เสียงจากเหยื่อ

บทความของผู้ถูกระเบิดที่หาดใหญ่ :
ผมชื่อนายธีรภัทร์ ธรรมรัตน์พงศ์ อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้นม.5 โรงเรียนแสงทองวิทยา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา บ้านของผมมีกันอยู่ 7 คน คือ พ่อ พี่สาว ป้า 2 คน อาหนึ่งคนและก็มีพี่ชายทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ วันนั้นผมกับครอบครัวยกเว้นคุณพ่อไปกินสุกี้เอ็มเคที่ห้างคาร์ฟูสาขาหาดใหญ่ พอกินเสร็จแล้วก็ออกไปเดินเที่ยวที่เปิดท้ายด้านหน้าคาร์ฟู พอเดินเสร็จกำลังจะกลับไปเอารถข้างในคาร์ฟูก็ถูกระเบิดสวนออกมา หลังจากนั้นรถพยาบาลก็มารับทุกคนไปส่งที่โรงพยาบาล โดยผมกับพี่สาวถูกส่งไปที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ป้ากับอาถูกส่งไปโรงพยาบาลกรุงเทพ ส่วนป้าอีกคนหนึ่งถูกส่งไปที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ แต่หลังจากนั้นอีกอาทิตย์นึงก็ย้ายมาอยู่กับป้าและอาที่โรงพยาบาลกรุงเทพ
วันแรกอาการของทุกคนบาดเจ็บสาหัสต้องเข้าไปในห้องไอซียู ซึ่งคนที่อาการหนักที่สุดคือผม ผมถูกระเบิดที่ขาขวาทำให้ต้องตัดทิ้ง ส่วนขาซ้ายเนื้อหน้าแข้งหลุดไปจนเห็นกระดูก และกระดูกหน้าแข้งซ้ายหักหลายท่อน เนื้อที่มือขวาและสะโพกขวาหลุด ปอดฉีกจนมีเลือดออกทั้งสองข้าง ต้องใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ กระเพาะถูกสะเก็ดระเบิด มีเลือดออกภายในช่องท้อง ต้องผ่าตัดหน้าท้องมีแผลยาวประมาณ 15 - 20ซม. ณ วันนี้ผมได้รับการผ่าตัดไปแล้วทั้งหมด 7 ครั้ง ขณะนี้มีการติดเชื้อจากกระดูกที่ขาข้างซ้ายและมีเนื้อตายที่ขาข้างขวา การรักษาขั้นต่อไปคือ ขูดเอาเนื้อตายที่ขาขวาออก แล้วก็เริ่มหัดใส่ขาเทียม นอกจากผมแล้วยังมีพี่สาว ป้า 2 คนและอาอีก 1 คน สำหรับพี่สาวโดนสะเก็ดระเบิดที่ขาและลำตัว กระดูกข้อเท้าขวาแตก กระดูกนิ้วหัวแม่โป้งที่เท้าขวาหัก เนื้อที่สะโพกซ้ายหลุด ขณะนี้หนังที่ข้อเท้าซ้ายติดไม่ดีจึงต้องทำการปะหนังใหม่อีกครั้ง
สำหรับป้าที่ย้ายมาจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขาและถูกฝังอยู่ในช่องท้อง ซึ่งแพทย์ได้ทำการผ่าตัดแล้วแต่ยังเหลือสะเก็ดระเบิดอีกส่วนหนึ่งไม่สามารถเอาออกมาได้ ซึ่งขณะนี้อาการดีขึ้นมากแต่ต้องทำกายภาพบำบัดทุกวันจนกว่าจะหายเป็นปกติ ส่วนป้าอีกคนหนึ่งเอ็นที่นิ้วชี้ขาด และเนื้อที่สะโพกขวาเลยไปจนถึงขาอ่อนหลุดออกไป และมีอาการแผลติดเชื้อ ซึ่งแพทย์ได้นำหนังมาปะบริเวณแผลแล้ว ขณะนี้กำลังดูอาการว่าหนังที่นำมาปะติดดีหรือไม่ เพื่อจะได้ทำกายภาพบำบัดต่อไป ในส่วนของอาที่อยู่โรงพยาบาลกรุงเทพถูกระเบิดทำให้นิ้วเท้าขาดไป 2 นิ้วและกระดูกแตก นอกจากนี้ยังมีสะเก็ดระเบิดฝังอยู่ในร่างกายใกล้หัวใจไม่สามารถเอาออกได้ ขณะนี้หมอให้ทำกายภาพเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อสักระยะจึงจะสามารถกลับบ้านได้
