เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 20, 2025, 07:52:04 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อึดอัด ครับ ขอระบาย..  (อ่าน 5407 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #45 เมื่อ: มีนาคม 24, 2007, 12:52:37 PM »

ขอบคุณมากครับ คุณ NAPALM...





ใจจริงผมแล้วจะเปิดรับสมัครอีกสักรอบครับ รอบที่แล้วไม่มีใครมาเลย
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #46 เมื่อ: มีนาคม 24, 2007, 01:56:28 PM »

เอามาให้อ่านกันดู  เผื่อใครไม่มีข้อมูลของพื้นที่ประกอบ  แต่เมื่ออ่านแล้วขอให้เช็คดูว่าปัญหาต่าง ๆ คืออะไร  ถ้าเช็คปัญหาไม่ออกก็มองไม่เห็นภาพต่าง ๆ ลองแยกปัญหา   ความคิดเห็น   ความรู้สึก   ออกจากกันดู Smiley







แม่ทัพภาค4 ทำไมไม่มีบทบาทเลย ทหารทัพ4 ไปอยู่ไหน” อดีตมทภ.4 พลเอกหาญ ลีนานนท์     
วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2007 13:16น. 
สถาบันข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย



เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาศูนย์ข่าวอิศราได้มีโอกาสพูดคุยกับอดีตมทภ.4 พล.อ. หาญ ลีนานนท์ เจ้าของนโยบายใต้ร่มเย็น เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เป็นอยุ่ในพท. 3 จชต. ที่อดีตมทภ.4 มีข้อท้วงติงในหลายเรื่องถึงการทำงานในพท.ของทหารและมองสถานการณ์ในพท.ด้วยความกังวล   หากไม่มีการปรับแก้จะทำให้สถานการณ์ในพท.เลวร้ายลงเรื่อยๆ

อิศรา  :  พูดเรื่องแนวทางสมานฉันท์ของรัฐบาลแล้วมันก็ดูเหมือนว่า ความรุนแรงมันก็ยังไม่ยุติก็ยังมีเหตุร้ายอยู่ไม่ทราบว่าท่านมองตรงนี้ยังไง

แม่ทัพ หาญ : สถานการณ์ตอนนี้ที่ 3จังหวัด ชายแดนภาคใต้นะครับเหตุการณ์มันไม่ดี  รุนแรงขึ้นทุกวันมีการฆ่ากันตายรายวันเป็นปกติจนกระทั่งสื่อต่าง ๆ รู้สึกว่าจะไปรบกวนผู้ใหญ่ทางรัฐบาลมากเกินไปมั้งเลยลงตัวเล็ก ๆ เดี๋ยวนี้หลบหลีกไม่ลงกันซะส่วนใหญ่ หรือลงเรื่องอื่นแล้วก็วกไปเรื่องความรุนแรงในหน้าหลัง ๆ อย่างนี้เป็นต้น

ผมคิดว่า สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลให้แนวทางในการสมานฉันท์คงเข้าใจผิดกันอีกนะ เข้าใจผิดมาก ๆ เลย ผมอยากสรุปโดยย่อว่า สมานฉันท์คือ โซ่ตรวนที่ล่ามมือเท้าทหารไม่ให้ทำอะไร   ปิดสมองของทหารไม่ให้คิดที่จะรุกรบการป้องกันตนเอง  ในทางทหารการป้องกันนั้นต้องมีการรุก   ก็ต้องทราบว่าการรุกรับในเชิงรับหมายความว่าป้องกันตนเอง   เราเรียนมาในเรื่องสงครามกองโจร โจรมันเริ่มต้นด้วย 3 คน 7 คน 5คน นะ แต่มันถือโอกาสได้เร็วกว่าขย้ำฝ่ายรัฐบาลละลายเป็นแห่ง ๆ ไปนี่คือการป้องกันตนเอง ในลักษณะที่ว่ายังรับอยู่  ทีนี้สมานฉันท์มันกลายเป็นว่า ทหารตำรวจฝ่ายกองกำลังไม่ทำอะไรเลยแล้วผู้บัญชาคอยย้ำว่าอย่าให้เกิดความรุนแรงนะ ผมไปโรงพยาบาลพระมงกุฎนะ ซึ่งนายพลเอก พลโท สองสามคนที่เค้ามีลูกหลานเป็นร้อยโท ร้อยเอกก็มีเค้าก็มาบ่นว่าทหารทำอะไรไม่ได้ เพราะผู้บัญชาสั่งมาว่า อย่าให้เกิดความรุนแรงนะ อย่าให้คนมุสลิมตายนะ อย่างนี้แย่เลยผมว่าอาการหนักแล้ว

อิศรา  :    มันต้องแยกแยะใช่ไหมครับ

แม่ทัพ หาญ  :  ต้องแยกแยะครับ

อิศรา  :   สำคัญคือมันต้องมีหลักฐานในการจับผู้กระทำผิด

แม่ทัพ หาญ   :   ครับอย่าไปอุ้มฆ่า กฎหมายมันมี พวกเขาจะรู้ว่านี่รัฐบาลฆ่า กำลังทหารตำรวจฆ่า โดยการอุ้มฆ่า ฆ่าตัดตอน อะไรเหล่านี้ เค้าจะรู้ แต่ว่าถ้าเป็นการปะทะกัน อย่างจริงจังตามกลยุทธ์ทางยุทธวิธีของทหารตำรวจ ก็ไม่ว่า   ส่วนจะมาออกข่าวแบบปัดความผิดมาที่เรา  เราก็แก้ไขได้นี่ ถ้าไปฆ่าตัดตอนเค้าเมื่อไหร่ความผิดนี้ยากลำบากมาก  ที่นี้เพราะฉะนั้นผู้บังคับหน่วยทหารตำรวจ ก็ตาม ตชด. ก็ตาม หรือว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ของตำรวจที่เป็นฝ่ายถืออาวุธ จำเป็นอย่างยิ่งที่ว่าต้องทำงานทางยุทธวิธีปราบโจรให้ได้ให้สำเร็จ เงื่อนไขตอนนี้ทำไมฆ่าได้ทุกวันต้องยุตติสถานการณ์นี้ให้ได้ ประชาชนหวาดกลัว ระหวาดระแวงกันเองนะ มุสลิมเคยอยู่ด้วยกันมาเป็นในอดีตมา ยี่สิบ สามสิบปี เดี๋ยวนี้ระแวงกันแล้ว แล้วคุณจะต้องไม่ให้การระแวงนี้เกิดขึ้นเป็นไฟไหม้ฟาง แล้วก็กลายเป็นฆ่ากันไปฆ่ากันมา ไปกันใหญ่เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิบัติการทางยุทธวิธีทางทหารจะเป็นตำรวจ ทหารประจำการ หรือหน่วย นปพ. ของหน่วยใดก็แล้วแต่ ที่แต่งเครื่องแบบของรัฐต้องใช้วิธีการรุกเพื่อปราบโจรให้ได้ ต้องยุตติการฆ่ารายวันให้ได้

