เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 16, 2025, 11:31:53 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “วาดะห์”หนุนยกฐานะจ.ชายแดนใต้เป็น“เขตปกครองพิเศษ”  (อ่าน 8108 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
xiehua dun
เรารักในหลวง
Hero Member
*****

คะแนน 134
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6209


ปัจจุบันวัดความดีของคนที่ กม.


« ตอบ #30 เมื่อ: เมษายน 26, 2005, 01:59:09 PM »

 ถ้าให้เป็นเขตปกครองพิเศษ ผมอยากให้ธรณีสูบพวกวาดะห์จริงๆ
บันทึกการเข้า


เพราะฉันจะไป ด้วยหัวใจดวงนี้ สองขาที่มีจะปีนสู่ภูผา
เพราะฉันจะไป ให้เห็นความสุขแท้มันด้วยตา
เมื่อได้มองลงมาเห็นโลกในมุมอีกมุม     มันคงช่างงดงาม
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #31 เมื่อ: เมษายน 26, 2005, 03:28:23 PM »

นายสมชายว่าจะไม่ด่า... พยายามเลี่ยงๆ อยู่... แต่คันมือ... ไม่ฮา

คนเริ่มเรื่อง เขาเริ่มเรื่องเป็นแค่ให้มีการจัดการแบบ กทม. หรือแบบ พัทยา... หรือแบบอะไรก็ได้ที่ให้คนท้องถิ่นมีสิทธิมีเสียง... แต่นี่ท่านเล่นเอาตัวอย่างมาให้ดูไปตั้งไกล... โอ๊ย...

หากไม่ออกมาแก้ข่าว... ระวังเถิ๊ดดด... เขาจะหาว่าอยู่เบื้องหลังขบวนการที่ทำชาวบ้านเดือดร้อน... เฮ้อ
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #32 เมื่อ: เมษายน 26, 2005, 04:09:12 PM »

ต้องอธิบายให้กระจ่างครับ
เขตปกครองพิเศษ ---> ปกครองด้วยตัวเอง มีประมุข แยกอิสระ แต่ยังขึ้นกับประเทศ เช่น จีนกับฮ่องกง อเมริกากับรัฐต่างๆ หรือมาเลเซียมีรัฐต่างๆ
เขตปกครองตนเอง---> ปกครองโดยมีการเลือกผู้นำท้องถิ่นเอง โดยมีประชาชนในท้องที่เลือก เหมือน พัทยา กรุงเทพฯ ลักษณะเป็นนคร
มันคนล่ะความหมายนะครับ แต่กลุ่มวาดะห์คงหมายถึงอันแรกมากกว่า บอกได้คำเดียว น่ากลัวครับ
.. Smiley..ขอบคุณครับ คุณWatt... ผมเองก็งง..สับสน ตั้งแต่ คณะ รมต. มีการพูดถึงเมื่อปลายรัฐบาลก่อน.. Grin
บันทึกการเข้า

barby
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

ศรัทธามาก ปัญญายากที่จะเกิด


« ตอบ #33 เมื่อ: เมษายน 26, 2005, 09:22:49 PM »

