เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 21, 2025, 12:25:05 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาช่วยกันกิน ผลไม้ดีๆ...มังคุด "ราชินีของผลไม้"  (อ่าน 6147 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 10:43:55 AM »

     ในบรรดาผลไม้ทั้งมวลผลไม้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชินีของผลไม้" ก็คือ "มังคุด" ด้วยลักษณะภายนอกของผลที่มีกลีบเลี้ยงติด อยู่ที่หัวขั้วของผลคล้ายมงกุฎของพระราชินีส่วนเนื้อในก็มีสีขาวสะอาด มีรสชาติที่แสนหวาน อร่อยอย่างยากที่จะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้เช่นเดียวกัน

      คนไทยเราจึงโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่เมื่อย่างเข้าฤดูฝนก็จะมีทั้งราชาและราชินีของผลไม้ออกมาให้ได้รับประทานกันอย่างเต็มอิ่ม แถมยังมีราคาถูกอย่างไม่น่าเชื่อ จนเป็นที่อิจฉาของชาวต่างประเทศในหลายประเทศ ถึงขนาดที่พวกเขายอมลงทุนขึ้นเครื่องบินมากินทุเรียนและมังคุดในเมืองไทยกันปีละครั้งกันเลยทีเดียว เพราะมีไม่กี่ประเทศในโลกที่ปลูกทุเรียนและมังคุดได้ และทุเรียนและมังคุดของไทยก็จัดว่าอร่อยที่สุด

                       

      มังคุดเป็นไม้ผลเมืองร้อน แต่ชอบฝนชุ่มฉ่ำ จึงปลูกมากทางภาคใต้ของประเทศไทย เป็นไม้ยืนต้น ต้นตั้งตรงสูง 10 - 12 เมตร ทุกส่วนจะมียางสีเหลืองมีใบเดี่ยวรูปไข่เนื้อใบหนา ค่อนข้างเหนียวคล้ายหนัง สีเขียวเข้มเป็นมัน ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวหรือดอกคู่ที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลือง กลีบดอกสีแดงฉ่ำน้ำ เนื้อในของผลมังคุดสีขาวห่อหุ้มด้วยเปลือกหนาสีม่วงอมแดง หรือม่วงอมน้ำตาลอันมีกระจุกของกลีบเลี้ยงของดอกติดอยู่ที่ขั้วของผลอันเป็นเอกลักษณ์ของมังคุด

       มังคุดเป็นผลไม้ยอดนิยมที่สุดชนิดหนึ่งของคนไทย จะมีออกมาให้เราบริโภคเพียงปีละครั้ง คือช่วงย่างเข้าฤดูฝนด้วยเอกลักษณ์ของผลกลมขนาดไม่ใหญ่ไปกว่ากำมือมีกลีบเลี้ยงของดอกสีเขียวเป็นกระจุกด้านบน และกลีบดอกสีแดงแข็งเหลือติดอยู่ด้านล่างของผล สีของเปลือกสีม่วงอมแดงหรือม่วงอมน้ำตาลอันเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่ง หากเสื้อผ้าหรือสิ่งของมีสีม่วงแดงหรือน้ำตาลก็จะเรียกว่าสีเปลือกมังคุด เมื่อบิเปลือกของผลมังคุดออกสองซีก และพบเมล็ด 6 - 8 เมล็ดที่มีเนื้อนุ่มฉ่ำน้ำสีขาวสะอาดเบียดกันอยู่ภายในวงล้อมของเปลือกหนาสีม่วงเมล็ดที่มีเนื้อนุ่มสีขาวนี้แหละที่มีรสอร่อยหวานอมเปรี้ยว ได้กินแล้วก็แสนจะชื่นใจ

     หากเป็นคนสังเกตสักหน่อยก็จะพบว่า จำนวนของเนื้อสีขาวภายในผลมังคุดนี้จะมีจำนวนเทากับกลีบ ดอกสีแดงที่เหลือติดอยู่ด้านล่างภายนอกของผล ผู้ใหญ่ที่ทราบเรื่องนี้ก็มักจะเล่นทายจำนวนเนื้อภายใน ของผลมังคุดกับ เด็กๆ  โดยจะแอบดูจำนวนกลีบดอกที่ติดอยู่ภายนอกของผล อันเป็นความเพลิดเพลินเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่จะได้ลิ้มรสอันแสนอร่อยของเนื้อในมังคุด
 