อิศรา  :  แล้วที่ผ่านมามันยังรุนแรงต่อเนื่องทุกวัน

แม่ทัพ หาญ  : ไม่ทำอะไรเลย ผมรู้ว่าไม่ทำอะไรเลย จากเหตุการณ์นี้  คุณดูสิว่าขณะนี้โจรมันจะฆ่าใครก็ได้จักรยานยนต์ซ้อนท้ายแต่เดิมคันเดียวแต่เดี๋ยวนี้เป็น 2 คัน 3 คันแล้ว เหิมเกริมถึงขนาดนั้น จอดหน้าบ้าน จอดร้านน้ำชา มือปืนลงไป ยิงเอากำลังนั่งดูทีวีที่บ้าน และก็วิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ ที่ติดเครื่องรออยู่ ชุดคุ้มครองครูไม่ว่าตำรวจหรือ ตชด. ทหาร ก็ตามไปแต่งเครื่องแบบ รถเกราะตำรวจ รถทหาร สถานที่รับครูเปิดเผยใช่ไหมครับ รู้เลยว่าต้องรับตรงนี้หน้าบ้านของชาวบ้านนั่นแหละ  ชาวบ้านไม่กล้าบอกเพราะเห็นทุกอย่าง   บอกฝังระเบิดไว้เห็นแล้วเย็นนี้เค้ามาฝังไว้เห็นแล้ว แต่บอกไม่ได้เพราะว่าโจรนอนอยู่ในบ้าน ก็ต้องขยายความอย่างนี้ว่า เอ่อ สงครามนี้โจรมันยึดหมู่บ้านได้ทางยุทธวิธี เมื่อเราสั่งถอนทหารจนหมดสิ้นและยุบ ศอ.บต. ไปพร้อมๆ กัน เมื่อปี 45 เริ่มถอน ปี 46 คำสั่งออกเป็นลายลักษณ์อักษร ถอนทหารเกลี้ยง ศอ.บต.. ยุบเป็นทางการ เสร็จสิ้นเมื่อปี 46 มันเริ่มหยุดทำงานเริ่มถอนตั้งแต่ปี 45 แล้ว ใช่มั้ย เพราะฉะนั้นเราก็ถูกปิดหูปิดตา การข่าวถูกปิดหมด

อิศรา :  อันนี้เป็นความผิดพลาดจากตรงไหนครับ เป็นความผิดพลาดของใคร ของรัฐบาลชุดไหนครับ

แม่ทัพ หาญ  :  ของยุคโน้น ยุคทักษิณเลยแต่มันก็เริ่มมาตั้งแต่ ที่ถอนทหารทหารมันปี 45 แต่ว่ารัฐบาลทักษิณ นี่เริ่มตั้งแต่ 40 - 44 ใช่ไหม เลือกตั้งสองครั้งนั้น 40 คือถ้าจะพูดว่าจะเริ่มตรงไหนเอาอีกทีหนึ่งนะ เริ่มตรงไหน เริ่มตรงที่เรามี พรบ. เลือกผู้ใหญ่บ้านกำนันไปเมื่อปี 28 ถ้าจำไม่ผิดนะ 27 หรือ 28 ตรงนี้นะแต่ก่อนนี้ผู้ใหญ่บ้านกำนันนี่เราเป็นข้าราชการตลอดอายุ 60 ถึงปลดได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาล ต่อมาก็มีการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านมันจะปี 27 หรือ 28 เนี่ยแหละครับ ที่เริ่มเลือกตั้ง พอเริ่มเลือกตั้งโจรฝั่งโน้น ฝั่งทางมาเลเซีย เริ่มมีการเคลื่อนไหวสร้างคนเค้าขึ้นมา เขาวางแผนระยะยาวในการเลือกกำนันผู้ใหญ่บ้าน เขาเอาคนของเขาได้หมายความว่าชาวบ้านยังอ่อนแออยู่ใช่ไหมครับ โดนบีบบังคับ ทีนี้ในช่วงพอมาปี 38 เขาก็มีการเริ่มเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น นะ อบต.จะเริ่มตรงนั้น เริ่มในปี 38- 39-40 เลือก  3 ครั้ง เค้าก็เอาอีกเริ่มวางแผนอีก ให้เลือกตั้งคนของเขา อบต. มันเลือกเป็นชุดใช่มั้ยครับ 13 15 17 อะไรไม่รู้ อบต. เล็ก อบต. ใหญ่ อบต.ของเราก็เริ่มมีคนของแนวร่วมเข้ามานั่งอยู่แล้วพอเลือกตั้ง อบต. ครบสามครั้งปี  38 39 40 เพราะความไม่พร้อมของแต่ละอำเภอแต่ละจังหวัด ทั้งทั่วประเทศเลยเป็นอย่างงี้หมดก็ได้ อบต. ครบชุด 40 ก็คือการเลือกตั้งใหญ่ใช่ไหมครับ เลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ รัฐบาลที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่เข้ามาบริหารประเทศเพราะฉะนั้น อบต. นี่ก็คือ เค้ายึดครองไว้แล้วไง โจรยึดครองไว้แล้วสมบูรณ์แล้วนะ เพราะฉะนั้นก็เป็นหัวคะแนนของ สส. หรือ สว.

 ท่านก็เข้าใจ เพราะฉะนั้นพวกนี้เค้าพูดว่า มีโจรเนี่ยรู้เรื่องของรัฐบาลทั้งหมดเพราะเค้านั่งในรัฐสภาแล้วไง ผมว่าโจรเนี่ยมันมีแนวร่วมของพวกโจรอยู่หรือความคิดของโจรอยู่ในหัวของเค้านั่งอยู่ในสภาก็คุณดูสิ นักการเมืองในสภาที่ผมนั่งอยู่ 6 ปีไม่มีใคร พูดเรื่องโจรใต้เลย เงียบกริบหมดทุกคน พวกตัวแทนจากนักการเมืองสามจังหวัดเนี่ยเงียบกริบเลย ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

อิศรา -   ก็แล้วอย่างประเด็นเรื่องงานมวลชนที่บอกว่าในหมู่บ้านแนวร่วมไม่เอาเจ้าหน้าที่รัฐ ตรงนี้จะทำอย่างไร จะแก้ปัญหาอย่างไร มันก็เหมือนกับสงครามประชาชนใช่ไหมครับ ถ้าไม่ได้ประชาชนมาเป็นแนวร่วมคอยให้ข่าวสารเจ้าหน้าที่รัฐมันก็มืดบอดตรงนี้ท่านมองยังไง

แม่ทัพ หาญ :  แน่นอน เพราะว่าเค้ายึด อบต.ได้ใช่ไหมครับ เดี๋ยว ๆ คำถามนี้ขอเว้นไว้ก่อนนะ ถ้าไม่ต่อให้จบเดี๋ยวความคิดมันจะลืมไป พอช่วงระยะที่เค้าเริ่มผู้ใหญ่บ้านเดิมของเค้ากำนันของเค้า อบต. เริ่มเป็นเขา จากนั้น ศอบต. เรายังอยู่ใช่ไหมครับ ตอนนั้นเรายังอยู่ที่ชายแดนเราเริ่มปะทะกับโจรที่เข้ามา เป็นนักการเมือง ทหาร นายทหารพรานต่าง ๆ ทหารประจำการที่อยู่ตามชายแดนเริ่มมีการประทะกับโจร มาวางแผนทางการเมืองใช่ไหมครับ ทางตำรวจ ข่าวสารตำรวจ กับข่าวทหารก็ไม่ตรงกัน ใช่ไหมครับ ทางตำรวจก็ว่านี่รัฐบาลโน้น ไม่ใช่รัฐบาลปัจจุบันนะ เพราะว่าทำนองพูดว่านี่เป็นการฆ่าตัดตอนก็พอดีกับในช่วงนั้นที่รัฐบาลเรื่องปราบยาบ้ากันเยอะ ก็มั่วกันหมดหาว่าที่นายทหารฆ่าจริงๆ นะ ไอ้โจรก่อการร้ายที่เข้ามาวางแผน หัวหน้าโจรหลายคน ก็ร่วมประมาณ 10 คนตาย เพราะทหารฆ่า หัวหน้าโจรที่เข้ามาวางแผนทางการเมือง เลยทำให้หัวหน้ารัฐบาลรุ่นช่วงนั้นเกิดความสงสัยขึ้นมาสงสัยข่าวของทหารที่พูดว่าอย่างงี้ ว่าไอ้ที่ฆ่าโจร มันไม่ใช่นะ  ผู้บัญชาการตำรวจภูธร 9 เค้าบอกว่าไม่ใช่เรื่องนี้ พอถึงวันหนึ่งปี 45 หรือ 46 ไม่ทราบ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร 9 ก็ยืนยันสมัยนายกทักษิณ ว่าตำรวจภูธรรับผิดชอบได้เรื่องโจรข้ามแดนเนี่ย จากนั้น ทักษิณก็สั่งถอนทหารยุบ ศอบต.   จากนั้นสายข่าวที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาดับสูญหมด    ทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เคยจัดตั้ง(สายข่าว)ไว้เพราะฉะนั้นมันเป็นปัญหาใหญ่ที่เราจะสร้างสายข่าว ไม่ใช่สร้างกันวัน สองวันนะเป็นเรื่องอันหนึ่งที่เป็นบทเรียนนำมาคิดอย่างมาก