พวกที่กำลังสุมหัวกันแก้ปัญหาหนึ่งแล้วผลออกมาสร้างอีกปัญหา อีกปัญหาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจนถึงอินฟินิตี้ ไม่รู้จบ เพราะฟังความข้างเดียว หรือฟังความจริงด้านเดียว ถามว่าชาวบ้านที่เดือดร้อนทุกวันนี้เดือดร้อนกันแสนสาหัส ถามว่าใครก่อปัญหา ใครขยายปัญหา ใครแบมือตั้งแต่เช้าจรดเย็น ขอจนไม่รู้จบสิ้น ผลที่ได้ขยายผลเป็นพลเมืองชั้นสอง หรือเป็นพลเมืองชั้นสองเพราะมีสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่นๆเขา
ขอบอกว่าลูกหลานที่เป็นคนนับถือศาสนาพุทธ คนเชื้อสายจีน เขามีสิทธิน้อยกว่าใครในประเทศมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วแต่เขาอดทนมาตลอดเพราะรักความสงบ หวังๆๆๆๆๆๆๆว่าจะดีมาหลายชั่วอายุคนแล้ว พ่อผมอายุจะเก้าสิบแล้วโดนพวกเอาเปรียบมาตลอด จนพ่อพูดมาตลอดเวลาว่า พวกนี้เหมือนงูเห่า แด_ อิ่มไม่กัด แต่หิวเมื่อไหร่กัดเจ้าของทันที แล้วอยู่ๆพวกกรรมการชุดต่างๆก็เสนอว่าพวกผมนี่แหละรู้ปัญหาดีทั้งๆที่ไม่ใช้คนที่อยู่ในพื้นที่ด้วยซ้ำ    สร้างภาพ ครับสร้างภาพ   คนที่ถูกระเบิดที่หาดใหญ่ตอนนี้มีใครจ่ายค่ารักษาให้เขาบ้าง    ข้าราชการ  ไทยพุทธ และมุสลิมบางคนที่เป็นเหยื่อจริงอีกหลายร้อยหลายพันคน ไม่ได้รับการเหลียวแล แต่โจรร้ายได้รับการชดใช้เงิน มีงบนำลูกหลานไปเที่ยวตามโครงการพาน้องเที่ยว  แล้วพวกผมละครับ ลูกหลายผมไม่ใช่คยไทยหรือ   จะเรียนก็ไม่มีสิทธิพิเศษใดๆ ไม่มีทุนอุดหนุน  ทำงานไม่มีโควต้าพิเศษ  ที่นี่หรือประเทศไทย  พระราชเสาวนีย์ สองครั้ง เราฟังแล้วน้ำตาไหลทุกครั้ง   ฟ้าเข้าใจเราทุกอย่างแต่คนที่อ้างว่าเป็นนักวิชาการ กรรมการต่างๆ ไม่รู้อะไรมันบังตาท่านอยู่  หัดอ่านหนังสือท่านรุ่ง แก้วแดง  นั่นคือหนังสือที่บอกความจริงทุกด้าน เป็นธรรมทุกฝ่าย   ช่วยกันดูเถอะครับ เขาเอาเราจนจะหมดตัวแล้ว ความเอื้ออารีย์ของเราใช้พวกนี้ไม่ได้หรอก  ต้องใช้ความจริง ให้กับความเป็นธรรมกับคนไทยอย่างเสมอภาพ เลิกสิทธิพิเศษต่างๆเสียเพื่อให้เหลือพลเมืองแค่ชั้นเดียว   เช่นเลิกโควต้ามหาดไทย ในการเข้าเรียน  หรือให้สิทธิแก่ชนกลุ่มน้อยอื่นในภาคอื่นให้เหมือนๆกัน             เบื่อครับ   ที่คนดีๆที่ไม่เห็นด้วยกับพวกโจรเขาไม่เลือกกลุ่มวาดะห์ เป็นคำตอบที่ให้แก้รัฐบาลว่าเขารู้ๆอะไรๆของพวกเอ็งกันอยู่นะนอร์
บันทึกการเข้า

ไม่กลมกลืน  อย่าลืมความกลมเกลียว
แม้แตกต่าง       อย่าอ้างให้แตกแยก
barby
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

ศรัทธามาก ปัญญายากที่จะเกิด


« ตอบ #34 เมื่อ: เมษายน 26, 2005, 09:28:50 PM »

  วาดะห์   สลาลู
บันทึกการเข้า

ไม่กลมกลืน  อย่าลืมความกลมเกลียว
แม้แตกต่าง       อย่าอ้างให้แตกแยก
barby
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

ศรัทธามาก ปัญญายากที่จะเกิด


« ตอบ #35 เมื่อ: เมษายน 26, 2005, 09:34:53 PM »

 วาดะห์    มาโป๊ะสลาลู   หมายความว่า  วาดะห์  GO HELL
บันทึกการเข้า

ไม่กลมกลืน  อย่าลืมความกลมเกลียว
แม้แตกต่าง       อย่าอ้างให้แตกแยก
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #36 เมื่อ: เมษายน 26, 2005, 09:43:35 PM »

ครับ พี่ barby เท่าที่พอทราบมาก็เป็นอย่างนั้นครับ ... หากถึงเวลาหนึ่ง ทฤษฎีไม่พอต้องปฏิบัติด้วย
บันทึกการเข้า
sobpong
Full Member
***

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 150


« ตอบ #37 เมื่อ: เมษายน 26, 2005, 10:36:16 PM »

Re: “วาดะห์”หนุนยกฐานะจ.ชายแดนใต้เป็น“เขตปกครองพิเศษ”
ซ ตอบ #29 เมื่อ: วันนี้ เวลา 12:06:50 PM
    อ้างจากWatt

