ขอบคุณครับ คุณ Watt
ให้ความรู้สึกอย่างไรครับ สำหรับรถราง ในยุคนั้น
จะเหมือนกับนั่งรถไฟ รถแท๊กเตอร์ ในสมัยนี้ มั๊ยหนอ
จะเหมือนกับที่เราเห็น ในหนัง ที่มีสั่นกระดิ่งด้วยหรือเปล่าครับ
ยุคสมัยเปลี่ยนไปแบบหน้ามือหลังมือเลยนะครับ
ถ้าเขาเอารถรางมาวิ่งอีก ก็คงจะดี
มันขับเคลื่อน ด้วยไฟฟ้า หรืออย่างไรครับ

จำไม่ค่อยได้แล้วครับคุณ.yod ตอนนั้นยังเด็กมาก ได้นั่งไม่กี่ครั้ง ไม่นานก็เลิกไป มีรถเมลล์นายเลิศมาวิ่งแทน อุ๊บ...ไม่ใช่ๆๆ รถรางผมไม่รู้จัก รู้จักแต่ BTS กับรถไฟใต้ดิน ตะหาก...ล่ะ
รถราง TRAMWAY มีกำเนิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ. 2430 เป็นประเทศแรกในเอเชียจาก พ.ศ. 2431 จนถึง พ.ศ. 2511 ร้อยกว่าปีที่เริ่มมีและสามสิบกว่าปีที่หมดไป..สำหรับยานที่มีวิ่งเป็นประเทศแรกในเอเชีย
เมื่อเอ่ยถึง รถราง คนยุคปัจจุบันที่มีอายุไม่เกิน 30 ปี คงจะเคยเห็นกันแค่เท่าที่มีการเก็บรักษาไว้ในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งของราชการและเอกชน แต่สำหรับผู้ที่มีระดับความแก่เกินกว่านั้น โดย เฉพาะพวก 40 ปีขึ้นไปอาจเห็นหรือได้เคยใช้บริการกันอยู่บ้างเมื่อตอนเด็ก ๆ
รถราง หรือที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า Tramway มีกำเนิดขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 5 จากการก่อตั้งของ ชาวเดนมาร์ค จัดเดินรถรางขึ้นใน เมืองบางกอก ตามการเรียกขานในสมัยนั้น ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2430 เปิดเดิน รถราง คันแรกนี้ยังไม่ได้แล่นได้ด้วยตัวของมันเอง แต่จะเคลื่อนที่ไปด้วยการใช้ ม้าลาก ซึ่งได้เทียมม้าไว้ด้านหน้ารถ จากนั้นได้มีการเปิดดำเนินกิจการ รถรางไฟฟ้า ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2437 หลังจากที่สิ้นสุด สงครามโลกครั้งที่สอง ได้แค่สี่ห้าปี สัมปทานการเดินรถก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2492 รัฐบาลก็เข้ามาดำเนินกิจการต่อในนามของ บริษัท การไฟฟ้ากรุงเทพฯ จำกัด ในสังกัดของ กรมโยธาเทศบาลและกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2493 หลังจากที่มีการพัฒนาบ้านเมืองขนานใหญ่เกิดขึ้นในสมัย จอมพลผ้าคะม้าแดง พร้อมๆ กับนโยบายที่จะให้ เลิกเดินรถรางและรถสามล้อถีบ ในเขต พระนคร-ธนบุรี การเดินรถจึงค่อยๆ ลดบทบาทลงโดยการเลิกวิ่งจบสิ้นเด็ดขาดในเขตเมืองหลวงไปเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2511 ที่ได้มี รถราง ใช้อยู่ร่วม 80 ปี พอดี

รถราง แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ
- แบบแรก.- ที่เป็นตัวถึงไม้เปิดโล่งและผืนผ้าใบที่ม้วนเก็บห้อยไว้กับขอบบนทั้งสองข้างสำหรับกันแดดกันฝุ่น
- แบบที่สอง.- จะเป็นรุ่นที่นิยมเรียกกันว่า ไอ้โม่ง ตามรูปทรงของหลังคาที่มีความโค้งอยู่มากและยังจะสร้างตัวถึงด้วยโครงเหล็ก ซึ่งนับว่าทันสมัยมากในยุคนั้น