วันนี้ ซื้อขาหมู ขาหลังขนาด ๒.๕ กิโลมาขานึง
ตุ๋นตามสูตรที่เตรียมไว้ ตักแบ่งถ้วยขนาดกับข้าวออกมา ห้าถ้วย ยังเหลือเกือบครึ่ง
พาไปบ้านข้าง ๆ ตลาดนี่แหละ ชิมเดี๋ยวนั้น และวิจารย์มาเดี๋ยวนั้น....
ผลออกมาว่า.....กินกับข้าวถือว่าเยี่ยม แต่กินเพียว ๆ ติดเค็มไป... และสี่ในห้า ร้องขอพริกน้ำส้ม
กลิ่นผ่าน ทั้งห้ารายชอบกลิ่นมาก มันหอมแบบที่เขาว่า แบบที่หากินยากปานนั้นเลย
สรุปคร่าว ๆ ว่า ต้องลดน้ำปลาและซีอิ๊วขาวลงมาอีกจากสูตรเดิม
หนึ่งในกลุ่มตัวอย่างแนะมาว่า ถ้าเจ๋งพอน่าจะลองทำสูตรเผ็ด ๆ ด้วย ซึ่งผมเคยลองกินมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ไม่ใช่แนว..
ลดน้ำปลาดูก่อนครับ...
พวกตุ๋น จะถูกโรคกับซีอิ้วมากกว่า...
หากยังไม่ได้ ค่อยลดซีอิ้วขาว...
หรือเปลี่ยนยี่ห้อ ที่เค็มน้อยลง....
(ดูจากส่วนผสมที่เขียนไว้ตรงฉลาดข้างขวดเป็นเบื้องต้นก็ได้)
ซีอิ้วขาวดี ๆ เน้นถั่วเหลืองให้มาก.. น้ำตาลด้วย....
และเกลือให้น้อย.... แต่แบบนี้โดนลมแล้วเก็บไว้กลิ่นเปลี่ยน สีจะเข้มดำ
ไม่ต้องสน ไม่ได้เก็บไว้นานอยู่แล้วหนิ....

น้ำปลาก็เช่นกัน...
เลือกวัตถุดี สด มีชัยไปกว่าแล้ว...
อ้อ..เรื่องเค็ม เรื่องหวาน...
เค็มเกิน หวานเกิน แก้ไม่ได้..
หากไม่ถึงเค็ม ไม่ถึงหวาน แก้ไขภายหลังได้....
เรื่องเปลี่ยนจากน้ำปลามาเป็นซี่อิ๊วขาวเห็นด้วยกับพี่ตุ้มตามเหตุผลของแก
แต่ที่จะให้น้าแพนด้าคำนึงถึงอีกเรื่องคือสูตรของซี่อิ๊ว(ไม่ใช่ยี่ห้อ)
หากสูตร1 หมายถึงเอาถั่วเหลืองหมักครั้งแรกเข้มข้น เค็มจัดแต่ก็หอมจัด
สูตร2คือกากถั่วเ้หลืองจากการหมักครั้งแรก มาหมักต่อ เค็มน้อยลง หอมน้อยลง
ก่อนใส่ ลองชิมดูก่อน ซี่อิ้วขาวปริมาณเท่าๆกัน ใช่ว่าเค็มเท่ากัน หอมเท่ากัน
การอ่านฉลากข้างขวดไม่ได้บอกอะไรมากมาย อย่าไปเชื่อตุ้มตามสั่งมากนัก...
การชิมให้คำตอบที่แน่ชัดกว่า
อีกอย่างคือที่คุยกัน ทำแบบซาลาเปาอร่อยๆ ส่วนผสมเป๊ะ ใช้ความร้อนได้เหมาะสม
ในเวลาที่ไม่ขาดไม่เกิน