
พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ท.เสริมพันธ์ ศิริคง กำลังสอบปากคำนายสุภาพ ฉลาดดี ผู้ต้องหาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในร้านวอชิงตันการแว่น โดยมีน.ส.นงรักษ์ เมฆารักษ์กุล เจ้าของร้านตรวจสอบของกลางจำนวนหลายรายการที่หายไปรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท
โจรผมยาวเพิ่งพ้นโทษจากคุกไม่เข็ด เหิมเกริมออกอาละวาดหนัก รายนี้บุกกวาดทรัพย์ร้านวอชิงตันการแว่น ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่าสองล้านบาท สุดท้ายหนีไม่รอด ผู้การฯจี้ชุดสืบจังหวัดใช้เวลา
สิบเอ็ดชั่วโมง รวบตัวพร้อมของกลาง ผู้ต้องหารับสารภาพติดหนี้พนันฟุตบอลไม่มีเงินใช้หนี้เลยตัดสินใจก่อเหตุ ก่อนหน้านี้ได้ทุบตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรเพื่อขโมยเงินแต่ไม่สำเร็จ
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 12 ก.พ. พ.ต.ต.พีระพันธ์ มีมาก สารวัตรเวรสภ.เมือง ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุลักทรัพย์ที่ร้านวอชิงตันการแว่น ถ.รัษฎา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น แล้วรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.เสริมพันธ์ุ ศิริคง รองผกก.กลุ่มงานสืบสวนภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท. วิจักขณ์ ตารมย์ สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต. พงษ์พันธ์ ศิริภัทรานุกุล ร.ต.ต.สายันย์ รอดเกลี้ยง ด.ต.คมสัน รักษาคาม จ.ส.ต.เด่นพงษ์ พรมบุตร จ.ส.ต.เชษฐ์ศักดิ์ นวดคล้าย ส.ต.อ. สันติ อุ้ยสวัสดิ์ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 3 ชั้น ซึ่งเป็นร้านวอชิงตัน จำหน่ายแว่นตาและนาฬิกาที่มีชื่อเสียง บริเวณหน้าร้านปิดไฟมืดพบนายธีรวุฒิ อึ่งตระกูล ซึ่งพักอาศัยอยู่คูหาติดกับร้าน เล่าว่า ขณะที่นอนหลับพักผ่อนเวลาประมาณ 00.30 น. ได้ยินเสียงคล้ายๆมีคนเดินอยู่ในร้านวอชิงตัน และได้ยินเสียง กระจกแตก ตนเลยตะโกนออกไปและได้ยินเสียงมีคนหนีออกทางหลังคา จากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งน.ส.นงรักษ์ เมฆารักษ์กุล เจ้าของร้านให้ทราบ และเดินทางมาถึงร้าน พอเปิดประตูเข้าไปภายในร้านเพื่อตรวจสอบนาฬิกาและแว่นตาที่ตั้งอยู่ในตู้ใกล้ประตูถูกเปิดอ้า ภายในมีนาฬิการาคาเกือบแสนถูกมือดีกวาดเรียบและกระจกเพดานบนหลังตู้แตกกระจาย ส่วนบริเวณโต๊ะทำงานถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย โน้ตบุ๊คยี่ห้อเอเซอร์สีเทาหายไป นอกจากนั้นยังมีพระเครื่องบนหิ้งได้หายไปด้วย รวมมูลค่ากว่าสองล้านบาท ซึ่งภายในร้านมีกล้องวงจรปิด เปิดดูพบเห็นชาย 1 คน สภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้น แขนมีรอยสักและหน้าท้องสักลายมังกร ผมยาว คางแหลม หลังจากเห็นภาพในกล้องวงจรปิด ทางด้านพล.ต.ต. อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ก็ได้สั่งการให้พ.ต.ท.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผกก.กลุ่มงานสืบสวนภ.จว.ภูเก็ต นำทีมออกสืบตามล่าตัวคนร้าย และเมื่อเวลา 09.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ได้เดินทางไปตรวจสอบและดูรูปคนร้าย
ทางด้าน พ.ต.ท.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผกก. กลุ่มงานสืบสวนภ.จว.พร้อมด้วย พ.ต.ต. พงษ์พันธุ์ ศิริภัทรนุกูล ด.ต.คมสัน รักษาคาม จ.ส.ต.เชษฐ์ศักดิ์ นวดคล้าย จ.ส.ต.เด่นพงษ์ พรมบุตร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภ.จว. ภูเก็ต ได้สืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุพักอยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ 433 ห้องที่ 2 ถ.