.223 Rem.เหมาะกับการรบในป่าเขตร้อนเช่นเวียตนามยังไงครับ

[poe kerpetkaew]

มะกันถึงได้เลือกเอามาเป็นปืนประจำกายทหารราบ ? เมื่อเทียบกับพวก .30  .223 ได้เปรียบอย่างไรบ้าง 

[vichai01++รักในหลวง++]

  ช่วยดึงครับเพราะอยากรู้เหมือนกัน ต้องรอถามท่านผู้การสุพินท์

[สุพินท์ - รักในหลวง]

ไม่มีอะไรมาก  กระสุนเล็กลง  เอาไปได้มากขึ้น  ควบคุมปืนง่าย เพราะรีคอยล์ต่ำ  ยิงคนตายได้จนถึง 500 ม.
แต่ปัจจุบันที่ต้องการเปลี่ยนเป็น 6.8 มม. เพราะเจาะเสื้อเกราะ กับหยุดคาร์บอมบ์ได้ดีกว่า.223

[vichai01++รักในหลวง++]

  ขอบพระคุณครับท่านผู้การ

[submachine -รักในหลวง-]

เท่าที่ผมทราบ เปลี่ยนขนาด คาลิเบอร์ แต่ชิ้นส่วนหลักๆ
ยังใช้ของเดิมแบบ5.56อยู่บ้าง นัยว่าลดต้นทุน

แล้วถ้าเทียบกะคู่แข่งตลอดกาล เอ เค47ล่ะครับ
กะ6.8 อันไหน หยุดคาร์บอบ์มได้ดีกว่ากัน

[vichai01++รักในหลวง++]

ไม่มีอะไรมาก  กระสุนเล็กลง  เอาไปได้มากขึ้น  ควบคุมปืนง่าย เพราะรีคอยล์ต่ำ  ยิงคนตายได้จนถึง 500 ม.
แต่ปัจจุบันที่ต้องการเปลี่ยนเป็น 6.8 มม. เพราะเจาะเสื้อเกราะ กับหยุดคาร์บอมบ์ได้ดีกว่า.223

ขออนุญาตครับท่านผู้การแล้วปืนละครับใช้แบบไหนครับ

[Don Quixote]

เรื่องเปลี่ยนขนาดกระสุนปืนเล็กยาวทหารจาก 7.62X51 เป็น 5.56X45 นี้มีความเป็นมายาวมากก่อนการรับ AR15 ไปใช้ครับ

นาย Ezel ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ส่วนอาวุธของสมิทโซเนียนเขียนวิทยานิพนธ์ทำปริญญาเอกได้เลยเรื่อง The great rifle controversy ซึ่งชื่อตรงความหมายดีแปลได้ทั้งว่าการถกเถียงอย่างใหญ่หลวง และการถกเถียงเรื่องปืน (รุ่น) ที่ยิ่งใหญ่

[USP40]

ปืน Barrett M468 เหมือน M4/M16 ทุกอย่างยกเว้น ลำกล้อง , Bolt ใช้แบบ extractor spring ซึ่งเป็นแบบ Dual Spring Extractor System นอกนั้นเหมือนกันหมด อีกอย่างคือ Magazine ต้องใช้ของที่ทำมาใช้กับลูก 6.8 SPC โดยเฉพาะ แม็กที่ใช้กับลูก 5.56 ใช้ได้แต่ไม่ 100% ทางกองทัพยังไม่ได้นำมาประจำการเพียงให้หน่วยรบพิเศษนำไปทดลองใช้ในสนามรบ แต่ในขณะเดียวกันได้มี ชุดบนออกขายให้ประชาชนแล้ว ลูก 6.8 SPC ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีอานุภาพในการหยุดยั้ง( Knock down power)และอนุภาพในการฆ่า( "shoot-to-kill" lethality )ข้าศึกสูงกว่าลูก 5.56 ซึ่งได้ทำการศึกษาจากเหตุการจริงในการรบที่ Somalia และ Afgan
The 6.8mm advantage: A chart comparing the 6.8mm cartridge with the standardissue 5.56mm cartridge (image by Barrett).
Generally speaking, armor penetration is measured in inches (or fractions thereof) of steel plate. Both the 5.56mm and 6.8mm cartridges mentioned in this article won't penetrate a steel plate a quarter of an inch thick -- think Clint Eastwood's improvised chest plate in "A Fistful of Dollars" -- - but they can both shoot through all non-insert body armor types (though the 5.56 loses more energy on impact, and is significantly less lethal). So what's the other differences between them?

What it all boils down to is that when the 5.56mm cartridge was first introduced to U.S. combat rifles, it was adopted because of its size and its fit with the U.S. "shoot-to-wound" philosophy of the time. While the 7.62mm NATO round used in the M-14 is much more powerful than the 5.56mm bullet, it is also much larger; a soldier can carry twice as many 5.56mm bullets as he can 7.62mm. In extended combat operations (wars lasting years), it was also estimated that wounded combatants would require more logistical support than dead ones -- with this in mind, the U.S. adopted the 5.56 round, since if the bullet did not kill outright, it would certainly cause a serious enough injury that the casualty would be hospitalized for a significant amount of time.

Unfortunately, as demonstrated by recent conflicts such as Somalia in 1991, the 5.56 simply lacks the "shoot-to-kill" lethality (numerous accounts exist of Somalian insurgents being shot repeatedly before they finally either died or lost the will to fight) needed to stop an attacker. This shift in philosophy (from shoot-to-wound to shoot-to-kill) is what the 6.8mm SPC represents. Though not much larger than the 5.56 round, it is undeniably more lethal. The real world effect of adopting this round can be seen how CQB (Close Quarter Battle) is conducted. In a room-by-room fight, the more rapidly an enemy combatant can be taken out, the safer the operation is for friendly forces. Since there's no time to evaluate a target's condition in a firefight, soldiers engaged in room-by-room combat will shoot each individual 3-5 times to ensure that they are dead. With a heavier, more lethal round, they need only shoot 2-3 times. While this may not seem like a significant improvement, it can shave valuable seconds off of engagement times (as the shooter shifts between targets) and mean the difference between having bullets left over at the end of the fight -- or having to swap magazines while surrounded by live bad guys.
The Barrett M468.
The SIR system allows for the rapid integration of the core system (the M468) into all levels of the military, while distribution of auxiliary systems (such as optics and night vision devices) could be based on unit need and budgetary considerations. In addition, the M468 should be completely adaptable (through the use of modified hand guards) for use with existing secondary weapons, such as the M203 40mm grenade launcher (which has been a standard issue, squad level weapon for the last 20 years) and the 12 gauge LSS under-barrel shotgun. The ability to mount these pre-existing weapons means that new weapons (such as the 40mm launcher that would be used with the XM-8) wouldn't need to be purchased as additional items.

Simply put, the greatest advantage the Barrett M468 has over contenders such as the H&K XM-8 is improved lethality. By going to the more powerful Remington 6.8mm SPC, Barrett has produced a rifle that is more lethal than any other battle rifle chambered for 5.56mm NATO, yet does not suffer from a significant loss in magazine capacity (as would have been the case if the rifle had been chambered for the much larger 7.62mm NATO cartridge). By going to a heavier bolt carrier group and stiffer recoil spring, Barrett has also addressed the one unresolved legacy issue regarding the M-16s reliability under combat conditions. These two factors, coupled with its compatibility with existing M-16 accessories and attachments, would seem to make it the hands-down favorite to replace the M-16.