ต้องอธิบายให้กระจ่างครับ
เขตปกครองพิเศษ ---> ปกครองด้วยตัวเอง มีประมุข แยกอิสระ แต่ยังขึ้นกับประเทศ เช่น จีนกับฮ่องกง อเมริกากับรัฐต่างๆ หรือมาเลเซียมีรัฐต่างๆ
เขตปกครองตนเอง---> ปกครองโดยมีการเลือกผู้นำท้องถิ่นเอง โดยมีประชาชนในท้องที่เลือก เหมือน พัทยา กรุงเทพฯ ลักษณะเป็นนคร
มันคนล่ะความหมายนะครับ แต่กลุ่มวาดะห์คงหมายถึงอันแรกมากกว่า บอกได้คำเดียว น่ากลัวครับ


ใจเย็นๆ  ครับ
ผมใช้ความรู้ด้านรัฐศาสตร์ ( การปกครอง ) และประวัติศาสตร์ที่เคยรับ
ปริญญาบัตรจากหัตถ์พระเทพฯ มาอย่างละใบแต่นานมากแล้ว 
 และค้นด้วยGoogle  3  ชั่วโมง    สรุปออกมาเป็นตัวอย่างจากของจริง
ตรงกันข้ามกับการอธิบายข้างบนดังนี้  ( ผิดถูกบ้างขออภัย)


เขตปกครองพิเศษ
      มีฐานะเดียวหรือใกล้เคียงกับเทศบาล    พื้นที่ค่อนข้างเล็ก

ลาว     มี 2 เขตปกครองพิเศษ (กำแพงนครเวียงจันทน์  และไซสมบูน)
ไทย    กรุงเทพมหานครและพัทยา   
จีน     เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ( ผู้ว่าราชการเกาะฮ่องกงไม่มีฐานะ
       เป็นประมุขของรัฐ    เป็นข้าหลวงที่แต่งตั้งจากจีน หรือเลือกตั้ง
       ชื่อก็บอกไว้แล้ว ) และ  เขตปกครองพิเศษมาเก๊า
       ทั้งสองเขตเป็นเขตปกครองพิเศษทางเศรษฐกิจ  เป็นเสรีนิยมแตก
       ต่างจากจีนแดงที่เป็นคอมมิวนิสต์
อเมริกา  District of Columbia   
                        ฯลฯ


เขตปกครองตนเอง
        มีฐานะเทียบเท่ามณฑล
จีน    ซึ่ง เป็นการปกครองท้องถิ่นในเขตที่ชนพื้นเมืองมิใช่ชาวฮั่น 
      มี 5 เขต   คือ
     1. เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน (เน่ยเหมิงกู่)
     2. เขตปกครองตนเองกว่างซี Guangxi Zhuang   
        Autonomous Region     
     3. เขตปกครองตนเองทิเบต Tibet Autonomous Region     
       ปกครองโดยรัฐบาลจีน
     4. เขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย Ningxia Hui Autonomous   
        Region
     5. เขตปกครองตนเองซินเจียง (ซินเกียง)
        5  เขตนี้กินพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60   ของแผ่นดินจีน


        มีฐานะต่ำกว่ารัฐ
 ออสเตรเลีย   มณฑลนครหลวงออสเตรเลีย (Australian Capital
         Territory หรือ ACT)มณฑลตอนเหนือ( Northern
         Territory)   กินพื้นที่ 1 ใน 5 ของออสเตรเลีย
 พม่า     รัฐฉาน  ( ในอดีตมีฐานะเป็นรัฐ   ปัจุบันเมียนม่าเป็น
         รัฐรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง    เช่นไทยไปเรียบร้อยแล้ว )
             ฯลฯ

          มีฐานะเป็นรัฐ

        รัฐต่างๆ ของอเมริกา   มาเลเซีย   มณฑลต่างๆ ของแคนาดา 
 cantonของสวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ  ประเภทนี้มีประมุข  เป็น ผู้ว่า ฯ  king 
  นายก  และมีสภาครับ


