จากเฟซบุคของ ทนายเกิดผล แก้วเกิด
**********************
จากอุบัติเหตุรถชนกันเมื่อ ยี่สิบปีก่อน เป็นเหตุให้ผมได้รับบาดเจ็บสาหัส
โชคดี ที่มีคนใจบุญ ทราบภายหลังว่า เป็นอาสาฯของมูลนิธิ อะไรสักอย่าง นำผมขึ้นรถจักรยานยนต์ส่วนตัว ไปส่งโรงพยาบาล ตอนนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ จำได้แต่เพียงว่า เจ็บขามาก และได้ยินคนนั่งข้างหลัง บอกว่า อย่าหลับๆๆ หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้
เหตุการณ์วันนั้นผมจำได้แต่เพียงว่า... ผมขับรถไป และชนกับรถสิบล้อบรรทุกดิน
หลังเกิดเหตุ คุณแม่ไปแจ้งความ แต่ไม่มีความคืบหน้า
ตำรวจไม่สนใจคดีผมเลย เพราะตอนนั้น ผมก็แค่เด็กโรงงานคนหนึ่ง จบ เทียบเท่า ม.6 ของ กศน.
แม่ผมก็แค่กรรมกร ก่อสร้าง
ฝ่ายเจ้าของรถบรรทุก เป็นตำรวจในพื้นที่
พนักงานสอบสวนไม่เคยสนใจคดีผม ไม่ชี้ขาดว่าใครผิดใครถูก
ประวิงเวลาจนผมท้อแท้ และ ที่สุดผมก็ถอดใจยอมแพ้
ผมได้เงินค่ายา จากเจ้าของรถบรรทุกเพียง 1,000 บาท เท่านั้น
จากนั้นก็ไม่เคยสนใจผมอีกเลย
จากอุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้เอ็นหัวเข่าผมขาด
ผมต้องผ่าตัดต่อเอ็นหัวเข่าใหม่ จากโรงพยาบาลเลิดสิน และใส่ สนับเข่า อีก 4 เดือนเพื่อพักฟื้นและกายภาพด้วยตนเอง
ตอนนั้น ผมตัดสินใจเรียนนิติศาสตร์ จาก มสธ. และ รามคำแหง
เพราะผมคิดว่า เมื่อไม่มีใคร (โดยเฉพาะตำรวจในคดีนั้น) ให้ความเป็นธรรมกับผมได้
ผมต้องเรียนกฎหมาย เพื่อหาความเป็นธรรมให้กับตัวเอง
ในตอนที่พักฟื้นหลังผ่าตัด ผมไม่ได้ทำงาน ไปไหนก็ไม่ได้
ผมจึงได้แต่นอน นั่ง นอน และอ่านหนังสือเรียน
ผมใช้วิกฤตินี้ ให้เป็นโอกาส คิดบวก ไม่ท้อถอย
ตลอดระยะเวลาพักฟื้น และกายภาพบำบัดด้วยตนเอง เป็นเวลา 4 - 5 เดือน ผมมุ่งมั่นอ่านตำราเรียน
และเมื่อผลสอบออกมา ผมคือได้ เกียรตินิยม ทั้งหมด ในเทอมนั้น
คิดบวก ชีวิตก็เป็นบวก
สวัสดีครับ
