ถ้าเป็นช่วงที่อยู่ที่เกทระหว่างบอร์ดผู้โดยสาร ระบบทำความเย็นส่วนใหญ่ จะมาจาก External Unit หรือถ้าติดเครื่อง APU อยู่ (Auxiliary Power Unit อยุ่ท้ายเครื่องบิน) ก็จะเป็นลมจาก APU Bleed มาปั่นเจ้าเครื่องทำความเย็น ซึ่งตอนอยู่ที่พื้นมันไม่ค่อยจะเย็นเท่าไร แต่เมื่อติดเครื่องยนต์แล้ว เริ่ม Taxi แล้ว ก็ดับ APU เอาลมจาก Engine Bleed ไปปั่นเจ้า Pack หรือเจ้าแอร์ของเครื่องบินแทน ทั้ง External / APU / Engine Bleed สามตัวนี้ให้กลิ่นแปลกๆอยู่ครับ สงสัยต้องลองไปดม ว่ากลิ่นที่ว่า คือตัวไหน แต่พออธิบายได้ว่าเป็นกลิ่นอากาศอัดตัวครับ
ต่อมาเรื่อง Take Off / Landing ทำไมต้องเปิด Sunshade เพื่อกรณีฉุกเฉินครับ ถ้าไฟฟ้าแสงสว่างดับไม่ว่าจะจากกรณีใดๆ แสงจากภายนอกก็ยังส่องเข้ามาให้เรามองเห็นได้ครับ และยังช่วยให้ผุ้โดยสารท่านที่นั่งฝั่งริมหน้าต่าง หากมองออกไปนอกเครื่องแล้วเห็นความผิดปรกติใดๆ ก็จะแจ้งพนักงานต้อนรับให้ตรวจสอบได้ทันท่วงทีครับ ไม่ว่าจะไฟลุก น้ำมันล้น หรือมีสิ่งแปลกปลอมอย่บริเวณปีก ฯลฯ
สุดท้ายเรื่องระบบ Waste ของเครื่องบิน ถ้าเป็นเครื่องบินพาณิชย์ สิ่งปฎิกูลจะถูกดูดไปรวมในถังเก็บ รอการถ่ายออกเมื่อถึงพื้นครับ ยกเว้นเครื่องทหารบางเครื่อง ที่มีโถอยู่ท้ายเครื่องแล้วปลดทุกข์ทิ้งไปในอากาศ อิอิอิ
ถึงบางอ้อเลยครับ ! สงสัยมาหลายปี ขอบคุณมากๆเลยครับ เจ้า External Unit นี่คือลมที่ทางภาคพื้นดินเป่าเข้าไปในเครื่องให้ใช่มั๊ยครับ เห็นเพื่อนที่สุวรรณภูมิบอกว่าท่อมันยาวไม่ค่อยพอไม่ทราบแก้ไขกันแล้วยัง ที่คุณทัดฯว่าตอนบินใช้แรงอัดของ Engine Bleed เท่าที่จำได้ตอนบินขึ้นไปแล้วกลิ่นไม่เป็นแล้วนี่ครับ งั้น Engine Bleed ก็ไม่ปล่อยกลิ่นนั่นแล้วถูกไหมครับ เจ้า APU นี่ใช้อัดอากาศเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์หลักด้วยหรือเปล่าครับ ติดลมถามใหญ่เลย ฮ่าๆๆ

ขอบคุณครับ
เจ้าตัว APU หน้าที่หลักของมันคือ ช่วยจ่ายระบบไฟฟ้าให้กับเครื่องบินทั้งลำ ทำระบบปรับอากาศ และเป็นเครื่องปั่นไฟสำรองเมื่อมีกรณีฉุกเฉิน เช่น เครื่องยนต์ดับหรือไฟไหม้ ส่วนเวลาจะสตาร์ทเครื่องยนต์นั้น ระบบปรับอากาศจะตัดอัตโนมัติ เพื่อให้แรงดันอากาศมาหมุนเจ้าเทอร์ไบน์
แต่ท่อแรงดันอากาศที่สุวรรณภูมินั้นจะมีสองระบบคือ ระบบปรับอากาศ และระบบ Air Start ครับ เพราะเครื่องยนต์เจ็ตมันไม่สามารถที่จะสตาร์ทตัวเองได้อย่างรถยนต์ ต้องมีแรงดันอากาศเข้าไปช่วยหมุนเทอร์ไบน์ และท่อเสียบไม่เหมือนกันครับ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะเสียบผิดที่ ไอ้เจ้าระบบนี้มีไว้เพื่อลดมลภาวะทางเสียงที่อยู่ในลานจอด บางสนามบินไม่อนุญาตให้ติด APU ทิ้งไว้นานๆ แต่บ้านเราไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะคิดคำนวณแล้วอาจจะถูกกว่าเช่าเครื่องของการท่าฯ หรือความไม่เสถียรของเครื่องปรับอากาศ (เข้าท่ามากกว่ามั้ย+คุ้นๆมั้ย)
เอาเรื่องที่ เวลา Takeoff/Landing พนักงานต้อนรับจะให้เปิดม่านหน้าต่าง และหรี่ไฟส่องสว่าง (กลางคืน) ทั้งนี้ก็เพื่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเหลือจะได้เห็นผู้โดยสารที่อยู่ในเครื่องบิน และหากมีความจำเป็นต้องอพยบออกจากเครื่องบิน สายตาคนเราจะปรับแสงได้เพราะเวลากลางคืนรอบๆเครื่องบินมันมืด
ส่วนเรื่องที่นักบินใจถึงนั้น มันไม่ใช่หรอกครับ นักบินสายการบินทุกๆคนต้องเข้ารับการฝึกทบทวนเรื่องเหตุการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลาครับ และเป็นกฎหมายที่จะต้องเข้าฝึกทุกๆหกเดือน ไม่มีข้อยกเว้น ถ้าไม่ผ่านกลับไปบินไม่ได้จนกว่าจะผ่าน
ไม่ต้องเป็นกังวลครับถ้าหากว่า เครื่องยนต์ดับและยังเหลือเครื่องยนต์อีกข้าง กำลังมันเหลือเฟือที่จะให้นักบินเอาเครื่องกลับมาลง ไม่ว่าน้ำหนักตัวเครื่องบินจะมากหรือน้อย
ประสพการณ์ส่วนตัวของผม เคยบินชนนก ค้างคาวแม่ไก่ โดนมันหมดทุกส่วนของเครื่องบินครับ บุบบ้าง ไฟแตกบ้าง เลือดเต็มกระจกบ้าง แต่ถ้าเข้าเครื่องยนต์มันจะมีกลิ่นนกย่างเข้ามาในห้องโดยสาร แต่ถ้าเข้าหลายตัวหรือนกตัวใหญ่ ถึงขั้นเครื่องยนต์ดับครับ (แต่ยังไม่ถึงขั้นขั้น) ส่วนประสพการณ์อื่นๆก็เจอมาบ้าง เอาสนุกๆเช่น มีผู้โดยสารแอบเอาลิงขึ้นเครื่อง พอมันออกมาได้ ไอ้ลิงมันเข้ามาในห้องนักบิน โกลาหลกันอยู่พัก พอจับได้ลงกรุงเทพฯ ผู้โดยสารโดนค่าปรับไปหลายเหมือนกัน (ตอนนั้นผมเป็นCo-Pilot) เรื่องอื่นๆไว้นัดทานข้าวกันจะเล่าให้ฟังครับ