เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 20, 2025, 08:31:06 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดไต๋รัฐบาลสุรยุทธ์  (อ่าน 1419 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 09:00:13 AM »

เปิดไต๋รัฐบาลสุรยุทธ์

 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 เมษายน 2550 18:22 น.

 
 
 
รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เข้ามารับหน้าที่แก้ไขปัญหาวิกฤตชาติที่หนักหน่วงที่สุดในโลกได้แค่ 5 เดือนเศษก็เสื่อมความนิยม จนผลการสำรวจความไม่ไว้วางใจพุ่งสูงถึง 88% ซึ่งสถิตินี้แม้รัฐบาลที่ประพฤติชั่วช้าเลวทรามที่สุดของโลกก็ยังมีความนิยมสูงกว่า
       
       จึงทำให้ผู้คนอึดอัดขัดใจและผิดหวังอย่างรุนแรง และกำลังเกิดกระแสขับไล่รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ อย่างกว้างขวางมากขึ้นทุกที จนมีเค้าว่าอายุขัยของรัฐบาลนี้กำลังสิ้นสุดลงแล้วในอนาคตอันไม่ไกลเท่าใดนัก
       
       ที่เป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะความจริงกับสิ่งที่ปรากฏอาจเป็นคนละเรื่องกัน ดังที่พระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้าทรงสั่งสอนตักเตือนคนไทยให้ตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ไว้เป็นนักหนาว่า “วาววาวบ่ใช่เนื้อ คำดีดอกนา” ซึ่งหมายความว่าคนบางคนที่มองภายนอกแล้วดูซื่อสัตย์สุจริตใสสะอาด แต่แท้จริงและตัวจริงของเขาอาจจะไม่ใช่เช่นนั้น
       
       มาดูกันว่าทำไมรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ จึงเสื่อมความนิยมและหมดความเชื่อถือในหมู่ประชาชนอย่างรวดเร็วและรุนแรงขนาดนี้
       
       สาเหตุแรก ก็คือการไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับภารกิจในการแก้ไขวิกฤตอันหนักหน่วงที่สุดของชาติมาจาก คมช. โดยเฉพาะภารกิจทั้งสี่ประการอันเป็นเหตุผลในการยึดอำนาจการปกครอง
       
       สาเหตุที่สอง นอกจากจะไม่ปฏิบัติภารกิจประการแรกแล้ว ยังกลับดำเนินการที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหายเท่ากับหรือมากกว่ารัฐบาลที่แล้ว คือรับเอาโครงการโคตรโกงมหาโกงทั้งหลายมาดำเนินการต่ออย่างหน้าตาเฉย บรรดาโครงการที่ชงไว้แล้วก็เอามาชงต่อ ซึ่งทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย เป็นการสืบสานอุดมการณ์โกงชาติมาจากรัฐบาลชุดก่อนอย่างแจ้งชัด ดังที่เราได้นำเสนอมาโดยลำดับแล้ว
       
       นอกจากสืบสานปณิธานโกงชาติอย่างหน้าตาเฉยแล้ว ยังได้กระทำการพิสูจน์ข้ออ้างของผู้คนในพรรคไทยรักไทยที่ว่า “ทุนนิยมที่ชั่วช้า ดีกว่าศักดินาที่ล้าหลัง” จนเห็นได้ชัด นั่นคือจะโดยจงใจหรือโดยไร้สติปัญญา หรือโดยโง่เขลาเบาปัญญาก็ไม่ทราบชัด แต่ชั่วเวลา 5 เดือนก็ได้สร้างความพินาศฉิบหายให้กับบ้านเมืองเป็นมูลค่าหลายแสนล้านบาท
       
       ไม่ว่าด้วยมาตรการเงินสำรอง 30% ด้วยมาตรการปกป้องค่าเงินบาทที่ใช้เงินของชาติไปแล้ว 1 ล้านล้านบาท จนหมดเนื้อประดาตัวแล้ว ยังตั้งท่าจะกู้เงินไปเล่นค่าเงินบาทอีก 400,000 ล้านบาท
       
       ซึ่งไม่รู้ว่าผลขาดทุนจะเป็นเงินถึงประมาณ 300,000 หรือ 400,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว เพราะยังมีการปกปิดกันจ้าละหวั่น แต่เกิดความเสียหายแท้แน่นอนโดยมิต้องสงสัยแล้ว
       
