ลูกหมาที่เพื่อนผมจะให้มา พ่อและแม่ของมันก็มีน่ะ ใบเพชรดีกรีหนะ
ถ้าผมได้ลูกหมามา คิดว่าอยากอีไปทำเหมือนกัน ไม่รู้ค่าใช้จ่ายเท่าไร
ถ้าได้ใบมาแล้ว ต่อไปเวลาเอาไปผสมพันธุ์กะของเพื่อนสะดวกหน่อย
ผมเคยเป็นสมาชิกอยู่พักนึงครับ...
สมาชิกขาดหลายปีแล้ว...ยังไม่ได้ไปต่อเลยครับ...

ลองดูตามนี้ครับ...
http://www.thaipomeranian.com/board/index.php?PHPSESSID=a1kavpmfr3p1q1ut2jko48cga7&topic=125.0ขั้นตอนการขอใบพันธุ์ประวัติ (PEDIGREE)
- ขั้นแรกต้องดูว่าคุณเป็นสมาชิกของสมาคมหรือจดทะเบียนคอกกับสมาคมผู้เลี้ยง สุนัขแล้วหรือยังถ้ายังต้องเริ่มต้นด้วยการ ไปสมัครเป็นสมาชิกหรือจดทะเบียนคอกหรือฟาร์มของคุณก่อน ในประเทศไทยขณะนี้สมาคมที่ได้รับการรับรองจากFCI ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ คือสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย)
- ขั้นต่อไปต้องดูว่สุนัขของคุณเคยจดทะเบียนหรือมีใบ Pedigree แล้วหรือยังถ้ายังไม่มีอะไรเลยคุณสามารถ จดทะเบียนเป็นสุนัขประเภท No Record ได้ แต่ในกรณีนี้ในใบPedigreeจะปรากฏเฉพาะชื่อสุนัขของคุณ อย่างเดียวไม่มีชื่อพ่อแม่หรือปู่ย่าตาทวด เพราะไม่ได้มีการแจ้งบันทึกไว้ก่อน แต่ถ้าสุนัขของคุณเคยจดทะเบียนแล้ว คุณต้องมีชื่อในทะเบียนเป็นเจ้าของสุนัข ถ้าซื้อต่อเขามาต้องให้เจ้าของเดิมเซ็นสลักหลังโอนให้ด้วยจึงจะถือว่า คุณเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์
สำหรับใบ Pedigree ถ้ามีใบ Pedigreeที่รับรองโดยสมาคมพัฒนาฯแล้วก็นำมาใช้ได้เลยแต่ถ้าเป็นของสถาบัน อื่น ที่ไม่ได้รับการรับรองจาก FCI ก็นำมาใช้ไม่ได้ ต้องออกใหม่ในรูปของ NO Record เช่นกันสำหรับผู้นำเอาสุนัข มาจากต่างประเทศและมีใบ Pedigree ประเภท Export และเป็น Pedigree ที่ได้รับการรับรองจาก FCI ก็นำมาจดทะเบียนได้เลยเช่นเดียวกัน
- ขั้นตอนต่อไปคือเมื่อนำสุนัขไปผสมกับพ่อพันธุ์ก็ต้องขอดูใบทะเบียน และPedigreeจากเจ้าของพ่อพันธุ์ให้แน่ใจว่า มีเอกสารถูกต้องสมบูรณ์และผู้รับผสมเป็นผู้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของพ่อพันธุ์ หรือไม่ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง ตามกฎของสมาคมฯถือว่าเจ้าของแม่พันธุ์เป็นผู้ผสมพันธุ์หรือ Breederดังนั้นจึงเป็นหน้าที่เจ้าของแม่พันธุ์ ที่จะแจ้งผสมพันธุ์และจดทะเบียนครอกตามแบบฟอร์มที่สมาคมกำหนดซึ่งการนำแม่ พันธุ์ไปผสมอย่าลืมนำแบบฟอร์มนี้ไป ให้เจ้าของพ่อพันธุ์เซ็นชื่อรับรองด้วย เสร็จแล้วก็นำแบบฟอร์มไปยื่นกับสมาคมฯตามขั้นตอนและเงื่อนเวลาดังนี้
การ เป็นสมาชิก
- ค่าธรรมเนียมปีละ 200 บาท ( สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ชุด )
การ ขึ้นทะเบียนคอก
- ค่าธรรมเนียมราย 5 ปี 500 บาท และสามารถเปลี่ยนชื่อคอกสุนัขได้โดยเสียค่าใช้จ่าย 100 บาท
การ ขึ้นทะเบียนตัวสุนัข
- ค่าธรรมเนียมตัวละ 100 บาท
- ใบพันธุ์ประวัติ ( PEDIGREE ) ที่ได้รับการรับรอง ตัวอย่างเช่น
- ใบ EXPORT PEDIGREE (เอ็กซ์พอร์ทเพดดีกรี) ของประเทศที่เป็นสมาชิก F.C.I. , K.C. (อังกฤษ), A.N.K.C. (ออสเตรเลีย) , N.Z.K. (นิวซีแลนด์), A.K.C. (สหรัฐอเมริกา) เป็นต้น
- ใบ CERTIFIED PEDIGREE (ใบรับรองพันธุ์ประวัติ) ของสมาคมผู้นิยมสุนัขแห่งประเทศไทย (D.A.T.)
