หาดใหญ่ก็ตก จ๊ะ
หนามปืนไม่ตกแว้ว.......ปักตะใคร้.ครับ......ขอช่วยน้องออยล์ปักครับ

ได้ผลหรือ พี่มานิตย์ ข่าวว่าวันนี้หัวหมู่เป็นตากล้อง อิๆ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปรับใช้ครับ ทั้งวันเลย
ไปค้นมา........ปลูกจักไคร
วิธีห้ามฝน ห้ามลมที่นิยมกันมากคือการปลูก "จักไคร" (ตะไคร้) โดยจะไปขอให้แม่หม้ายผัวตายเป็นผู้ประกอบพิธี แม่หม้ายจะทำการปลูกตะไคร้จำนวนสามต้น แต่ละต้นปักส่วนปลายลง เอาส่วนโคนชี้ขึ้น การปลูกจะต้องปลูกที่โล่งแจ้ง และหากจะให้มีผลชะงัด ต้องเปลื้องเสื้อผ้าออกให้หมด ทั้งนี้ในช่วงเวลาที่ปฏิบัติการอยู่ ผู้ประกอบพิธีจะอาบน้ำไม่ได้
เรื่องของแม่หม้ายกับการห้ามลมห้ามฝนนี้ ผู้เขียนเคยได้รับการบอกเล่าจาก อาจารย์ศรีเลา เกษพรหม แห่งสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพิ่มเติมว่ามีการให้แม่หม้ายออกปาก แม่หม้ายตากผ้า และย่างแก๋นครกแม่หม้ายด้วย
ให้แม่หม้ายออกปาก
ออกปาก คือ ลั่นวาจา การให้แม่หม้ายออกปากหรือลั่นวาจา มีสองวิธี กล่าวคือ วิธีแรก หากงานหนึ่งงานใดมีฝนตั้งเค้าและมีทีท่าจะตกลงมา ให้คนในงานกางร่มไปพบแม่หม้ายพร้อมกางร่มให้ แล้วขอให้แม่หม้ายกล่าวกับเทวดาฟ้าดินว่า "เออ ฝนเหย ถ้าฝนใคร่ตกเต๋มที จะตกบ่าเดี่ยวนี้ ก็ตกมาเต๊อะ ตกเจ้าแม่ตก ตกมานักๆ" จากนั้นให้กางร่มพาแม่หม้ายไปอยู่บริเวณงาน ฝนก็จะไม่ตก วิธีต่อมา คือ ให้แม่หม้ายนำตะกร้าตาห่าง ไปยืนกลางแจ้ง แล้วกล่าวดัง ๆ ว่า "เออ ฝนเหย ถ้าฝนใคร่ตกเต๋มที่ ก็ตกมาเต๊อะ ตกมาเต๋มก๋วยแก่นนี้เน้อ ตกนักๆ ถ้าตกบ่นัก ก็บ่ต้องตก" ลมฝนที่ตั้งเค้าอยู่ก็จะหายไป
แม่หม้ายตากผ้า
ในกรณีที่มีงานศพ ท้องฟ้าครึ้มฝน ท่านให้ไปขอให้แม่หม้ายมาทำพิธีตากผ้า โดยนำผ้าของผู้ตายไปตากบนหลังคา แล้วกล่าวว่า "เออ เทวบุตร เทวดา เจ้าฟ้า สายฝน บัดนี้ (เอ่ยชื่อผู้ตาย) ก็จะไปทางหน้าวัสองวันนี้แล้ว ผ้าก็ยังบ่แห้ง หาไรหามีผืนเดียวอี้ละ ขอเอ็นดูปั๋นแดดส่องลงมา หื้อผ้าแห้ง สักวันสองวันเต๊อะ" ทำอย่างนี้ฝนจะไม่ตกลงมา