38Super & 9+P & 9+P+

[Prinya T]

กระสุนทั้ง3ขนาด แบบไหนแรงและเร็วกว่ากัน มีอำนาจหยุดมากกว่ากันครับ ลูก9+P+ใช้ในซีแซดกับบราวนิ่งหรือเอชเคพี7ได้หรือเปล่าครับ

[yod - รักในหลวง ครับ]

.38 ซูเปอร์ ให้ความเร็วและพลังงานมากกว่า 9 มม+P+
.38 ซูเปอร์ หัว 125 G ให้ความเร็ว 1240 พลังงาน 427
ส่วนอำนาจหยุด  พูดยากครับ เพราะด้วยองค์ประกอบ อีกหลากหลาย
แต่..ถ้าเข้า โซนกลาง  น่าจะนอนวัด ทั้ง 2 แบบ

[51]

กระสุนในขนาด 9 มม. พาราฯ
แบบ Hydra shok หัวกระสุนหนัก 124 เกรน ความแรงระดับ +P+
ถ้ายิงจากปืนความยาวลำกล้อง 4 นิ้ว
ให้ความเร็ว ณ ปากลำกล้องที่  1,170 ฟุต/วินาที
ให้พลังงาน ณ ปากลำกล้องที่     375 ฟุต/ปอนด์

ส่วนกระสุนในขนาด .38 Super
แบบ STHP หัวกระสุนหนัก 125 เกรน ความแรงระดับ +P
ถ้ายิงจากปืนความยาวลำกล้อง 5 นิ้ว
ให้ความเร็ว ณ ปากลำกล้องที่  1,240 ฟุต/วินาที
ให้พลังงาน ณ ปากลำกล้องที่     427 ฟุต/ปอนด์

กรณีเปรียบเทียบ
ในน้ำหนักของหัวกระสุนต่างกันเพียง 1 เกรน
แบบของหัวกระสุนเป็น Hollow point คล้ายกัน แตกต่างกันตรงที่ Hydra shok มีแกนแข็งอยู่ตรงกลาง
ความยาวลำกล้องต่างกัน 1 นิ้ว
ให้ความเร็ว ณ ปากลำกล้องต่างกันเพียง 70 ฟุต/วินาที
ให้พลังงาน ณ ปากลำกล้องต่างกันเพียง 52 ฟุต/ปอนด์

ซึ่งถ้านำกระสุนในขนาด 9 มม. พาราฯ +P+
ไปยิงในปืนลำกล้องยาว 5 นิ้ว ก็อาจจะได้ความเร็วเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกัน ถ้านำกระสุนในขนาด .38 Super +P
ไปยิงในลำกล้องปืน 4 นิ้ว ก็อาจจะได้ความเร็วของหัวกระสุนลดลงจาก 1,240 ฟุต/วินาที

ความรู้สึกในแรงสะบัดของปืน...
ทั้งน้ำหนักของปืนและลำกล้องปืนในขนาด 9 มม. พาราฯ ซึ่งสั้นกว่า 1 นิ้ว
อาจมีมากกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ .38 Super



จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

[51]

ที่นี้ เรามามองกันที่ว่า...
ถ้าท่านใช้ปืนในขนาด 9 มม. พาราฯ ท่านสามารถใช้กระสุนในความแรงระดับ +P+ ได้หรือไม่

คำ post ต่อ ก็คือ ได้ครับ...
ถ้าไม่มองไปที่ความสึกหรอของปืนที่จะมีเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

แต่เรามามองที่ปืนขนาด 9 มม. พาราฯ
จุดเด่นของปืนในขนาดนี้ มิใช่ความแรง ที่เราเรียกว่า โป้งเดียวจอด หรือโป้งเดียวทรุด
เนื่องมาจาก พื้นที่หน้าตัดของหัวกระสุนมีน้อย
หัวกระสุนมีความเร็วสูง ให้อำนาจทะลุทะลวงได้ดี
แต่ก็..มิได้หมายความว่า จะถ่ายเทพลังงานจากหัวกระสุนทั้งหมดไปยังเป้าหมายได้ดีเหมือนกระสุนในขนาด .45ACP

