"สุวัจน์"แนะญาติเหยื่อ"ลูกพยัพ"ยื่นขอความเป็นธรรมหลังอัยการสั่งไม่ฟ้อง จากเวบฯผู้จัดการออนไลน์ครับ
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9480000054595 วันนี้ (24 เม.ย.) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ "ทีมผู้สื่อข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์" ถึงกรณีที่ อัยการจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งไม่ฟ้อง นายทรงพล หรือเอ คำพันธ์ อายุ 21 ปี ลูกชายนายพยัพ คำพันธุ์ เซียนพระชื่อดัง และนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องและพระบูชา ผู้ต้องหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน พยายามฆ่าผู้อื่น ข้อหาพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และข้อหายิงอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตว่าเรื่องดังกล่าวตนยังไม่ทราบรายละเอียด
ส่วนกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องทั้งที่ก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้ตั้ง 4 ข้อหาหนัก นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของผู้รักษากฎหมายที่มีอำนาจในการสอบสวน และการสั่งคดี แต่อย่างไรก็ตาม หากทางฝ่ายผู้เสียหาย หรือญาติผู้เสียชีวิตเห็นว่าคดีนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ขอให้ส่งเรื่องมาที่ตนได้ ซึ่งตนยืนยันว่าจะมอบความยุติธรรมให้
ส่วนข้อถามว่า ในขณะนี้ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา ครั้งที่ 11 แต่การปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม กลับสวนทางกับตัวบทกฎหมาย และขัดกับความรู้สึกของประชาชน นายสุวัจน์กล่าวว่า ย้ำว่าตนจะให้ความเป็นธรรม ดังนั้นขอให้เสนอเรื่องขึ้นมาได้ในทุกกรณี หากเห็นว่า ไม่ได้รับความยุติธรรม จากการสั่งคดีของเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายสมนึก สีดา ยามรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านชัยพฤกษ์ เสียชีวิต และยิง จ.ส.ต.ชาติ สมัครราช หัวหน้า รปภ.บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 22 พ.ย.47
หลังก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีคดีนานเกือบ 3 เดือน ก่อนจะเข้ามอบตัวอย่างเงียบๆ กับ พ.ต.อ.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธธจังหวัดนนทบุรี และ พ.ต.อ.สาโรจน์ สำเภาเงิน ผู้กำกับการ สภ.อ.บางบัวทอง และพนักงานสอบสวน เมื่อเช้าตรู่วันพุธ ที่ 9 ก.พ. 2548 โดยมี นายพยัพ คำพันธุ์ พ่อและทนายความ เดินทางไปด้วย ขณะเดียวกัน ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง และอัยการจังหวัดนนทบุรี และอัยการเขต 1 มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องโดยนายสุธน แสงสายัณห์ อธิบดีอัยการเขต 1 ให้เหตุผลว่า เนื่องจากตามสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนระบุว่า เหตุผลที่ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนนั้นเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากขณะเกิดเหตุ ทาง รปภ.หมู่บ้านเรียกให้ตรวจแต่ผู้ต้องหาไม่ยอม ทางฝ่าย รปภ.ซึ่งมีอาวุธปืนและไม้กระบองได้ชักปืนขึ้นมาจะยิงฝ่ายผู้ต้องหาก่อน ทางฝ่ายผู้ต้องหาจึงชักปืนยิงตอบโต้ไป ซึ่งเข้าข่ายเป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ขณะเดียวกัน พยานทางฝ่ายผู้ตายให้การสอดคล้องกันว่า ฝ่าย รปภ.เป็นฝ่ายชักปืนจะยิงก่อน ทางฝ่ายผู้ต้องหาจึงชักปืนยิงโต้ตอบ
โดยอธิบดีอัยการเขต 1 แสดงความมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนเสนอขึ้นมานั้น มีความหนักแน่นและชัดเจนเพียงพอ จึงมีคำสั่งสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว จากนั้นได้ส่งเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีว่าจะมีความเห็นแย้งหรือไม่ ขณะเดียวกัน เรื่องดังกล่าวได้รายงานไปให้อัยการสูงสุดทราบโดยรวมกับคดีสำคัญอื่นๆ แล้ว
พ่นออกมาได้ยังไงว่าถ้าหาก ผวจ.นนทบุรี มีความ เห็นสั่งฟ้องจะต้องส่งสำนวนให้กับอัยการสูงสุด เป็นผู้ชี้ขาดอีกครั้งตามกระบวนการยุติธรรม.....นี่ถ้าเป็นจังหวัดบ้านนอกที่ห่างไกลจากกทม.ซะหน่อยผมจะบอกว่าทุเรศ ก็ตามตจว.นี่อัยการกับผู้ว่าเค้าจะโดนจับให้นั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันนี่หว่าแล้วใครมันจะไปค้านหักหน้าให้หมางกันเปล่าๆ?
สงสัยว่างานนี้คงมีการถ่ายเท"พิมพ์นิยม"กันหลายองค์ ไม่งั้นคงได้เห็นการตะบี้ตะบันฟ้องกันไปแล้ว