อิศรา  :  เรื่องมวลชน ตอนนี้เวลาเกิดเหตุเหมือนกับชาวบ้านไม่เป็นหูเป็นตาให้กับ เจ้าหน้าที่ ขณะที่มันเหมือนกับเป็นสงครามประชาชน  เป็นสงครามแย่งชิงประชาชนตรงนี้ที่ท่านเองเคยอยู่ในพื้นที่ภาคใต้  แล้วก็ภาคใต้แนวคิดการเมืองนำการทหารในสถานการณ์นี้คิดว่ามันต้องแก้ไขยังไงครับ

แม่ทัพ หาญ  : เดี๋ยวต่อด้วยคำถามนี้ พอถอนทหารถอนตำรวจออกมา ยุบ ศอ.บต. หมดโจรก็ยึด หมู่บ้านโดยทันที คนที่อยู่รอบนอกอยู่บนเขาลงมาเคลื่อนไหวเป็นครั้ง ๆ ลงมายึด  6 อำเภอของนราธิวาสทันที แล้วกระจายไปสู่ปัตตานี ยะลา ตามลำดับเพราะฉะนั้นโจรอยู่ในหมู่บ้านแล้ว คุมชาวบ้านได้ ปืนจี้หลังชาวบ้านไว้

อิศรา :  เพราะว่าขณะนี้มันเห็นชัดเลยว่า ประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่สีแดง ไม่เอาด้วยกับหน่วยงานของรัฐ ไม่ให้ข้อมูลตรงนี้ คราวนี้ทางด้านยุทธวิธีของทหารเนี่ยจะต้องทำไง  เพราะขณะนี้มันมีหมู่บ้านสีแดงกว่า 200 หมู่บ้าน

แม่ทัพ หาญ  : 220 กว่าแล้ว

อิศรา  :   แล้วจะแก้ยังไง

แม่ทัพ หาญ  :  ผมจะให้ตัวเลขว่า 250 เลย ในหมู่บ้านสีแดงนี่นะทางการเมืองยังเดินไม่ได้  ทหารหรือตำรวจต้องเข้ามา   งานการเมืองนี้เดินไม่ได้ เค้าไม่ฟัง เค้าคุมชาวบ้านอยู่ เค้านอนคุมชาวบ้านอยู่แล้ว ใช่ไหมครับแล้วจะมาฟังอะไร ชาวบ้านแม้จะอยากมายืนข้างรัฐบาลอยากส่งข่าวมาให้รัฐแต่ก็ไม่กล้าเราจะสังเกตว่าผู้ใหญ่บ้านที่เคยเป็นสายให้รัฐบาลเคยเป็นกำนันเก่าผู้ใหญ่บ้านเก่าถูกฆ่าตายนะ เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครให้ข่าวเรา ผมว่ารัฐบาลควรสำรวจให้แน่นอนด้านความมั่นคงให้กองทัพสำรวจ แน่นอนกองทัพเองจะต้องรู้เลยว่าจะเอากองกำลังไปเฝ้าหมู่บ้านแดงทำไม ทำอะไรไม่ได้เลย ให้แยกไปอยู่ตามอำเภอต่าง 30 กว่ากองร้อยไม่ทราบว่าเปลี่ยนไปรึยัง นะตอนที่ผมเป็นกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภาเนี่ย 33 กองร้อย 1 กองร้อยต่อ 1 อำเภอ อำเภอทั้งหมดมี 33 อำเภอทั้ง 3 จังหวัดเนี่ย ต้องเอามาให้หมดในหมู่บ้านแดงไม่มีประโยชน์หรอกครับ เอามาไว้เป็นกำลังให้ผู้บังคับกองพัน

อิศรา  :  เขาเอาไปวางไว้ทำอะไรครับ

แม่ทัพ หาญ  : นั่นสิอยากจะถามว่าทำอะไรได้บ้างจะจัดตั้งก็ไม่เป็นความจริงหมายความว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไปจัดตั้งหมู่บ้านแดงงานการเมืองก็ไม่มีใช่ไหมครับ

อิศรา  :   สถานการณ์นี้ต้องทำอย่างไรครับ

แม่ทัพ หาญ : สถานการณ์นี้นะผมว่าถอนกำลังมาเสีย เป็นอยู่เป็นกอบเป็นกำให้ผู้บังคับกองพัน ดำเนินกลยุทธ์ได้เราต้องใช้วิธีแบบสงครามเย็นนะ สงครามเย็นปิดล้อมหมู่บ้าน โฆษณาเค้าเรียกศัพท์เค้าเรียกว่าปลุกระดมมวลชน งานตอนนั้นเข้าไปปลุกระดมเนี่ยปิดล้อมเพื่อโฆษณาว่ารัฐบาลนั้นมีประสงค์อย่างนี้ อย่างนั้น อยากจะให้ทำอย่างนั้น อย่างนี้ เราก็รู้ว่าเค้าไม่ฟัง แต่ก็ต้องพูดให้เข้าใจว่าเราไม่มีวันอุ้มฆ่า เว้นแต่ว่าข้อเสียของเขาคือ ขณะนี้ในหมู่บ้านในเมื่อไม่มีคนดูแลอย่างนี้ ผู้มีอิทธิพลต่าง ๆ เอารัดเอาเปรียบชาวบ้านอยู่เพราะฉะนั้นเรารู้ว่าเขาไม่ฟังแต่หนักๆ เค้าก็ต้องฟัง ในการปิดล้อมหมู่บ้านคุณจะต้องมีกำลังมากกว่าคนที่จะมาม๊อบเรานะ 

อิศรา  :  ปิดล้อมหมู่บ้านนี่เพื่ออะไรครับ

แม่ทัพ หาญ  : ถ้าผมพูดนะก็หมายความว่านอกจากขยายความคิดของรัฐบาลไปแล้วก็เพื่อขุดค้นอาวุธกระสันต่าง ๆ ใช่มั้ย นี่แหละคือสิ่งสำคัญที่สุด   ต้องค้นหาให้หมดเลยเครื่องไม้เครื่องมือ การตรวจวัตถุระเบิดต่างๆ ก็เอามาจากไหนคุณรู้ไหมตะปูเรือใบที่ไว้โปรยเนี่ยมีตั้ง 4-5 พัน ถังนะคุณรู้ไหม นี่ผมรู้มาตั้งแต่เป็น สว. กี่เดือนมาแล้วแล้วมีโปรยทุกวันนะ เขาเผา เขาฆ่า เขาวาง ต้องมีการผลิต ต้องเป็นอุปกรณ์ตะปู 5-6 นิ้วดัด