ภูเก็ต ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง ภูเก็ต จึงได้ส่งสายลับไปเฝ้าดูกระทั่งเวลา 13.00 น. ก็ได้รับแจ้งว่าผู้ต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง เข้ามาจอดที่หน้าบ้านเช่าเลขที่ 433 แล้วเดินเข้าไปที่ห้องเลขที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงรีบนำกำลังไปยังบ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงก็เข้าไปภายในบ้านเห็นชาย 2 คนนั่งอยู่ ทราบชื่อคือนายสุภาพ ฉลาดดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/5 ถ.หลวงพ่อ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ลักษณะตรงตามรูปผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ สอบถามให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุพร้อมกับนำเจ้าหน้าที่ตรวจค้นทรัพย์สินภายในห้องนอนพบกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมสีน้ำตาลวางอยู่ทางตู้เครื่องเสียง เปิดดูภายในพบโน๊ตบุ๊คสีเทา และกระเป๋าถือสีฟ้า ภายในมีนาฬิกาหลากหลายยี่ห้อกว่า 50 เรือน และกล่องสี่เหลี่ยมสีแดงบรรจุพระ จึงตรวจยึดและนำตัวมาสอบปากคำต่อที่ห้องงานสืบสวน ภ.จว.ภูเก็ต
จากการตรวจสอบพบประวัติว่านายสุภาพ มีหมายจับคดีลักทรัพย์ของสภ.เมืองภูเก็ตอยู่ และเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาสอบถามนายสุภาพ ฉลาดดี ผู้ต้องหา ให้การว่าก่อนหน้านี้ตนเคยทุบตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกร แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป และหลังจากนั้นก็ออกทำงานเป็นช่างทาสีก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ตนได้ไปขัดล้างสีที่ร้านวอชิงตัน โดยมีนายอู๊ด เป็นผู้รับเหมาและเห็นว่าภายในร้านมีทรัพย์สินจำนวนมาก บวกกับเจ้าของโต๊ะพนันฟุตบอลตามทวงหนี้ที่ตนติดค้างไว้กว่า 30,000 บาท แต่ไม่มีเงินจึงได้ลงมือก่อเหตุ
ผู้ต้องหากล่าวอีกว่า ก่อนลงมือได้ขับรถไปจอดที่หน้าอู่กระจ่างแล้วเดินเข้าไปในช่องทางแคบข้างอู่กระจ่างและได้ปีนขึ้นบนหลังคา เมื่อถึงร้านวอชิงตันก็กระโดดขึ้นบนหลังตู้แอร์แล้วถอดกระเบื้องหลังคาออกปีนลงมาภายในร้านและงัดกระจกฝ้าเพดานออกจนแตก แล้วปีนลงมาภายในร้านอาศัยไฟรถที่วิ่งผ่านบนถนนหน้าร้านส่องเข้ามาภายในทำให้มองเห็นจึงลงมือกวาดทรัพย์สิน ขณะนั้นก็ได้ยินเสียงคนตะโกนจึงรีบปีนออกทางเดิมแล้วหลบหนีไป หลังจากนั้นก็ได้นำทรัพย์สินที่ขโมยไปฝากไว้ที่ห้องดังกล่าว พอรุ่งเช้าตนก็ไปแจ้งความบัตรหายที่สภ.เมืองภูเก็ตแล้วไปนั่งที่ขนส่ง จากนั้นเวลา 11.30 น. ก็นำนาฬิกายี่ห้อ Citizen รุ่น promaster duratect สายเหล็ก 1 เรือน ไปจำนำที่โรงรับจำนำอยู่เสง เลขที่ 77-79 ถ.ถลาง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ. ภูเก็ต ได้เงินมาจำนวน 1,000 บาท ก็กลับไปที่ห้องแล้วก็ถูกจับกุม
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ประสานไปยัง น.ส.นงรักษ์ เมฆารักษ์กุล เจ้าของร้าน ให้มาดูของกลางพร้อมยืนยันว่าใช่ทรัพย์สินที่หายไป แต่เหรียญเจ้าแม่กวนอิมและนาฬิกาอีกจำนวนหนึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสอบสวนหาทรัพย์สินที่หายต่อไป
ต่อมา พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงษ์ทอง ผบก.ภ. จว.ภูเก็ต ได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำและชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การบังคับบัญชาและสั่งการให้สอบสวนขยายผลต่อไป และได้กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้มาจากทางร้านได้มีมาตรการป้องกันอย่างดี โดยติดตั้ง กล้องวงจรปิด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว จึงอยากฝากไปยังเจ้าของกิจการให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในร้านด้วย ทั้งนี้คดีดังกล่าวทำให้ชาวบ้านเจ้าของห้างร้านในระแวกที่เกิดเหตุต่างชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตร.