มีเรื่องที่ คนปัญญาระดับบัวใต้ตมอย่างผม ไม่เข้าใจ
คำว่า "ถอนคำพูด..." ที่ในสภานิยมใช้กันจัง....
ทำไมไม่ใช้การ "ขอโทษ" ซึ่งฟังดูเป็นเหตุเป็นผลมากกว่า
คำพูดเหมือนงาช้าง....พูดออกไปแล้วก็คือพูดไปแล้ว....
จะมาถอนคำพูดได้ยังไงในเมื่อทุกคนที่ฟัง ได้ยินไปแล้ว....
แล้วก็ทำสลักสำคัญ....ไม่ยอมถอนโดยดี โยกโย้ เวิ่นเว้ออยู่นั่นแล้ว
......
อุปมาดั่งการชำเราสตรี....หากได้กระทำการชำเราไปแล้ว จะมาถอกมาถอนกันทีหลัง....แล้วไม่มีโทษผิดอันใด
มันก็น่าชำเราอยู่นะ
เขาก็มีวิธีดัดหลังอยู่นะ คือหลอกด่ามันซ้ำอีกรอบ แล้วถอน ได้กำไรสองดอก
เช่น.. สส. สส.จังหวัดงมแต่โข่ง ด่า สส.จังหวัดสากบุรี ว่า ไอ้ สส.สากกระเบือ
สส.จังหวัดสากบุรี ไม่พอใจ ฟ้องท่านประธานว่า ขอให้ สส.จังหวัดงมแต่โข่ง ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้
สส.จังหวัดงมแต่โข่ง รีบลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวคำถอนว่า
ที่ข้าพเจ้าด่า สส.จังหวัดสากบุรี ว่า
ไอ้ สส.สากกระเบือนั้น ข้าพเจ้าขอถอนคำพูดนั้น
ด้วยคำด่าว่า
ไอ้ สส.สากกระเบือ นั้น ไม่ได้ทำให้ สส..จังหวัดสากบุรี เป็น
สส.สากกระเบือ ไปได้
ดังนั้นคำว่า
ไอ้ สส.สากกระเบือ จึงไม่เป็นความจริงๆ
ด่ากลับเอาหลายดอกเลย