       เศรษฐกิจของชาติกำลังพังทะลายในทุกระบบ การส่งออก การท่องเที่ยว การผลิต การจ้างงาน การลงทุน และการค้ากำลังหยุดชะงัก และกำลังพังทะลายอย่างน่าอเนจอนาถ โดยที่ไม่มีใครสนใจไยดี
       
       สาเหตุที่สาม ไม่ทำหน้าที่ปกติของตน แต่ละวันเอาแต่คิดอ่านทำพิธีกรรมที่ล้าหลังและน่าขัน งานนิติบัญญัติก็ไม่ใส่ใจไยดี จน สนช. ต้องลงมติว่าจะทำกฎหมายกันเองแล้ว การบริหารงานส่วนของรัฐบาลก็ทำไปวัน ๆ โดยที่ไม่มีเรื่องราวใด ๆ ที่จะเกิดผลดีแก่ประชาชน หรือแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เผยให้เห็นถึงการไร้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างชัดเจน
       
       ด้วยเหตุสามประการนี้จึงเกิดความเดือดร้อนเสียหายทุกหย่อมหญ้า และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เสื่อมความนิยมอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนกระทั่งทำให้สถานการณ์ทุกด้าน ทุกชั้นชน ทุกวงการ กำลังพังทะลายครืนลงมาอย่างชัดเจนแล้ว
       
       นอกจากเหตุสามประการนี้แล้ว รัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ยังมีวาระซ่อนเร้นที่น่าพิศวงจนแทบไม่น่าเชื่อ แต่ในที่สุดความจริงก็เผยออกมาเป็นขั้นเป็นตอน จนล่าสุดคำแถลงของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2550 ก็ได้แบไต๋ของรัฐบาลออกมาอย่างล่อนจ้อน
       
       เป็นการแบไต๋ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้คือร่างทรงของรัฐบาลทักษิณ และแบไต๋ให้เห็นว่าที่ทำอะไรในแต่ละครั้งแต่ละวันนั้นก็เพื่อเตรียมการคืนอำนาจให้กับพรรคไทยรักไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาบริหารบ้านเมืองในต้นปี 2551 เท่านั้น
       
       การเผยไต๋สำคัญ ๆ ที่ทำให้ได้ข้อสรุปเช่นนี้คือ
       
       การเผยไต๋เรื่องที่หนึ่ง คือการไม่ดำเนินการตามภารกิจสี่ประการที่ คมช. อย่างเป็นเหตุในการยึดอำนาจ รวมถึงการไม่ยึดอายัดทรัพย์สินใด ๆ แล้วเป็นต้นแบบของการเข้าเกียร์ว่างแห่งชาติ เพื่อไม่ให้ คตส. ปฏิบัติหน้าที่ได้โดยสะดวกและเป็นผล จนกระทั่งเกิดการกระทบกระทั่งกันหลายครั้งหลายหน แต่ก็ยังเพิกเฉยเข้าเกียร์ว่างอยู่เหมือนเดิม
       
       การเผยไต๋เรื่องที่สอง คือการเปิดเผยข้อตกลงหลายประการออกมาเป็นบางส่วน เช่นการพูดว่าจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทยหลังการเลือกตั้งบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีสิทธิ์เดินทางกลับเข้าประเทศไทยบ้าง และล่าสุดคือการพูดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ควรเดินทางกลับประเทศไทยในตอนปลายปี
       
       การเผยไต๋เรื่องที่สาม คือการอุ้มพนักงานของไอทีวีโดยผิดกฎหมายอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งขณะนี้ก็มีการปล่อยให้ผู้คนเหล่านี้เอาทรัพย์สมบัติของชาติมูลค่านับหมื่นล้านไปทำมาหากินหาผลประโยชน์ส่วนตัวร่วมเดือนมาแล้ว
       
       ทั้ง ๆ ที่เห็นกันชัด ๆ ว่ายังคงเป็นปากเป็นเสียงให้กับระบอบทักษิณ เช่นล่าสุดคือการใช้รถถ่ายทอดสดนำการเคลื่อนขบวนและดำเนินการถ่ายทอดการชุมนุมของพวกพีทีวีซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทั้งวันทั้งคืน และในวันหนึ่งก็คงจะได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการระดมประชาชนมาโค่นล้ม คมช. อย่างชัดแจ้ง
       
       การเผยไต๋เรื่องที่สี่ คือการประกาศแนวคิดเรื่องรัฐธรรมนูญสี่ประการ โดยเฉพาะคือการชี้นำให้จำกัดวงที่มาของนายกรัฐมนตรีว่าต้องมาจาก ส.ส. เท่านั้นเป็นต้น ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลที่จะชี้นำต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
       
       การเผยไต๋เรื่องที่ห้า คือการดำเนินกลยุทธ์ให้ คมช. เป็นผู้ร้ายในการเตรียมการประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งมีการดำเนินกระบวนการฉีกหน้าอย่างเลือดเย็น และป้ายสีให้เป็นเผด็จการที่ชั่วร้ายอย่างเลือดเย็น แม้กระทั่งการปล่อยปละละเลยให้มีการล่วงเกินพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ โดยที่ไม่แสดงท่าทีรับผิดชอบใด ๆ ในกรณีการบีบคั้นพระมหากษัตริย์ด้วยการจะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาให้ปลดป๋าเปรม
       
       การเผยไต๋เรื่องที่หก คือการแถลงว่าจะยกเลิกประกาศ คมช. ฉบับที่ 15 และฉบับที่ 27 ในเดือนกันยายน 2550 ซึ่งมีหัวใจอยู่ที่การยกเลิกคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้ง และการดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าผู้บริหารพรรคการเมืองที่ถูกยุบก็สามารถฟื้นคืนฐานะลงเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้
       
       แปลความชัดๆ ก็คือจะให้กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย รวมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาลงรับสมัครเลือกตั้ง และเป็นนายกรัฐมนตรีและตลอดจนรัฐมนตรีได้
       
       ทั้งหกประการนี้คือการเปิดเผยไต๋อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ที่ถ้าหากมองแต่ละก้าว สังเกตแต่ละจุดแล้วก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่กำลังทำอยู่ทั้งกระบวน แต่ถ้าเมื่อมารวมพิจารณากันเข้าแล้วก็จะเห็นอย่างชัดเจนว่านี่คือกระบวนการคือำนาจให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้กลับมาปกครองบ้านเมืองนั่นเอง
       
       ไม่คำนึงถึงความเสี่ยงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่คำนึงถึงชะตาชีวิตของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ตลอดจนบรรดาน้อง ๆ ในกองทัพทั้งหมด รวมทั้งชีวิตของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและผู้รักชาติทั่วประเทศ
       
       แต่เมื่อใคร่ครวญให้ลึกซึ้งแล้วก็จะเห็นได้ว่าอาจเป็นบุญของประเทศไทยและคนไทยที่ไต๋ดังกล่าวได้เปิดเผยออกมาก่อนที่การคืนอำนาจให้กับระบอบทักษิณจะบรรลุผล
       
       เราจึงขอนำเสนอต่อคณะนายทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย และพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศให้ได้คิดพิจารณากันครั้งใหญ่เพื่อตกลงใจร่วมกันว่าจะป้องกันและพิทักษ์รักษาสถาบันสำคัญของชาติและบ้านเมืองไว้อย่างไร
       
       ร่วมกันคิด ร่วมกันพิจารณา ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนให้พ้นจากเงื้อมมือของเผด็จการทรราช แล้วกำหนดมาตรการร่วมกันโดยเร็วที่สุด.
       
 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
yotinpen
Sr. Member
****

คะแนน 17
ออฟไลน์

กระทู้: 888


« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 09:03:45 AM »

เรื่องการเมืองมองได้หลายมุมมองครับ
บันทึกการเข้า
seiya-รักในหลวง
"ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 206
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1134


to make a friend, be a friend...


« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 09:39:48 AM »

อย่าไปเชื่อสื่อมากเลยครับ เขาจะเขียนให้สร้างสรรค์ก็ได้ ทำลายก็ได้ บางครั้งคนเขียนยังรู้น้อยกว่าคนอ่านเลยครับ
บันทึกการเข้า

"Protection" is much better than "Correction".
กรุณารักษา"สิทธิ" ในการปกป้องตนเองและคนที่เรารัก
http://youtu.be/KYGScnPo8HQ
ตูมตาม - รักในหลวง -
Hero Member
*****

คะแนน 100
ออฟไลน์

กระทู้: 2023


« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 10:40:06 AM »

เครื่องยนต์จะพังมิพังแหล่ ตกใจ....เข้าเกียร์ไหนมันจะวิ่งได้เหมือนเดิมไหมหนอ....จะเข้าเกียร์ 5 ถ้าไม่ออกตัวเกียร์ 1. 2.  มันก็คงออกลำบาก...สงสารรถ...จังเลย... หัวเราะร่าน้ำตาริน






บันทึกการเข้า

ใดๆในโลก  ล้วนมีข้อยกเว้น
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 10:57:34 AM »

 Huhอ่านแล้ว อยากให้คนเขียนบทความดูละครเรื่อง "ตากสินมหาราช"

 Sad รัฐบาลชุดนี้อาจไม่ใช่รัฐบาลที่ดีที่สุด แต่อาจจะดีกว่ารัฐบาลเลือกตั้งที่ผ่านมาหลายรัฐบาล
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
visa
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 11:21:29 AM »

ขอแสดงความคิดเห็นเป็นการส่วนตัวครับ Cheesy Cheesy

อ่านเอาสนุกครับ.... คนเขียนคิดได้เป็นขั้นเป็นตอนมากๆจิตนาการได้สุดยอมอีกทั้งมีการโน้มนาวเชิงการเมือง ตอนนี้ผมงงไปหมดว่าใครเป็นใคร แต่รัฐบาลพี่สุรยุทธ์มาแปบเดียวเดี๋ยวก็ไปรวมทั้งข้าราชการต่างๆที่ต้องอยู่อีกนานเลยไม่รู้จะทำอย่างไรว่าต่อไปใครจะมามีอำนาจ Huh ส่วนพี่คตส.  ก็รู้ๆว่าเป็นคนเกลียดพี่ทักษิณ  Angryส่วนพี่ทักษิณอยู่เมืองนอกก็โน้มน้าวให้คนทั้งโลกว่าเมืองไทยเดี๋ยวนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยเป็นการปฎิวัตรของทหารซึ่งมีเพียง 4 ประเทศในโลกรู้สึกจะมี พม่า ฟิจิ และอะไรอีกประเทศนี่ละครับรวมประเทศไทยเราด้วย  ตกใจ ซึ่งฟังๆข่าวสารมากๆก็ปวดหัว*รอลุ้นบอลคืนนี้ดีกว่า* Grin Grinทั้งหมดทั้งปวงต้องว่าตามหลักฐานแล้วให้พี่ศาลเป็นคนตัดสิน   ทุกวันนี้น้องวีซ่ารอเริ่มนับ 1 ใหม่กับระบบประชาธิปไตยครับ อยากเลือกตั้งไวๆแต่ไม่รู้จะมีพรรคเดิมให้เลือกหรือเปล่าไม่รู้ ...อ่านความคิดเห็นของผมแล้วก็เอาเก็บไว้ขำๆนะครับอย่าจริงจังครับ หลงรัก หลงรัก

ด้วยควมเคารพ จากน้องวีซ่า
บันทึกการเข้า
N1
Full Member
***

คะแนน 9
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 482

เริ่มจาก 0 เพิ่มพูนทีละ 2


« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 01:49:35 PM »

 Grin เฮ้อ...สื่อหัวนี้...ผมไม่เชื่อแล้วครับ
บันทึกการเข้า
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 03:10:03 PM »

ความเชื่อถือ  ความไว้เนื้อเชื่อใจ  เป็นสิ่งอันตรายถ้าใช้ไม่เป็น  หรือเอาความคาดหวังสูงไปผูกติดอยู่ด้วย
ความผิดหวัง  เกิดขึ้นได้กับทุกท่าน  แต่อย่าให้ถึงขั้นมาปิดหู ปิดตา ปิดใจตัวเอง
เรามีความคิดนี่ครับ  เอาข้อมูลมา  กลั่นกรองแยกแยะ  อันไหนจริง  ไหนเท็จ เป็นประโยชน์กับตัวเอง 


บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 03:13:55 PM »

