เรื่องที่ดิน เป็นเรื่องพิพาทที่สุดฮอตฮิต เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องดูข้อเท็จจริง แต่ละกรณีไปครับ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
1.รวมตัวกันทุกหลังคาเรือนที่เดือดร้อนและที่อาจจะเดือดร้อน หรืออาจได้รับผลกระทบจากโครงการ ทำหนังสือ ลงลายมือชื่อ ทุกคนที่ได้รับผลกระทบ(ที่มีสิทธิเลือกตั้ง) ร้องเรียนถึงนายกเทศมนตรี นายอำเภอท้องที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้พิจารณายุติการดำเนินโครงการก่อน เพื่อพิสูจน์สิทธิ กันให้เป็นที่ยุติก่อน ต่างคนต่างอ้างสิทธิในที่ดินผืนเดียวกัน ของหลวงกับของราษฎร์
2.ถ้าทำตามข้อ 1.แล้ว ภายใน 15 วัน ยังไม่ยอมหยุดอีก ก็รวมตัวกันเข้าชื่อทำหนังสือร้องเรียน(ฟ้อง) ศาลปกครอง ให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครอง(สั่งทำถนน ซึ่งอ้างว่าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของตำบล) ของเทศบาล และขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งของเทศบาลที่สั่งตัดถนน (คล้ายๆ กับการคุ้มครองชั่วคราว) เพื่อให้เทศบาลหยุดการดำเนินโครงการ จนกว่าศาลจะคำสั่งกรือคำพิพากษา เป็นอย่างอื่น
3.ขอเรียนตามประสบการณ์การทำงานที่มีโอกาส ไปเกี่ยวข้อง หลายๆกรณี หน่วยงานรัฐทำงานโดยพละการ ไม่ระมัดระวัง รอบคอบ , เอกชนได้เอกสารสิทธิมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ ถ้าที่ดินผืนนั้น เป็นของหลวง ไม่ว่าชั้นหรือประเภทใด ราษฎรจะอ้างระยะเวลาการครอบครอง ที่เรียกว่าการครอบครองปรปักษ์ มาต่อสู้ไม่ได้ สภาพภูมิศาสตร์ หรือลักษณะของที่ดินบางประเภท บางลักษณะ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ มันเป็นรายละเอียดในประมวลกฎหมายที่ดิน ประมวลกฎหมายแพ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับที่หลวง อาทิ ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ฯลฯ มันมีหลายแบบ ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ พิจารณา หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับที่ดินผืนนั้น
4.ผมมีข้อสงสัยว่า จขกท. ไม่กล่าวถึง ประเด็นการใช้บริการร้องเรียนกรณีนี้กับนายทะเบียนอาวุธปืนประจำท้องที่(นายอำเภอ นั่นเอง) ท่านอย่าลืมนะว่า นายอำเภอไม่ได้มีหน้าที่พิจารณาอนุญาตออกแต่ใบ ป.3 , ป.4 แต่ท่านมีหน้าที่หลักที่สำคัญ ทั้งต่อตำแหน่ง และหน่วยงาน ก็คือ การบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน ครับ ใครกินไม่ได้ ถ่ายไม่ออก ท่านช่วยได้ครับ แต่ถ้าได้ร้องเรียนท่านแล้วท่านไม่ช่วย ขออนุญาตเสนอ ร้องเรียนท่านอีกคนนึงด้วยเลย ฐานไม่บริการประชาชน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
5.ถ้าเรื่องคืบหน้าอย่างไร กรุณาโพสแจ้งด้วยนะครับ เพื่อประโยชน์ในเชิงกรณีศึกษาตัวอย่าง มันต้องมีอะไร ไม่ชอบมาพากลแน่ เพียงแต่ไม่รู้ฝ่ายใดเป็นก่อ ไม่ จนท.รัฐ ก็ชาวบ้านนี่แหละ สำมคัญไม่น้อย
ขอบคุณครับพี่แต่เรื่องนี้ผู้ว่าจังหวัดกาฬสินเคยให้รองผู้ว่าเรียก2ฝ่ายเข้าประชุมนะครับ
ในทำนองว่าเทศบาลอยากได้โรงพยาบาลเลยอยากได้ที่ผืนนี้ให้ส่งตัวแทนฝ่ายละ3คนเข้าห้องประชุม
และรองผู้ว่าท่านก็บอกให้ยอมๆกันนะครับเหมือนกับว่าท่านจะไม่อยากให้เวนคืนนั้นละครับ
แล้วทีนี้ฝ่ายตัวแทนของเทศบาล3คนลุกเดินออกจากห้องเลยครับ

แล้วยังมีข้อสังเกตุอีกอย่าง1นะครับ เดียวผมจะเอาแผนที่มาลงให้ดู
บ้านของกำนันอยู่ตรงกลางของโคกป่าเป้าเลยครับแต่แกบอกของแกไม่ใช่โคกป่าเป้า
แล้วแกยังไปเป็นคนไปคุมคนทำถนนเองด้วยครับ

ปล.แล้วที่เขาอยากได้ที่ทำโรงบาลก็มีคนจะยกที่เขาให้นะครับแล้วพวกคนที่อยู่ในโคกป่าเป้าก็จะเรี่ยไรเงินให้เจ้าของที่ที่ยกให้เทศบาล
แต่เทศบาลไม่ยอมครับจะเอาหมด