ขณะที่แรงสะบัดของปืนในขนาด 9 มม. พาราฯ
ย่อมมีมากขึ้น...เมื่อท่านใช้กระสุนในความแรงระดับ +P+

การยิงซ้ำในนัดต่อไป...
ต้องอาศัยความชำนาญในการควบคุมปืนมากขึ้น
ท่าทางการยิงต้องมั่นคง...มากขึ้นกว่าปกติ  จากที่เคยซ้อมยิง
ความเร็วของหัวกระสุนที่สูงเพิ่มขึ้น ความเบี่ยงเบนมากขึ้น
ส่งผลต่อความแม่นยำในวิถีของหัวกระสุน เมื่อระยะยิงเท่าเดิม (จากที่เคยซ้อม)

จุดเด่นของกระสุนในขนาด 9 มม. พาราฯ
ก็คือ ในน้ำหนักที่เท่ากัน สามารถขนหรือบรรจุกระสุนได้มากกว่ากระสุนในขนาด .45ACP
การควบคุมปืนในการยิงซ้ำ สามารถทำได้ง่ายกว่า

ผมแนะให้ท่านใช้กระสุนจริงติดปืน ที่เหมือนกับกระสุนจริงที่ท่านซ้อมยิง ครับ
แต่มิได้หมายความว่า ให้ท่านติดกระสุนซ้อมยิง ไว้ในปืนนะครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
 

[51]

สำหรับในส่วนของ การหยุดยั้ง นั้น

ในกรณีที่กระสุนในขนาด .38 Super มีความเร็วและพลังงาน มากกว่า
ทางทฤษฎี ย่อมที่จะสร้างโพรงอากาศชั่วคราวภายในเป้าหมายได้ดีกว่ากระสุนขนาด 9 มม. พาราฯ อยู่แล้วครับ

แต่ทั้งนี้...ก็มิได้หมายความว่า โพรงอากาศชั่วคราวที่เกิดในช่องท้องของเป้าหมายซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า
กับโพรงอากาศชั่วคราวที่เกิดบริเวณต้นขา (ขานำ) ของเป้าหมาย ซึงมีขนาดเล็กกว่า
เนื่องจาก สรีระโครงสร้างของต้นขาที่มีกระดูกและช่องท้องซึ่งไม่มีกระดูกนั้น
จะให้อำนาจการหยุดยั้งที่แตกต่างกันนะครับ
และโพรงอากาศชั่วคราวขนาดเดียวกัน  ก็มิได้มีอำนาจการหยุดยั้งต่อเป้าหมายที่เหมือนกัน เช่นกันครับ

หากเรามองที่หยุดยั้ง...คือหยุดและยับยั้ง มิใช่ ถึงแก่ชีวิต


การวางตำบลกระสุนตกบนเป้าหมาย
เป็นเรื่องที่เรา...ผู้ใช้งาน ให้ความสำคัญมากกว่าอื่นใด
(เหนือไปจากกระสุนด้านหรือปืนติดขัด)

กระสุนในขนาด .44 Magnum ยิงโดนติ่งหูก็ แปะเอี่ย ครับ

แต่เราก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า...กระสุนในปืนของเรา...มิได้บรรจุอยู่เพียงนัดเดียว นะครับ
เว้นแต่ท่านจะใช้ลูกซองสั้น ครับ คริ คริ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

[51]

หากท่าน Prinya T ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม
ลอง Click ที่นี่ดูครับ...

อำนาจหยุดยั้ง


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

[ตูรุส]

อุ้ย..สนับสนุนภาพปืน ที่ใช้ยิงกระสุน .38 super +p

[51]

.33 หรือ .38 Super ครับ ท่าน turus

[ตูรุส]

หึ หึ...บราวนิ่งซิลเวอร์โครม ..ล่ะ

[Ro@d - รักในหลวง]

... อยู่บ้าน .๔๕ อยู่ใกล้ที่สุด.
    ออกนอกบ้าน. ๙ มม. ได้เที่ยวบ่อยที่สุด.
    เที่ยวป่า เป็นทีของ .๓๘ super  บ้าง. 