อิศรา  : ท่านมองว่าการปิดล้อมหมู่บ้านเป็นเรื่องที่ต้องทำใช่ไหมครับ

แม่ทัพ หาญ : ต้องทำ เอาอาวุธออกจากมือโจรเป็นส่วนหนึ่ง เป็นพันธกิจอันหนึ่ง นอกจากปืนที่เหน็บไว้กับพุง สะพายไว้ที่ไหล่ด้วยปืนอาก้าเนี่ย เค้าผลิตเองปืนระเบิด มีหมด เอามาจากไหน คุณไม่สังเกตเหรอ ทำไมหน่วยของเรากองกำลังต่าง ๆ นิ่งเฉยอยู่ได้ หัวคิดไปไหนหมดไม่เข้าใจเลยว่าทำไม และทำไม ไม่เข้าใจเลย เอามาระเบิดกันได้ทุกวันเอามายิงกันได้ทุกวัน ปืนนี่ที่เห็น ๆ นะ 412 กระบอก เมื่อปล้นไปจาก 4 มกราคม 2547 มาอีกเป็นเรื่อยๆ ก่อนหน้านั้น อีก 32 กระบอก พัฒนาหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 2 หน่วยนะ  ภาคละ 12 หน่วยละ 16 กระบอก ก็ 32 กระบอก ทั้งหมดก่อนหน้าที่มาปล้น

อิศรา :  การแก้ปัญหาของรัฐบาล 

แม่ทัพ หาญ : รัฐบาลขณะนี้นะไปมุ่งการสมานฉันท์ และก็คอยย้ำไม่ให้เกิดความรุนแรง ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดทั้งสิ้น สมานฉันท์มันเป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์การเมืองต้องใช้เวลา 20 ปี กว่าคุณจะเปลี่ยนอุดมการณ์ต่าง ๆ การจัดการให้การศึกษา พัฒนาไปเรื่อยๆ การเมืองคุณต้องเอา อบต. กลับคืนมา เลือกตั้งทุก 4 ปี ต้องให้การศึกษา เดี๋ยวนี้นะแม้แต่จังหวัดเองรู้หรือเปล่าว่าการปกครองของตัวเองนั้นแคบลง ๆ แคบลงเรื่อยนะ ผมคิดว่าเค้าคงรู้ตอนสวมรองเท้าก่อนออกจากบ้านวันนี้ น่าจะคิดถึง คงจะคิดว่า เอ้ เราไปนี่จะปลอดภัยหรือเปล่า นี่คือความรู้สึกระหวาดระแวง ที่เกิดขึ้น และนั่นคือบรรยากาศทางการเมืองถูกกำหนดเพราะว่ามันมีการตายเกิดขึ้นทุกวันใช่ไหม นี่ก็แสดงว่าแนวร่วมของเค้ามีมากขึ้นทุกวันและถ้าเราปล่อยต่อไปมันก็จะถึงจุดที่สายเกินไป

อิศรา :  ท่านมองว่ารัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไร

แม่ทัพหาญ : ไม่ได้ทำอะไรเลย 

อิศรา : แต่ว่าท่านนายกก็เน้นย้ำเรื่องการปฏิรูป กระทรวงยุติธรรมในด้านกฎหมายให้ความเป็นธรรม

แม่ทัพ หาญ :  ใช่ถูกต้องแต่ต้องเป็นระยะยาวนะแต่สิ่งที่เฉพาะหน้าที่สุดนี่ผมใช้คำว่าปลดปืนในมือโจร  เพราะโจรที่เอาปืนจี้หลังชาวบ้านอยู่นะ ปลดปืนมีพันธกิจ 4- 5 ประการ  ทำลายการครองถนนทุกสายของโจรทั้งในสวนยางและสวนปาล์มเพราะโจรมันมีอาวุธมันฆ่าโดยเปิดเผยและคุณไม่สังเกตหรือว่า ขณะนี้ จุดตรวจบนถนนไม่เคยจับโจรเลยเพราะอะไรเพราะเราไม่ทันเกมของโจร เราไปตั้งจุดตรวจตามที่เป็นเดือน ๆ ก็ไม่เคยเปลี่ยน จุดตรวจนี่ไม่เกิน 30 นาทีต้องเปลี่ยนแล้ว นี่ผมเรียกว่าการใช้ยุทธวิธีใช่ไหมครับคือต้องหมุนเวียนทุกพื้นที่    ทั่วพื้นที่มีกำลังอยู่ 33 กองร้อย  แต่ละจังหวัดต้องเคลื่อนย้าย เอาอาวุธไปฆ่าใครก็ได้ ฆ่าครูได้ทุกวัน เพราะรู้ว่าครูมาทางไหน ชุดคุ้มครองครูจะมาแล้ว เลือกฆ่าได้เลย เลือกวางระเบิดได้เลยเลือกโจมตีตามทิศทางที่ครูจะมา ทางถนนที่คดเคี้ยวนั่นเหมาะแก่การซุ่มโจมตี มันคือจุดอ่อนของเรา

อิศรา : ในพื้นที่มีการส่งหน่วยรบพิเศษลงไป  ในสถานการณ์ตรงนั้นยังมีความจำเป็นมันใช้ถูกภารกิจไหมครับ

แม่ทัพ หาญ :    ผมว่าผิดภารกิจนะหน่วยรบพิเศษพวกนี้มันเป็นการจัดที่ไปอยู่ข้างหลังข้าศึกเพื่อไปก่อตั้งมวลชน ใช่มั้ยครับ ในสงครามก่อการร้ายอยู่ในแนวหลังข้าศึกแต่ทีนี้มาประจันหน้ากับข้าศึกก็เลยมาคุ้มครอง VIP (บุคคลสำคัญ) เป็นหลัก   แล้วก็ประการสำคัญเราบกพร่องในเรื่องที่ว่าหน่วยหมวกแดงหน่วยรบพิเศษไม่ขึ้นกับหน่วยเฉพาะกิจ 2 กองกำลังนี้แยกกันอยู่ ก็แยกไม่ขึ้นบังคับบัญชากัน   กำลังของกองกำลังศรีสุนทร ของกองทัพภาคที่ 4 และสันติสุข สั่งตรงมาจาก ผบ.ทบ. ซึ่งผิดหลักการ เค้าก็จัดตั้งมวลชนเค้าทำอยู่แล้วทำไมคุณไม่ขึ้นการบังคับบัญชากับหน่วยแม่ในพท.  นี่คือข้อผิดพลาดอย่างยิ่งใหญ่เหมือนกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่เข้าใจสถานการณ์ ไม่เข้าใจเลยแหละถ้าจะพูด พูดก็พูดเถอะ ถ้าเราไว้ใจแม่ทัพภาคที่ 4 อย่าไปยุ่งกับเขา    แม่ทัพคนดี ๆกี่คน แล้วนี่คนที่ 5 แล้วนะครับเพราะว่าการไปยุ่งกับเขาหมด ตั้งแต่เลือกตั้งใหม่ ๆ แม่ทัพมันเหมือนกับสิบเวร ผมไปดูแล้วเพราะพวกนี้มาจากกรุงเทพ ไอ้พวกประจำนั่งอยู่ทั้งๆที่ ไม่รู้เรื่อง  แผนที่ยังชี้ไม่ถูกเลย ต้องให้นายสิบมาชี้ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 24, 2007, 01:58:27 PM โดย babor » บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #47 เมื่อ: มีนาคม 24, 2007, 01:57:19 PM »

