..ลุงปู.ยังมาซ้ำเติมอีก.....
เค้าป่าวนะ
" เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า พิสูจน์ความเป็นทีมหมายเลขหนึ่งของโลกในเวลานี้ ด้วยการสยบทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงได้อย่างราบคาบด้วยสกอร์ 2-0 จากประตูของ ซามูแอล เอโต้ และลิโอเนล เมสซี่
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ (27 พ.ค.52)
บาร์เซโลน่า 2-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก
ประตู : 1-0 ซามูแอล เอโต้ น.10, 2-0 ลิโอเนล เมสซี่ น.70
สุดยอดเกมแห่งปีปิดฉากฤดูกาลนี้กันด้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ป้องกันแชมป์กับ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ผู้ท้าชิง
เกมนี้ทาง ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีโอกาสจะเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถป้องกันแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ ลงสนามในสภาพสมบูรณ์ โดยได้ริโอ เฟอร์ดินานด์ ฟิตลงสนามได้ ขาดแค่ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ที่ต้องโทษแบนเท่านั้น ซึ่งเป็น พาร์ค ชี ซอง ได้ลงสนามมาแทน ขณะที่แนวรุก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า และโยกเอา เวย์น รูนี่ย์ อยู่ทางปีกซ้าย
ขณะที่ทางด้านบาร์ซ่า มีปัญหาในแนวรับอย่างมากขาดทั้ง ดาเนี่ยล อัลเวส, เอริค อบิดัล ที่ติดโทษแบนและราฟาเอล มาร์เกวซ ที่เจ็บยาว ทำให้มีการโยกเอายายา ตูเร่ ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่แบ็กซ้ายเป็นทางด้านซิลวินโญ่ แบ็กวัย 35 ปีลงสนามแทน แต่ก็ได้ อันเดรียส อิเนียสต้า ฮีโร่ในรอบรองชนะเลิศ และเธียร์รี่ อองรี ฟิตลงประสานงานร่วมกับ ลิโอเนล เมสซี่ และซามูแอล เอโต้
เริ่ม เกมมาแค่นาทีเศษ แมนฯ ยูไนเต็ด ขอทักทายก่อนทันที เมื่อได้ฟรีคิกระยะ 30 หลา ซึ่งเป็นระยะทำการของโรนัลโด้ และสามารถซัดได้ดีตามมาตรฐาน บอลตกกระดอนพื้นทำให้ บิคตอร์ บัลเดส รับไม่อยู่มือ แต่ ปิเก้ ยังตามมาช่วยสกัดได้ก่อนที่ พาร์ค ชี ซอง จะได้เข้าซ้ำ
จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามช่วงชิงจังหวะเกมก่อนทันที โดยใช้การเพรสซิ่งสูงบี้จนบาร์ซ่า ตั้งตัวไมติด และยังมาได้เสียวอีกทีจากจังหวะที่ โรนัลโด้ พลิกบอลได้สวยที่ระยะ 35 หลา ก่อนจะลากมาแล้วซัดไกลทันที ลูกพุ่งน่ากลัวแต่ก็หลุดกรอบออกไป
โร นัลโด้ น่ากลัวจริงๆเกมนี้ได้จังหวะเกี่ยวบอลในเขตโทษก่อนที่จะตวัดยิงด้วยซ้ายลูก พุ่งเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว แต่หลังจากนั้น บาร์ซ่า ที่ยังโงหัวไม่ขึ้นเลยก็กลับมาได้ประตูขึ้นนำจากการบุกครั้งแรกในนาทีที่ 10
โดยเป็นจังหวะที่ เมสซี่ ทำชิ่งกับอิเนียสต้า ที่กลางสนามก่อนฮีโร่จากรอบตัดเชือกจะลากตะลุยเข้าไปในแดนแมนฯ ยูไนเต็ด และจแทงต่อให้ เอโต้ ฉีกเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะล็อกหลบวิดิช และยิงยัดเข้าไป ฟาน เดอร์ ซาร์ รับไม่อยู่ บอลปลิ้นเข้าประตูไป บาร์ซ่า นำ 1-0
โดนเม็ดนี้แชมป์เก่ามีอาการป่วนทันทีเตะผิดเตะพลาดอยู่พัก ใหญ่ ขณะที่บาร์ซ่า เล่นได้อย่างมั่นใจทันที แต่โรนัลโด้ สามารถเรียกจังหวะกลับมาให้ทีมได้ เมื่อได้บอลวางยาวมาก่อนจะเลื้อยหนีปิเก้ จนต้องโดนดักทำฟาวล์หน้าเขตโทษ แต่จังหวะนี้ กิ๊กส์ ก็ยิงข้ามคานออกไป
จากนั้นก็เป็นการดวลกันของ สองสุดยอดนักเตะของโลก โดยเริ่มจากเมสซี่ ที่ยังไม่เด่นเท่าโรนัลโด้ แต่ก็เรียกเสียงฮือฮาได้จากจังหวะพลิกบอลก่อนยิงไกลจากระยะ 25 หลาเแยวคานออกไป ก่อนที่ โรนัลโด้ จะลองหาจังหวะยิงเองด้วยซ้ายลูกพุ่งเรียดเฉี่ยวเสาออกไป
