มาต่อเรื่องเต๊นท์อีกนี๊ด...นะครับ..
การเลือกทำเลกางเต๊นท์ระดับพื้นที่จะกางเต๊นท์ ถ้าเป็นพื้นเรียบในแนวราบไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าพื้นเอียงลาด ให้หันหัวไปทางด้านสูง
มิงั้น เวลานอนจะจับทิศทางตัวเองไม่ได้ กลิ้งไปกลิ้งมา นอนไม่สบาย ผิดธรรมชาติไป พาลจะคอยกลับหัวกลับหางอยู่เรื่อย
แต่แก้ปัญหานี้ได้ โดยต้องเมาให้เต็มที่ ไม่เชื่อถามเขือ แพะ หรือเขือพจน์ได้....

แต่โดยปกติแล้วจะกางบนพื้นที่เอียงลาดเล็กน้อย เผื่อฝนตก น้ำจะได้ระบายผ่านไปได้สะดวกกว่าบนพื้นราบ..
ถ้าไม่มีพื้นเอียงให้กาง ก็ไม่ต้องหอบเต๊นท์ไปกางที่เชิงเขา กางบนที่ราบก็ได้ เดี๋ยวเมาแล้วจะหาเต๊นท์ไม่เจอ...

เมื่อกางเสร็จ ขนสัมภาระเครื่องนอนเข้าเก็บในเต๊นท์เรียบร้อยแล้ว
ห้ามเลยนะครับ
ห้ามเปิดประตูเต๊นท์ค้างไว้เด็ดขาด ไม่ว่าจะมีคนอยู่ในเต๊นท์หรือไม่มีคนอยู่ เปิดแล้วต้องรีบปิดซะ
เพราะสถานที่เรากางเต๊นท์ส่วนใหญ่จะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ(ยกเว้นพี่หรอยกางในบ้าน นอนจุดเกียง สร้างบรรยากาศ

อันนี้
ไ่ม่ต้องห่วง กลัวอย่างเดียวไฟจะมอดบ้านซะ) จะมีสัตว์ต่าง ๆ อาจหลงทางเข้ามา มีพิษบ้างไม่มีพิษบ้าง เช่น ทาก ตะขาบ แมลง
โดยเฉพาะตัวสำคัญ....ฮู ครับ ฮู = งู แหะ ๆ
เพราะงูจะชอบซอกแซกหาความอบอุ่น พักพิง ถ้าเปิดประตูค้างไว้เผลอ ๆ อาจมีเพื่อนตัวเย็น ๆ มาร่วมนอนแลบลิ้นใส่...

ปล..ยินดีกับท่านชายเจษฏ์ ด้วย ได้เต๊นท์เรียบร้อยแล้ว......

เหลือแต่เขือเข้ม กับหัวหมู่ ไม่รู้ได้แล้วยัง...

แค่นี้ก่อน เดี๋ยวตอนต่อไป เครื่องใช้ประจำตัว...
