กรณีศึกษาครับ ไม่กี่วันนี้เอง นักศึกษาสาวถูกเเทงเสียชีวิต แฟนหนุ่มที่คบหากันอยู่มาหาที่หอพัก แถวๆหน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจ.เชียงราย พบภาพบาดตา
หญิงสาวอยู่กับชายอื่นในห้อง จึงเข้าไปชกต่อยกับฝ่ายชายที่หญิงสาวพามา ชายชู้สู้ไม้ได้วิ่งหนีออกมา
แฟนหนุ่มถือมีดวิ่งตามแทง หญิงสาวกระโดดเข้าขวาง เสียบเข้าลิ้นปี่เต็มๆไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ห่างจากหอพักผมไม่ถึง200เมตรครับ ลือกันให้แซด นี่เล่าแบบย่อๆให้ได้ใจความนะครับ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม นสพ.ไทยรัฐ ครับ
สรุปว่าแฟนหนุ่มที่พลั้งมือแทงหญิงสาวโดนข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครับ
จะทำด้วยเหตุผลบันดาลโทสะก็มีโทษครับ เหมือนท่านผู้พันสุพินท์ว่า
นอกจากชายชู้ถือปืนไล่ยิงเรา แล้วเราสวนเค้าดับ อันนี้อีกเรื่องนึง ปืนเราของเถื่อนเราก็โดนนะครับ
สรุปว่า เพราะสาวเจ้ากระโดดเข้าขวาง ในขณะที่แฟนหนุ่มกำลังจะแทงชายชู้
ทำให้แฟนหนุ่มที่พลั้งมือแทงหญิงสาว โดนข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครับ
- ลักษณะนี้...มิได้เป็นข้อสรุปในการพิจารณาคดีครับ
เพราะ...กฎหมายอาญาของเมืองไทย เป็นลักษณะการตั้งข้อกล่าวหาไว้ก่อน
จำเลยมีสิทธิที่จะแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าวได้ ในชั้นการพิจารณาคดี ครับ
ซึ่งการตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าวในข้างต้น
อยู่ในดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ครับ
รวมถึงสภาพการณ์การเกิดเหตุ
และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อาทิ การให้ปากคำจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ด้วยครับ
หมายเหตุ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 ระบุไว้ว่า...
ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใด ก็ได้
เช่น ถ้าจำเลยถูกกล่าวหาเพิ่มเติม ว่า ทำร้ายร่างกายต่อ
ผู้ข่มเหงการพิจารณาจะมีความเห็นว่า "ภาพบาดตา" ที่เกิดขึ้น นั้น
เป็นการข่มเหงต่อจำเลยอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมหรือไม่
ซึ่งมิใช่การกระทำเดียวกันกับการกระทำต่อชีวิตของ
ผู้ตายหรือสาวเจ้า น่ะครับ
จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
คืองี้ครับพี่ท่าน ในข่าวเค้าบอกว่าจำเลยยอมรับสารภาพครับ และในภาพข่าวก็เป็นภาพมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพครับ ผมจึงใช้คำว่า โดนข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครับ
แต่ไม่ทราบว่ายังต้องมีการพิจารณาคดีต่อหรือป่าวครับ ถ้าพิจารณาตดีต่อ จะเป็นว่าถูกตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
อย่างนี้ถูกต้องไหม๊ครับ