           เขตปกครองตนเองส่วนใหญ่มีพื้นที่ค่อนข้างมหาศาลเมื่อ
เทียบกับเขตปกครองพิเศษ
                   
วิญญูชนอย่าเพิ่งกลัวครับ สยามยังอยู่ยั้งยืนยงมามากว่า 700 ปี แล้วครับ
ประเทศไทยต้องมีทางออก พวกเราเอาใจช่วยกันอยู่แล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 26, 2005, 10:41:21 PM โดย sobpong » บันทึกการเข้า
Mr_Watt
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #38 เมื่อ: เมษายน 27, 2005, 12:48:42 AM »

ขอบคุณครับท่านsobpong 
ผมอาจจะสลับกันนะครับ จบรัฐศาสตร์มานานกว่า 10 ปี ต้องขอขอบคุณท่านด้วยนะครับสำหรับข้อมูล
แต่สำหรับเรื่องภาคใต้ผมว่าจะเรียกว่าอะไร? อย่างไร? จะเป็น เขตปกครองพิเศษ หรือเขตปกครองตนเอง
ผมกลัวจะเข้าแนวทางของ "หะยีสุหลง" ชื่อนี้สำคัญอย่างไร?กับกลุ่มวาดะห์หลายท่านคงทราบดีนะครับ
สุดท้ายอยากจะฝากไว้นะครับ "กรรมเป็นเครื่องส่อถึงเจตนา ครับ"
บันทึกการเข้า
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #39 เมื่อ: เมษายน 27, 2005, 07:50:15 PM »

ผมไม่เคยเรียนรัฐศาสตร์
แต่อยากบอกว่า การใช้ทฤษฏีและวิชาการโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง คล้ายๆกับพื้นฐานการศึกษาของบ้านเรา
ที่ผู้มีอำนาจมักไปดูงานต่างประเทศที่มีความเจริญด้านการศึกษาและนำมาใช้โดยไม่คำนึงถึงฐานรากของเรา

เปรียบได้ดังจะปลูกต้นไม้สักต้น ตามที่ได้เห็นมา โดยมองเพียงแค่ความเจริญเติบโตที่เป็นปัจจุบัน ขาดความคิดที่ว่า
ก่อนปลูกต้นไม้สักต้นต้องดูว่าพันธ์นั้นๆเหมาะกับภูมิอากาศ ภูมิประเทศแบบใด ก่อนลงมือปลูกต้องเตรียมอะไรบ้าง  เช่น
ปรับสภาพพื้นดิน ชนิดปุ๋ยที่ต้องใช้ ความถี่ในการรดน้ำ ฯลฯ   หากเรามองเพียงปลายทางว่ามันใหญ่โต ให้ร่มเงา ร่มรืน เพียงอย่าง
เดียว แต่ไม้นั้นไม่เหมาะกับบ้านเรา  ต้นไม้ต้นนั้นต้องกลายพันธ์ หรือตายไปในที่สุด

ผู้มีอำนาจมักมองที่ปลายทาง  แต่ไม่พยายามที่จะสร้างพื้นฐานหรือรากฐานให้มั่นคงก่อน..........บอกได้ว่าเมืองไทยน่าเป็นห่วง......
บันทึกการเข้า

                
sobpong
Full Member
***

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 150


« ตอบ #40 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2005, 09:41:31 PM »

 อ้างจาก PU 45
 Re: “วาดะห์”หนุนยกฐานะจ.ชายแดนใต้เป็น“เขตปกครองพิเศษ”
« ตอบ #39 เมื่อ: เมษายน 27, 2005, 07:50:15 PM »
    
ผมไม่เคยเรียนรัฐศาสตร์
แต่อยากบอกว่า การใช้ทฤษฏีและวิชาการโดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง คล้ายๆกับพื้นฐานการศึกษาของบ้านเรา
ที่ผู้มีอำนาจมักไปดูงานต่างประเทศที่มีความเจริญด้านการศึกษาและนำมาใช้โดยไม่คำนึงถึงฐานรากของเรา

                        ฯลฯ
ผู้มีอำนาจมักมองที่ปลายทาง  แต่ไม่พยายามที่จะสร้างพื้นฐานหรือรากฐานให้มั่นคงก่อน..........บอกได้ว่าเมืองไทยน่าเป็นห่วง......


ประทับใจครับ หัวอกเดียวกัน
           การปฏิรูปการศึกษาคือการเปลี่ยนหน้าปกของตำราเรียนเล่มเดิมและบังคับครูให้หัด
ก็อบปี้เอกสารและถ่ายเอกสารเล่น  เวลาสอนเด็กกว่า 40 %  หายไปกับการปฏิรูปการศึกษา    เด็กจบ ป. 6 อ่านหนังสือพิมพ์หัวสีไม่ออกก็ช่างหัวสมองขี้เลื่อยของเด็กมัน
           ที่น่าเอ็นดูคือการให้องค์กรเล็กมีฐานะเป็นนิติบุคคลและขึ้นตรงต่อเขตการศึกษา
เสมือนให้หมู่บ้านขึ้นตรงต่อจังหวัด   ว้าเหว่น่าดูครับ  สงสารหัวอกคนแก่ต้องมาเรียนอินเตอร์เน็ต
ก่อนเกษียนเพื่ออ่านเมล์หนังสือสั่งการในเว็บของเขตการศึกษา  ลูกกะตาก็ไม่ค่อยจะเจอกับยายแล้ว


           ด้านการปกครองก็มีเรื่องชวนหัวอย่างนี้เหมือนกัน   ยกตัวอย่าง  การแก้ พ.ร.บ. อบต.  พ.ร.บ. เทศบาล    และ อบจ.  ให้มีการเลือกตั้งนายกโดยตรง  ทั้งๆ ที่เจตนารมณ์หนึ่งของการปกครองท้องถิ่นก็คือ     การสอนให้ประชาชนเข้าใจถึงวิถีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยรูปแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข    ไทยรักใครไม่ชอบวิธีเลือกนายกฯโดยอ้อมเพราะต้องจ่ายเบี้ยหัวแตกมากเกินไป     ในการสนับสนุน หัวคะแนนสักหนึ่งคนให้มีตำแหน่งทางราชการทำมาหากิน     เลือกตั้งโดยตรงจ่ายท้องถิ่นละคนเท่านั้นคือจ่ายว่าที่นายกฯ        บทสรุปสุดท้าย   ไทยรักใครไม่ประสบผลสำเร็จในการแทรกแซงท้องถิ่น    เช่นการเลือกตั้งนายกเทศบาลนครหาดใหญ่   กทม. ฯลฯ
            การยุบเลิก ศ.อบต.    มาจากความไม่รู้จักหวันส่วนหนึ่ง  รับแต่ข้อมูลเฉพาะบรรดา
ลิ้วล้อราคาถูกส่วนหนึ่ง   ประการสำคัญไม่ใช่นโยบายแม้ว   องค์กรที่มีบทบาทต่อประชาสังคมห้าจังหวัดภาคใต้มากว่า 20 ปี แล้วจึงถูกยุบเลิกเสีย    เมื่อมีเหตุจำเป็นต้องจัดตั้งขึ้นมาใหม่ใช้ชื่อเดิมย่อมไม่สวย    และมันต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอาจสำเร็จหรือไม่สำเร็จเลยก็ได้   
           หลายๆ เรื่อง เช่น ระบบผู้ว่า  โอ้อีซี้   CEO ฯลฯ
           ในทางการเมืองเราลอกฝรั่งเศสมาใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2435ครั้นยุคปฏิรูประบบราชการไทยครั้งแรกของรัตนโกสินทร์แล้ว    ก็รูปแบบมณฑลเทศาภิบาล   เมือง ( จังหวัด )  อำเภอ หมู่บ้านนี่แหละ ครับ   มณฑลเทศาภิบาลก็มายกเลิกสมัยประชาธิปไตยแล้วนี่เอง   
           การปกครองพิเศษครั้งแรกของไทยก็เริ่มแรกที่ กทม. ในปี  พ.ศ. 2515 กว่าระบบผู้ว่า กทม.จะเข้าที่ก็ล้มลุกคลุกคลานมาจนถึง พ.ศ. 2528   ที่พลตรีจำลอง  ศรีเมืองได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าครั้งแรก นั้นเอง ( แต่เป็นผู้ว่าที่มาจากการเลือกตั้งคนที่สองของ กทม. )   หริอเมืองพัทยาก็มีอายุใกล้จะ 20 ปีแล้ว
           การอยู่รอดขององค์กรเป็นเวลาที่ยาวนาน    ย่อยจะสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็น   
เพราะมันยังตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดีและยังเติบโตได้อยู่    ไม่ใช่เพียงเพราะนโยบายแม้วหรือไม่แม้ว        แต่มีข้อสังเกตก็คือมันโตใหญ่มหาศาลขึ้นมาได้ง่ายๆ  เกิดขึ้นใหม่ หรือหายไปเลยมักเกิดขึ้นในยุคที่ผู้นำค่อนข้างมีอำนาจเท่านั้น       และก็เพื่อให้บรรดาลูกน้องใกล้ชิดได้มีงานทำเสียด้วยซิครับ   …. หัวเราะร่าน้ำตาริน

แถมนิดหนึ่งครับ  ให้ทุกท่านช่วยกันพิจารณา

คำขอ 7 ประการของหะยีสุหลง
1.ขอให้ปกครอง 4 จังหวัดนี้เป็นแคว้นหนึ่ง โดยมีผู้ดำรงตำแหน่งอย่างสูงให้มีอำนาจในการศาสนาอิสลาม  มีอำนาจแต่งตั้งและปลดข้าราชการออกได้  ผู้ดำรงตำแหน่งนี้ต้องเป็นมุสลิมใน 4 จังหวัด   
2.การศึกษาในชั้นประถมต้นจนถึงชั้นประถม 7ให้มีการศึกษาภาษามลายูตลอด
3.ภาษีที่เก็บได้ให้ใช้ภายใน 4 จังหวัดเท่านั้น  ( รวมจังหวัดสตูลด้วย: sobpong)
4.ในจำนวนข้าราชการทั้งหมดขอให้มีข้าราชการชาวมลายูร้อยละ 80
5.ขอให้ใช้ภาษามลายูควบกับภาษาไทยเป็นภาษาราชการ
6.ให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดมีเอกสิทธิ์ออกระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติการศาสนาอิสลามโดยความเห็นชอบของผู้มีอำนาจสูงสุด
7.ให้ศาลรับพิจารณาตามกฎหมายอิสลามแยกจากศาลจังหวัด  มีโต๊ะกาลี  ( กอฎีหรือดาโต๊ะยุติธรรม ) ตามสมควรและมีเสถียรภาพในการพิจารณาชี้ขาด

ข้อที่ยังไม่ได้
         ข้อ 1  เป็นความฝันหลังมณฑลปัตตานีถูกยกเลิก   14 ปี   ( แต่มี ศ.อบต.แทน โดยมีปลัด กระทรวงมหาดไทย หรือรองปลัดฯ เป็น ผอ.   หน่วยนี้ใหญ่กว่าจังหวัดถ้าสมุนของผู้มีอำนาจได้คุมตำแหน่ง อ่ะ ๆ ๆ  ยุบแล้ว ต้องใช้ชื่อใหม่)  2 และ 5 

ข้อที่ได้แล้ว  รวมได้แล้วบางส่วน
         ข้อที่ 4 ,6 และ 7
ข้อที่ไม่สนใจแล้ว
         ข้อ 3
ขอบคุณครับ
  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
The Kingdom Of Gun
คนจะงามงามที่จิต
Full Member
***

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 136


« ตอบ #41 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2005, 09:52:38 PM »

พวกนอกรีด
บันทึกการเข้า

เป็นไปไม่ได้ ทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำ
Mr_Watt
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #42 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2005, 11:09:42 PM »

 Huh ผมขอถามหน่อยครับ 7 ข้อที่ขอจะเรียกว่าเขคปกครองพิเศษ หรือเขตปกครองตนเอง ครับท่าน
และจริงๆแล้วประชาชน 3 จังหวัด เห็นดีเห็นงามกับ 7 ข้อดังกล่าว หรือมีแต่พวกเดียวกันเองคิดและเอาประชนมาอ้าง Huh
บันทึกการเข้า
sobpong
Full Member
***

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 150


« ตอบ #43 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2005, 09:16:43 AM »

อ้างจาก Watt

 Re: “วาดะห์”หนุนยกฐานะจ.ชายแดนใต้เป็น“เขตปกครองพิเศษ”
ซ ตอบ #42 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 11:09:42 PM ป
    
  ผมขอถามหน่อยครับ 7 ข้อที่ขอจะเรียกว่าเขตปกครองพิเศษ หรือเขตปกครองตนเอง ครับท่าน
และจริงๆ   แล้วประชาชน 3 จังหวัด เห็นดีเห็นงามกับ 7 ข้อดังกล่าว หรือมีแต่พวกเดียวกันเองคิดและเอาประชนมาอ้าง


