
มีอะไรมาเล่า
เมื่อวาน นักเรียน ป.4 ที่ว่าเกเรระดับต้น ๆ ของโรงเรียน อีกทั้งครอบครัวยากจนเนื่องจากมีพี่น้อง 15 คน พ่อ-แม่ไปทำงานที่มาเลย์นาน ๆ ทีจะกลับมาสักครั้ง อาศัยอยู่กับยายที่อายุ 70 กว่า ๆ ได้เงินมาโรงเรียนวันละ 5 บาท

ครั้งแรก คาบเรียนแรกที่ได้เจอกันเค้ามาสายเพราะไปวิ่งเล่นอยู่ ก็เลยตักเตือนพร้อมให้ข้อคิด

ครั้งสอง คาบเรียนที่สองเค้ามาสายอีกเพราะไปวิ่งเล่นอยู่ ก็เลยตักเตือนพร้อมให้ข้อคิด แต่เพิ่มน้ำเสียง

ครั้งสาม - ครั้งล่าสุด เมื่อถึงเวลาเรียนจะมายืนอยู่หน้าชั้นเรียนก่อนเพื่อน ๆ ในชั้นเสมอ

ครั้งประทับใจ วันนั้นนักเรียนคนนี้ช่วยภารโรงขนดิน ไม่ยอมเข้าเรียน ใครพูดยังไงก็ไม่ยอมเข้าเรียน สุดท้ายก็ปล่อยเลยตามเลย แต่พอถึงวิชาที่ผมสอน ดันทะลึ่งวิ่งเหงื่อแตกพลั่ก ๆ มาเรียนด้วย แถมรายตัวว่า "คู ๆ ป๋มขอนุญาตเรียนด้วยคับ" อ้าว แล้วเธอไม่ไปทำงานอีกหรือ "ไม่เป็งไรคับ เดี๋ยวผมเล่นไอ้นี้ก่อน แล้วค่อยไป เครื่องมันไม่ตายที (คอมฯที่เค้านั่งเรียน)"

มาถึงเมื่อวาน หลังจากการสอบวิชาที่ผมไปแล้ว ได้นำแตงโมลูกเล็ก ๆ มาให้ สอบถามอยู่ตั้งนาน (กว่าจะฟังและเข้าใจ เนื่องจากเค้าพูดไทยไม่ชัด) จึงทราบว่าซื้อมาจากแม่ค้าขายผลไม้เมื่อตอนเช้าตั้งใจนำมาให้ผม เลยบอกกับเค้าว่า "คราวหน้าอย่าซื้อมาให้ครูอีกนะ ไม่อย่างงั้นเธอจะไม่มีเงินกินข้าว แต่ถ้าเธอปลูกเองนั่นไม่เป็นไร ขอบใจในน้ำใจของเธอมาก เงินนี้ที่ครูให้ไม่ใช่การซื้อขายแตงโมของเธอ แต่ครูไม่ต้องการให้เธออดข้าว ส่วนเงินที่เหลือจากค่าแตงโมที่เธอซื้อมานั้นให้เก็บไว้ใช้ในวันอื่น"

จนถึงบัดนี้แตงโมยังอยู่ในตู้เย็น ไม่กล้าทาน กลัวถูกวางยา

กำลังหาคนมาชิม ถ้าไม่มีใครเดี๋ยวตอนมิตติ้งจะเอาไปให้ลองกินกัน

หากใครนึกภาพนักเรียนคนนั้นไม่ออก

ลองนึกภาพเด็กผู้ชายผอม ๆ ผิวสีด๊ำดำ ผมรกรุงรัง เสื้อผ้าเนื้อตัวมอมแมม เวลายิ้มฟันหลอทั้งบน-ล่าง ดูนะครับ
