ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง ราคาปืนแพง และเปลี่ยนวิธีการควบคุมโควต้าปืน new

[jony108]

     * ขออภัยผมมือใหม่ยังไม่คล่องในการเขียนข้อความ ขอขอบคุณที่ให้คำแนะนำ จะพยามยามแก้ใข*

เริ่มต้นกันใหม่นะครับ   ผมเข้าใจว่ารัฐบาลยังต้องการควบคุมการใช้อาวุธปืนจึงออกโควต้ากำหนดปริมาณปืนในเมืองไทย  จึงทำให้มีราคาสูง เพียงแต่ผมเสนอความคิดใหม่ว่า การให้ซื้อพันธบัตรนั้น  เป็นการควบคุมปริมาณปืนโดยอัตโนมัติ   เพื่อแลกเปลี่ยนกับการเปิดเสรีนำเข้าปืน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราซื้อพันธบัตร 50,000.-บาท  ราคาปืน glock ลดลงเหลือ 22,000.-บาท เราก็ใช้เงินปริมาณเท่าเดิม ซึ่งปัจจุบันก็ราคา 70,000.-บาทอยู่แล้ว ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย ขอเชิญออกความคิดเห็นที่แตกต่างเพิ่มเติม    (ผมสนใจที่จะซื้อปืนไม่ใช้เป็นนักกฏหมาย และอยากได้ราคาปืนถูกลงจึงเสนอวิธีดังกล่าว ขอให้เชื่อมั่นว่าไม่มีอะไรแอบแฝง)
       

[ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป]

 1. ทำไมซื้อปืนกระบอกแรก ต้องซื้อพันธบัตรครับ ตรรกะแปลกๆ
     ถ้าบอกว่า จะซื้อปืนกระบอกแรกต้องผ่านการฝึกอบรมการใช้ปืนก่อน ดูจะเข้าท่ากว่าครับ
     การกำหนดกฎหมายโดยใช้ความแตกต่างทางฐานะ ข้อนี้ คิดก็ผิดรัฐธรรมนูญ(ที่เคยมี) แล้วครับ
 
 2. จขกท. มีหน้าที่ร่างกฎหมายหรือไม่เพราะถามในมุมมองแปลกๆ ลองหาข้อมูลอีกสักพัก
      อย่าเพิ่งมีธงนำครับ จะได้คำตอบที่เหมาะสมกว่าที่ตั้งธงไว้เดิม
 
 3. จขกท. เรียบเรียงคำถามและจุดประสงค์ในการถามใหม่ครับ เพราะอ่านแล้วไม่เข้าใจทั้งคำถามและจุดประสงค์ของการถาม

[ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป]

ราคาปืนที่แพงอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้ตกอยู่กับรัฐครับ ดังนั้นการซื้อพันธบัตรเป็นส่วนแบ่ง 50000 นั้น ผู้ค้าปืนไม่มีทางยอม

รัฐได้แค่ภาษี ร้อยละ 30 จากต้นทุนนำเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่มยังไม่แน่ใจเลยว่า ร้านค้าจะจ่ายหรือไม่

ที่ราคาปืนแพงกว่าความเป็นจริงมากๆ คือการถูกจำกัดการนำเข้าทำให้อุปสงค์มากกว่าอุปทานครับ

เมื่อความต้องการมีมากกว่าจำนวนนำเข้าปืน ร้านค้าก็โก่งราคาเพิ่ม เพราะถ้าค้าขาย แค่ปืนสั้น 30 กระบอก ปืนยาว 50 กระบอก รวม 80 ประบอกต่อปี หารคร่าวๆ เดือนละ 6-7 กระบอก ต้องมีกำไรกระบอกละเท่าไรถึงจะหารายได้พอค่าเช่า ค้าน้ำค่าไฟ ค่ารายจ่ายในร้านได้ครับ  แต่กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับร้านใหญ่ๆ ที่มีโควต้ามหลายๆสิบโควต้าในร้านเดียว แต่ยังทำกำไรจากส่วนต่าง หรือร้านที่แสวงหาช่องทางธุรกิจใหม่ๆ โดยทำปืนสวัสดิการ