     การบริโภคมังคุด ทำให้เราได้กากใยจากเนื้อของมังคุดที่ช่วยในการขับถ่าย และยังได้สารอาหาร วิตามินและเกลือแร่อื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น น้ำตาล กรดอินทรีย์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ประโยชน์ของมังคุดมิได้มีอยู่แค่เนื้อในของมังคุดที่เราใช้เป็นอาหารเท่านั้น เปลือกของมังคุดกับมีประโยชน์มากมายที่สามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคอย่างได้ผล

     คนไทยรู้จักการใช้ประโยชน์จากเปลือกมังคุดมาเป็นยารักษาโรคมานานแล้ว เพราะคนไทยสมัยโบราณค้นพบว่าเปลือกมังคุดรสฝาดสมาน จึงนำเปลือกมังคุดมาใช้เป็นยาแก้ท้องเสีย แก้ท้องร่วงเรื้อรัง ถ่ายเป็นมูกเลือด โดยการใช้เปลือกสดหรือเปลือกแห้งฝนกับน้ำรับประทาน หรือจะใช้เปลือกแห้งต้มกับน้ำรับประทานก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

     เปลือกมังคุดยังมีสรรพคุณในการสมานแผล ช่วยให้แผลหาเร็ว เช่นใช้รักษาบาดแผลผุพอง แผลเน่าเปื่อย แผลเป็นหนอง โดยการใช้เปลือกมังคุดฝนกับน้ำปูนใสทาบริเวณแผล น้ำต้มเปลือกมังคุดแห้งต้มน้ำล้างแผลใช้แทนการด้วยน้ำยาล้างแผลหรือด่างทับทิมได้ด้วย

     สรรพคุณที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเปลือกมังคุดที่มีการใช้กันมาตั้งแต่อดีต ก็คือการใช้เปลือกมังคุดรักษาโรคผิวหนัง เช่น กลากเกลื้อน บรรเทาอาการผดผื่นทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี โดยใช้เปลือกมังคุดแห้งต้มน้ำอาบ หรือใช้น้ำต้มเปลือกมังคุดทาบริเวณที่มีอาการ

     สรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนังของเปลือกมังคุดนี้ได้รับการพิสูจน์และยืนยันจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบว่า รสฝากในเปลือกมังคุดนี้มีสารแทนนิน (Tannin) และสารแซนโทน (Xanthone) ที่มีชื่อเรียกเฉพาะชื่อเดียวกับมังคุดว่า สารแมงโกสติน (mangostin) สารแทนนินมีฤทธิ์สมานแผลช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น สารแมงโกสตินมีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบ และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง สารแซนโทนในเปลือกมังคุดยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังและกลากได้
 
      ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ได้ช่วยยืนยันและช่วยรื้อฟื้นให้ภูมิปัญญาพื้นบ้านให้กลับมาเข้ายุคเข้าสมัยได้อีกครั้งหนึ่ง ปัจจุบันวงการเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้ให้ความสนใจนำสารสกัดจากเปลือกมังคุดไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สบู่เปลือกมังคุด ที่ช่วยดับกลิ่นเต่าช่วยบรรเทาโรคผิวหนัง รักษาสิวฝ้า ซึ่งใช้ได้ผลดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค

     ฤดูฝนนี้ เมื่อได้ลิ้มรสของเนื้อในของมังคุดอย่างอิ่มเอมแล้ว ก็อย่าได้ทิ้งขว้างเปลือกมังคุดให้เป็นขยะเน่าเหม็นโดยเปล่าประโยชน์เลย รวบรวมแล้วตากให้แห้งสนิทเก็บใส่ขวดโหล ไว้ใช้ทำยาแก้ท้องเสีย ยารักษาแผล ยารักษาโรคผิวหนัง หรือแม้แต่นำไปทำสบู่เปลือกมังคุดสำหรับอาบน้ำดับกลิ่นตัว ก็จะเพิ่มค่าอีกมากโข คุ้มเกินคุ้มกว่าราคากิโลละ 25 บาทที่เราซื้อมาเสียอีก หากเผลอไผทิ้งขว้างไป เมื่อผ่านพ้นฤดูของมังคุดไปก็จะหามังคุดอีกไม่ได้ จะมาเสียดายภายหลัง ต้องรอถึงฝนหน้าจึงจะได้ยลโฉมราชินีของผลไม้อีกที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2007, 10:59:45 AM โดย Watt » บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
mETEr
จงภูมิใจเถิด ที่เกิดเป็นไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1051


รักเธอ ประเทศไทย


« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 10:59:20 AM »

อย่างนี้ต้องเก็บข้อมูลครับ ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

เกิดมา ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน
ลุงตุ้ย
รู้จักพอ ก่อสุขทุกสถาน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 271
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2864


มีสติ ก็มีสตังค์ พอมีสตังค์ก็กินให้หมดสติ


« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 11:02:49 AM »

 Cheesyขอบคุณครับกับสาระดีๆ Grin ฝนจะตกแล้วระวังหลังคาแครี่บอยหน่อยผ่านมาเอามาเช็คสภาพได้ฟรีครับ Grinขออภัยไม่รู้ว่ายังใช้คันเดิมอยู่หรือเปล่าเป็นห่วง นานแล้วครับ
บันทึกการเข้า

ชมรมคนรักJeep ภาค7  (นกกระปูด7)hs7azi
halls13
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 11:31:55 AM »

 หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตารินเมื่อวานเห็นชาวสวนโค่นประชดอยู่......โลละห้าบาท.....เซ็งแทนคนปลูกเลยครับ.... หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
neo1
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 159
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2694



« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 12:15:00 PM »

กำลังนึกถึงมังคุดอยู่พอดี ครับ:D.............อนุญาตถามหลายๆท่านด้วยครับ   ท่านใดเคยทาน....  มังคุดคัด   ....บางกันหรือยังครับส่วนผมเคยลองเมื่อปีที่แล้วขอบอกว่าอร่อยมากๆครับ แต่วิธีแกะยากมากครับใครมีวิธีแกะได้ง่ายๆช่วยแนะนำหน่อยครับ        ที่ผมเพิ่งจักมังคุดคัดเพราะผมดูรายการTVโอ้โห้ทางช่องITVเดิมเมือปีก่อนก็เลยลองทำตามทั้งกรอบหวานมัน  ว่างๆเดี๋ยวปีนี้จะทำอีกครับ Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club
yotinpen
Sr. Member
****

คะแนน 17
ออฟไลน์

กระทู้: 888


« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 12:22:44 PM »

ผมมาอยู่ทางใต้หลายปี ได้กินมังคุดราคาไม่แพงมาหลายปีแล้วครับ
บันทึกการเข้า
vuttichai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 12:47:35 PM »

มังคุดทำไวน์ใด้แล้ว อร่อย ใครที่ประชดโค่นต้นในขณะที่มังกำลังถูกก็ขอให้โค่นให้หมด สวนที่เหลืออยู่จะใด้ขายราคาดี.  Undecided
บันทึกการเข้า
S.W.A.T
Hero Member
*****

คะแนน 6
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1023

Ceska Zbrojovka


« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 01:08:55 PM »

ขอส่งเสริมอีกเสียงครับ
บันทึกการเข้า

อรินทราช 26
harusame
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 01:11:44 PM »

เป็นผลไม้ที่ชอบมากอันดับต้น ๆ เลยค่ะ

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับชื่อภาษาอังกฤษของมังคุดค่ะ เป็นตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาจากไกด์รุ่นพี่