ผมกลัวการผ่าตัด เพราะทุกครั้งหลังออกจากห้องผ่าตัด ผมจะปวดแผลจนร้องไห้ทุกครั้ง นอกจากนี้ผมกลัวเข็มฉีดยา ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยกล้าดูแผลตัวเอง ผมกลัวเจ็บ ผมไม่อยากเจ็บอีกแล้ว ผมอยากให้ตัวเองหายเร็วๆ อยากกลับบ้านแล้ว อยากไปโรงเรียน อยากไปเจอเพื่อนๆ อยากไปเที่ยว อยากเดิน อยากวิ่ง อยากเตะฟุตบอล อยากเล่นบาส อยากว่ายน้ำ อยากตีปิงปอง อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ แต่ตอนนี้ผมทำไม่ได้
ผมต้องอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาลจนกว่าจะเดินได้อีกอย่างน้อย 3 เดือนซึ่งทำให้ผมไม่สามารถไปเรียนกับเพื่อนๆได้ตามปกติ ซึ่งตอนนี้โรงเรียนก็เปิดเทอมแล้ว เพื่อนๆก็ไม่ว่างมาเยี่ยม ส่วนพี่ชายของผมก็ต้องลาออกจากงานประจำซึ่งทำอยู่ที่กรุงเทพเพื่อมาช่วยคุณพ่อดูแลครอบครัว ส่วนคุณพ่อก็ต้องปิดร้านเพื่อมาโรงพยาบาล ทำให้ครอบครัวขาดรายได้
พวกเราต้องขอขอบคุณห้างคาร์ฟูอย่างสูงที่ช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจนกว่าแพทย์จะยุติการรักษาทั้งหมดทุกคน และยังช่วยหาพี่เลี้ยงมาดูแลถึง 3 คน ซึ่งจริงๆแล้วห้างคาร์ฟูเป็นผู้เสียหายด้วยซ้ำ ไม่น่าที่จะต้องมารับผิดชอบอย่างนี้เลย ขอบคุณคุณหมอและพี่ๆพยาบาลทุกคนที่ช่วยกันดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ขอบคุณ MKสุกี้ ที่ส่งของอร่อยๆมาให้ทานทุกวัน และต้องขอขอบคุณน้ำใจของทุกคนที่บริจาคเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวของผม
ผมขอให้การเสียเลือดเสียเนื้อ ความเจ็บปวด น้ำตา ความพิการ การสูญเสียทั้งหมดของพวกเรา ให้ได้รับการหันหน้าเข้าหากันของทุกฝ่าย เพื่อยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี ความรุนแรงไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ ความตายของผู้กระทำผิดไม่สามารถทดแทนสิ่งที่สูญเสียไปได้ ผมไม่ต้องการให้มีผู้เคราะห์ร้ายเหมือนครอบครัวผมเพิ่มขึ้น ผมเชื่อว่าปัญหาทุกปัญหามีทางแก้ไขเสมอ ผมขอฝากให้ทุกฝ่าย ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาไฟใต้ให้สงบโดยเร็วที่สุด สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือจากทุกคน ที่ได้ช่วยกันบริจาคเงินเพื่อพวกผม ขอให้ผลบุญอันนี้สะท้อนกลับไปถึงคนไทยทุกคนให้มีความรักชาติ ความสามัคคี รวมพลังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันครับ
