ขนาดเติมน้ำตาลปึกลงไปแว่นนึงแล้ว....... ยังเค็มนำอยู่เลย
หลังเผาขาหมูและทอดขาหมูแล้ว ก่อนตุ๋น ลองเฉือนขาหมูมาชิมดูก่อน ว่ารสใด?
ก็รสขาหมูทอดนั่นแหละ
เฉือนกินทุกที ตอนที่ทอดจน..กว่าหนังจะเหลือง เนื้อบางส่วนก็เกรียม
ข้าวขาหมูทุกเจ้า เน้น ทุกเจ้านะครับ..
ที่ผมกิน ไม่นับเนื้อขาหมู...
ผมชิมน้ำต้มขาหมูครับ...จะเค็มข้นหวานตาม รสจัด
แต่พามาราดข้าวแล้ว รสเข้มข้นมันจะจางลง จนพอดี ๆ

ผมก็ด้วยครับ
แต่ทีนี้ ผลจากกลุ่มตัวอย่าง ๘๐/๑๐๐ บอกว่า ต้องลดเค็ม อีก ๒๐/๑๐๐ บอกว่าพอดี
ผมก็เลยต้องมาแก้ให้เค็มลดลงนิดหนึ่ง แต่ก็ยังสูสี ค่อนไปทางเค็มนำอยู่ดี
ผมซื้อกินมาแล้วทุกเจ้า กับขาหมูแถว ๆ นี้.... แค่หวานนั้นยังดี แต่บางเจ้าเจอขาหมูในน้ำเชื่อม กินไม่ลงเลย
ขาหมู..มันเค็มมันนำอยู่แล้ว เท่าที่กินๆมาแล้วรู้สึกอร่อย....เพราะจะเอาเครื่องเคียงอื่นมาเติมเข้าไปได้สะดวกกว่า แต่ก็แล้วแต่พื้นที่ แล้วแต่ลูกค้า หรือหลักๆก็คือ คนทำว่าจะขายรสใหน ลูกค้าก็จะเป็นคนเลือกรสเอาเอง ในภายหลัง เพราะหากเราจะตามใจลูกค้าให้ได้ทุกคน ทำสักร้อยหม้อ ก็ไม่พอให้ตามใจ หากแต่ เรามั่นคงในหลักการณ์ของเรา ลูกค้าแถวนั้นประชากรสักเหมินคน เขาชอบรสแบบเดียวกับที่เรา"น้าหนอง"ทำสักจำนวนหนึ่ง เราก็จะมีลูกค้าให้ค้าขายแล้ว.........
สมมุติมีหน้าร้าน(อนาคต) จะควบรวมกะน้ำทิ หรือเครื่องเขียนไหร๋กะว่าไป เอาใว้รองรับลูกค้ากลุ่มเดิม และดักไซแห้งขาจร....หากมั่นคง ปากต่อปากก็จะกล่าวต่อกันให้..........ให้มันหรอยจริง เดี๋ยวนี้อยู่ไกลแค่ใหน นักชิมก็จะตามไปถึงครับ
เอาใจช่วย ทำให้ชัดเจน คงที่ แล้วผลจากการปฏิบัติ มันจะค่อยๆตามมา
อ้อ....คิดจะขายอาหาร ต้องสม่ำเสมอ ชัดเจน อันนี้สำคัญมาก มิใช่คิดจะทำก็ทำ หรือจะหยุดก็หยุด หึๆๆ ง่ายๆคิดแลเวลาเราตั้งใจจะตรงไปที่ใหน หรือร้านใหนสักแห่ง อุส่าห์สละเวลาไป แต่ไปแล้ว ร้านปิดนี่............หึๆๆ