ผมไม่ใช่ช่าง แต่การแก้ปัญหาโดยใช้ซิลิโคน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ไม่ถาวรครับ เพราะวิลิโคนจะอยู่ได้ระยะหนึ่งมันหมดอายุก็จะรั่วต่อ
แต่ถ้าช่างใช้วิธีอุดด้วย ซิลิโคน ไม่นาน เราก็จะต้องซ่อมทั้งหลังคาและฝ้าอีก
เอ่อ...ปวดหัว
ซิลิโคน ... จริงๆแล้วซิลิโคนมีหลายประเภทตามแต่วัตถุประสงค์การใช้งาน สำหรับในงานก่อสร้างนั้นซิลิโคนจะมีอยู่ 2 ประเภทคือ ประเภทที่เซ็ตตัวด้วยอากาศ (Air Cure) และประเภทที่เซ็ตตัวด้วยกรด (Acid Cure) ซึ่งจะมีส่วนผสมของกรดอยู่ (พวกนี้จะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว) ไม่แนะนำให้ใช้กับงานโลหะ แต่ข้อดีคือแห้งเร็ว
ซิลิโคนสามารถยึดติดกับพื้นผิวได้ทุกประเภท ยกเว้นพลาสติก (สามารถติดได้ แต่ต้องมีน้ำยารองพื้น และการเตรียมผิวที่ดี) ทนอุณหภูมิได้สูงถึง 200 องศาเซสเซียส การยึดหยุ่นต่ำประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ อยู่กันเป็น 10-15 ปีครับ
อีกประเภทที่นิยมใช้กันคืออะคริลิก ... ข้อดีคือถูก แต่จะหดตัว ยืดหยุ่นไม่ดี
สำหรับวัสดุยาแนวที่บริษัทซ่อมแซมดีๆ ใช้กันจะเป็นพวกโพลียูรีเทน หรือโพลีซัลไฟด์ครับ ... ดีทุกอย่างสำหรับงานก่อสร้าง (รายละเอียดมันเยอะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
สำหรับอาการรั่วที่หลังคา ... ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงครับว่ามาจากอะไร
ผมว่าปัญหาฝ้า (น่าจะหาครีมทากันแดดป้องกันมากกว่า ) ... ฮิฮิ กรณีฝ้าแผ่นเรียบใต้หลังคา ผมว่าน่าจะมีช่องเปิดขึ้นไปใต้หลังคาได้นะครับ เวลาฝนตกควรปีนขึ้นไปดูตำแหน่งน้ำรั่ว ผมเคยเห็นช่างมั่วๆ เล่นยิงซิลิโคนทุกแนวกระเบื้อเลยสุดท้ายก็ไม่หายเพราะไม่ได้ทำความสะอาดหลังคา ซิลิโคนก็ไปเกาะบนผิวฝุ่น สุดท้ายก็ลอกออก ... เวรจริงๆ
ปัญหาอาจมาจาก ...
1. ระยะเลื่อมระหว่างแผ่นน้อยไป ทำให้เวลาที่ฝนตก เกิดปรากฎการณ์ของแรงตึงผิวของน้ำที่ผิวสัมผัสของกระเบื้อง ทำให้เกิดการดูดน้ำเข้าไประหว่างแผ่นกระเบื้อง (นึกภาพน้ำในหลอดกาแฟ จะอยู่สูงกว่าระดับผิวน้ำเสมอ ยิงหลอดยิ่งเล็กระดับก็ยิ่งสูง) ถ้าระยะเลื่อมน้อยไปโอกาสน้ำรั่วก็สูง
2. องศาของกระเบื้องน้อยเกินไป น้ำจะรั่วไปบางครั้งตามกระแสลม และความแรงของฝน
3. การแตกร้าวของกระเบื้องเอง หรือรูน๊อตยึดต่างๆ
4. แผงบังตรงแผ่นกระเบื้องตัวบนสั้นไป หรือใช้ปูนพอกอัดตรงกระเบื้องกับตัวบ้าน และปูนเกิดรอยร้าว
5. อื่นๆ อีกมากมาย (เฉลียง ... อย่าลืมไปชมครับ)
ขอบคุณครับ ... สำหรับถ้าปัญหาหน้าเป็นฝ้า รอยเหี่ยวย่น รอยด่างดำ ตีนกา แผลเป็น ไม่รับปรึกาครับ ... ฮิฮิ