เมื่อหลายสิบปีก่อน ที่การท่องเที่ยวไทยเริ่มบูมใหม่ ๆ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาเที่ยว
ในขณะนั้นผลไ้ม้ขึ้นชื่อของไทยอันดับหนึ่งคือ มะม่วง หรือที่ฝรั่งเรียกว่า mango
ต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าของไกด์(ภาษาอังกฤษ)ชายคนหนึ่ง ขณะกำลังนำนักท่องเที่ยวต่างชาติคนหนึ่งเดินเที่ยว
ผ่านร้านขายผลไม้ร้านหนึ่ง มีผลไม้ที่แปลกตา ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวคนนี้มาก

นักท่องเที่ยว ถามพร้อมชี้ไปที่ผลไม้  "What's this ?"
ไกด์ นึกคำศัพท์ที่เรียกผลไม้นี้อยู่ครู่หนึ่งนึกอย่างไรก็ไม่ออกจึงตอบไปว่า "Mung Kud (มังคุด)"
นักท่องเที่ยว "Oh !!!  Mango"
ไกด์ พูดพร้อมส่ายหัว   "No... No .... Mang Kud"
นักท่องเที่ยว "Oh !!! Mango"
ไกด์ "Mang Kud"
"Mango"
"Mang Kud"
.
.
.
.
.
เป็นอย่างอยู่พักใหญ่ ๆ นักท่องเที่ยวก็ยัง Mango อยู่
ไกด์ เริ่มหงุดหงิด "เอ้อ !!! Mango Son Teen" (แปลได้ว่า มัง โก้ ส้น ทีน)
นักท่องเที่ยว "Ahh .... Mangosteen" (แปลได้ว่า อา.... แมง โก้ สะ ทีน)

จากนั้นมา "มังคุด" จึงรู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่า "Mangosteen"  ด้วยประการฉะนี้  Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 01:18:55 PM »

สงสารชาวสวนที่ไม่มีตลาดรองรับ
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
น่อย พีที99-รักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 606
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6675


ดื่มเหล้ากับคนรู้ใจพันจอกไม่เมา


« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 01:23:47 PM »

........มีประโยชน์มากครับ ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
Cheetah "รักในหลวง"
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 28
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 961



« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 01:30:26 PM »

ชอบมากที่สุดเลยครับ มังคุด หวานอมเปรี้ยว

ที่ราคาตกต่ำนี่ก็น่าเห็นใจที่ ภาครัฐไม่สามารถจัดหาตลาดมาระบายผลผลิตได้  มังคุดนี่ก็แปรรูปเป็นอย่างอื่นไม่ค่อยได้เลย  เน่าเสียเร็ว 

ผมเคยซื้อมังคุด  ฝากให้เพื่อนชาวต่างชาติ ที่กำลังจะบินกลับประเทศเขา คัดอย่างดีที่สุด 
2 วันผ่านไป เขาเมล์กลับมาว่าผม ว่า ผลไม้อะไร กินไม่ได้เลย แข็ง รสชาดแย่มากๆ  Angry Angry

ห่วย...ใครเขาให้กัดกินทั้งเปลือกแบบแอปเปิ้ลกันฟ่ะ!  พอเมล์กลับไปเสร็จ
2 วันถัดมา เขาเมล์กลับมาบอกว่า ส่งให้อีกได้ไหม ยินดีออกค่าส่งให้   Grin Grin
บันทึกการเข้า
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 01:44:28 PM »

ด้วยความเคารพครับต้องช่วยๆกันครับ...
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
toygun
Hero Member
*****

คะแนน 194
ออฟไลน์

กระทู้: 3027



« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 01:51:31 PM »

 Grin น้ำลายหก
บันทึกการเข้า
J@ck
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 21


ททมาโน ปิโย โหติ


« ตอบ #14 เมื่อ: เมษายน 20, 2007, 01:59:48 PM »

หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตารินเมื่อวานเห็นชาวสวนโค่นประชดอยู่......โลละห้าบาท.....เซ็งแทนคนปลูกเลยครับ.... หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน

เศร้ากว่านั้น รัฐรับซื้อให้มากกว่า 2 บาทเป็นโลละ 7 บาท ......แหม เกาไม่ถูกที่คันนะนี่
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.054 วินาที กับ 21 คำสั่ง