- มายื่นโดยสมาคมฯ จะทำการประทับตราสมาคมฯ บนเอกสารทั้งหมดด้วย
การ โอนเปลี่ยนเจ้าของ
- นำใบที่มีลักษณะใบเล็กยาว ด้านหลังจะเป็นการเซ็นเปลี่ยนโอนเจ้าของใหม่
- ให้เจ้าของเก่าเซ็นโอนด้านหลังของใบรับรองทะเบียนตัว
- ลายเซ็นเจ้าของสุนัข สมาคมฯ จะยึดถือลายเซ็นที่ให้ไว้กับสมาคมเป็นสำคัญ
- เจ้าของมายื่นแสดงการเปลี่ยนเจ้าของต่อไป เสียค่าใช้จ่ายต่อตัวละ 100 บาท
การแจ้งผสม
- การแจ้งผสมสุนัขให้สมาชิกแจ้งได้ภายใน 45 วันหลังจากวันที่ทำการผสมสุนัข (โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย) และสามารถแจ้งได้ทั้งทาง โทรสาร, ทางจดหมาย , หรือมาแจ้งด้วยตนเอง สมาชิกที่แจ้งผสมสุนัขในเวลาที่กำหนดสามารถที่จะแจ้งเกิดและจดทะเบียนพร้อม ตั้งชื่อลูกได้ภายในเวลา 90 วันหลังคลอด ในกรณีที่แจ้งผสมภายในเวลาที่กำหนดแล้ว แต่แจ้งเกิดและจดทะเบียนตัวลูก เกินกำหนด 90 วัน สมาคมฯ จะคิดค่าปรับตามอัตรา ดังนี้
ระยะเวลาและอัตราค่าปรับ
- แจ้งผสมเกินกำหนด 45 วัน สมาชิกสามารถแจ้งได้พร้อมการแจ้งเกิดลูกสุนัขแต่ต้องไม่เกิน 60 วันหลังคลอด โดยเสียค่าปรับเพิ่ม ตามจำนวนลูกสุนัขตัวละ 100
- แจ้งเกิดสุนัขเกิน 90 วัน แต่ไม่เกิน 180 วัน คิดค่าปรับเพิ่มตัวละ 100
- แจ้งเกิดสุนัขเกิน 180 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปี คิดค่าปรับเพิ่มตัวละ 500
- แจ้งเกิดสุนัขเกิน 1 ปี โดยมีเหตุผลที่สมควร คิดค่าปรับเพิ่มตัวละ
( สมาคมฯ ขอสงวนสิทธิในการไม่รับจดทะเบียนในกรณีไม่มีเหตุผลที่สมควร ) 1,000
สมาคมฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะรับหรือไม่รับจดทะเบียนลูกสุนัขที่ไม่แจ้งผสมและแจ้งเกิด ตามกำหนดที่ผ่อนผันให้ ในกรณีที่รับขึ้นทะเบียนสมาคมฯ จะคิดค่าปรับเพิ่มอีกตัวละไม่ต่ำกว่า 1,000
- การแจ้งผสมสุนัขในกรณีที่ผู้ผสม (Breeder) เป็นเจ้าของสุนัขตัวเมีย แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของสุนัขตัวผู้ ให้ผู้แจ้งขอสำเนาบัตรสมาชิก หรือบัตรประชาชนของเจ้าของสุนัขตัวผู้ พร้อมทั้งเซ็นรับรองการผสมพันธุ์มายื่นด้วย
การผสมสุนัข สมาคมฯ กำหนดอายุขั้นต่ำของพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์สุนัข ดังนี้
- สุนัขขนาดเล็ก พ่อและแม่พันธุ์ต้องมีอายุ 12 เดือนขึ้นไป
- สุนัขขนาดกลาง พ่อและแม่พันธุ์ต้องมีอายุ 14 เดือนขึ้นไป
- สุนัขขนาดใหญ่ (รวมทั้งในกลุ่มสุนัขใช้งาน) พ่อและแม่พันธุ์ต้องมีอายุ 18 เดือนขึ้นไป
