เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 23, 2025, 01:22:27 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คำว่า "ไม่เป็นไร" ใช้ไม่ได้กับเรื่องสุขภาพ  (อ่าน 2083 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 02:25:33 PM »

 Smiley 10 สัญญาณเตือนเรื่องสุขภาพ

ร่างกายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากไม่หมั่นสังเกต คุณอาจไม่รู้ว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงแข็งแรงขึ้นหรือย่ำแย่ลง10 สัญญาณเตือนต่อไปนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณหันมา ทบทวนและปรับปรุงตัวเองขนานใหญ่ ก่อนที่ปัญหาเล็ก ๆ จะลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่

1. ปวดหัวเป็นประจำ
อาการปวดหัวเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่ฟ้องว่าร่างกายคุณกำลังอยู่ในภาวะไม่ปกติ สาเหตุหลักมาจากความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอหรืออาจเกิดจากการดื่มกาแฟ แอลกอฮอล์มากเกินไป การนวดศีรษะทุกวันก่อนเข้านอนจะช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น โดยใช้นิ้วชี้กดที่หัวคิ้ว นวดคลึงและกดไปตามคิ้วจนถึงขมับจากนั้นใช้นิ้วทั้งสิบนิ้วกดและนวดคลึงหนังศีรษะให้ทั่ว บางครั้งอาการปวดศีรษะอาจเกิดจากไมเกรนที่เส้นเลือดส่งเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ คุณจึงควรบริหารร่างกายด้วยการก้มศีรษะให้คางจรดหน้าอก ค่อย ๆ หมุนเป็นวงกลมจนกลับมาที่เดิมแล้วเวียนกลับอีกทางหนึ่ง เพื่อให้เลือดไหลเวียนจากต้นคอ หนังศีรษะและสมองได้อย่างทั่วถึง แต่หากมีอาการปวดรุนแรงพร้อมกับ มีไข้ อาเจียน หรือไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน ควรรีบพบแพทย์เพราะอาจเป็นอาการทางสมอง

2. ปวดต้นคอ
มักเป็นอาการที่ต่อเนื่องมาจากความเครียด หรืออาจเกิดจากการเคลื่อนไหวไม่ถูกต้อง เช่น นั่งขับรถนาน ๆ โดยไม่มีหนอนรองต้นคอ นอนหลับบนที่นอนนุ่มเกินไป ยกของหนักเกินไป การนวดต้นคอและไหล่จะช่วยบรรเทาอาการปวดให้ดีขึ้น แต่ควรทำร่วมกับการปรับท่านั่งและนอนให้ถูกต้องด้วย ที่นอนที่ดีต้องแข็ง นอนแล้วไม่ยุบเป็นแอ่ง หรือหากที่นอนมีความนุ่ม ให้เลือกใช้หมอนใบเล็กหนุนหลังเอาไว้ และมีหมอนข้างสำหรับวางขาเพื่อรักษาแนวกระดูกสันหลังเอาไว้ให้ตรงเป็นแนวเดียวกัน ส่วนเก้าอี้ที่ดีจะต่างจากที่นอน คือยิ่งนุ่มมากเท่าไรจะยิ่งดีมากเท่านั้น เพราะความนุ่มจะช่วยให้น้ำหนักกระจายไปได้ทั่ว ไม่ตกอยู่เฉพาะบริเวณสะโพกที่เดียว หากเป็นไปได้ ควรเลือกเก้าอี้ให้เหมาะกับรูปร่างของแต่ละคน และมีพนักพิงเพื่อใช้เอนหลังพักผ่อนสำหรับลดอาการปวดเกร็งที่ต้นคอ

