเงินเยอะๆ
>
> จนมาวันนี้เขาได้ทุกอย่างที่ต้องการ
>
> และเขาคิดว่าถ้าได้สิ่งเหล่านี้แล้ว
>
> ผู้หญิงมากมายก็จะเข้ามาหาอย่างไม่ต้องสงสัย
>
> แต่ทุกสิ่งที่วาดฝันก็พังทลายจากอาการปวดหัวของเขาเอง
>
> เขาได้นอนคิดอยู่หลายคืน ถึงแม้จะเศร้าเพียงใด
>
> แต่เขาก็ไม่อยากทรมารเหมือนตกนรกอีกต่อไป
>
> เขาไม่กล้าปรึกษาใคร เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย
>
> ดังนั้นวันรุ่งขึ้นเขาจึงไปโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดทันที
>
> หลังจากออกจาก ร.พ ด้วยอาการสมองปลอดโปร่งครั้งแรกในรอบ 20 ปี
>
> แต่เขาก็รู้สึกเหมือน ขาดบางอย่างที่สำคัญไปในชีวิต
>
> เหมือนกลายเป็นอีกคนหนึ่ง
>
> แต่เขาก็เข้มแข็งพอและตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่
>
> เขาจึงเดินเข้าร้านตัดสูทที่แพงที่สุดในนิวยอร์ค
>
> เพื่อเป็นการปลอบใจและเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ
>
> โจกล่าวกับชายแก่เจ้าของร้านหลังเดินเข้ามาต้อนรับ
>
> "เอ่อ ผมจะตัดสูทครับ"
>
> "ได้ครับ อืมม ขนาด 44 "เจ้าของร้านดูโดยไม่ต้องวัด
>
> โจหัวเราะ "ถูกแล้ว รู้ได้งัยเนี่ย"
>
> "เปิดร้านมา 60 ปี น่ะครับ"
>
> โจลองสูท ซึ่งใส่ได้สวยและขนาดพอดี
>
> "ไม่สนใจลองเสื้อเชิ๊ทมั้งเหรอครับ"
>
> เจ้าของร้านถาม
>
> "ก็ดีครับ"โจตอบ
>
> "อืมม แขน 34 คอ 16 นิ้วครึ่ง"
>
> เจ้าของร้านดูโดยไม่ต้องวัด
>
> โจชักสงสัย "ถูกแล้ว รู้ได้งัยเนี่ย"
>
> "เปิดร้านมา 60 ปี น่ะครับ"
>
> โจลองเสื้อ ซึ่งใส่ได้สวยและขนาดพอดี
>
> "รองเท้าสักคู่ดีไหมครับ"
>
> "ก็ดีครับ"
>
> "อืมม 9นิ้วครึ่ง" เจ้าของร้านดูโดยไม่ต้องวัด
>
> โจรู้สึกแปลกใจมาก "ถูกแล้ว รู้ได้งัยเนี่ย"
>
> "เปิดร้านมา 60 ปี น่ะครับ"
>
> โจใส่รองเท้าซึ่งใส่ได้สวยและขนาดพอดี
>
> ขณะที่เขาลองเดินไปทั่วร้าน
>
> เจ้าของร้านจึงถามว่า
>
> "ลองกางเกงในตัวใหม่สักหน่อยไม๊ครับ"
>
>
> โจชะงักและหยุดคิดสักครู่ "ก็ดีครับ"
>
>
> "อืมม ขนาด 36 พอดี"
>
>
> คราวนี้โจหัวเราะก้าก "ฮ่า
>
>
> เสร็จผมหล่ะ คราวนี้
>
คุณผิดครับ ผมใส่ 34 ตั้งแต่อายุ 18"
>
> ชายแก่ส่ายหน้า พร้อมกับพูดขึ้นว่า
>
> "โอ้ยอย่างคุณ 34 ไม่ได้หรอก ทรมานตายห่า
>
> เพราะมันจะไปรั้งไข่คุณไปกดลำไส้และทำให้ไปกดทับเส้นประสาทล่างสุดของกระดูกสันหลังอีกที
>
>
" คุณไม่เคยปวดหัวมั่งเลยเหรอ ">
>
>
> นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
>
1. บางปัญหาวิธีแก้ง่ายๆก็มี
>
> 2. อย่าเสือกตัดสินใจอะไร โดยไม่เคยหาข้อมูล
>
>
มิฉะนั้นไซร้
>
>
ท่านอาจเสียไข่ได้