อิศรา :  ตอนที่ท่านลงไปทำใต้ร่มเย็น สถานการณ์ตอนนี้มันรุนแรงกว่า

แม่ทัพ หาญ :   มันยิ่งกว่านี้อีกนะมันไม่มีการตายทุกวันแบบนี้ มันมีเหตุร้ายทั้ง14 จังหวัด

อิศรา :  แต่ถ้าพูดถึง 3 จังหวัดเนี่ย สถานการณ์ขณะนี้รุนแรงกว่า

แม่ทัพ หาญ  :  แรงกว่าเพราะเราปล่อยให้โจรมานอนในหมู่บ้านอันนี้ร้ายที่สุด

อิศรา :  มองย้อนกลับยไปช่วงที่ท่านมาเป็นแม่ทัพ  คิดว่าใต้ร่มเย็นนี้จะออกมาใช้ได้ไหมครับ

แม่ทัพ หาญ :  ใช้ได้ ตอนรัฐบาลทักษิณอยู่นะผมบอกขอเวลา 3 เดือน แต่ต้องให้ผมเลือกคนก่อนนะเลือกแม่ทัพนายกอง ผมเลือกให้เดี๋ยวนี้มันแย่แล้ว

อิศรา : ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ส่วนหนึ่งมาจากทางกองทัพอันนี้เป็นผลจากการที่การเมืองลงไปล้วงลูกหรือเปล่า

แม่ทัพหาญ  : ใช่ เดี๋ยวนี้มันกลายเป็นรุ่นเป็นอะไรไปยุ่งไปหมดเลย แล้วเค้าก็ลืมว่า แม่ทัพนี่ทหารนี่ต้องทำทั้งสองอย่างการเมืองและการทหารควบคู่กันไป  ไม่ใช่การเมืองนำการทหารไม่ใช่นะครับ   การเมืองกับการทหารเหมือนกันนะครับการเมืองหมัดหนึ่งการทหารหมัดหนึ่งเรามี 2 หมัดนะต่อยหมัดไหนก่อนก็ได้เพื่อให้เราชนะ ใช่ไหม

อิศรา : เทียบกับสมัยที่ท่านเป็นมทภ.4 ช่วงนั้นมีเอกภาพในกองทัพอย่างมากต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับในปัจจุบัน แม่ทัพไม่ค่อยได้แสดงความคิดเห็นอะไรเลย

แม่ทัพหาญ :  การเมืองขณะนี้ผมว่าแม่ทัพคนเดียวทำได้ ถ้ากองทัพบกไว้ใจ ถ้ากองบัญชาการทหารสูงสุดไว้ใจเขา ให้สิ่งที่เขาร้องขอ เดี๋ยวนี้นะครับคุณดูสิว่า ทุกคนเขาบอกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อ ศอบต. จัดตั้งเรียบร้อย จะทำอะไรได้มีแต่มือมีแต่ความคิด ทางพลเรือนใช่มั้ยกระทรวงต่าง ๆใช่ไหม แต่ทหารนี่ทหารต้องรบและการเมืองด้วย ทหารมีกองทัพมีหน้าที่ทางการปฏิบัติการรบและการปฏิบัติการพัฒนาประเทศ มีรัฐธรรมนูญเขียนทุกฉบับนะ การพัฒนาประเทศก็คือหมายถึงการเมืองนั่นเองใช่ไหม ทำไมไม่ปล่อยให้กองทัพเขาทำล่ะครับ แม่ทัพดี ๆ ก็มีนะที่เค้าเก่ง ๆ นะ นายทหารที่ดีก็มีเยอะที่มองว่าจะเป็นแม่ทัพที่รุก ๆ ได้

อิศรา :  แต่ว่าขณะนี้มันเหมือนกับว่ากองทัพไม่มีเอกภาพ


แม่ทัพ หาญ :  แม่ทัพกองทัพ 4 ทำไมไม่มีบทบาทเลย ทหารกองทัพ 4 ไปอยู่ไหน ไม่เข้าใจ การจัดนี่ก็ผิดอยู่แล้ว ผมว่าในสถานการณ์นี้นะ ศอบต.ไม่ต้องมี ผมมีความคิดอย่างนั้นนะ เพราะว่าตราบใดที่ยังมีสงครามอยู่ คือกองทัพมันทำได้ทั้ง 2 อย่างแล้ว ต้องมีหน้าที่รบ มีหน้าที่การพัฒนา และมีกองทัพเป็น 2 แบบ คือ เป็นตัวทหารประจำการ ทัพสี่ ส่วนหน้า และกอรมน. ก็พอแล้ว กองร้อยนี่ทำงานการเมืองด้วย อันไหนที่เกี่ยวกับทางพลเรือนเราก็โยนมาให้ กอรมน.เป็นหลัก ทหารมีหน้าที่ทางยุทธวิธีอย่างเดียว

อิศรา :  ศอ.บต.นี่ควรอยู่ในสถานการณ์ที่ปกติ ไม่ใช่สถานการณ์สู้รบแบบนี้

แม่ทัพ หาญ  : นี่มันสถานการณ์รบ

อิศรา :  ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็ชัดเจนแล้ว ว่าเป็นขบวนการโจรแบ่งแยกดินแดนแน่นอน อันนั้นชัดเจนใช่ไหมครับ

แม่ทัพ หาญ  :  อันนี้ถ้าอ่านในที่ผมเขียนคุณจะรู้ได้เลยนะ ใช่ แบ่งแยกดินแดนแต่ว่าไม่ใช่ว่าไปเข้ากับใครนะ แบ่งเป็นรัฐอิสระ ปกครองตนเอง รัฐอิสลาม รัฐเอกราช ไม่ได้ขึ้นกับกลันตันเป็น การก่อการร้ายแนวใหม่

อิศรา : คิดว่าเขาจะประสบความสำเร็จตรงนี้ไหม

แม่ทัพ หาญ  :  เรายังมีหวัง ไม่ต้องอาศัยมาเลเซียนะ อันนี้ที่ผมอยากจะฝากไว้  คือคนที่คิดอะไรไม่ได้แล้ว ก็ไปหวังพึ่งมาเลเซีย คุณจำได้ไหมที่ผมเป็นแม่ทัพ ผมไม่อาศัยมาเลย์ แล้วเราก็ยึดค่ายใหญ่(ของพรรคคอมมิวนิสต์มาลายา) มาได้ ยึดได้หมดเลย ทั้งสามกรม กรมแปด กรมสิบ กรมสิบสอง กรมแปดใหญ่ที่สุดที่เขาน้ำค้าง คุณนึกได้ไหม ฮัดชิม (ผบ.กองกำลังของฝ่ายมาเลย์) เขายังตกตะลึงเลย โห ไม่เคยเห็นในสงคราม โจรจีนที่มีค่ายใหญ่อย่างนี้ แล้วอะไรรู้ไหมที่ตลกที่สุด สำนักงานกชภ.(กรรมการชายแดนภูมิภาค) นี่ ตั้งแต่ก่อนผมลงไปเป็นแม่ทัพ แต่ไหนแต่ไรมาเขาตั้งมากี่ปีก็ไม่ทราบ ก็มีหัวหน้ากองข่าวเป็นมาเลเซีย ผมลงไปต้องถามว่าทำไมต้องเป็นทหารมาเลยเซียล่ะ มันบอกว่ามันนี่ชำนาญเรื่องโจรจีนมาหลายสิบปีละ เอ๊ยมึงกลับไป ผมบอก ผมเอาคนของเราเป็นแทน ให้ยึดค่ายมันหมดเลย ยึดค่ายโจรจีนได้หมดเลย ผมถึงบอกว่ามาเลเซียเนี่ยมันซ่อนดาบในรอยยิ้มนะ
 
อิศรา : แล้วในสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี่มาเลย์ก็มาเสนอให้เป็นตัวกลางในการดำเนินการเจรจา  ท่านคิดว่า มันจำเป็นไหม?