ช่วงนี้ ปีศาจแดงเริ่มกลับมาทำเกมได้ตามถนัดอีกครั้ง โดยอาศัยการวางบอลยาวไปที่หลังพื้นที่แนวรับของบาร์ซ่า ซึ่งได้ผลเกือบทุกครั้ง แต่พอบอลมาเข้าจังหวะบาร์ซ่าบ้าง แชมป์สเปน ก็ต่อบอลกันจนแมนฯ ยูไนเต็ด หาบอลแทบไม่เจอเหมือนกัน และสามารถคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้จนหมดครึ่งแรก รักษาสกอร์นำ 1-0 ได้
ครึ่ง หลัง เฟอร์กี้ แก้เกมส่ง เตเวซ ลงมาเป็นตัวโจ๊กเกอร์ตามสูตรโดยลงมาแทนที่ อันแดร์สัน และมีการปรับตำแหน่งในแนวรุกกัน แต่กลับเกือบโดนทีเด็ดเกมสวนกลับของ บาร์ซ่า เมื่อ ชาบี้ แทงต่อให้ อองรี หลุดไปทางซ้าย ก่อนจะลากเข้าเขตโทษหลอก เฟอร์ดินานด์ จนเสียหลักล้มก่อนจะแปเน้นๆแต่ว่า ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยชีวิต ปีศาจแดงได้
บาร์ ซ่า ดูเล่นมั่นใจจริงๆตอนนี้เริ่มมีงัดลีลามาเล่นงานจนแมนฯ ยูไนเต็ด ป่วนไปหมด และอิเนียสต้า มาเรียกฟรีคิกให้ทีมหน้าเขตโทษเป๊ะ ชาบี้ อาสาปั่นเน้นๆแต่บอลไปชนเสาเข้าอย่างจัง
แต่หลังจากจังหวะนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสบุกกดดันบ้าง และทำได้ดีทีเดียวจนใกล้เคียงไม่น้อยในจังหวะที่ เตเวซ เปิดเข้ามากลางประตู ตูเร่ เตะวืดแล้ว แต่พาร์ค เข้าไม่ถึงบอล ซึ่งหลังจากนั้นก็เป็นเกมของทางแชมป์เก่าที่เริ่มจะหาช่องได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
จาก นั้น เฟอร์กี้ ส่ง เบอร์บาตอฟ ลงมาแทนพาร์ค อีกคนกะว่าจะบุกแลกเอาคืนให้ได้ แต่ว่า บาร์ซ่า ที่ลงไปปักหลักรับอยู่ตั้งนานกลับมาบุกเซ็ตเดียวได้ประตูอีกครั้งในนาทีที่ 70 เมื่อชาบี้ เก็บบอลจังหวะสองได้ก่อนจะเห็นเมสซี่ เรียกบอลในเขตโทษจึงเปิดบอลโค้งเข้าไปที่เสาไกลที่จุดนัดพบ เมสซี่ เทคตัวขึ้นโขกเข้าไปแบบไม่มีใครอยากเชื่อเพราะเป็นคนที่ตัวเล็กที่สุดในสนาม สกอร์ขยับเป็น 2-0 แล้ว
แต่แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เกือบตีคืนได้ทันทีเหมือนกัน เมื่อเบอร์บาตอฟ ได้บอลในเขตโทษก่อนจะตบกลับเข้ามาให้ กิ๊กส์ ยิงพลาดไปนิดเดียว ก่อนที่ บาร์ซ่า จะโต้กลับมาในจังหวะลูกฟรีคิก และเป็นชาบี้ อีกแล้วที่เปิดได้แม่นยำถึงหัวของปูโยล แต่โขกไปเข้าซองฟาน เดอร์ ซาร์
ถึง ตรงนี้แชมป์เก่าชักเดือดเก็บอารมณ์ไม่อยู่ โรนัลโด้ ไปใส่นอกเกมปูโยล จนโดนเหลือง ก่อนที่ สโคลส์ ที่เพิ่งจะลงมาได้ไม่นานก็ไปเสียบสองขาใส่บุสเกตส์ แบบน่าเกลียดจนโดนใบเหลืองไปอีกคน
ตรงข้ามกับบาร์ซ่า ที่ดูจะเล่นกันได้อย่างมั่นใจมีจังหวะต่อบอลสวยๆกันตลอด และน่าจะได้ประตูฝังจากจังหวะที่ชาบี้ ทำชิ่งเร็วต่อให้ปูโยล สอดขึ้นมาได้สวยในเขตโทษและได้ดวลเดี่ยวกับ ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ชิพบอลไม่ผ่าน
ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม บาร์ซ่า ปิดเกมใส่ประตูลงกลอนแน่นหนาจนแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ สุดท้ายก็รักษาสกอร์ 2-0 คว้าชัยชนะไปในเกมนี้ ได้แชมป์ถ้วยใบที่ 3 ของฤดูกาลไปครองอย่างสุดยิ่งใหญ่ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการฟุตบอลสเปน
รายชื่อผู้เล่น
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส, การ์เลส ปูโยล, ยายา ตูเร่, เกราร์ด ปิเก้, ซิลวินโญ่, เซร์คิโอ บุสเกตส์, ชาบี้ เอร์นานเดซ, อันเดรียส อิเนียสต้า, ลิโอเนล เมสซี่, ซามูแอล เอโต้, เธียร์รี่ อองรี
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, พาร์ค ชี ซอง, ไมเคิล คาร์ริค, อันแดร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนีย์
ผุ้ตัดสิน : มัสซิโม บูซัคก้า (สวิตเซอร์แลนด์)
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 5/28/2009 3:47:53 AM