- การแจ้งผสม แจ้งเกิดลูกสุนัขหรือการแจ้งผสมย้อนหลัง สมาคมฯ จะรับเฉพาะสุนัขพ่อพันธุ์และแม่พันธ์ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมฯแล้วเท่า นั้น สมาคมฯจะไม่รับแจ้งผสมและแจ้งเกิดย้อนหลังในกรณีที่สุนัขพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนหรือมาจดทะเบียนพร้อมแจ้งเกิดลูกย้อนหลัง ยกเว้นจะมีเหตุผลอันสมควรอนุมัติ เช่น ผสมติดท้องมาจากต่างประเทศ อยู่ในระหว่างรอเอกสารจากต่างประเทศ หรือเหตุผลอื่น ๆ ที่เหมาะสม โดยผู้แจ้งต้องชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษรซึ่งจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะ กรรมการสมาคมฯ เพื่อพิจารณาภายหลังการรับแจ้งจดทะเบียนในกรณีเช่นนี้ขึ้นอยู่กับมติของคณะ กรรมการสมาคมฯ เป็นรายๆไป
การแจ้งเกิดลูกสุนัข
- ภายใน 90 วันหลังจากวันที่ลูกสุนัขเกิด (ในกรณีแจ้งผสมไว้แล้ว)
- ค่าธรรมเนียมในการตั้งชื่อลูกสุนัข และค่าธรรมเนียมใบทะเบียนตัว (REGISTRATION CERTIFICATE)
ตัวละ 150 บาท
- แม่พันธุ์สุนัขต้องทำการพักท้องเป็นเวลา 6 เดือนหลังจากการแจ้งเกิดลูกสุนัขครอกล่าสุด
การขอใบพันธุ์ ประวัติ PEDIGREE
- ค่าธรรมเนียมใบพันธุ์ประวัติ 3 ชั่วอายุ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย (3 GENERATIONS PEDIGREE) ตัวละ 100 บาท
- ค่าธรรมเนียมใบพันธุ์ประวัติ 4 ชั่วอายุ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด (4 GENERATIONS PEDIGREE) ตัวละ 150 บาท
- ค่าธรรมเนียมใบพันธุ์ประวัติ EXPORT ตัวละ 500 บาท (สุนัขที่ขอออก EXPORT PEDIGREE จะต้องสักเบอร์ที่หูหรือท้อง หรือต้องฝังไมโครชิพ)
การขึ้น ทะเบียนเป็น NO RECORD
สำหรับสุนัขที่ยังไม่มีใบรีจิสและใบเพดดีกรี ต้องขึ้นทะเบียนเป็น No record มีขั้นตอนดังนี้
- ให้นำสุนัขไปฝังไมโครชิพ แล้วให้เก็บหมายเลขไมโครชิพไว้เพื่อแจ้งทำใบรีจิส (ตอนไปฝังไมโครชิพ ต้องนำใบวัคซีนไปด้วย)
- เตรียมรูปถ่ายด้านหน้า และด้านข้าง ของสุนัขที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป พร้อมกับแบบฟอร์มการขอขึ้นทะเบียนตัว และหมายเลขไมโครชิพไปติดต่อ ดำเนินการขอขึ้นทะเบียนตัว
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มต่างๆได้ที่
http://www.kcthailand.org/service.asp?m=3สามารถ นำเอกสารต่างๆไปยื่นต่อสมาคมฯได้ดังนี้
- สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข(ประเทศไทย)
- งานประกวดที่สมาคมฯให้การรับรอง
- ส่งเอกสาร+หลักฐานการโอนเงิน ทางไปรษณีย์
- ส่งเอกสาร+หลักฐานการโอนเงิน ทางแฟกซ์