    ผมเห็นด้วยกับ คุณ ๕๑  .. กระสุนแรง มันเป็นการช่วยอุ้มบริษัทผลิตกระสุน
    เสียมากกว่า ..  ปืนโทรมอีกต่างหาก .. 

    หากยังสงสัย..  ลองยิง fmj ๑๒๔ Gr เปรียบเทียบกับ fmj ๑๑๕  Gr  ใน Glock ๑๙
    จะเห็นรีคอยด์ และการควบคุมปืน มันต่างกัน. 

[Ro@d - รักในหลวง]

...  .๓๓ super กระบอกเดียว เที่ยวทั้งเวป. เหมือนใคร. น้า. 

[Ro@d - รักในหลวง]

... เหมือน คุณ ๕๑  เอนเอียง ไปทาง ๙ มม.
    คุณ turus   กับผม เอียง มาทางฝั่ง .๓๘ super ครับ
   
    ยิ่งถ้าได้ยิง ๑๓๐ +P Gr ปลายตัด ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานแล้ว  จะติดใจ. 
   
   

[ตูรุส]

... เหมือน คุณ ๕๑ เอนเอียง ไปทาง ๙ มม.
 คุณ turus กับผม เอียง มาทางฝั่ง .๓๘ super ครับ
 
 ยิ่งถ้าได้ยิง ๑๓๐ +P Gr ปลายตัด ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานแล้ว จะติดใจ.
 
 

ครับผม...ก็ต้องขอบคุณพี่โรด...ด้วยครับ ที่แนะนำครับ

ตอนนี้ประจำการอยู่ 2 กล่อง แล้ว สำหรับ วินเชสเตอร์ 130 เกรน FMJ ปลายตัด + พี

... .๓๓ super กระบอกเดียว เที่ยวทั้งเวป. เหมือนใคร. น้า.

เห่อ..และรักมาก..เลยครับ..อิ อิ

[51]

จากประสบการณ์จริง มิใช่ประสบการณ์ยิง นะครับ คริ คริ
ผมมีตัวอย่างสองกรณี...

กรณีแรก...เป้าหมายเป็นชายวัยไม่เกิน 30 ปี
ถูกกระสุนในขนาด 9 มม. พาราฯ ของ winchester  (จากปลอกกระสุนที่ตกในที่เกิดเหตุ) จำนวน 2 นัด
1 ใน 2 ถูกกระสุนที่บริเวณ ต้นแขนขวา รอยกระสุนเฉี่ยวต้นแขน เป็นแผลฉีกขาดเฉียงลงไปทางข้อศอก
บาดแผลยาวประมาณ 3-4 นิ้ว
1 ใน 2 ถูกกระสุนบริเวณเหนือเข็มขัดไปประมาณไม่เกิน 2 นิ้ว (เป้าหมายสวมกางเกงยีนส์ขายาว)

พยานให้การว่า ได้ยินเสียงตะโกนด่ากัน จึงหันไปดู
และเห็นเป้าหมายวิ่งออกจากซุ้มทานอาหาร (มุงด้วยหลังคาจาก คล้ายดอกเห็ด)
พร้อมถือขวดเบียร์และวิ่งตรงเข้าใส่คู่กรณี (คู่กรณีอยู่ในซุ้มทานอาหารคล้ายกัน ห่างกันประมาณ 8-10 เมตร)
จากนั้น พยานได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 2 ครั้ง
และเห็นเป้าหมายล้มลงทันที....ในลักษณะนอนคว่ำ
หลังสิ้นเสียงปืนคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเว้นเป้าหมาย ต่างแยกย้ายกันหลบหนี

