ขออนุญาตครับ
ทุกปัญหามีทางแก้ครับ ใจเย็น แล้วจะมองเห็นทาง ลองฟังเรื่องของผมบ้าง เมื่อ ๓ - ๔ เดือนก่อนนี่เอง (ภาวนาอย่าให้เขาผ่านมาอ่าน)
บ้านที่พี่สาวผมอยู่ เป็นทาวเฮ้าส์ บ้านติดกันเลี้ยงหมา นับคร่าว ๆ ๑๕ ตัว สลับไปมากับร้านขายหมาและที่ฟาร์มของเขาตลอด ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอามาไว้ที่บ้าน ตอนกลางวันเจ้าของไม่อยู่ มันเห่ากัน แบบ.....วินาศสันตะโร เห่าดูทีวีไม่รู้เรื่องเอางั้นเถอะ แล้วป้า(แม่ของพี่สาว) แกเลี้ยงหลานอยู่ที่บ้าน หลานเพิ่งเจ็ดแปดเดือน (นี่ก็เพิ่งครบขวบ) เด็กมันก็ร้อง ป้าก็สุขภาพจิตแย่ ตัวเล็ก ๆ เสียงดี เห่าติดต่อคอไม่แห้ง ตัวใหญ่ ๆ นั่น เวลารถหรือคนผ่านหน้าบ้าน เห่ายังกับจะพังกรงออกมา นี่ยังไม่รวมกลิ่นตุ ๆ
เหมือนกับแกล้ง พอเจ้าของกลับมา มันเงียบกันเป็นเป่าสาก ได้ยินแต่เสียงงี้ด ๆ นาน ๆ ครั้ง ไอ้ครั้นจะไปฟ้องเทศบาลหรือร้องเรียน ป้ากับพี่สาวก็ไม่อยากทำ นัยว่า ความดีที่เขาเคยทำมันค้ำคออยู่ พี่เขยนั้น หงอตลอด บ้านติดกันฝั่งโน้น เป็นบ้านเช่าของเซลแมน ออกเช้ากลับดึก ก็เลยเหลือแต่ป้ากับหลานผมรับกรรม พี่สาวมาปรึกษาผม เอาไงดี....
ขายหัวเราะ เมื่อหลายปีก่อน ผมเคยอ่าน มีเรื่องสั้นคล้าย ๆ แบบนี้ ผมก็เลยเลียนแบบ ไปซื้อกระดึง โมบาย อย่างละหลายอัน หมดเงินไปเป็นพัน เอามาแขวนที่กันสาดหน้าบ้าน ไม่ได้แขวนโชว์โล่งโจ้งนะครับ แขวนแอบ ๆ ในซุ้มหลังคากันสาด
ตอนเย็น เจ้าของบ้านสองผัวเมียกับลูกสาวแปดขวบกลับมา เหตุการณ์ปรกติ คืนนั้น ผมนอนบ้านพี่สาว นอนฟังเสียงหมาทั้งเห่าทั้งหอนอย่างเป็นสุข

กระดึงกับโมบาย ทำงานอย่างคุ้มค่าเงิน กรุ๊งกริ๊งเบา ๆ ทั้งคืน เสียงข้างบ้านออกมาทะเลาะกับหมาหลายครั้ง ...
เดี๋ยวนี้เขาไม่เอาหมามาไว้ที่บ้านแล้วครับ นัยว่า เจ้าที่เจ้าทางมาหยอกหมาของเขา ทำให้เห่าหอนทั้งคืน

ใช้สติครับ อย่าโมโห ลองมอง ๆ ทางแก้ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็เจอครับ ด้วยความเคารพ