[USP40]

เรื่องเปลี่ยนขนาดกระสุนปืนเล็กยาวทหารจาก 7.62X51 เป็น 5.56X45 นี้มีความเป็นมายาวมากก่อนการรับ AR15 ไปใช้ครับ

นาย Ezel ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ส่วนอาวุธของสมิทโซเนียนเขียนวิทยานิพนธ์ทำปริญญาเอกได้เลยเรื่อง The great rifle controversy ซึ่งชื่อตรงความหมายดีแปลได้ทั้งว่าการถกเถียงอย่างใหญ่หลวง และการถกเถียงเรื่องปืน (รุ่น) ที่ยิ่งใหญ่

ถูกต้องครับ เป็นเรื่องทางการเมืองมากกว่าเรื่องทางทหาร บุคคลที่รับผิดชอบคือ Defense Secretary McNamara ทางทหารเองไม่ต้องการให้เปลี่ยนจาก M14 มาเป็น M16( แต่เดิมเรียก AR15)แต่นาย Mc Namara เป็นผู้ออกคำสั่งซื้อให้ ทหารบกและทหารอากาศใช้ก่อน

[สุพินท์ - รักในหลวง]

แล้วถ้าเทียบกะคู่แข่งตลอดกาล เอ เค47ล่ะครับ
กะ6.8 อันไหน หยุดคาร์บอบ์มได้ดีกว่ากัน

กระสุนมาตรฐานของอาก้าไม่ได้เรื่องหรอกครับ  เป็นกระสุนแกนเหล็ก (อ่อน) ทุกนัด  เวลาโดนตัวกระจก หรือตัวถังรถ หัวกระสุนจะแตก เสียทิศทาง
สิงคโปร์พัฒนากระสุนเจาะเกราะรุ่นใหม่ขึ้นมา  ผมได้ตัวอย่างมานิดหน่อย  ยังไม่มีเวลาทดลอง   เป็นกระสุนเจาะเกราะที่ไม่มีตะกั่ว (lead fill) เหมือนกระสุนนาโต  แต่ใช้แกนเจาะเกราะหุ้มด้วยโลหะอ่อน อยู่ข้างในแจ็คเก็ตทองแดงอีกที

[Army - รักในหลวงครับ]

อ้าว ผมก็หลงคิดว่าอาก้าใช้งานได้ดีกว่าเอ็ม 16 มาตั้งนาน

กระสุนมาตรฐานของอาก้าไม่ได้เรื่องหรอกครับ  เป็นกระสุนแกนเหล็ก (อ่อน) ทุกนัด  เวลาโดนตัวกระจก หรือตัวถังรถ หัวกระสุนจะแตก เสียทิศทาง
สิงคโปร์พัฒนากระสุนเจาะเกราะรุ่นใหม่ขึ้นมา  ผมได้ตัวอย่างมานิดหน่อย  ยังไม่มีเวลาทดลอง   เป็นกระสุนเจาะเกราะที่ไม่มีตะกั่ว (lead fill) เหมือนกระสุนนาโต  แต่ใช้แกนเจาะเกราะหุ้มด้วยโลหะอ่อน อยู่ข้างในแจ็คเก็ตทองแดงอีกที

[Iron]

  เอารูปมาให้ดูครับ 

[Iron]

  กลุ่มกระสุนระยะ 100 หลา ไม่ธรรมดาจริงๆ 

[hanaga]

เมื่อวานก่อนผมลูก .223 ของเพื่อนไปยิงมาครับผลเหล็กหลังเป้าของสนาม22 ทะลุครับ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นลูกทหารไหมเพราะเพื่อนมันบอกว่าเพื่อนมันให้มาตัวเจ้าของก็ไม่รู้ครับ มีอยู่5นัดผมกับเพื่อนยิงหมดเลยครับ ท้ายเขียนว่า psd 88 ผมใช้ remington 700 ยิงครับ แต่สะใจกว่า 22 ครับ เมื่อก่อนผมใช้ win 9422 ประจำ แต่ rem700 หากระสุนยากจังครับ ยิงจนหมดคงรออีกนานครับกว่าจะได้ลูกใหม่เพราะร้านหลังวังไม่มีเลย   

[vuttichai]

ลงฃื้อไว้ยังไม่มีใครขายให้เลยฃักเม็ด. ลบแล้ว