3. ปวดหลัง
อาจเกิดได้จากการเคลื่อนไหวที่ไม่ถูกต้อง เช่น นอนคว่ำ นั่งท่าเดียวนาน ๆ หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพราะขาดการออกกำลังกาย รวมทั้งน้ำหนักตัวมากขึ้นเพราะความอ้วนหรือการตั้งครรภ์ การนั่ง ยืน นอนให้ถูกต้องจะช่วยป้องกันอาการปวดหลังได้มาก หากต้องทำงานในอิริยาบถเดิม ๆ ทั้งวัน ให้หมั่นเคลื่อนไหวร่างกายทุก ๆ 30 นาที หากอาการปวดหลังของคุณเกิดจากน้ำหนักตัวที่มากเกินไปก็ต้องเพิ่มการออกกำลังกายให้มากขึ้น หรือเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหลังด้วยการ ซิทอัพวันละประมาณ 15 นาที แต่ถ้าคุณมีอาการปวดหลังร่วมกับอาการชาตามแขนขา ให้รีบพบแพทย์

4. นอนไม่หลับ
การนอนไม่หลับอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ความเครียด การดื่มกาแฟและแอลกอฮอล์มากเกินไป การรับประทานอาหารรสจัดการออกกำลังกายก่อนเข้านอน หากมีอาการนอนไม่หลับ ให้นวดบริเวณต้นคอเรื่อยไปจนถึงปลายแขนทั้งสองข้าง เพื่อให้เกิดการผ่อนคลาย แช่น้ำอุ่นหรือดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ ก่อนนอน แต่ถ้าคุณนอน ไม่เต็มอิ่มจากปัญหาเรื่องสุขภาพ ให้งีบหลับตอนกลางวันประมาณครึ่งชั่วโมง (หากนานกว่านั้นอาจทำให้นอนไม่หลับในตอนกลางคืน) แต่ถ้าอาการนอนไม่หลับของคุณเกิดขึ้นเป็นเวลานานร่วมกับอาการกระสับกระส่าย หัวใจเต้นแรง หรือลุกไปปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อย ๆ ให้รีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการเริ่มต้นของไทรอยด์ผิดปกติ เบาหวาน ฯลฯ

5. น้ำหนักเพิ่มหรือลดผิดปกติ
การลดน้ำหนักที่ดีไม่ควรเกินกว่า 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ หากมีการลดมากกว่านั้นในระยะเวลา 6 เดือน ควรต้องระวังเป็นพิเศษ การมีน้ำหนักลดลง อย่างต่อเนื่องอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน ต่อมไทรอยด์ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ สำไส้อักเสบหรือโรคมะเร็ง ส่วนการมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้พิจารณาว่ามาจากความอ้วนหรือไม่ ถ้าใช่ ให้ควบคุมเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย แต่ถ้าน้ำหนักเพิ่มขึ้นร่วมกับอาการบวมน้ำ คือ ตัวบวม หายใจหอบถี่ต้องลุกไปปัสสาวะบ่อยๆ ตอนกลางคืน อาจต้องรีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคหัวใจ ไตวาย ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ

6. เหนื่อยง่าย
โดยปกติแล้วคนเราอาจจะเดินขึ้นบันได 3 ชั้น หรือออกแรงทำงานต่อเนื่องกัน 1 ชั่วโมงได้โดยไม่เหนื่อย แต่ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อยหอบ นี่คือสัญญาณบอกว่าหัวใจไม่แข็งแรง หรือหลอดเลือดอุดตันด้วยไขมัน ดังนั้นคุณต้องออกกำลังกายให้มากขึ้น เริ่มต้นจากชนิดกีฬาที่ออกแรงเบา ๆ ก็ได้ ทำให้ได้เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 30 นาที

7. หน้ามืด
อาการหน้ามืดเกิดจากการที่สมองขาดเลือดและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงชั่วคราว อาจเกิดจากลุกขึ้นยืนเร็วเกินไป การพักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย กินยาหรือดื่มแอลกอฮอล์ที่มีฤทธิ์กดประสาท การแก้ไขที่ดีที่สุดคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดีขึ้น แต่หากยังคงมีอาการต่อเนื่องกัน 2-3 วันให้รีบไปพบแพทย์ เพราะอาจมีปัญหาเรื่องความดันดลหิตต่ำหรือโลหิตจาง