ผมไปถึงที่เกิดเหตุหลังจากได้รับแจ้งจากผู้เห็นเหตุการณ์ประมาณ 10 นาที
เป้าหมายได้สิ้นใจแล้ว..จึงมิได้มีการเคลื่อนย้ายใด ๆ ต่อเป้าหมาย
เป้าหมายมิได้ถูกเคลื่อนย้ายก่อนผมไปถึง เช่นกัน สังเกตจากรอยเลือดภายนอกบาดแผล
และรอยเลือดตกบริเวณหน้าท้องใต้ผิวหนังของเป้าหมาย (หลังจากพลิกศพแล้ว หลังเกิดเหตุประมาณ 1 ชม.)
รวมถึงรอยเท้าของเป้าหมายมิได้มีการถูกลากหรือพลิกไปมาแต่อย่างใด

ผลการตรวจสอบเป้าหมายโดยแพทย์ ในภายหลัง...พบว่า...
เป้าหมายถูกกระสุนจำนวน 2 นัด และ 1 ใน 2 ไม่พบหัวกระสุนในที่เกิดเหตุ
เมื่อ X-ray เป้าหมาย พบว่า...หัวกระสุนที่เข้าไปบริเวณช่องท้อง (ต่ำกว่าสะดือ) ของเป้าหมายนั้น
ไม่ทะลุออกไป เนื่องมาจากไปติดอยู่บริเวณกระดูกเชิงกรานข้างขวาของเป้าหมาย
และหัวกระสุนแตกออกเป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย 
ทำให้ กระดูกเชิงกรานข้างขวาของเป้าหมาย "แตกออกเป็นชิ้น ๆ และเสียหายมาก" (ตามคำวินิจฉัยของแพทย์)
เป็นสาเหตุให้เป้าหมายทนพิษบาดแผลไม่ไหว เนื่องจากเสียเลือด (เลือดตกใน) 
ส่งผลให้เสียชีวิตก่อนที่จะนำส่ง รพ.

ลักษณะหัวกระสุนที่ฝังอยู่ในตัวของเป้าหมาย จากการผ่าพิสูจน์จากแพทย์ในภายหลัง พบว่า
หัวกระสุนมีลักษณะเป็นเงามันคล้ายแสตนเลสและบางส่วนเป็นตะกั่ว
และเป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย ไม่สามารถทำการพิสูจน์ใด ๆ ต่อไปได้

ลักษณะเป้าหมายในที่เกิดเหตุ
อยู่ในการนอนคว่ำหน้า พื้นที่ที่เกิดเหตุเป็นดินร่วนชุ่มน้ำ ปรากฎรอยเป็นลักษณะคล้ายคนนอนทับ
ไม่ปรากฎรอยเท้าต่อไปของเป้าหมายแต่อย่างใด



กรณีที่สอง...
เป้าหมายเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี นั่งอยู่บนเก้าอี้
ถูกกระสุนขนาด .45ACP ปลอกกระสุนเป็นของ Federal
ปลอกกระสุนตกอยู่ห่างจากเป้าหมาย 5 เมตร 60 ซม. และ 5 เมตรเศษ ๆ  ตามลำดับ (จำไม่ได้ว่าเท่าไร)
บริเวณกกหูข้างขวา (ด้านหลังใบหู) จำนวน 2 นัด รอยกระสุนเข้าแต่ละนัดห่างกันประมาณเกือบ 2 นิ้ว
กระสุนทั้ง 2 นัด ทะลุศีรษะของเป้าหมาย
ก.  1 ใน 2 เข้าบริเวณกกหูข้างขวา ทะลุออกบริเวณฟันหน้าด้านซ้ายของเป้าหมาย
ข.  1 ใน 2 เข้าบริเวณเดียวกัน ทะลุออกหน้าผากด้านซ้ายของเป้าหมาย
ค.  1 ใน 2 แฉลบลงพื้นโต๊ะไม้ (ปรากฎรอยเนื้อไม้แตกและฉีกออกจากกัน)
และแฉลบต่อไปถูกบุคคลที่นั่งเยื้องไปทางฐ้านของเป้าหมายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย บริเวณแขน

