
เรื่องนี้ หากมองความเสียหายที่เกิดขึ้น จำนวนผู้ตาย ผู้ได้รับบาดเจ็บ ฯลฯ ถือว่าร้ายแรงร้ายแรง
แต่การตั้งข้อหาแก่เด็กคนนี้ จะแรงกว่าที่กฎหมายกำหนด
ตามใจผู้ชมไม่ได้ในชั้นพนักงานสอบสวน จากข่าวที่สรุป บอก ๒ ข้อกล่าวหา คือ
๑. ประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และตาย
๒. ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่
ดูแล้วทำไมตายตั้ง ๙ ตั้งข้อหาแค่นี้

แต่การแจ้งข้อกล่าวหานั้น เป็นการแจ้งข้อหาในแบบรวม ซึ่งจริงๆแล้ว
หากแยกข้อกล่าวหาออกให้ละเอียดแล้ว ข้อหาที่เด็กนี่จะได้รับคือ
๑.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท
๒.ประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ตาม พรบ จราจร
๓. ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา มาตรา ๓๙๐ ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ( ลหุโทษ )
๔. ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส (หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส) ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา มาตรา ๓๐๐ ผู้ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
๕.ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา มาตรา ๒๙๑ ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท
แต่อย่างไรก็ดี ในข้อหาที่ ๒ - ๔ นั้น เกิดขึ้นจากการกระทำโดยประมาทครั้งเดียว (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท)
กฎหมายให้ลงโทษบาทหนักที่สุดเท่านั้น คือ ความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท เท่านั้น แม้จะมีผู้ตายหลายคน
นอกจากนี้ เด็กนี้มีอายุในวันที่กระทำความผิด ๑๗ ปี ยังได้รับอานิสงค์ ตามมาตรา ๗๕ ให้ลดโทษกึ่งหนึ่งไว้ก่อน ก็มันเป็นเด็กนี่และอย่าหวังว่าเด็กนี่จะติดคุก เพราะ โทษที่จะลงแก่เด็กในคดีแบบนี้
มากสุด คือเปลี่ยนโทษจำคุก เป็นการฝึกอบรมระยะสั้นๆ ตามวิธีพิจารณาความอาญาสำหรับเด็กและเยาวชน

ดังนั้นในเรื่องนี้ มุมมองผม ระดับนามสกุลแบบนี้ คงจะมีฝ่ายกฎหมายมือดี
และรู้ผลทางคดีแล้วละว่า รับสารภาพผลเป็นไง สู้คดีผลเป็นไง
แต่ที่ผมอยากให้ครอบครัวเด็กนี่คิดมากกว่าในเรื่องการสู้คดี
คือ การแสดงความรับผิดชอบทางศีลธรรม กับครอบครัวผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตในเหตุการณ์
อันเกิดจากส่วนหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นจากลูกเทวดาของตน ให้มากกว่านี้
ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตารอให้ตำรวจตั้งข้อหาก่อน อัยการมีความเห็นสั่งฟ้องก่อน ศาลมีคำพิพากษาลงโทษก่อน
จากนั้นรอให้ญาติเหยื่อ ฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งก่อน ให้ศาลอุทธรณ์ตัดสินก่อน หรือสุดท้าย ให้ศาลฎีกาตัดสินก่อน
จากนั้น ถึงศาลฎีกาตัดสิน พวกมึงก็ไปบังคับคดีกันเอง
มีศีลธรรมหน่อย รับผิดชอบให้เต็มที่ ผมเชื่อว่าขนหน้า แข้งน้องเขาไม่ร่วงหรอกปล. ตำรวจก็เวอร์ไป ฟังข้อหาแค่นี้ ทำยังกะสัมนาวิชาการ

ปล.๒ แคว๊วตสั่งมา

อืม...ลากตรูให้วนเวียนกะคุกแหละ...