8. ท้องผูก
อาการท้องผูก หมายถึง การถ่ายอุจจาระได้น้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เนื่องจากมีปัจจัยบางอย่างขัดขวางการทำงานของลำไส้ ทำให้กากอาหารผ่านลำไส้ใหญ่ได้ช้าลง อาจเกิดจากความเครียด การดื่มน้ำน้อย รับประทานอาหารเหลวหรือไม่มีกากใย ไม่ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา และไม่ออกกำลังกาย เราสามารถหลีกเลี่ยงอาการท้องผูกได้ด้วยการกินอาหารที่มีเส้นใยสูง ดื่มน้ำมาก ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และสร้างนิสัยการขับถ่ายให้ตนเอง ทำให้เป็นกิจวัตรในเวลานั้น ๆ อาการท้องผูกเรื้อรัง (นานกว่า 3 สัปดาห์) อาจสร้างความเสี่ยงโรคริดสีดวงทวารหนัก โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรืออาการไตวายได้เช่นกัน

9. ตัวเหลืองตาเหลือง
อาจเกิดขึ้นได้จากการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเกิดจากปัญหาสุขภาพตับ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ หรือมีนิ่วอุดตันในท่อน้ำดี ทำให้เกิดอาการดีซ่าน คือ ร่างกายมีสารสีเหลือง (ชื่อบิลิรูบินซึ่งเกิดจากการทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ) ตกค้างอยู่ในกระแสเลือด หากเริ่มต้นมีอาการ ตัวเหลือง-ตาเหลือง ควรปรับเปลี่ยนอาหารโดยงดอาหารกลางวัน รสจัด และแอลกอฮอล์ รวมทั้งรับประทานอาหารรสจืด คาร์โบไฮเดรต และธัญพืชให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ตับฟื้นตัวเร็วขึ้น เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน อาการตับอักเสบอาจลุกลามกลายเป็นมะเร็งตับได้

10. ขี้ลืมมากกว่าทุก ๆ วัน
การเรียกใช้ข้อมูลในสมอง ร่างกายจะต้องทำงานผ่านเซลล์ประสาทนับหมื่นล้านตัว เซลล์เหล่านี้จะลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่มากขึ้น แต่ถ้าอายุยังน้อย แต่มีอาการขี้หลงขี้ลืม อาจเป็นได้จากความเครียด วิตกกังวล หรืออาจเกิดจากการขาดสารอาหารที่ใช้บำรุงสมองให้ทำงานฉับไวยิ่งขึ้น ได้แก่ โปรตีนจากปลาทะเล การทำสมาธิก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สมองจัดระเบียบลิ้นชักความคิดเป็นระบบ ช่วยเพิ่มความกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น ดังนั้น ควรแบ่งเวลาทำสมาธิให้เป็นประจำ วันละครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อย

อาการเหล่านี้แม้จะเป็นอาการเล็กน้อยที่เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ แต่คุณก็ต้องหมั่นสังเกตระดับความรุนแรง และความถี่ที่เกิดขึ้น หากมีความผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
ห ม า ย จั น ท ร์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 563
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6222



« ตอบ #1 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 02:31:40 PM »

ขอบคุณครับ ทำไมผมเข้าข่ายหลายข้อจัง ตกใจ  สงสัยต้องถึงหมอแล้ว  ตกใจ
บันทึกการเข้า

BADBOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 02:38:54 PM »

ผมก็เข้าหลายข้อมาก ๆ ..โดยเฉพาะเกี่ยวกับหัวใจ...ขอบคุณครับ..พี่วัฒน์
บันทึกการเข้า
glocklover
เบื้องหลังความสำเร็จ คือความล้มเหลว 9 ใน 10 ครั้งของความพยายาม
Hero Member
*****

คะแนน 12
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1000


One Life Live It.