ที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนเพียง 1 หัวเท่านั้น ที่สภาพบุบบี้ ไม่สามารถทำการตรวจสอบใด ๆ ต่อไปได้

เป้าหมายเสียชีวิตในทันที ลักษณะนอนคว่ำหน้า โต๊ะและเก้าอี้ที่เป้าหมายนั่งอยู่ล้มลง
ภายหลังมีการพลิกร่างเป้าหมายขึ้น โดยญาติเป้าหมาย  ก่อน จนท.จะถึงที่เกิดเหตุ



ผมเปรียบให้เห็นถึงกระสุนทั้ง 2 ขนาด คือ 9 มม. พาราฯ และ .45ACP จากการยิงจำนวน 2 นัด เท่า ๆ กัน
9 มม. พาราฯ จำนวน 1 นัด ฝังอยู่ในตัวเป้าหมาย ขณะที่ .45ACP ทั้งสองนัดทะลุออกจากตัวเป้าหมาย
แต่เป้าหมายเสียชีวิตและหยุดการเคลื่อนไหว ในทันที่ที่ถูกกระสุน
(ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่า รอยใดเป็นนัดแรก รอยใดเป็นนัดที่สอง)

อานุภาพของกระสุนทั้งสองขนาด แตกต่างกันทั้งหน้าตัดหัวกระสุน
น้ำหนักหัวกระสุน ความเร็วของหัวกระสุน
แต่สามารถทำให้เป้าหมายหยุดการเคลื่อนไหวและเสียชีวิตได้

โดยที่มีสิ่งแตกต่างกันอีกก็คือ ตำบลที่กระสุนตกกระทบบนเป้าหมาย


ต้องขออภัยจริง ๆ นะครับ
ผมไม่เคยพบปลอกกระสุนขนาด .38 Super เลย  จากที่เกิดเหตุ
เลยไม่มีตัวอย่าง .38 Super นะครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น..

 

 
 

[51]

ขณะเดียวกัน ผมก็เคยพบ...เป้าหมายที่มีน้ำหนักประมาณ 110 กก. (ทราบภายหลังจากญาติ)
โดนกระสุนขนาด 9 มม. พาราฯ ทั่วร่างกายจำนวน 13 รู (มิใช่นัด) จากปลอกกระสุนที่เก็บได้ 12 ปลอก
ตำบลกระสุนตกกระจายไปทั่วร่างกายเป้าหมาย ตั้งแต่ เหนือเข่าทั้งสอง จนถึงลำคอ หลัง ไหล่ และแขนทั้งสองข้าง

เป้าหมายรายนี้ เสียชีวิตที รพ. ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม. ครับ
และเสียชีวิตหลังจากที่ผมได้รับแจ้ง เดินทางไปถึง ขนย้ายเป้าหมาย นำส่ง รพ.
ใช้คนหามสลับกันประมาณเกือบ 10 คน (ไม่มีเปล)
ซึ่งรวมเวลาตั้งแต่รับแจ้งจนถึง รพ. แล้ว ประมาณ 40 นาที ครับ
ขณะถึง รพ. เป้าหมายยังไม่หมดสติ พูดจาโต้ตอบได้ในบางครั้ง



ภายหลัง จนท.ตร. จับคู่กรณีได้
พบว่า...คู่กรณีใช้ปืน beretta 92 FS ครับ และยอมรับว่า บรรจุกระสุนไว้จำนวน 15 นัดเต็มแม็กกาซีน
พร้อมทำการยิงในระยะไม่เกิน 5 เมตรแต่ไม่ใกล้กว่า 3 เมตร จนกระสุนหมดแม็กกาซีน ครับ
ก่อนหลบหนีไป...

ในกรณีนี้ ผมเปรียบให้เห็นถึง กระสุนขนาด 9 มม. พาราฯ
จากการยิงทั้ง 15 นัด ที่มีผลต่อเป้าหมาย นะครับ

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...