ถ้าให้ราคาปืนลดลงจริงๆ ก็คือ ยกเลิกโควต้าปืนเป็นอย่างแรก ส่วนต่อไปถ้าจะจำกัด ก็ให้จำกัดจากคุณสมบัติของผู้ขอซื้อ โดยผู้ซื้อต้องเข้ารับการอบรมอย่างเป็นระบบ และมีการสอบใบอนุญาตอย่างมีหลักเกณท์ โดยไม่นำพื้นฐานเรื่องรายได้ ฐานะ หรือ ความแตกต่างมาแบ่งแยกครับ

ลองอ่านกระทู้นี้ครับ เพื่อความเข้าใจเรื่องโควต้าปืน

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?PHPSESSID=6d94c02b998e0cc8535c54ec24ef9ee5&topic=763.msg18516

[S.W.A.T]

อยากได้ปืนถูกครับ

[jakrit97 - รักในหลวง -]

ซื้อพันธบัตรไม่ดีครับ เพราะคนขายต้องจ่ายดอกเบี้ยด้วย

ถ้าต้องการแบบนี้ ผมว่าเอา ๕ หมื่น ไปลงทุนเอง แล้วซื้อปืนมือสอง สภาพพอใช้ ไม่เกิน ๒ หมื่นก็ได้ครับ

ผมไม่ทราบว่ารัฐฯต้องการควบคุมปืนไปเพื่ออะไร เพราะการมีปืนมาก หรือมีปืนน้อย ก็ไม่ได้ส่งผลถึงความมั่นคงของประเทศ หรือส่งผลถึงการขาดดุลทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง แต่ผลกระทบที่แรงที่สุดคือสวัสดิภาพของประชาชน เพราะก่อนโทรเรียก 191 ประชาชนควรที่จะรู้จักการป้องกันตัวเองก่อน ...

อีกทั้งกฏหมายปืนก็ไม่ได้เข้าไปควบคุมถึงปืนของบางหน่วยงาน ซึ่งย่อมเป็นช่องทางให้เกิดปืนนอกบัญชี แพร่หลายออกมาได้ (เถื่อนนะครับ)

ทางออกของปืนแพง (อยากให้ถูก) .... เนื่องจากผมเคยได้ยินมาว่าธุรกิจขายปืนนี้ ... ดีมานโอเวอร์ซัพพลาย ... คือคนอยากได้ปืน มีมากกว่า ที่คนขายจะสามารถขายได้ ... รัฐฯก็แค่ทำให้ปริมาณต่าง ๆ นี้สมดุลเท่านั้นเอง ราคาของปืนก็จะปรับตัวลงมายังจุดสมดุลของทั้งคนซื้อแล้วคนขายเอง

ง่ายที่สุดคือ ถ้าใครขายปืนในโควต้าหมด ก็สั่งใหม่ได้ทันที เป็นต้น ...

[jony108]

ถ้ารวมกันเรืยกร้องนำเข้าเสรื  ขอเเกนนำก่อน ผมจะเป้นผู้ตาม

[van-เรารักในหลวง]

ถ้าราคาปืนถูกลงกว่านี้สัก 50% ผมว่าสมาชิกในนี้คงมีปืนกันคนละไม่ต่ำกว่า  10 กระบอก

ว่าแต่เวปนี้มีสมาชิก 10992 คนใช่หรือเปล่าครับ

[glock19]

ไม่ต้องซื้อ  เดียวก็ถูกเองครับ

[jony108]

ถ้าร้านปืนอ้างเรื่องชายแดนถาคใต้ทำให้แพง  ก็ขอให้มีโครงการพิเศษ เช่นเดียวกับข้าราขการ  พบกันครึ่งทาง  ราคาอาจจะลดลง และร่วมกันชลอชื้อปืนก่อน

[coda]

...ปืนแพง  ขอ ป.3 ยาก  : ปัจจุบันคนมีกะตังค์มากยังพอมีโอกาสซื้อปืนครับ  คนกะตังค์น้อยโอกาสก็น้อยลงตามจำนวนกะตังค์ที่มี  และราคาปืนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

...แต่ผมว่าวิถีชีวิตคนกะตังค์น้อยมีแนวโน้มเสี่ยงภัยไม่น้อยกว่าคนกะตังค์มาก (อันที่จริงผมว่าเสี่ยงภัยยิ่งกว่า เช่นคนเลิกงานค่ำ ทำงานกะดึก ไม่มีรถส่วนตัว บ้านอยู่ในที่เปลี่ยว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่คุณสมบัติของคนรวย) ไม่ควรเอาทรัพย์สมบัติเงินทองเป็นตัวตั้งในเรื่องนี้ครับ