
...สวัสดีวันปีใหม่ไทยครับพี่น้องชาว อวป. ...เห็นใครหลาย ๆ คนเอาเรื่องเล่าต่าง ๆ นานา มาคลายเครียดกัน...ก็เลยเอามาบ้าง...แต่จำมานะครับ...แต่งเติมดัดแปลงข้อความเอง...แต่เค้าโครงเรื่อง...ผมเอามาจากที่เคยอ่านในนิตยสารเล่มหนึ่ง(จำไม่ได้ครับ...พอดีแวะพักรถ...กินกาแฟ...เลยหยิบมาอ่าน...ชอบครับ)...เริ่มเลยดีกว่า....แอ่น...แอ๊น...แอ้น..
ผมขอให้ชื่อเรื่องว่า
ทัพพีที่หายไป...ผู้เป็นแม่ได้เดินทางจากต่างจังหวัด..เพื่อไปเยี่ยมลูกชายที่ศึกษาต่อระดับมหาลัยในเมืองหลวง
....โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า
...เธอพบว่าลูกชายได้พักอาศัยอยู่กับหญิงสาวนางหนึ่งในบ้านเช่า
...ผู้เป็นลูกชายจึงได้เอ่ยปากกับผู้เป็นแม่ว่า...
" ...มันไม่ใช่อย่างที่แม่คิด...เธอเป็นแค่เพื่อนที่มาแชร์ค่าเช่าบ้าน...เราอยู่คนละห้อง...อย่าได้มีอคติกับเธอหรือลูกชายเลย..."
...ผู้เป็นแม่ไม่ได้เอ่ยปากว่ากระไร...และได้อยู่ดูแลลูกชายและเพื่อนสาวต่ออีก 1 สัปดาห์...จึงกลับ ตจว. ...
...หลังจากผู้เป็นแม่กลับ ตจว. ไปแล้ว... 3-4 วันให้หลัง...หญิงสาวจึงได้เอ่ยกับเพื่อนชายด้วยความอึดอัดว่า...
"...อันที่จริงฉันก็ไม่มีอคติอะไรกับแม่เธอหรอกนะ...ฉันคิดอยู่ตั้งนานกว่าจะกล้าเอ่ยกับเธอ...
...เธอรู้ไหมว่าทัพพีตักข้าวอันสวยของเราหายไป...จะคิดอันใดอื่นไกลก็ไม่ได้...เพราะว่าช่วงนั้น...แม่ของเธอเป็นคนหุงหาทำอาหารให้เรากินทุกวัน..."
...ผู้เป็นลูกชายครุ่นคิดอยู่หลายวัน...สุดท้ายจึงได้เขียนจดหมายถึงแม่เพื่อสอบถามถึงทัพพีด้ามนั้น...
...ผู้เป็นแม่จึงได้เขียนจดหมายตอบกลับมาหาลูกชาย...ในจดหมายมีใจความว่า...
"...ลูกรัก...นับตั้งแต่ที่แม่กลับบ้านมา...ก็ 1 เดือนแล้ว...หากแม้นเพียงแต่เพื่อนสาวของลูก...ได้กลับไปนอนที่เตียงของตัวเองสักครั้ง...เธอก็จะพบเห็นทัพพีด้ามนั้นเอง...รักและเชื่อมั่นในตัวลูกเสมอ..."
ปล. ...ถ้าหากเคยมีใครเอาเรื่องประมาณนี้มาเล่าแล้ว...ต้องขออภัย...กรุณาแจ้งด้วยนะครับ...จะได้ลบ...