แม่ทัพ หาญ  : ไม่ต้องเจรจากับมัน ทางรัฐบาลพูดไปอย่างนั้น

อิศรา :  ท่านมองว่ามันไม่มีประโยชน์

แม่ทัพ หาญ  : มันไม่มีประโยชน์เลย เราสามารถจัดการด้วยตัวเราเองได้หมด
 
อิศรา : แล้วท่าทีมาเลย์นี่ถ้าต้องมาแสดงความเป็นมิตรจริงใจในปัญหาตรงนี้ คิดว่ามาเลย์ต้องต้องช่วยเราอย่างไรในฐานะเพื่อนบ้าน

แม่ทัพ หาญ :   ก็อย่าให้การสนับสนุน การข้ามไปข้ามมา คนสองสัญชาติ หาให้ได้ว่าไอ้นี่ชาติไหน เป็นแนวร่วมหรือเปล่า ช่วยเราประมาณนี้ คือไม่ต้องมาช่วยหรอก มีสัญชาติเดียวได้ไหม คุณเลือกได้ไหม

อิศรา :  ทางนายกมาเลย์ ก็พูดเรื่องนี้ ซึ่งก็จะเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว

แม่ทัพ หาญ  :  ซึ่งตอนที่เกิดเหตุที่ว่ามีคนหลบหนีไปฝั่งนั้นมันไปกันที 131 คน แล้วทางโน้นอ้าแขนรับ แล้วก็บอกว่าอย่ากลับมานะ ตราบใดที่ยังไม่สงบทางฝั่งนี้

อิศรา : แล้วต่อสาเหตุนี้ทางมาเลย์จะต้องทำอย่างไร ต่อกรณีเหตุการณ์ 131 คนนี้ครับ

แม่ทัพ หาญ  : ให้เขาเลือกว่า 131 คนนี้เขาจะอยู่ตรงไหน ก็เท่านั้นเอง เราก็ไม่เห็นแคร์เลย

อิศรา : เขาจะกลับก็กลับมาแต่อย่าสร้างเป็นเงื่อนไขใช่ไหม

แม่ทัพ หาญ :  ใช่

อิศรา : สถานการณ์ขณะนี้มีความกังวลกันว่าจะนำไปสู่สงครามการเมือง ทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม ควรจะต้องมีท่าทีอย่างไรต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่

แม่ทัพ หาญ  :  เราต้องไม่ให้เกิดหมายความว่าทหารต้องเข้าไปป้องกันชายแดนอย่างที่ผมเสนอให้ได้ ชาวบ้านไม่ว่าจะพุทธหรือมุสลิมเขาก็จะดีใจ ก็มุสลิมที่เขาเอากับเราก็มีอยู่แล้ว ต้องเข้าใจว่ามุสลิมที่เข้าเป็นไทยน่ะ ใจเขาเป็นไทยเหมือนเรา  แต่พวกหัวรุนแรง เปอร์เซ็นต์มันนิดเดียว ร้อยนึงแค่ 20 ใช่ไหม เพราะฉะนั้น 20 เนี่ยเราจัดการได้ ถ้าเราให้ความปลอดภัยจริงๆไม่ว่าจะเป็นพุทธหรือมุสลิม เขาก็จะเฮ ร่วมกับรัฐบาล ก็ช่วย อยู่ที่เราจะปลดปืนในมือโจรได้หมดไหม เอาอาวุธออกมาให้หมดได้ไหม

อิศรา : ชาวบ้านในพท. เริ่มวิตกกังวลว่าชาวบ้านจะล้างแค้นกันเอง

แม่ทัพ หาญ  : อันนี้จะต้องไม่ให้เกิด เราอย่าไปยุให้พวกไทยพุทธ ต้องอธิบายให้เข้าใจ ผมว่าหนทางเดียวนั่นก็คือทำตามข้อเสนอที่เคยเสนอให้รัฐไปต้องทำให้ได้ แต่ก็ต้องอาศัยการสนับสนุนจากรัฐบาล การที่เราจะทำให้ถนนหนทางในเมือง นอกเมือง ในสวนปาล์ม สวนยาง ปลอดจากโจรนี่นะครับ ต้องอาศัยการสนับสนุนที่พวกเราฝ่ายปราบ ตำรวจหรือทหารเนี่ยต้องแต่งตัวเป็นพลเรือน รถเป็นพลเรือน มอเตอร์ไซค์เป็นพลเรือน อันนี้สำคัญที่สุด คุณไปทะเบียนเขาก็รู้แล้วเดี๋ยวก็บึ้ม เอาละ ขากลับ แต่ถ้าคุณเป็นพลเรือนนะ ผมเคยเสนอไว้นะ กองร้อยทหารราบเอาของผมเป็นตัวอย่าง กองร้อยมีรถ  ปิ๊กอัพกองละ 12 คัน 12 คันนี่ผมจัดเป็นชุด ชุดหนึ่งมี 2 คันวิ่งในทางยุทธวิธีของเรา จัดตั้งจุดตรวจ ไม่เกิน 30 นาทีต้องย้าย   แล้วคุณดูซิครับเอาแต่เรื่องทางยุทธวิธีโจรมันต้องออกมาเพื่อไปฆ่า ไปวางระเบิด ทางยุทธวิธีจะจับได้หมด
 
อิศรา : คือการตั้งจุดตรวจตามยุทธวิธีก็สำคัญ

แม่ทัพ หาญ  :  สำคัญ

อิศรา : ซึ่งเขาไม่ได้ทำเลย

แม่ทัพ หาญ  : ไม่ได้ทำเลย

อิศรา :  ยังขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ยิงชาวบ้านกันอยู่

แม่ทัพ หาญ :  เดี๋ยวนี้รวมกำลังเป็น 2 คัน 3 คันแล้ว และก็ใช้รถปิ๊กอัพด้วยนะ

อิศรา : มองสถานการณ์แล้วมีความหวังไหม

แม่ทัพ หาญ :   ถ้ายังเป็นอยู่อย่างนี้ไม่มีการปรับปรุง ผมก็ท้อใจเหมือนกัน รอให้โจรมันตื่นใหญ่หรือไง แล้วมันจะมาถึงสงครามปฏิวัติ เกิดสถานการณ์ปฏิวัติขึ้น

อิศรา :  สถานการณ์ปฏิวัติมันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมันมีสงครามกลางเมือง

แม่ทัพ หาญ  :  อาจจะไม่มีสงครามกลางเมืองก็ได้อาจจะมีปฏิวัติเลย การปฏิวัติมี 2 อย่าง คือ 1.รัฐบาลชนชั้นปกครอง ตำรวจ ทหาร ปกครองประชาชนไม่ได้ ข้อที่ 2. ประชาชนไม่อยากให้รัฐบาลปกครอง 2อย่างที่เป็นการปฏิวัติ เขียนได้เลย แล้วขณะนี้คุณดูสิ ปิดหน้า คลุมหน้ามาแจ้งความได้ยังไง ถ้าเป็นผมจัดการให้เอาผ้าที่หน้าออก แต่นี่เขาทำไม่ได้เพราะกำลังเขาน้อยไง คุณจะแก้ปัญหานี้นะคุณจะต้องมีกำลังตรงนั้นที่มากกว่าม็อบเป็น 3 เท่าเป็นอย่างน้อย นี่หลักการแก้ปัญหาม็อบ ผมจะล้อมไว้เฉยๆแล้ว จะมาก็มาสิถ้าไปไม่ได้อย่าไปนะ เด็กร้องแง หิวขึ้นมา ลูกหลาน ไปไม่ได้อยากไปเอาผ้าคลุมออก มีวิธีนี่ ว่าต่อไปจะไปร้องเรียน แต่ถ้าคุณไม่มีกำลังอยู่ในมือนะ ผมถึงเสนอว่าถอนกำลังไปให้หมดจากหมู่บ้านเดิมไปอยู่ข้างนอก อยากพูดกับประชาชนเมื่อไหร่ ปิดล้อมประชุม อยากค้นอาวุธ ปิดล้อมทันที ตั้งแต่หัวรุ่ง เครื่องไม้เครื่องมืออาวุธสงครามเอาไปให้หมด

อิศรา : หรือว่าอย่างเรื่องเรือใบ (ตะปูที่คนร้ายโปรยดักรถเจ้าหน้าที่) รถมันเข้าไม่ได้เลย ถ้าเราใช้เอพีซี (armed personnel carrier – รถสายพานลำเลียงพล) นี่มันจะช่วยไหม

แม่ทัพ หาญ  : มันก็ช่วยได้

อิศรา : เอพีซีนี่มันบดเรือใบได้เลย ฮัมวี่ก็โดนซัด พอเจอเรือใบมันก็น็อคหมด ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องเรือใบผมไม่รู้เขาคิดกันตกรึยังเรื่องเรือใบ

แม่ทัพ หาญ  : ผมไม่รู้ว่าเขาคิดของเขายังไง คุณยังคิดออกเลยว่าควรจะทำอย่างนี้ อยู่ในบ้านนี่เรือใบมีเป็นถังๆเลย
 
บันทึกการเข้า
Hong
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #48 เมื่อ: มีนาคม 24, 2007, 03:58:02 PM »

อ่านข้อความที่ครูเปิ้ลเอามาให้ดูแล้วเศร้าใจ....
บันทึกการเข้า
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #49 เมื่อ: มีนาคม 25, 2007, 09:13:24 AM »

สองบทความข่าวนี้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ในหลาย ๆ ปัญหา  อ่านแล้วลองวิเคราะห์ดูว่าจากสองบทความนี้มีอะไรอยู่บ้าง อย่างไร



ผกก.สภอ.เมืองปัตตานี ย้ำให้ความเป็นธรรมกับญาติของเยาวชนมุสลิมที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของตชด.     
วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2007 16:24น. 
สถาบันข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

ปัตตานี  -  ตำรวจตระเวนชายแดนที่ใช้อาวุธปืนยิงเยาวชนมุสลิมเสียชีวิตในพท.อ.เมือง ขณะนั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์หนีการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นในขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อคืนวันอังคารที่ ๒๐ มีนาที่ผ่านมา


พ.ต.อ. สมจิตร นาสมยนต์ ผกก.สภอ.เมืองปัตตานี กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทางตร.จะให้ความเป็นธรรมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  และทางเจ้าหน้าที่ตร.ได้มีการแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้อาวุธปืนยิง นาย มูฮัมหมัด กูนา จนเสียชีวิตแล้ว

“ขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะมีการดำเนินการตามกฏหมายทุกขั้นตอน  ไม่ได้มีการละเว้นเพื่อความสบายใจของญาติผู้เสียชีวิต  และจะให้ความเป็นธรรมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” 

นายมูฮัมมัด กูนา อายุ 14 ปี  เยาวชน ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตระชายแดนไล่ยิงจนตกจากรถจักรยานยนต์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา   เนื่องจากหลบหนีเจ้าหน้าที่ขณะขอตรวจค้น  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่านาย มูฮัมมัด กูนา จะเป็นแนวร่วมฝ่ายก่อความไม่สงบปฏิบัติงานในเขตเมือง  อย่างไรก็ตามระหว่างเกิดเหตุร้าย นาย มูฮัมมัด กูนา ไม่ได้พกพาอาวุธปืนหรือใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ขณะหลบหนีแต่อย่างใด

พ.ต.อ. สมจิตร กล่าวถึงเหตุร้ายที่เกิดขึ้นว่า “ คงเป็นลักษณะไม่เจตนา เพราะเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ ในการสกัดจับกุมคนร้าย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ อันนี้ ผมเห็นใจทุกฝ่ายทั้งฝ่ายของญาติผู้เสียชีวิต และทางตำรวจตระเวนชายแดนเอง เพราะฝ่ายตำรวจตระเวนชายแดนเองก็มาช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในพื้นที่”

ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี กล่าวอีกว่า การสอบสวนนายลุวาฟี คนขับรถจักรยานยนต์ที่ได้ขับหลบหนีเจ้าหน้าที่พร้อมกับผู้ตายนั้น ได้สารภาพกับทางตร.ว่า ในวันเกิดเหตุ ได้เสพยาแก้ไอผสมน้ำใบกระท่อมมา จนเกิดอาการเมาจริง  “ จึงทำให้เกิดการเกรงกลัวเจ้าหน้าที่และขับรถหลบหนี  เมื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ก็เกิดความสงสัยและไล่ติดตามสกัดจับกันทั่วเมือง  จนมาถึงจุดเกิดเหตุ  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนจึงได้ยิงสกัด เลยทำให้นายมูฮัมมัดเสียชีวิต”

“ส่วนญาติของผู้เสียชีวิตนั้น ทางผมได้เข้าไปทำความเข้าใจแล้ว ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น คงจะหาข้อยุติได้เร็วๆนี้ คิดว่าไม่มีปัญหา และผมยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้ง ฝ่ายผู้เสียชีวิต และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ถูกแจ้งข้อหา ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน”  พ.ต.อ สมจิตร กล่าว
 



คนร้ายปฏิบัติการอุกอาจจ่อยิงตำรวจกลางตลาดบาเจาะ ดับ 2 นาย     
วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2007 13:03น. 
แวดาโอ๊ะ หะไร
อะหมัด  รามันห์สิริวงศ์
สถาบันข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย


นราธิวาส -  เมื่อเวลา 12.20 น. (24 มีนาคม)  ร.ต.ท.สุรชัย ขำทับน้ำ ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายประกบจ่อยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำ สภ.ต.ปะลุกาสาเมาะ ได้รับบาดเจ็บ รวม 2 ราย บริเวณกลางตลาดนัดบ้านต้นไทร ริมถนนเพชรเกษม ม.1 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ

 ที่จุดเกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจนเลือดไหลนองพื้นนอนร้องด้วยความเจ็บปวดอยู่ที่บริเวณหน้าเพิงขายไก่สดริมฟุตบาทข้างถนนเพชรเกษม ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับจุดตรวจบ้านต้นไทร  โดยมีชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูเหตุการณ์ และต่อมาได้ช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลบาเจาะ

เจ้าหน้าที่ตร.ทั้งสองนายคือ  ส.ต.ท.ธีรยุทธ ยังสังข์ อายุ 30 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม.และ 11 ม.ม.เข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด บาดเจ็บสาหัส เสียเลือดมาก และทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาล และ ส.ต.ต.อัศวิน ชัยสัจ อายุ 25 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่บริเวณราวนมซ้าย 1 นัด กระสุนตัดขั้วหัวใจ และที่ศีรษะ 1นัด เสียเลือดมาก อาการสาหัส และเสียชีวิตลงขณะลำเลียงส่งโรงพยาบาลเช่นกัน ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 2 ปลอก และ 11 ม.ม.อีก 2 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย ซึ่งประจำอยู่ที่จุดตรวจบ้านต้นไทร ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับตลาดนัดดังกล่าว และก่อนเกิดเหตุได้ออกไปหาซื้อไก้สดในตลาดนัดดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้มีคนร้ายอย่างน้อย 2 คน ได้เดินปะปนอยู่กับชาวบ้านที่ออกมาหาซื้อของอยู่ในตลาดนัด และขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ยืนเลือกไก่อยู่นั้น ได้มีคนร้ายแอบเข้ามาประกบทางด้านหลังจากนั้นจึงใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม.และ 11 ม.ม.จ่อยิงใส่ คนละ 2 นัด จนล้มฟุบลงคาฟุตบาท จนชาวบ้านนับร้อยคนต่างวิ่งหนีกระสุนกันจ้าละหวั่น จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คน จึงวิ่งปะปนกับชาวบ้านแล้วพากันหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายจะใช้กำลังอย่างน้อย   6 คนคือ ชุดประกบยิง 2 คน ชุดคุ้มครองมือปืน 2 คน และชุดดูต้นทางอีก 2 คน โดยผ่านการฝึกมาแล้วอย่างดี ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานเป็นการกระทำของกลุ่มอาร์.เค.เค.ในพื้นที่ เพื่อสร้างสถานการณ์ใต้รายวัน.

 
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #50 เมื่อ: มีนาคม 25, 2007, 10:43:24 AM »


 Smiley. ขอบคุณมากครับ คุณ babor.
     บทความ ที่เกิดจากประสบการณ์ของ
     ท่านพลเอก หาญ  ลีนานนท์
     อดีตแม่ทัพภาค 4
     ให้ประโยชน์ กับผู้อ่าน อย่างมากมายนัก.

     ทั้งหมดล้วนอยู่ ในหลักการ รู้เขารู้เรา.
     ปัญหาอยู่ที่ ผู้อ่านจะเข้าใจเพียงใด ที่จะนำไปปรับใช้

     แต่ผู้ปฎิบัติภาระกิจเพื่อชาติบ้านเมืองนั้น
     การคงอยู่ของท่านจะเป็นหลักประกันความปลอดภัยแก่ประชาชน
     ผมเอาใจช่วย ทหาร ตำรวจ ในพื้นที่ และเชื่อมั่นเสมอ.
     ว่าที่สุดจะจัดการปัญหานี้ได้ครับ.  Smiley
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 25, 2007, 10:49:53 AM โดย Ro@d » บันทึกการเข้า

หยดน้ำ-รักในหลวง
ทุกวันมีความหมาย...
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 18
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 899


กัลยาณการี กัลยาณัง ปาปการี จ ปาปกัง


« ตอบ #51 เมื่อ: มีนาคม 25, 2007, 11:50:46 AM »

คอยติดตามข่าว....แต่ ผมไม่ขอออกความเห็นใดๆ เกี่ยวกับนโยบาย และวิธีการของภาครัฐ

เพียงแต่ขอเป็นส่วนหนึ่ง  ในกำลังใจให้เจ้าหน้าที่  ผู้ที่เสียสละความสุข ต้องห่างจากครอบครัวอันเป็นที่รัก

ได้ปลอดภัย  และให้เกิดความสงบร่มเย็นดังเดิม..

ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงได้โปรดคุ้มครองป้องภัย  ให้เหล่าทหารหาญของเราทุกๆนายด้วยเถิด..
บันทึกการเข้า

Arthorn Art.
เพื่อลูก และเมีย อันเป็นที่รัก
Full Member
***

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 144



« ตอบ #52 เมื่อ: มีนาคม 26, 2007, 10:44:19 AM »

"พกปืนกันคนละกระบอก ลงใต้ไปลุยล่ามัน ดีมั๊ยครับ ลางานซักอาทิตย์นึง......ขอไปด้วยคนครับแบบว่าเบื่อคำขอโทษ...........................

เห็นด้วยครับ
เอาด้วยคน

 ผมคิดว่าท่านกำลังประมาท และประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำ จริงอยู่เด็กวางเรือใบตัดต้นไม้ขวางถนนอาจจะไม่มีอะไรมากนัก

แต่กำลังที่เข้าประชิดฐานโจมตีทหารพรานที่นราธิวาส และแต่งตัวเลียนแบบ จนท. จอดรถเข้าไปยืนคุยกับตำรวจก่อนโจมตีที่สายบุรี

เมื่อปีที่แล้วนั้น ถ้าจะพูดกันแบบตรง ๆ

 " ยกเอาชาติตั้งไว้เหนือหัว " แล้วมาพูดกันแบบตรงไปตรงมา ผมว่าฝีมือและความมั่นใจสูง อย่างนี้ถึงจะถือว่าเป็นนักรบ

และผมคิดว่าทหารอาชีพก็ยอมรับเรื่องพวกนี้ นักรบย่อมเข้าใจนักรบ นักรบควรกระทำต่อนักรบด้วยกัน ทหารพรานที่รอดชีวิตเพียงคน

เดียวที่นราธิวาส พูดยอมรับว่า " คนทำมีฝีมือ " ใครจะคิดอย่างไรก็แล้วแต่ ผมรู้สึกเคารพในเกียรติทหารพรานท่านนั้นจริง ๆ

จริงแท้แน่นนอนว่าเขาจะลงมือเมื่อมีความได้เปรียบมากกว่าหลายเท่า


 ถ้าท่านไม่ใช่ จนท. แต่ยิงปืนจนช่ำชองในสนาม ไม่รู้ยุทธวิธี อย่าประมาทครับ หน่วยรบพิเศษที่ฝึกมาอย่างดีอาวุธอย่างดี

กว่าที่เราท่านมีใช้ หลายครั้งหลายครายังพลาด แล้วท่านก็ไม่คุ้นเคยพื้นที่ แต่ถ้าท่านระบายเพื่อแสดงจุดยื่นของท่าน ก็ดีครับ ท่านที่

อยู่ทางใต้ได้รับรู้ว่ามีกำลังใจของพี่น้องร่วมชาติตรงส่วนนี้อยู่


 ที่โพสท์มาอย่างนี้ อาจไม่สพอารมณ์ของหลายท่านในเวปบอร์ด ผมไม่ได้ยกย่องกองกำลังฆาตกรที่ไล่ฆ่าประชาชนไม่เลือกหน้า

ไม่ว่าผู้หญิงหรือเด็กนะครับ คิดว่าคงเข้าใจ และอยากให้อ่านในความรู้สึกเสมือนว่าเรานั่งคุยกัน......

 

บันทึกการเข้า
พจน์-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 132
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1312


« ตอบ #53 เมื่อ: มีนาคม 26, 2007, 11:54:00 AM »

เข้ามาอ่านไม่แสดงความคิดเห็นครับ  ชัดเจนครับ. Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

สวัสดีครับ,ขอบคุณครับ,ไม่เป็นไรครับ
เพนกวิน
ทำดีไม่ต้องอายใคร
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 5
ออฟไลน์

กระทู้: 245



« ตอบ #54 เมื่อ: มีนาคม 27, 2007, 11:39:14 AM »

 Angry Angryผมแช่งให้ตายไม่มีที่ฝังศพไอพวกโจรใต้ทั้งหลาย
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.103 วินาที กับ 20 คำสั่ง