ควันหลงเคาต์ดาวน์เมื่อคืน เพิ่งไปสืบมาตะกี๊เนี่ย.....
บ้านเณรชา.... วันนี้ แกงไก่หม้อละ 4,000 บาท....
.......

ปรกติ แดงหางดำของแกตัวนี้ นอนค้อม(สุ่มไก่)
ส่วนอีพวกตัวเมีย และไก่ไร้ราคาทั้งหลาย นอนปลายมะม่วงข้างบ้าน
เมื่อวาน...(อันที่จริง น่าจะตั้งแต่วานซืน )เณรชาเมา เพราะบ่าวชีพ น้องชายเณรชามาเยี่ยม
บ่าวชีพนี้ ไปได้เมียอยู่ทุ่งใหญ่ ไปอย่างคนม่ายไหร แต่ไปสร้างบารมีที่โน่น จนได้เป็นสารวัตรกำนัน
ส่วนเณรชา แต่เดิมเป็นคนม่ายไหร....ปัจจุบันก็เกือบเป็นคนมีไหร เพราะลง อบต. แพ้ลำดับสองไป 4 คะแนน (เค้าเอา2คน)
ทีนี้ สองคนนี้ เป็นพี่น้องนาน ๆ พบ ก็เมากัน.... แต่เค้าเมากันแบบ... เบ่งทับกันไปมา ยังไงไม่รู้
บ่าวชีพ ด้วยตำแหน่งสารวัตรกำนัน สามรถซื้อปืนโครงการได้...(โครงการอะไรของแกก็ไม่รู้)
ก็ซื้อเอามาอวดพี่ชายตัวเอง....เป็น 9 ม.ม. สไตเออร์ รุ่นไดร์เป่าผม และ .38 เทารัส หลังสะพาน
เณรชา...อยู่ฝั่งนี้ นายทะเบียนไม่ขี้เหนียวเท่าไหร่ ก็พอเสาะหาเอาไว้ได้ สั้นหนึ่งยาวหนึ่ง....
ประกอบด้วย ปืนยี่ห้อต่อยน้ำแข็ง รุ่น85บี และลูกซอง หัดสาน 18 นิ้วออโต้....
เอาล่ะสิ.... ถ้าซื้อ ถ้าเลือก จะด้วยเหตุผลอะไร ของที่มี มันต้องเยี่ยมยอดกว่าของอีกคน
เมื่อวาน เห็นว่า นั่งกันหลายคนตั้งแต่ยังไม่ค่ำ
ที่นั่ง นั่นก็ใต้โคนมะปรางหน้าบ้าน มีม้าหินอ่อนแบบมีพนักพิงอยู่ชุดนึง
...ข้างเมีย ๆ ของสองคนนี้ เขาสมานสามัคคีกันดี ทำแกล้มให้ผัวเป็นปรกติ
แต่ข้างผัว พี่กันน้องกันก็รักกันดี แต่ไอ้เรื่องให้ด้อยกว่า เห็นจะไม่มีทาง.....
ผมผ่านไปตอนทุ่มเศษ ๆ ขับรถเครื่องผ่านเลยไปซื้อยากันยุงที่ร้านค้า ยังไม่ทันได้ออกมา ....
ไอ้ตุ่นลูกเณรชาก็กระหืดกระหอบถีบรถตามมา บอกว่า พ่อกับอาเชิญผมที่บ้าน..
ผมก็ จาระไนให้ฟัง บลา ๆ ๆ ๆ ข้อมูลจริงมั่งเท็จมั่ง มั่วนิ่มมั่ง ออกไปเป็นชุด....
เณรชาก็ค่อยยิ้มออก(ท่าทางจะโดนข่มอยู่นานแล้วแหละ) แล้วเอาข้อมูลที่ผมให้ ไปอ้างอิงแก้ต่าง
หมดหน้าที่ผม....ผมก็รีบเอายากันยุงกลับบ้าน แล้วไม่คิดจะแวะมาที่นั่นอีกเลยทั้งคืน....
แล้วค่ำคืนแห่งการอวดบารมีก็ผ่านไป....
เช้ามา ผมกลับจากเอาขนมไปแจกที่บ้านคนแก่ ก็แวะดูสภาพ.... เห็นเณรชาเมาหลับตรีนโผล่พ้นขอบประตู...
ขวดเหล้า ขวดโซดา ถุงกับแกล้ม ก้นบุหรี่ ฯลฯ เต็มโคนมะปราง....
เสียงเรียกชื่อผมมาจากหลังบ้าน ผมก็เดินเข้าไป เห็นน้าใจกับสาวเพ็ญ(เมียเณรชากับเมียบ่าวชีพ)กำลังสับไก่...
เห็นว่า หลังจากผมกลับ เณรชาเถียงเรื่องลูกซองฮัทซาน แพ้บ่าวชีพอีกแล้ว....

พอตกดึก เสียงพลุ เสียงปืนดังรอบทิศ บ่าวชีพชักไอ้คางโตออกมาลั่นขึ้นฟ้า(

) รวดเดียวหมดแม็ก
เช้ามา ผมกลับจากเอาขนมไปแจกที่บ้านคนแก่ ก็แวะดูสภาพ.... เห็นเณรชาเมาหลับตรีนโผล่พ้นขอบประตู...
ขวดเหล้า ขวดโซดา ถุงกับแกล้ม ก้นบุหรี่ ฯลฯ เต็มโคนมะปราง....
เสียงเรียกชื่อผมมาจากหลังบ้าน ผมก็เดินเข้าไป เห็นน้าใจกับสาวเพ็ญ(เมียเณรชากับเมียบ่าวชีพ)กำลังสับไก่...
เห็นว่า หลังจากผมกลับ เณรชาเถียงเรื่องลูกซองฮัทซาน แพ้บ่าวชีพอีกแล้ว....

พอตกดึก เสียงพลุ เสียงปืนดังรอบทิศ บ่าวชีพชักไอ้คางโตออกมาลั่นขึ้นฟ้า(

) รวดเดียวหมดแม็ก
.......
เณรชา คว้าฮัทซาน ขึ้นลำเลื่อนกราว แล้วยัดเพิ่มไปอีกนัด.... ก่อนจะชูปลายขึ้นฟ้า..แล้วเหนี่ยว ตูม..ๆ..ๆ..ๆ..ๆ
....นัดแรก ๆ ก็ปลายชูฟ้าดีหรอก แต่คนเมายิงลูกซอง ..... นัดหลัง ๆ ก็ไล่ระลงมาจากยอดม่วง มาจบนัดสุนท้ายที่กิ่งม่วงกิ่งล่างสุด
นั่นถ้ามีอีก 2 นัด น่าว่า บ้านร้านค้าที่สี่แยก คงได้รดน้ำศพกันมั่ง...... .....
ตอนเช้า ทุกคนเมาหลับไปแล้ว เมียเณรชาจะออกมาใส่บาตร (ผิดหวังกันถ้วนหน้า แรกเช้า ตาหลวงไม่มาเดินบาตร )
สังเกตุเห็นอะไรแดง ๆ ที่โคนม่วง... เข้าไปดู อ้าว...!!!! ไอ้แดงหางดำ ไก่ชนเณรชา ลืมเอาใส่ค้อม....
มันก็เลยตามตัวเมียขึ้นไปนอนปลายต้นมะม่วงด้วย ... เจอฮัทซานคนเมาเข้าโคนปีก....ตกลงมา
เห็นน้าใจบอก น่าจะเพิ่งตายตอนหัวรุ่ง เพราะยังอุ่น ๆ และตัวยังไม่แข็งที.... คงลงมานอนพะงาบ ๆ อยู่นานเลยหละ
แล้วน้าใจ ก็เอามาแกง.... ไม่สนใจว่า เณรชาตื่นฟื้นเมามาจะว่ายังไง
....รอให้กินแกงไก่ตัวรัก ที่ยิงตายด้วยมือตัวเองเสียก่อน
แกเกลียดตั้งแต่เอาตางค์ที่ขายไม้ยางไปแอบซื้อปืนลูกซอง....แล้วมาเกลียดซ้ำที่เอาค่าแชร์ไปซื้อไก่ตัวนั้นมา ตั้งสี่พัน....
แกจะแกงให้กิน...แล้วกินเสร็จ แกจะถามว่า
หรอยม้าย ไก่ตัวสี่พันที่เติ้นยิงกับปืนบอกสี่เหมินของเติ้น 
เรื่องเพื่อนเราต้องไม่พลาดครับ