เป็นการปกครองตนเองระดับต่ำว่ารัฐหรือใกล้เคียงกับรัฐก็ได้ครับขึ้นกับการให้น้ำหนัก 3 ข้อนี้
ข้อ 1 ประมุขหรือผู้บริหารสูงสุดในมณฑลมีอำนาจทั้งทางการบริหารและการศาสนาในคนเดียวกัน
         อาจเป็นแบบรัฐอิสลามในอาหรับปัจจุบันก็ได้
ข้อ 3  ภาษีที่เก็บได้ให้ใช้ภายใน  4 จังหวัดเท่านั้น  อิสระทางการคลังทีเดียว
ข้อ 4  การมีข้าราชการมลายูร้อยละ 80  นั้น  ถ้ารวมทหารตำรวจ ก็เป็นรัฐอิสระสบายเลยครับ

         การร้องขอ เรียกร้องอะไรมักเรียกร้องให้มากไว้ก่อนเพื่อการต่อรอง
การร้องขอเมื่อเกือบ  50 ปีที่แล้ว  ซึ่งเป็นช่วงจัดระเบียบในอาหรับและดินแดนอาณานิคมในเอเชียก็เช่นเดียวกัน
  ดังนั้นคณะผู้ขอซึ่งมีหะยีสุหลงเป็นหัวหน้าคณะต้องขึ้นศาลด้วยข้อหากบฏ    แต่ท่านถูกจำคุกด้วยประการอื่น
มิใช่จากคำขอ 7 ประการ
         เป็นความคิดของคณะผู้นำที่นิยมอิสลามแบบจารีต ( วะอาบีย์)  สังคมอิสลามปัจจุบันยังเป็นสังคม
เชื่อผู้นำอยู่ครับ  ดังนั้นเชื่อว่าประชาชนเขาคงเฉยๆ   เพราะยังไม่เดือดร้อนอะไร    ชาวบ้านที่นี่เขาจะโวยวาย
เมื่อเขาเดือดร้อนเท่านั้น
          ใครสนใจเรื่องนี้ดูจาก  “หะยีสุหลง  อับดุลกาเดร์ กบฏ..หรือวีรบุรุษแห่งสี่จังหวัดภาคใต้
“ เป็นวิทยานิพนธ์  ปริญญาโท ม.ศิลปากร  ของท่านเฉลิมเกียรติ ขุนทองเพชร
 ผู้ตรวจราชการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสตูล  ท่านเป็นไทยพุทธจากอำเภอปะนาเระ  จังหวัดปัตตานี 
ร้านหนังสือใหญ่ๆน่าจะยังมีขาย
          แต่การร้องขอในปัจจุบันอาจจะมีความแตกต่างจากยุค 2490 มากครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2005, 09:41:32 AM โดย sobpong » บันทึกการเข้า
สหายอ๋อง เซียนปลาซิว
จริงใจ บริสุทธ์ใจ แล้วจะแคล้วคลาด จากภัยทั้งปวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 657
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9377


คบหมาเป็นเพื่อน ดีกว่าคบเพื่อนหมาๆ


« ตอบ #44 เมื่อ: พฤษภาคม 03, 2005, 11:07:04 AM »

ผมจบแค่ม.6ไม่ได้จบ ป.ตรี(เรียนไม่จบ) แต่แค่ฟัง  มอง  คิด  ก้อเครียดครับ  คณะกรรมการที่ตั้งกันเข้ามาแก้ปัญหา  และกรรมการสมานฉัน  มีกี่คนที่เป็นคนพื้นที่  พวกคุณมึงทั้งหลายมาด้อมมองๆแล้วกลับมานอนที่หาดใหญ่  แล้วมาบอกว่ารับทราบปัญหาในพื้นที่ดีกว่า  ทหาร  ตำรวจ  ที่เขาทำงานทุกวัน  แล้วยังดันไปป่าวประกาศว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ผิด  ใอ้พวกเศษขยะแผ่นดินพวกนั้นถูกกระทำ  พี่ผม  น้าผม  น้องชายสองคนเคยร้องให้แบบไม่เหลือคราบของทหารมาแล้วเพราะพวกกรรมการสถุน  สุดท้ายต้องขอโทษถ้าคำไดรุนแรงไปบ้าง (มันเหลืออดครับ) 
จากคนที่อยู่ไกล้ และ รับรู้  เหตุการณ์บางส่วน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.106 วินาที กับ 18 คำสั่ง