ที่ท่านใช้อยู่ เขาเรียกว่า โพลี่ยูรีเทน ตรา บี-52 หรือ เบเยอร์ ชนิดเงา ใช้ได้แต่ไม่เหมาะกับพานท้านปืนที่โดนน้ำมัน และในอนาคต มันจะล่อนเป็นแผ่นเหมือนผิวหนังเราตอนโดนแดด
ปืนเก่าที่พานท้ายถูกน้ำมันซึมเข้ามากจนชุ่มเป็นสีดำจับแล้วเหนอะมือ ให้ต้มน้ำเดือดละลายน้ำยาล้างจาน รีบเอาไปจุ่มล้าง แล้วเอามาตากแดดให้แห้ง หลังจากนั้นเอากระดาษลอกลายที่ใช้เขียนแบบเสื้อ กระดาษฟาง หรือกระดาษทิชชูอย่างถูก ห่อตามซอกมุมพานท้ายให้เนื้อกระดาษแนบผิวไม้ แล้วเอาไปอบโคมไฟ หรือตากแดดร้อนจัด หรือใส่ท้ายรถทิ้งไว้หลายชั่วโมง จึงแกะห่อเช็ดคราบน้ำมันที่ผิวไม้ออกไป ทำซ้ำหลายๆครั้ง จนแห้งไม่มีน้ำมันติด
ถ้าพานท้าย ชื้นน้ำมันเล็กน้อย ไม่ถึงกับเหนียวเป็นยางดำ เอาแค่อบความร้อนก็พอ ไม่ต้องใช้น้ำยาล้างจานล้าง เพราะแล็คเกอร์ที่เคลือบผิวจะเสีย
เรื่องย้อมผิวไม้ เคลือบผิว ควรมีพื้นฐานช่างไม้มาบ้าง น้ำยาเคลือบผิวอย่างดีๆ หาซื้อได้ยาก สีย้อมไม้มีขายแต่กระป๋องใหญ่ ราคาก็แพง แล็คเกอร์ด้านก็หายาก ถ้าใจร้อนรีบทำ ใช้แล็กเกอร์ธรรมดา สีพานท้ายจะออกมาตุ่นๆ ดูไม่สวยไปเลย
ทำเองเอาแค่ บ่มไม้เช็ดน้ำมันออกก็พอ หากมีตำหนิเยอะค่อยส่งช่างเกลาพานท้าย เคลือบผิวใหม่ อีกที
วิธีทำซับซ้อนครับ หากอยากได้ของดี ทำทีเดียวตลอดไป จะขออนุญาตแนะนำดังนี้
1. ถ้าแยกชิ้นได้ แนะนำให้แยกเฉพาะพานท้ายออกมา เตรียมพื้นผิวให้เกลี้ยง และสะอาด (ไม่แนะนำให้ย้อมสีไม้ เพราะพานท้ายเดิมก็มีลายไม้สวยตามสภาพอยู่แล้ว เรากำลังทำให้เงา ไม่ได้เปลี่ยนสีเนื้อไม้)
2. หลังจากเตรียมพื้นผิว หมายความว่า ขัดลอกแลคเกอร์เดิมออกหมดเรียบร้อยแล้ว จนเหลือแต่ผิวไม้ และพอใจสภาพ เพื่อความสวยงาม กรุณาหิ้วไปที่อู่พ่นสีรถยนต์ ที่ดูดีหน่อย บอกเขาว่าจะจ้างพ่น
แลคเกอร์ เคลีย (แลกเกอร์เงา) ชนิด 2 K ประเภท แห้งช้า หากท่านที่ไม่ชอบแลคเกอร์เงา ก็มีแลคเกอร์ด้านครับ ขั้นตอนการพ่นเขาจะผสมหัวเชื้อด้าน ( Matt clear) ลงไปในแลคเกอร์เงา เมื่อแห้งจะออกมาเป็นแลคเกอร์ด้านครับ
คุณสมบัติที่ดี ของ 2 K คือ ทนต่อการขูดขีด ทนต่อสารเคมี พวกโซเว้นท์ต่างๆ พวกน้ำมันที่เราเอามาลูบ มาทา ทำอะไร 2 K ไม่ได้เลยครับ
จากที่จบช่างก่อสร้างมาสีย้อมไม้มีขายทั่วไปตามร้ายขายวัสดุก่อสร้างครับ ก่อนทาต้องขัดผิวเดิมที่เคลือบไม้ออกให้หมดก่อนไม่งั้นถ้าทาวัสดุเคลือบจะพองแล้วแตกเป็นแผ่นซ่อมยากกว่าเดิมอีก
ยูริเทนเคลือบไม้ บี 52 ของเบเยอร์ให้สังเกตุให้ดีว่าเป็นที่ใช้ภายนอกหรือภายในให้ใช้แบบทาภายนอกทานะครับหลงไปใช้แบบทาภายในเมื่อไรละก็อย่าให้ตากแดดตากฝนนานๆเชียวแทบจะโยนปืนทิ้งเชียวครับ 
ตอนขัดให้ใช้กระดาษทรายหยาบขัดก่อนนะครับขัดให้ผิวเคลือบเดิมหลุดออกให้หมดก่อนแล้วใช้กระดาษทรายเบอร์กลางๆขัดลบเสี้ยนออกแล้วจึงตามด้วยเบอร์ละเอียดขัดไปเรื่อยๆไม่ต้องรีบไม่นานก็จะเรียบสวยแบบแมลงวันบินมาเกาะแล้วลื่นหัวแตกเลย

แนะนำว่าถ้าจะซ่อมให้ซ่อมโครงไม้ทั้งหมดนะครับฝีมือดีขนาดไหนรอยเก่ากับรอยใหม่ไม่มีทางเหมือนกันแน่ครับ

ตรา บี-52 หรือ เบเยอร์ มันไม่เกี่ยวกับประเภทใช้ทาภายใน หรือทาภายนอกหรอกครับ เพราะปืนไม่ใช่ พื้นปาร์เก้ ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหลบแสงแดดได้
ข้อเท็จจริงเป็นดังนี้ คุณสมบัติของโพลี่ยูรีเทน เมื่อทาหรือเคลือบแล้ว มันจะเป็นแผ่นฟิลม์แข็ง เมื่อพื้นไม้ปาร์เก้โดนแดด ไม้จะขยายตัว พอไม้ขยายตัวมันก็ไปดึงฟิลม์โพลี่ยูรีเทนที่แข็งเคลือบชั้นบนด้วย ทำให้แตกลายงาครับ ส่วนพานท้ายปืน ถูกแดดได้ครับ แต่ไม่ได้หมายความว่า ยิงเสร็จแล้วโยนไปบนสนามหญ้า ให้น้ำค้าง น้ำฝนมันช่วยล้างเขม่าหรอกครับ
เป็นรอยถลอก น้ำมันซึมเข้าเนื้อไม้ จริงๆผมจะเอากระดาษทรายขัด
ทั้งอัน แล้วทา พวก วูดแท็ก ที่ทีวีโฆษณา แต่ไม่แน่ใจว่า
เขาทำกันอย่างนี้หรือเปล่า

เป็นพานท้าน anschutz 1416d นะครับ
นี่แหละปัญหาใหญ่ครับ เอาน้ำมันที่ซึมเข้าเนื้อไม้ออกมาให้หมด ผมยังทำไม่สำเร็จครับแต่ถ้าจะแก้ผ้าลุยไฟต่อ ทีนี้ถึงคิวต้องย้อมสีเนื้อไม้ ให้ใกล้เคียงกับสีที่น้ำมันซึมครับ