เช่นนั้นช่วยขยายหน่อยสำหรับกรณีแบบนี้ครับ ว่าต้องทำอย่างไร?
มาตรา ๓๓๔ ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์
มาตรา ๓๓๕ (๑๒) ผู้ใดลักทรัพย์ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม บรรดาที่เป็นผลิตภัณฑ์ พืชพันธุ์ สัตว์หรือเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมหรือได้มา จากการกสิกรรมนั้นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองพันบาท ถึงหนึ่งหมื่นบาท
วัว เป็นทรัพย์ที่มีเจ้าของแน่นอน เมื่อมีเจ้าของและเรามิใช่เจ้าของวัว วัวจึงเป็นทรัพย์ของผู้อื่นตามกฎหมาย
แม้ว่าวัวตัวดังกล่าว จะชนรถเรา หรือรถเราไปชน ทำให้ได้รับความเสียหายก็ตาม
แต่ก็ไมมีบทกฎหมายให้อำนาจเจ้าของรถ สามารถนำวัวตัวต้นเหตุไปได้
และก็ไม่มีบทกฎหมายใดให้ถือว่าวัวนั้นเป็นค่าเสียหายในตัว ที่จะนำไปได้
เพราะเรื่องดังกล่าว เจ้าของรถจะต้องว่ากันในทางแพ่ง เรียกค่าเสียหายไป
ซึ่งหากเกิิดเหตุดังกล่าว จะต้องแจ้งเ้หตุ และให้ตำหนวดสืบหาเจ้าของวัวต่อไปครับ
แต่...ในความเป็นจริง ส่วนใหญ่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถ มักจะมีความเสียหายสูงกว่าราคาวัว
เจ้าของวัว จึงมักจะไม่แสดงตนออกมารับว่า วัวต้นเหตุเป็นของตน
จึงทำให้เจ้าของรถส่วนใหญ่ จึงมักจะถือไปเองว่า เมื่อหาเจ้าของไม่ได้ ก็ถือเอาวัวแทนเป็นค่าซ่อมรถ
ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะหากเจอเจ้าของวัวที่ใจถึงหัวหมอขึ้นมา กลับไปแจ้งความว่าเราลักทรัพย์ จะยุ่งครับ
ดังนั้น ซึ่งหากเกิิดเหตุดังกล่าว คงต้องแจ้งเหตุ แล้วพยายามหาเจ้าของวัวให้ได้ครับ
หากเจ้าของวัวไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ ก็ให้ลงบันทึกไว้ว่าเจ้าของวัวยินยอมยกวัวตีใช้หนี้แทนค่าซ่อม ต่อไปครับ

ถ้าเกือบวันแล้วหาเจ้าของวัวไม่ได้อ่ะ...