« ตอบ #3 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 03:08:38 PM »

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆที่นำมาแบ่งปันกันครับ  Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

“สุขทุกข์ อยู่ที่ใจ มิใช่หรือ
เพราะใจถือ จึงเป็นทุกข์ ไม่สุขใส
ใจไม่ถือ จึงเป็นสุข ไม่ทุกข์ใจ
เราอยากได้ ความสุข หรือทุกข์นา”
พระศาสนโสภณ (แจ่ม จตฺตสลฺโล)
น้าพงษ์...รักในหลวง
1911ต้อง.โค้ลท์.ที่เหลือคือก๊อปปี้.ลอกพี่.มะขิ่นครับ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 508
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9922


« ตอบ #4 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 04:32:49 PM »

ขอบคุณครับ..หลายข้อเหมือนกัน..สงสัยชักจะแก่... Grin
บันทึกการเข้า

...ประเทศไทย.ไม่ใช่ที่สำหรับใครที่จะมา.ฝึกงาน...
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #5 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 04:33:04 PM »

ขอบคุณคับคุณ watt...
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #6 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 05:04:44 PM »

อาการทั้งหมดแพทย์ให้สมมติฐานว่าเกิดจากความเครียดสะสมครับ
บันทึกการเข้า

                
vana_Art
Superman It's not easy.
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 623


เคารพนับถือพระพุทธเจ้า++ก็จงปฏิบัติตามที่สอน >>[ไม่ใช่แค่นับถือ!!!]


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 05:50:07 PM »

ผมชอบเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพแข็งแรงดี ทำตนเองให้มีเวลาสำหรับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีวันที่เครียดบ้างก็จะหาย จิตใจหม่นหมองบ้างก็จะผ่อนคลายครับ
บันทึกการเข้า

 
big single
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 321
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5789



« ตอบ #8 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 11:05:01 PM »

ข้อสุดท้ายนี่ผมเป็นมานานแล้วครับ....แต่อาการไม่รุนแรงเท่าไหร่.... Tongue
บันทึกการเข้า

นักะติ๊ Club ขยับจะยิงแต่รักจริงนะจ๊ะจุ๊บๆ
e.k.1911
ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใด ความสุขและผลจักมีแก่ชนเหล่านั้น
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 251
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2809


Still Loving COLT


« ตอบ #9 เมื่อ: เมษายน 25, 2007, 11:13:28 PM »

ขอบคุณมากๆ อีกแล้ว ครับ พี่ watt
บันทึกการเข้า

โปรดจงเอาดอกไม้เสียบไว้ที่ปลายปืน  แล้วหยิบยื่นไมตรีมิตรให้แก่กัน
Narin CZ
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: เมษายน 26, 2007, 01:07:25 AM »

ขอบคุณครับคุณ Watt...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2007, 01:09:47 AM โดย Narin CZ » บันทึกการเข้า
มะเอ็ม
Hero Member
*****

คะแนน 348
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4749


"ปักษ์ใต้บ้านเรามันเหงาจังไม่มีคนนั่งแลหนังโนราห์"


« ตอบ #11 เมื่อ: เมษายน 26, 2007, 08:15:59 AM »

ขอบคุณครับ ....
บันทึกการเข้า
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #12 เมื่อ: เมษายน 26, 2007, 08:40:55 AM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
yotinpen
Sr. Member
****

คะแนน 17
ออฟไลน์

กระทู้: 888


« ตอบ #13 เมื่อ: เมษายน 26, 2007, 09:11:29 AM »

ขอบคุณที่เป็นห่วงกันครับ
บันทึกการเข้า
Ramsjai
^ป้าแรมส์ใจดี^
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1075
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 7191


"ชีวิตมีคนที่เกลียดไม่กี่คน ที่เหลือรำคาญ"


« ตอบ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2007, 02:49:58 PM »

บอกลาอาการปวดหลัง

ใครที่กำลังเผชิญอยู่กับเจ้าอาการปวดหลัง ย่อมรู้ดีว่ามันทั้งทรมาน และน่ารำคาญอย่างสาหัสเพียงใด.. ไม่ควรนิ่งเฉยอย่างเด็ดขาดค่ะ เพราะยิ่งเราปล่อยปละละเลย อาการปวดหลังนี้ก็จะยิ่งทวีคูณ และกำเริบหนักยิ่งขึ้น และกลายเป็นปัญหาใหญ่แก่สุขภาพคุณเอง.. มีวิธีป้องกันและบำบัดอาการปวดหลัง โดยยังไม่ต้องพึ่งคุณหมอค่ะ...