ไม่ว่าด้วยมาตรการเงินสำรอง 30% ด้วยมาตรการปกป้องค่าเงินบาทที่ใช้เงินของชาติไปแล้ว 1 ล้านล้านบาท จนหมดเนื้อประดาตัวแล้ว ยังตั้งท่าจะกู้เงินไปเล่นค่าเงินบาทอีก 400,000 ล้านบาท
       
       ซึ่งไม่รู้ว่าผลขาดทุนจะเป็นเงินถึงประมาณ 300,000 หรือ 400,000 ล้านบาทเข้าไปแล้ว เพราะยังมีการปกปิดกันจ้าละหวั่น แต่เกิดความเสียหายแท้แน่นอนโดยมิต้องสงสัยแล้ว

****

เรื่องนี้ไม่ได้ใช้ "เงินบาท" แบบสูญเปล่าไปครับ เขาเอาไปซื้อเงิน "สกุลอื่น" ซึ่งอาจขาดทุนหรือได้กำไรก็ได้ตามการเปลี่ยนแปลงต่อไปของเงินสกุลนั้น
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Chayanin-We love the king
ฟ้าสว่างสดใสไร้มลทิน เพียงเมฆินบังเบียดเสนียดฟ้า แกว่งยางยูงปัดป้องท้องนภา ผู้แก่กล้าโปรดอย่าว่าตัวข้าเลย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2610



« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 03, 2007, 03:55:29 PM »

ถ้ากำหนดวัตถุประสงค์ได้ว่า  เราไม่ต้องการเงินแบบไหนเข้ามา   ก็ไปป้องกันตรงนั้นดีกว่า
มาตรการ  30%  ผมว่าดีเอาแบบไม่เหวี่ยงแห นะครับ
ดอกเบี้ย จะลดลง  ผมก็เห็นด้วย
แต่ถ้าจะไปแลกหมัดกับฝรั่งโดยการสู้ค่าเงิน  ผมชักกลัว   โดยเฉพาะ เงินสกุล ดอลล่าร์ยิ่งแล้วใหญ่  เพราะผมไม่ศรัทธาใพระเจ้าเท่าไหร่

ส่วนเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ก็ใช่ที่มันเป็นเรื่องของราคาอุปสงค์อุปทาน   แต่เงินบาทเป็นเช่นนั้นหรือไม่  เป็นไปตามกลไกตลาดหรือไม่
ตลาดออฟชอร์ตอนนี้ อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32.55 บ./1 เหรียญ   ส่วนอัตราทางการ
34.77-35.12  ส่วนต่าง 2.5 บาทนี้แบงค์พาณิชคงยิ้มพุงกาง เอา 32.5 ไปแลก 1เหรียญ  แล้วแลกกลับมาเป็น 35 บาทกำไร 2.5 บาท  แบงค์ชาติก็ตั้งโต๊ะซื้อไป  ตกลงใครได้ใครเสีย...


สภาพสะบักสะบอมอย่างบ้านเรา  ค่าเงินบาทมันจะแพงหรูได้สักเท่าไหร่เชียว   ตอนนี้ก็มีคนส่งออกโวยวาย และ ตาย  ถามคนรู้จักที่ทำสิ่งทอ  ว่า 30บาท/us ไหวมั๊ย  เขาบอกว่าสบาย  ถ้าไม่มี จีน กับเวียดนาม

ธุรกิจส่งออกในช่วงค่าเงินแข็งมากๆ  คงคล้ายๆ กับคนที่เล่นหุ้นบัญชีมาร์จิ้น แล้วโดนเจ้ามือทุบจนถึงระดับ เรียกหลักประกันเพิ่ม  เอาเงินมาใส่ก็แล้ว หุ้นยังลงอีก แล้วโดนฟอร์ซเซล  ในที่สุด
ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2007, 03:59:52 PM โดย Chayanin » บันทึกการเข้า

ไม่อยากเป็นมะเร็ง   ก็ใช่ว่าต้องเป็นโรคหัวใจ
สุขภาพดีเป็นเรื่องไม่ยาก
สุขภาพที่ดีของประเทศไทย   อยู่ที่สภาวะปราศจากโรคร้าย
ไม่ใช่อยู่ที่ต้องเลือกระหว่าง  มะเร็ง  กับ โรคหัวใจ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.054 วินาที กับ 20 คำสั่ง