1. ท่ากายบริหารขจัดอาการปวดหลัง
นอนราบกับพื้น เหยียดแขนออกทั้งสองข้าง ให้ทั้งแผ่นหลังและท่อนแขนราบไปกับพื้น แล้วยกขาขวาไขว้ข้ามมาซ้าย เหยียดให้ตึงและไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยท่อนบนของตัวคุณและแขนต้องราบติดกับพื้นอยู่เสมอ นับ 1 ถึง 10 แล้วสลับทำเช่นเดียวกันด้วยขาซ้ายข้ามขาขวา สลับเหยียด ๆ แบบนี้ข้างละ 5 ครั้ง ต่อจากนั้นเมื่อคุณจบลงที่นอนราบกับพื้น จึงงอเข่าขวาขึ้นมา ใช้มือทั้งสองข้างเหนี่ยวดึงหัวเข่าให้งอพับเข้าใกล้หน้าอกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผ่อนลมหายใจเข้าออก นับ 1 ถึง 5 แล้วปล่อยขาเหยียดตรง ทำซ้ำเช่นเดียวกันกับขาซ้าย ข้างละ 10 ครั้ง

2. ท่านอนและที่นอน
คุณควรเลือกใช้ที่นอนที่รองรับน้ำหนักตัวได้ราบเรียบเสมอกัน ไม่นุ่มจนเป็นหลุมหรือแข็งเป็นไม้กระดาน ท่านอนที่ดีที่สุดคือนอนหงายราบไปกับที่นอน หรือนอนตะแคงแล้วงอหัวเข่า และหลังเหยียดตรงเป็นเส้นขนานไม่งองุ้ม หมอนก็ต้องไม่สูงเกินไปจนรู้สึกเหมือนแขวนหัวไว้กับหมอน ควรเป็นระดับพอดีกับคอและไหล่

3. กีฬาต้องห้าม
กีฬาที่คนปวดหลังไม่ควรเล่นคือ โบว์ลิ่ง เทนนิส กอล์ฟ และยกน้ำหนัก และกีฬาที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ดีคือ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน พายเรือ และเดิน

4. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
หากเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ท่ายกของที่ถูกต้องและรักษาหลังคุณที่สุดคือ งอเข่าหยิบของแล้วยืดตัวยืนขึ้น ห้ามยกของด้วยการก้มหลังอย่างเด็ดขาด

5. นวดเท้า
ว่ากันว่าการนวดเท้า เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังและขาที่รื่นรมย์ที่สุด คุณควรให้รางวัลตัวเองด้วยการนวดกดจุดฝ่าเท้า reflexology อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง

6. เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม
ควรเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โปรตีนสูง เลือกรับประทานผักผลไม้ให้มากขึ้น คุณสามารถรับประทานวิตามินและอาหารเสริมได้ เช่นพวก a multi - mineral supplement ที่มีวิตามิน A, B complex, C, D และ E

การรับประทานยาแก้ปวดเป็นวิธีที่ไม่ขอแนะนำและไม่ควรทำ หากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งหมด 6 ข้อข้างต้นนี้แล้ว อาการปวดหลังยังไม่หายไปไหน นั่นอาจหมายถึงคุณอาจไม่สบายมีโรคอื่นซ้ำซ้อนอยู่ เช่น โรคไต ซึ่งควรรีบหาหมอดีกว่าค่ะ....


ปล. สุขภาพเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ เยี่ยม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 10, 2007, 02:52:16 PM โดย ramsjai » บันทึกการเข้า

ถ้าเป็นความทรงจำที่มีค่าล่ะก็..ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะคนตายจะมีชีวิตอยู่ในความทรงจำของเราเท่านั้น..
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.052 วินาที กับ 21 คำสั่ง